บทที่ 49: ให้ผมกอดที
จากนั้นเธอเริ่มแกะกล่องของขวัญต่อไปอย่างบ้าคลั่ง มีแต่ขนมที่แปะรูปผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ไปเต็มไปหมด การ์ดบนของขวัญเขียนด้วยคำพูดสยิว: คุณหมอมู่ กินฉันได้เลยค่ะ
เวินจิ้ง: ??
เธอหันหลังโยนของพวกนี้ให้มู่วี่สิง แต่ครั้งนี้มือโดนเขาจับเอาไว้แน่น
“พวกนี้ผมจะให้คนส่งกลับไปให้หมด”
“จริงเหรอ?” เวินจิ้งกระพริบตา
เธอไม่รู้ท่าทางตัวเองเมื่อกี้ดูหึงแค่ไหน
“อื้ม ผมรับแค่ของขวัญของคุณผู้หญิงมูเท่านั้น” มู่วี่สิงมองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน
เวินจิ้งรู้สึกเบลอ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมาอย่างเร่งรีบ ไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมาเลย
เมื่อกี้ก็ไปซื้อแค่ของกิน
“ฉันไม่ได้ซื้อของขวัญให้คุณ” เวินจิ้งสารภาพ
“ไม่รีบ กินข้าวเป็นเพื่อนผมที”
ดังนั้น เวินจิ้งนั่งอยู่ในกองของขวัญ ใช้ช้อนป้อนโจ๊กให้มู่วี่สิงกินทีละคำ ประตูห้องผู้ป่วยปิดอยู่ ตรงถูกคนจำนวนไม่น้อยแอบถ่ายเอาไว้ผ่านกระจกโปร่งแสง
ตอนบ่ายเวินจิ้งจะไปทำงาน ส่วนมู่วี่สิงไม่เป็นอะไรมากก็ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่วันนี้ก็คงไม่เข้าเวรตรวจแล้ว
เมื่อกลับมาที่ออฟฟิศ อั้ยเถียนดึงเวินจิ้งไปที่มุมอับ ยื่นมือถือให้เธอ
ข้างบนเป็นข่าวใหม่ล่าสุดที่แฟนคลับเผยแพร่ เป็นภาพที่มู่วี่สิงป้อนโจ๊ก
เหมือนจะเป็นแฟนสาวของคุณหมอมู่ออนไลน์แล้ว
ในภาพมีแต่แผ่นหลังของเวินจิ้ง แต่มีแฟนคลับกำลังล่าตัวอย่างบ้าคลั่งแล้ว แค่ตอนนี้ยังไม่มีข่าว
“จิ้งจิ้ง แกจะโดนล้อมทำร้ายแล้ว” อั้ยเถียนถอนหายใจ
มู่วี่สิงสละโสด ถือว่าเป็นการกระทบต่อพวกแฟนคลับของเขาอย่างมหาศาล
“งั้นหลังจากนี้ฉันต้องใส่หน้ากากไปหามู่วี่สิงหรือไง” เวินจิ้งทำไรไม่ถูก
เธออ่านคอมเม้นต์ไปเรื่อยๆ แฟนคลับใจดำหลายคนเริ่มทำการบูลลี่เธอแล้ว
น่ากลัว…
เวินจิ้งเลิกอ่าน
ณ ตอนนี้ มือถือดังขึ้น สายโทรมาจากมู่วี่สิง
แต่เพราะว่าเธอรีบไปประชุม เวินจิ้งไม่ทันได้ฟัง
ในที่ประชุม เสี้ยวหงเปิดเผยว่าตอนนี้เทียนอีจะไม่พิจารณาร่วมมือกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว ส่วนเวินจิ้งก็ไม่ได้เสียหายใดๆ ทำให้เธอรู้สึกเหนือการคาดหมายไปมาก
เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แบบนี้?
เธอคิดว่าอย่างน้อยเสี้ยวหงจะฟังคำพูดของฉินเฟย จะไปสืบประวัติในอดีตของเธอ แล้วไล่เธอออก
“จิ้งจิ้ง แกแสดงเก่งเหมือนกันนะ” อั้ยเถียนเคาะหัวเธอเบาๆ
เวินจิ้งยิ้มๆ โล่งใจไป เพราะไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
ตอนเลิกงาน เธอวางแผนว่าจะไปรับมู่วี่สิงที่โรงพยาบาล เพราะเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะเธอ
แต่โดนแจ้งว่ามู่วี่สิงออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้ว
เธอกลับไปที่บ้านอีกครั้ง และหาเธอเจอห้องสมุด
“มู่วี่สิง คุณ….”
ผลักประตูออกไปเพิ่งเห็นเสี้ยวหงก็อยู่เหมือนกัน เธอชะงักไปชั่วขณะ แล้วถอยออกมา “ขอโทษนะ พวกคุณคุยต่อเลย”
เสี้ยวหงลุกยืนขึ้นมา “ผมมาเยี่ยมเหมือนกันแหละ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะหน้าตาทุเรศไปหน่อย แต่ดูท่าทางคล่องแคล่วแบบนี้ เหมือนจะมีชีวิตดีเหมือนกันแฮะ”
เวินจิ้งกลั้นขำไม่ได้ กล้าบอกว่ามู่วี่สิงทุเรศ เสี้ยวหงช่างกล้าจริงๆ
แต่มู่วี่สิงไม่ได้โกรธ เห็นได้ว่าทั้งสองสนิทสนมกันมาก
“ไม่ส่งนะ” มู่วี่สิงโยนให้เขาสามคำ
“มานี่” เห็นเวินจิ้งยังยืนอยู่ตรงหน้าประตู ลงมู่วี่สิงคำสั่ง
เวินจิ้งเดินเข้ามา มือวางอยู่ด้านหลัง แลดูไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่
“เมื่อกี้ฉันไปหาคุณที่โรงพยาบาลหนะ” เวินจิ้งเอ่ยปาก
“พักช่วงบ่ายก็เลยกลับมา” มู่วี่สิงอธิบาย
หลายปีที่ผ่าน เขาไม่เคยได้พักผ่อนเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองควรให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัวมากขึ้น