ตอนที่ 1009 จดหมายโบราณ
ฟางเจิ้งจือมองหยุนชิงวูที่เขาอุ้มอยู่เขามองเข้าไปในดวงตาของนางที่มีประกายแห่งความอบอุ่นและความเย้ายวน
หยุนชิงวูนั้นงดงามมาก
ถ้านางไม่ใช่นายน้อยของเหล่าปีศาจและอสูรหากเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับนาง หากนางเป็นเพียงแค่คนธรรมดา…
ฟางเจิ้งจือคงไม่ลังเลที่จะร่วมรักกับหยุนชิงวู
อย่างไรก็ตามความจริงไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
ดังนั้นเรื่องนั้นจึงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสถานที่และเวลาก็ไม่ถูกต้อง
เวลาที่มีไม่เพียงพอสำหรับเขา
เขาจะเสร็จได้ยังไงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเขาไม่ได้แก่จนมีปัญหาเรื่องการหลั่งเร็วเสียหน่อย
รวมทั้งเขาไม่ได้ต้องการให้กองทัพปีศาจและอสูรหรือโม่ฉานฉือดูหนังสด
ฟางเจิ้งจือไม่ได้ไร้ยางอายจนถึงขนาดนั้นดังนั้นเขาจึงฝืนดึงกางเกงขึ้นมา
อย่างไรก็ตามดูเหมือนหยุนชิงวูจะยังไม่พอใจเมื่อนางไม่สามารถใช้มือข้างเดียวดึงได้ นางจึงใช้อีกข้างช่วย
พรื้ด!
ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออกเขาไม่เคยเห็นใครมีความตั้งใจในการดึงกางเกงของคนอื่นเท่านางมาก่อน
บัดซบ!
หากหยุนชิงวูสามารถดึงกางเกงของเขาลงมาได้เขาจะมีหน้าไปพบกันคนอื่นได้ยังไง?
ฟางเจิ้งจือตัดสินใจใช้วิธีที่โหดร้ายเพื่อทำลายช่วงเวลาอันงดงามนี้เขาอาจจะต้องตบหยุนชิงวูจนนางสลบไป
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังคิดหยุนชิงวูได้พูดขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าโกหกข้า…โกหกข้าว่าเจ้าต้องการมีชีวิตอิสระ แต่เจ้ากลับออกจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เจ้าไม่สามารถละทิ้งมนุษย์ได้ เช่นเดียวกับข้าที่ไม่สามารถละทิ้งอสูรและปีศาจ
ฟางเจิ้งจือยกมือขึ้นเพราะเขาไม่ต้องการได้ยินอะไรจากนางอีก
อย่างไรก็ตามหยุนชิงวูยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องการจะพูดนางดูกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ ขารู้ว่าเจ้าไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ข้าเองก็เช่นกัน…ข้าไม่สามารถเห็นคนในเผ่าพันธุ์ของข้าถูกรังแกและติดอยู่ในเมืองเงาเลือดเพียงอย่างเดียว ข้ารู้ ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า…แต่ข้าไม่เคยอยากจะฆ่าเจ้าเลยสักครั้ง…
มือของฟางเจิ้งจือหยุดเคลื่อนไหว
ถ้าหยุนชิงวูไม่ตกอยู่ในภวังค์นางจะดึงกางเกงของเขาลงได้ยังไง?แต่นางกลับบอกว่านางไม่ต้องการฆ่าเขา
ใครจะเชื่อ! หยุนชิงวูฉลาดเกินไป
นางฉลาดจนไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำให้เห็นนั้นเป็นการแสดงหรือไม่
ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าวิธีเดียวที่จะบอกได้ว่านางโกหกหรือไม่คือผลักนางลงและฉวยโอกาสจากนาง
อย่างไรก็ตามทั้งกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์กองทัพอสูรและปีศาจกำลังตามมาติดๆ
เขาไม่มีเวลาแล้ว!
เดี๋ยวก่อน!
เขามีวิธีอื่น!
แหล่งพลังเทพเจ้า!
ฟางเจิ้งจือไม่ฆ่านางเพราะว่าหยุนชิงวูนั้นอาจจะเป็นคนที่รู้เรื่องแหล่งพลังเทพเจ้าดีที่สุด
ในเมื่อตอนนี้หยุนชิงวูตกอยู่ในภวังค์เขาควรจะล้วงข้อมูลเรื่องนี้จากนางดีไหม?
ถ้านางกำลังเสแสร้งอยู่นางต้องไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลแน่นอน
แค่กแค่ก…เจ้าบอกว่าไม่ต้องการฆ่าข้า ข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง? ตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยตัวตนระดับเทพเจ้า ต่อให้เจ้าไม่ต้องการจะฆ่าข้า พวกมันจะปล่อยข้าไปงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือกล่าวขณะวิ่งไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง
ตราบใดที่ข้ายังอยู่พวกนั้นไม่มีทางกล่าฆ่าเจ้าพวกเขา..
ถ้าพวกเขาไม่ฟังเจ้าล่ะ?เช่นฉินเซียน เขาต้องการให้เจ้าตาย เจ้าคิดว่าเผ่าอสูรและปีศาจจะเชื่อฟังเจ้างั้นหรือหลังจากที่พวกมันครองโลกได้?
… หยุนชิงวูเงียบไป นางหายใจถี่ขึ้น ในที่สุดนางก็หยุดดึงกางเกงฟางเจ้งจือ
ฟางเจิ้งจือไม่ได้เร่งรีบ
นางต้องใช้เวลาในการคิดยิ่งการที่นางตกอยู่ในภวังค์เช่นนี้ยิ่งใช้เวลานาน
หลังจากผ่านไปสองนาทีหยุนชิงวูก็เอนตัวมาพึงเขาอีกครั้ง
… ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเขาไม่สามารถรอนางได้อีกต่อไป บอกข้ามาว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่นไหน หากข้าสามารถค้นหามันจนเจอ ตัวตนระดับเทพเจ้าจะไม่สามารถฆ่าข้าได้อีกต่อไป!
แหล่งพลังเทพเจ้า?! ทันใดนั้นมือของหยุนชิงวูพลันสั่นเทา ลมหายใจของนางติดขัด ไม่…ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าแหล่งพลังเทพเจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าข้าทำอย่างนั้นจะเป็นการทรยศต่อเผ่าปีศาจและเผ่าอสุร ข้าไม่สามารถ..ข้าไม่สามารถ…
นางกำลังเล่นละครตบตาเขาอยู่จริงๆ! ฟางเจิ้งจือยกมือขึ้นอีกครั้งเพื่อเตรียมตบหยุนชิงวูให้หมดสติ
อย่างไรก็ตามหยุนชิงวูกลับยิ่งดูตื่นกลัว
ไม่เพียงแต่นางหายใจหอบถี่ขาทั้งสองข้างของนางเตะไปมาราวกับถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง ไม่ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้ ข้าไม่สามารถรักเจ้าได้…ข้าไม่สามารถรักเจ้าได้ เจ้าเป็นมนุษย์…ข้าเป็นปีศาจ…พวกเราไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน ข้าต้องฆ่าเจ้า ไม่…ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ เจ้าจะตายไม่ได้ ข้าไม่อยากเห็นเจ้าตาย…แหล่งพลังเทพเจ้า แหล่งพลังเทพเจ้าเป็นพื้นที่ต้องห้าม…
พื้นที่ต้องห้าม?!แหล่งพลังเทพเจ้าเป็นพื้นที่ต้องห้ามงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือหรี่ตาพร้อมกับหยุดมือกลางอากาศ
มี…มีความลับมากมายซ่อนอยู่…มันเป็นหลุมศพไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะเปิดมันออกไม่ได้ ไม่สามารถเปิดมันออก…
หลุมศพ?มันอยู่ที่ไหน?
ข้าไม่รู้หยุดถามข้าได้แล้ว ข้าไม่รู้…จดหมายที่เขียนด้วยอักษรโบราณบอกไว้ว่าห้ามเปิดหลุมศพนั่นเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…
จดหมายที่เขียนด้วยอักษรโบราณ?มีอะไรเขียนไว้อีกไหม? มันเขียนว่า…เขียน…ไม่ข้าไม่สามารถบอกได้ ข้าจะบอกเจ้าไม่ได้! มือของหยุนชิงวูเริ่มเคลื่อนที่อย่างบ้าคลั่ง สายตาของนางกลายเป็นสีแดงราวกับกำลังเจ็บปวดมาก
ทำไมเจ้าถึงบอกข้าไม่ได้?
อั้ก!หลังจากฟางเจิ้งจือถามเสร็จ ท่าทีของหยุนชิงวูเปลี่ยนไปและกระอักเลือดออกมาทันที
มันเป็นฉากที่น่าตกใจ
ฟางเจิ้งจือไม่สามารถตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันเลือดของหยุนชิงวูกระเด็นรดใบหน้าของเขา โชคดีที่เขายังสวมหน้ากากผ้าสีดำเอาไว้
เมื่อนางกระอักเลือดออกมาร่างกายของนางก็เริ่มชักกระตุ เส้นเลือดดำพลันเด่นชัดบนมือของนาง
เห็นได้ชัดว่านางกำลังจะตาย
อันที่จริงหยุนชิงวูนั้นอ่อนแอเกินไป
นางตกอยู่ในภวังค์มานานด้วยพลังเพียงระดับผนวกดาราเท่านั้น
ฟางเจิ้งจือไม่ได้มีความรู้มากมายเกี่ยวกับวิชาลวงตาแต่เขารู้ว่าจิตใจจะพังทลายลงถ้าตกอยู่ในวิชาลวงตานานเกินไป
หยุนชิงวูเองก็อยู่ในสภาพเช่นนั้น
ไม่ข้าจะปล่อยให้หยุนชิงวูตายง่ายๆแบบนี้ไม่ได้! ฟางเจิ้งจือไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ใน เขาแค่รู้สึกว่าไม่ควรให้หยุนชิงวูตายง่ายๆแบบนี้
เขาควรจะได้ทรมารนางก่อนตาย
เช่นใช้แส้…
แค่กแค่ก!
ฟางเจิ้งจือไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงดังนั้นเขาจึงล้มเลิกความคิดเหล่านี้และตบไปที่หน้าอกของหยุนชิงวู
ปั้ง!
ร่างของหยุนชิงวูแข็งทื่อทันทีดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องฟางเจิ้งจือเขม็ง จากนั้นแสงสีแดงในดวงตาของหยุนชิงวูก็หายไปเลือดไหลออกมาจากมุมปาก สายตาของนางกลับมากระจ่างใสเช่นเคย
แค่กแค่ก… หยุนชิงวูไออย่างรุนแรง นางเบิกตากว้างราวกับกลับมาเป็นปกติ
สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่หน้ากากสีดำเปื้อนเลือดตรงหน้าด้วยใบหน้าซีดขาว
อย่างไรก็ตามไม่นานนักสีหน้าของนางก็กลับมาเป็นปกตินิ่งสงบ เย็นชาเช่นเคย
มือของนางวางลงบนอกขวาของฟางเจิ้งจืออีกครั้ง
จากนั้นหยุนชิงวูก็ปล่อยให้ฟางเจิ้งจืออุ้มนางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฟางเจิ้งจือรู้สึกประทับใจในตัวนางมาก
เมื่อพูดถึงความสงบแล้วหยุนชิงวูนั้นสามารถทำได้สมบูรณ์แบบ มีหลายอย่างเกิดขึ้นใน’ฝัน’ของนาง แต่เมื่อนางตื่นขึ้นนางก็แยกแยะได้ในทันทีว่าสิ่งไหนคือความฝัน สิ่งไหนคือความจริง ก่อนหน้านี้ในความฝันเจ้าพูดอะไรหลายๆอย่างให้ข้าฟัง? ฟางเจิ้งจือต้องการจะเตือนหยุนชิงวู
… หยุนชิงวูไม่พูดอะไร แต่สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ถ้าข้าจำไม่ผิดเจ้าพูดเกี่ยวกับหมู่บ้านภูเขาทางเหนือใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือกล่าวอีกครั้ง
… หยุนชิงวูไม่ตอบแต่มือของนางกลับสั่นเล็กน้อย แววตาของนางแสดงให้เห็นถึงความตกใจ
ยิ่งกว่านั้นเจ้าบอกว่าไม่ได้เป็นคนสั่งให้โจมตีหมู่บ้านภูเขาทางเหนือและเจ้าเป็นคนช่วยชีวิตพ่อแม่ของฟางเจิ้งจือ ฟางเจิ้งจือพูดอย่างเย็นชา
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ในที่สุดหยุนชิงวูก็พูดออกมา
โอ้?เจ้าไม่คิดจะอธิบายเรื่องนี้กับเขาหน่อยหรือ? ฟางเจิ้งจืออยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
ฮ่าฮ่าเขาต้องการให้ฆ่าตายและข้าก็ต้องการให้เขาตายเช่นกัน มันจะง่ายขึ้นที่โจมตีเขาที่มีความเกลียดชังในใจ ตัวอย่างเช่นถ้าข้าบอกว่าข้าช่วยผู้คนเจ้าจะปล่อยตัวข้าหรือเปล่าล่ะ? หยุนชิงวูมองฟางเจิ้งจือด้วยความจริงจัง
ไม่ ฟางเจิ้งจือส่ายหน้าเพราะเขาเข้าใจสิ่งที่หยุนชิงวูพูด การช่วยชีวิตหรือการฆ่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ไม่ว่ายังไงก็ตามเขากับนางก็เป็นศัตรูกัน
ในฐานะปีศาจและมนุษย์
มันเป็นความจริงที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้
ในความฝัน…เจ้ายังพูดเกี่ยวกับจดหมายที่เขียนด้วยอักษรโบราณ! ฟางเจิ้งจือหยุดถามเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เพราะเขาได้คำตอบแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาลองเสี่ยงโชคกับคำถามต่อไปขณะที่หยุนชิงวูยังฟื้นสติได้ไม่สมบูรณ์นัก
… เมื่อเปรียบเทียบกับการสั่นไหวเล็กน้อยก่อนหน้านี้ตอนนี้ตัวของหยุนชิงวูสั่นรุนแรงกว่าเดิมมาก ท่าทีของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นางจ้องตาของฟางเจิ้งจือราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ข้าไม่เข้าใจ!
จดหมายที่เขียนด้วยอักษรโบราณ…เจ้าต้องการให้ข้าพูดต่อหรือไม่? ฟางเจิ้งจือสัมผัสได้ถึงความกังวลในใจของหยุนชิงวู
ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร ใบหน้าของหยุนชิงวูซีดขาว
ฮ่าฮ่าไม่เป็นไรถ้าเจ้าจะไม่เข้าใจที่ข้าพูด แต่จดหมายที่เขียนด้วยอักษรโบราณเป็นสิ่งสำคัญมาก เจ้าน่าจะพกมันติตัวตลอดใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือกล่าวออกมาและจ้องมองไปที่ลำคอของหยุนชิงวู
มันไม่มีสร้อยคอเส้นเดิมอยู่อีกต่อไปเพราะเขาได้ขโมยมันไปจากนาง อย่างไรก็ตามกลับมีจี้ที่ดูแตกต่างออกไปมันเป็นจี้รูปหยดน้ำที่ส่องแสงสีฟ้าสลัวๆ
……………………………………..