flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 950 มีสิทธิ์อะไรมาโกรธเธอ

บทที่ 950 มีสิทธิ์อะไรมาโกรธเธอ

ลู่เซิ่นหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ “งั้นเหรอ?”

ฉินซีพยักหน้า เขากลับไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

ฉินซีรออยู่สักพัก ในที่สุดก็อดถามออกไปไม่ได้ว่า “แล้วคุณ….โกรธจริงๆไหม?”

จู่ๆลู่เซิ่นก็หันมาเผชิญหน้ากับเธอ “ฉินซี คุณเป็นภรรยาของผม แต่ไปเป็นข่าวกับคนอื่น แล้วผมจะโกรธไม่ได้เลยเหรอ?”

ฉินซีอ้าปากอยากพูดอะไรมากมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกมาดี

พวกเขาก็แค่แต่งงานกันตามข้อตกลงเท่านั้น แต่ทำไมลู่เซิ่นถึงได้พูดคำว่า “ภรรยาของผม” ออกมาอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ ราวกับพวกเขาเป็นสามีภรรยากันจริงๆอย่างไรอย่างนั้น

เธอเองก็เป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกันแท้ๆ แล้วลู่เซิ่นมีสิทธิ์อะไรมาโกรธเธอ

เธอหยุดนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ตอบกลับไปอย่างไม่ตรงคำถาม“แต่ฉันอธิบายกับคุณไปแล้วนะ และคุณก็รู้ว่ารูปพวกนั้นมันแค่มุมกล้อง แล้วทำไมถึงยังโกรธล่ะ”

ลู่เซิ่นเงียบไป

จู่ๆฉินซีก็คิดอะไรไร้สาระขึ้นมา ในเมื่อลู่เซิ่นก็รู้แล้วว่ามันเป็นแค่เรื่องเกินจริง แต่ก็ยังโกรธที่คนอื่นถกกันประเด็นเรื่องของเธอ

แบบนี้แปลว่า……หึงหรือเปล่า?

ฉินซีตกใจกับความคิดของตัวเองนิดหน่อย

แต่ความเงียบของลู่เซิ่นกลับปล่อยให้เธอคิดไปอย่างนั้นอย่างช่วยไม่ได้ เธอจึงเริ่มอธิบายออกมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้

“วันนั้นที่ฉันไปสถานที่ถ่ายทำเพราะหซู่เป่ยโทรมาหาฉันจริงๆ แต่ฉันก็แค่กลับว่าเขาจะเรื่องมากจนทำให้งานเดินช้าฉันก็เลยต้องไป วันนั้นฉันกับเขานั่งคุยกันอยู่สักพัก จากนั้นฉันก็ถูกคนเดินชน ก็เหมือนอย่างในรูปที่คุณเห็นนั่นแหละ หลังฉันยังมีรอยแผลจากการโดนชนอยู่เลย คุณก็เคยเห็น——“

“เอาล่ะ” ลู่เซิ่นพูดตัดบทเธอ “คุณเคยอธิบายแล้ว และผมก็เข้าใจว่าความจริงมันเป็นยังไง ผมไม่ต้องการคำอธิบายอีก”

จริงๆแล้วฉินซีค่อนข้างไม่ไม่มั่นใจในคำอธิบายตัวเอง วันนั้นหซู่เป่ยแสดงออกชัดมากว่าสนใจเธอ แต่ว่าตอนนี้ทั้งสองคนคุยกันรู้เรื่องแล้ว เธอจึงไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้กับลู่เซิ่นอีก เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวลมากกว่าเดิม

แต่เมื่อถูกลู่เซิ่นพูดตัดบทแบบนี้ ความลนลานของเธอก็ค่อยๆจางลง จากนั้นก็เริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “แล้วคุณต้องการอะไร?”

เธอพูดยังไม่จบ แต่ก็มีคำตอบในใจตัวเองแล้ว

ลู่เซิ่นต้องการเธอ……

……มีสิทธิ์อะไร ถึงเธอจะยืนกรานว่าอยากจ้างหซู่เป่ยมาถ่ายแบบให้ได้ และใช่ปัญหานี้มันเกิดมาจากเธอ แต่เธอก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายนะ แล้วทำไมเธอต้องไปเอาอกเอาใจลู่เซิ่นขนาดนั้น?

ลู่เซิ่นไม่ได้ตอบ แต่ฉินซีรู้สึกได้ว่าสายตาของเขาค่อยๆไล่มองไปตามใบหน้าด้านข้างของเธอช้าๆ

……..แต่ถ้าเขาโกรธเพราะหึงจริงๆล่ะ?

สายตาของลู่เซิ่นเลื่อนลงมาที่คอของเธอแล้ว

ฉินซีกัดฟัน แล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมลู่เซิ่น

“คุณต้องการแบบนี้ ใช่ไหม?”

คำตอบของเธอก็คือ จูบของลู่เซิ่น

……

วันรุ่งขึ้นฉินซีตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์

วันนี้เธอตื่นสายกว่าปกติ และตัวต้นเรื่องก็ไปทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว

ฉินซีเอื้อมมือไปคลำหาโทรศัพท์ จากนั้นก็กดรับโดยที่ไม่ดูว่าใครโทรมา

“พี่ฉิน” เสียงในสายฟังดูคุ้นๆ

ฉินซีตื่นเต็มตัวทันที เธอขยับโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์โทร จากนั้นก็นำไปแนบหูเหมือนเดิม

คนที่โทรมาคือดิงหยิ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะเธองัวเงีย เธอคงไม่กดรับสายแน่ๆ

แต่ในเมื่อกดรับแล้ว เธอจึงไม่กล้ากดวาง จำต้องตอบกลับไปเสียงนิ่งว่า “มีเรื่องอะไร?”

“ฉันขอเจอพี่ได้ไหม?” ดิงหยิ่งขอร้อง “ฉันอยากขอโทษพี่ต่อหน้า”

ฉินซีปฏิสธอย่างเย็นชา “ไม่ต้องขอโทษหรอก ยังไงคุณก็ขอโทษในอินเทอร์เน็ตไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาขอโทษต่อหน้าฉันก็ได้”

ดิงหยิ่งคิดไม่ถึงว่าฉินซีจะปฏิเสธฉับขนาดนี้ เธอจึงสะอึก นิ่งไปสักพักก็พูดต่อว่า “งั้น….ก็ได้ งั้นฉันขอพูดกับพี่ในนี้ก็แล้วกัน”

ฉินซีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ทำแค่ฟังเงียบๆ

“ฉันชื่นชอบหซู่เป่ยมาหลายปีแล้ว “ดิงหยิ่งพูดขึ้นช้าๆ “แต่ว่าฉันไม่เคยมีโอกาสได้เข้าใกล้เขาเลย จนกระทั่งโปรเจ็คนี้…….”

ฉินซีตัดบทเธออย่างไม่ปรานี “ดิงหยิ่ง คุณมีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดออกมาตรงๆ ฉันไม่มีเวลาว่างมานั่งฟังคุณย้อนความทรงจำในอดีตหรอกนะ”

เสียงหัวเราะจางๆของดิงหยิ่งดังขึ้นมาจากปลายสาย น้ำเสียงดูฝาดเฝื่อน “พี่ฉิน พี่ให้อภัยฉันไม่ได้จริงๆแล้วใช่ไหม?”

ฉินซีไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับไปว่า “จริงๆแล้วคุณรู้มาตลอดว่าหซู่เป่ยเป็นคนแบบไหน ใช่ไหม?”

ดิงหยิ่งเงียบไปนาน จากนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ใช่ พวกข่าวลือของเขา ฉันก็ได้ยินมาตั้งนานแล้ว”

“แล้วทำถึงยังชอบเขาล่ะ?” นี่ก็เป็นปัญหาที่ฉินซีข้องใจมาตลอด

ดิงหยิ่งมีอนาคตดีๆรออยู่ข้างหน้าแท้ๆ แต่กลับพังไม่เป็นท่าเพราะทำตัวเอง เพียงเพราะคนอย่างหซู่เป่ยเนี่ยนะดิงหยิ่งหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา “แต่เรื่องความชอบ มันห้ามกันได้ด้วยเหรอ?”

ฉินซีเงียบ

เรื่องความชอบแบบเพ้อฝันเพียงฝ่ายเดียวของคนเป็นแฟนคลับ สำหรับบางคนแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ห้ามตัวเองได้ง่ายๆ

“เอาเป็นว่า ตอนนี้ฉันลาออกจากบริษัทลู่ซื่อแล้ว หลังจากนี้ไปสมัครงานที่ไหนก็คงยากนิดหน่อยแล้วล่ะ” เสียงของดิงหยิ่งฟังดูขมขื่น “แต่ฉันก็ได้รับบทลงโทษอย่างหนักแล้ว หซู่เป่ยก็พูดกับฉันแล้ว แต่เหมือนด่าฉันกลายๆว่านิสัยแย่ซะมากว่าพี่ฉิน ฉันไม่คิดเลยว่าบทสนทนาที่ฉันรอคอยอยากคุยกับหซู่เป่ยมานานแสนนาน จะจบลงด้วยคำพูดแบบนี้….”

ฉินซีทนฟังต่อไปไม่ไหว จึงกดวางสาย จากนั้นก็กดบล็อกเบอร์ของเธอ

จุดประสงค์ที่ดิงหยิ่งมันชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไงแล้ว

เพราะหซู่เป่ยเข้าหาเธอ ดิงหยิ่งจึงคิดใช้ประโยชน์จากเธอในการกอบกู้ภาพลักษณ์ให้หซู่เป่ย

ฉินซีปล่อยให้เรื่องแบบบี้เกิดขึ้นมาได้ยังไงกันนะ

แต่เมื่อมองชื่อของคนในรายการที่ถูบล็อก ก็รู้สึกงงใจ

การชอบอะไรแบบนี้ มันทำให้เราสูญเสียการเป็นตัวเองถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

ก็เหมือนกับดิงหยิ่งกับเหยาหมิ่นนั่นแหละ ดูๆไปแล้วก็น่าสงสารเหมือนกัน

……

เมื่อฉินซีลงมากินข้าวข้างล่าง ก็ได้ยินเสียงแม่ครัวและคนใช้กำลังเตรียมอะไรบางอย่างอยู่

ไม่นาน ก็มีถือเค้กออกมา

ฉินซีงุนงง หันหน้าไปมองคนใช้ที่กำลังถือเค้กเอาไว้

“คุณย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ใกล้จะครบหนึ่งปีเต็มแล้ว ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคุณ พวกเราไม่รู้ว่าควรตอบแทนยังไง ก็เลยอยากทำขนมหวานให้คุณเพื่อเป็นน้ำใจของพวกเรา”

เธอพอจะจำทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ฉินซีเคยช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆทั้งนั้น อย่างเช่น ป้าจางที่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย เธอเลี้ยงหลานคนเดียวย่างยากลำบาก ฉินซีอนุญาตให้เธอเลิกงานเร็วๆเพื่อไปรับหลานที่ยังอยู่ชั้นอนุบาลตลอด

แต่มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ฉินซีไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทำให้เธอถึงขนาดนี้

“ไม่รู้ว่าประธานลู่จะฉลองกับคุณยังไง พวกเราไม่กล้าเอาฤกษ์ชนกันกับประธานลู่ ดังนั้นเลยจัดกันขึ้นมาเอง และเอาของให้คุณก่อนล่วงหน้า หวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะ”

ฉินซียิ้มพร้อมกับรับเค้กมาถือไว้ จากนั้นก็ทานจนหมด เมื่อเห็นว่าคนใช้เดินจากไปแล้วด้วยใบหน้าดีใจ สีหน้าของเธอถึงได้ค่อยๆหม่นแสงลง

เธอมาอยู่ที่นี่จะครบปีแล้วเหรอ

งั้นก็แปลว่า ใกล้จะถึง วันครบรอบที่แม่ของเธอจากไปแล้วสินะ

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset