บทที่ 84 อย่าโทษตัวเอง
เวินจิ้งถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้แสงสลัวและดูเหมือนว่าสายตาของเธอจะมองเห็นเพียงฉีเซินที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
“เธอไม่ตกลง ฉันเสียหน้าแย่เลย” เมื่อเห็นเวินจิ้งลังเล สายตาของฉีเซินก็หม่นหมองลง
เวินจิ้งมองไปรอบๆและกล่าวเบาๆว่า “ฉันเต้นรำไม่เป็น”
เมื่อเธอพูดจบ ร่างของเธอก็ถูกโอบกอดด้วยความคุ้นเคย มู่วี่สิงดึงเอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
“ฉีเซิน เกรงว่าจะไม่ได้ตามที่หวังไว้” มู่วี่สิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
เมื่อพูดแล้ว เขาโอบเอวเวินจิ้งแน่นและพาเธอไปยังฟลอร์เต้นรำ
เวินจิ้งนิ่งงัน เมื่อรู้ตัวอีกที มือก็ได้วางอยู่บนไหล่ของมู่วี่สิงเสียแล้ว
“มู่วี่สิง ฉันเต้นรำไม่เป็นจริงๆ คุณอย่าแกล้งฉันเลย!” เวินจิ้งแทบอยากจะร้องไห้ ผู้คนรอบกายนั้นเต้นรำกันได้สวยงามมาก เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเป็ดน้อยที่กำลังวนอยู่ในน้ำ
เมื่อตอนเด็กๆเธอเองเคยถูกเจี่ยนอีส่งให้ไปเรียนเต้นรำ แต่เธอก็ทำมันไม่ได้จริงๆดังนั้นไม่เกินหนึ่งอาทิตย์เธอก็ถูกไล่ออก!
“ก้าวตามฉัน” มู่วี่สิงขมวดคิ้วเมื่อถูกเวินจิ้งเหยียบเท้าไปน้ำเสียงเขาดูเคืองเล็กน้อย
เวินจิ้งกลัว เธอจึงก้มหน้าและตั้งใจก้าวตามมู่วี่สิง
แต่ก็ยังเหยียบเท้าเขาอยู่ร่ำไป มู่วี่สิงก้าวเร็วไปในบางครั้ง
“ขอโทษ”
ราวกับการทรมานที่ยาวนาน แต่ไหนแต่ไรมาเวินจิ้งไม่เคยรู้สึกว่าการบรรเลงดนตรีนั้นยาวนานเลยจนกระทั่งวันนี้ เธอเกรงว่าเท้าของมู่วี่สิงจะโดนเธอเหยียบเข้าอีก
ทันใดนั้นแสงไฟก็สว่างขึ้น เวินจิ้งไม่กล้ามองหน้าที่น่ากลัวของมู่วี่สิง
“คุณอย่าโกรธเลย” เวินจิ้งดึงเขาไปมา
มู่วี่สิงกำลังถือแก้วไวน์ ใบหน้าของเขานิ่งเฉย “ฉันไม่ได้โกรธ อย่าโทษตัวเอง”
เวินจิ้งไม่เชื่อ และในเวลานี้ความสนใจของเธอถูกดึงดูดจากระยะที่ไม่ไกลนัก
เย่กวนกวนเปลี่ยนชุดและกล่าวสุนทรพจน์บนเวที เย่ถิงมอบของขวัญให้กับเย่กวนกวน งานเลี้ยงนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นลงแล้ว
เมื่อลงจากเวที เย่กวนกวนเดินมาหามู่วี่สิงพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ
“หมอมู่ เวินจิ้ง สำหรับคืนนี้ขอบคุณมาที่สามารถมาได้” เย่กวนกวนยกแก้วขึ้น
แต่ในตอนนั้น บริกรที่อยู่ด้านหลังนั้นกลับไม่รู้ทำอย่างไรจึงเดินชนเข้ากับแก้วไวน์ในมือของเย่กวนกวนจึงหกเลอะเทอะ
เทราดลงบนชุดเดรสของเวินจิ้งที่อยู่ด้านข้าง
ผ้าของชุดนั้นบางมากและไวน์แดงเย็น ๆ ก็สัมผัสผิวของเธอ เวินจิ้งรู้สึกอึดอัด
“ขอโทษ เวินจิ้ง ฉัน…” ใบหน้าของเย่กวนกวนนั้นแทบอยากจะร้องไห้
เวินจิ้งเองก็ไม่ได้โกรธอะไร เย่กวนกวนเองก็ถูกคนอื่นชนเข้าเช่นกัน ดังนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ
“มีห้องลำลองไหม ฉันอยากเปลี่ยนกระโปรง” เวินจิ้งถาม
เย่กวนกวนพยักหน้า และมู่วี่สิงก็โอบกอดเวินจิ้งอยู่เสมอ
“หมอมู่ คุณรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันจะพาเวินจิ้งไปเปลี่ยนชุดใหม่”
ในเวลานั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังรอพูดคุยกับมู่วี่สิง เขาจึงไม่ได้ตามไปด้วย
ในห้องลำลอง ได้นำชุดเดรสสีดำมาให้ “เวินจิ้ง คุณเปลี่ยนแล้วค่อยตามลงไปนะ”
เมื่อพูดจบ เย่กวนกวนก็รีบออกไป
เมื่อเวินจิ้งกำลังจะออกไปกลับพบว่าประตูนั้นได้ล็อคเอาไว้!
ที่นี่ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงประตูบานเดียวเท่านั้นที่สามารถออกไปได้ โทรศัพท์มือถือของเธอ….ไม่มีสัญญาณเลย!
เย่กวนกวนจงใจเหรอ?
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้น แต่เวินจิ้งก็ยังไม่ปรากฏตัว
เขาขึ้นไปชั้นสอง และเข้าไปตามหาทุกห้อง
เมื่อเข้าไปในห้องที่สาม เพียงแค่กำลังจะก้าวเข้าไป ประตูก็เปิดเองอัตโนมัติ
นี่คือห้องนอนห้องหนึ่ง ในเวลานี้เย่กวนกวนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธอสวมเดรสผ้าโปร่งแสงออกมาพร้อมกับกลิ่นที่หอมยั่วยวน
มู่วี่สิงทำหน้านิ่งๆและกล่าว “เย่กวนกวน ใส่เสื้อผ้าดีๆซะ”
เย่กวนกวนยิ้ม พลางนอนบนเตียงอย่างซุกซนและเพิ่มท่าทางของเธอจากนั้นมองหน้ามู่วี่สิง “ฉันก็สวมเสื้อผ้าอยู่นะ หมอมู่ มานี่สิ”