ตอนที่ 1018 เกินกว่าที่หัวใจจะรับไหว
เลือดไหลออกมาจากปากของเต๋าซิง
ขณะเดียวกันเสื้อบริเวณไหล่ของนางได้ฉีกขาดออกจากกันเปิดเผยให้เห็นเกราะอ่อนสีเงินที่ซ่อนอยู่
มันเป็นสมบัติป้องกันชั้นยอด
ตำแหน่งของนางมิใช่ต่ำต้อยไม่แปลกใจที่เต๋าซิงจะสวมใส่มัน แม้นางจะถูกโจมตีโดยดาบของฟางเจิ้งจือแต่นางก็ไม่ตายในทันที
ยังไม่ตายสินะ?ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่าเจ้า ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดในการโจมตีเมื่อกี้ แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว
แต่นางไม่ตาย!
นางเพียงบาดเจ็บสาดหัสเท่านั้น!
นั่นหมายความว่าเกราะอ่อนของเต๋าซิงนั้นไม่ธรรมดามันถูกเต๋าซิงสวมใส่แทนที่จะเป็นเต๋าฮุน เต๋าซิงและเต๋าฮุนมีความสัมพันธ์กันยังไงกันแน่?
แค่กแค่ก… หลังจากกระอักเลือดออกมา นางก็ไออีกสองสามครั้งด้วยใบหน้าอันเจ็บปวด
ท่านผู้นำศาลาหยินหยาง!
ท่านเต๋าซิง!
…
เมื่อศิษย์ศาลาหยินหยางเห็นสภาพของเต๋าซิงพวกเขาอดหดหู่ไม่ได้แม้พวกเขาจะรู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงได้
ความน่าเชื่อถือของเต๋าซิงและความเคารพที่พวกเขามีต่อนางนั้นสูงมากพวกเขาจะทนเห็นนางตายง่ายๆได้ยังไง?
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนโปรดไว้ชีวิตนางด้วย!
ถ้าท่านเต๋าซิงทำผิดอะไรพวกเราที่เป็นศิษย์ศาลาหยินหยางพร้อมจะชดใช้แทนนาง!
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนโปรดเมตตาด้วย! เหล่าศิษย์ศาลาหยินหยางต่างคุกเข่าลงกับพื้น
เมิ่งเทียน! เหยียนซิวหันกลับไปมองเต๋าซิงที่บาดเจ็บ ความโกรธถูกแทนที่ด้วยความแค้น พัดสีเงินในมือเปล่งประกายสีแดงเลือดออกมาอีกครั้ง
แม้น้ำที่ทอดยาวสุดสายตาปรากฎขึ้น
เหยียนซิวที่เปลี่ยนเป็นอาชูร่ามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนพลังในการโจมตีของเขาแข็งแกร่งกว่ามู่ฉิงเฟิง
เต๋าอาชูร่านั้นเป็นเต๋าที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในเต๋าแห่งการจุดติทั้งหก
อย่างไรก็ตามเหยียนซิวไม่สามารถคงอยู่ในร่างอาชูร่าได้นานนักแม้พลังโจมตีของเขาจะรุนแรงแต่โดยรวมก็เทียบกับมู่ฉิงเฟิงไม่ได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตามมีข้อแตกต่างอันใหญ่หลวง
ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะสู้กับเหยียนซิวเขารู้ว่าถ้าทำแบบนั้นเหยียนซิวต้องบาดเจ็บจากการโจมตีของเขา
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
โดยเฉพาะตอนนี้เหยียนซิวกำลังโกรธเกรี้ยวอยู่เขากังวลว่าเหยียนซิวจะเสียสติและกลายเป็นอาชูร่าคลั่งอีก
โชคดีที่เหยียนซิวทำได้เพียงป้องกันและไม่โจมตีหรือต้องการจะสู้กับฟางเจิ้งจือมันทำให้เขาหลบได้ไม่ยากเย็น
เมื่อลำแสงสีแดงพุ่งเข้าใส่ฟางเจิ้งจือเขาก็ถอยหลังออกไปหลายก้าวแล้ว
แม้ฟางเจิ้งจือจะสามารถหลบการโจมตีของเหยียนซิวแต่ปากของเต๋าซิงไม่ได้ถูกปิดเอาไว้…
ลุกขึ้นพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องร้องขอ เขาไม่มีทางปล่อยข้าเพราะเขาคือ… เต๋าซิงหันไปมองเหยียนซิวหลังจากพูดถึงกลางประโยค นางดูลังเลเล็กน้อย
ศิษย์ศาลาหยินหยางต่างมองหน้ากันเพื่อรอคำตอบของเต๋าซิง เขาคือ?
เขาไม่ใช่เทพสงครามเมิ่งเทียนงั้นหรือ?
ท่านเต๋าซิงต้องการจะพูดอะไรกันแน่?
ศิษย์ศาลาหยินหยางสับสน
อย่างไรก็ตามเต๋าซิงไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้นนางก็หันไปมองเมิ่งเทียนอีกครั้ง
ปล่อยข้ากับเหยียนซิวไปแล้วข้าจะไม่บอกความลับของเจ้า! เต๋าซิงพูดออกไปด้วยความคาดหวัง
มันเป็นความหวังสุดท้ายความหวังที่จะมีชีวิตรอด
เต๋าซิงไม่รู้ว่าทำไมฟางเจิ้งจือถึงเลือกปิดบังตัวตนที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามในเมื่อฟางเจิ้งจือเลือกที่จะปิดบังเต๋าซิงจึงคิดว่าเรื่องนี้อาจจะช่วยชีวิตของนางได้
ฮ่าฮ่าเอาอย่างนี้งั้นรึ? เต๋าซิง เจ้ามันไร้เดียงสา… ฟางเจิ้งจือหัวเราะเล็กน้อย เว้นแต่เจ้าต้องการ… การแสดงออกของเต๋าซิงเปลี่ยนไป
ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เข้าใจข้าไม่มีความลับใดๆ พูดในสิ่งที่เจ้าต้องการพูดเถอะ ฟางเจิ้งจือขัดเต๋าซิง
… เต๋าซิงเงียบไปนางสูญเสียไพ่ทุกใบในมือแล้ว นางเหลือเพียงใบสุดท้าซึ่งไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์กับนางหรือเปล่า
ลังเลเต๋าซิงที่ชาญฉลาดกลับลังเล
ข้าขอกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายเจ้าไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตรอด เจ้าต้องตายในวันนี้! ฟางเจิ้งจือกล่าวด้วยความมั่นเต็มร้อย เขาไม่มีทางเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาตัดสินใจ
เต๋าซิงต้องตาย!
แล้วถ้านางเปิดเผยตัวตนของเขาล่ะ?ตอนนี้หยุนชิงวูก็น่าจะรู้ถึงตัวตนของเขาแล้ว เขาไม่มีทางซ่อนมันได้นานนัก
ต้องตาย?ฮ่าฮ่า…เข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว… สีหน้าของเต๋าซิงแข็งค้างก่อนที่นางจะเริ่มหัวเราะ ข้ารู้ ข้ารู้ตั้งแต่ที่เจ้ายังไม่ตาย ข้ารู้ว่าเจ้าต้องล้างแค้น!
ล้างแค้น?!
ไม่ตายงั้นหรือ?
เต๋าซิงพูดเรื่องอะไร?
ทั้งศิษย์ของศาลาหยินหยางและกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ต่างสับสน
ในขณะเดียวกันมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือผู้ได้รับบาดเจ็บกลับสั่นสะท้าน
’ไม่ตาย!’
’ล้างแค้น’
มันเป็นคำพูดธรรมดาๆแต่มีความหมายอันใหญ่หลวงซ่อนอยู่ มันอ้างอิงถึงชื่อหนึ่งที่พวกเขาคุ้นเคยดี
ฟางเจิ้งจือ
มีเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้เต๋าซิงกล่าวคำพูดสองคำนั้นออกมาได้เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ควรจะอยู่ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เขา…เขาคือฟางเจิ้งจือจริงๆงั้นหรือ?! โม่ฉานฉือไม่เชื่อและลังเล
ก่อนที่เขาจะเข้ามายังปราสาทหินสีดำหยุนชิงวูเองก็กล่าวว่าเมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือ อย่างไรก็ตามตอนนั้นโม่ฉานฉือไม่เชื่อแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเต๋าซิงยังกล่าวแบบเดียวกันเมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือ…ครั้งนี้เขาจะไม่สงสัยได้ยังไง?
ทั้งเต๋าซิงและหยุนชิงวูนั้นเป็นคนชาญฉลาดถ้าทั้งสองคนยังคิดแบบเดียวกัน…
ในที่สุดโม่ฉานฉือก็เริ่มเชื่อแบบนั้น
ฟางเจิ้งจือ?! มู่ฉิงเฟิงเองก็นึกถึงชื่อเดียวกัน อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธที่จะเชื่อ
มันจะเป็นไปได้ยังไง?
เมิ่งเทียนตรงหน้าเขาแข็งแกร่งมาก
ในทางกลับกันฟางเจิ้งจือ…
แม้ว่าเขาจะแสดงให้เห็นถึงพลังในการต่อสู้ที่ภูเขาสวรรค์แต่มันก็พอๆกับตัวเขาเอง แต่ตอนนี้?
เพียงไม่กี่เดือนพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้เช่นไร? ถ้าเป็นแบบนั้น ฟางเจิ้งจือยังเป็นคนปกติอยู่หรือเปล่า?
ไม่มีใครที่มีพรสวรรค์มากขนาดนี้มาก่อนถ้ามันเป็นเรื่องจริง!
มู่ฉิงเฟิงไม่ต้องการจะเชื่อเรื่องนี้
อะไรกัน?!ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจืองั้นหรือ?
ท่านโม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่?
เป็นไปไม่ได้!
ทุกคนไม่สามารถเชื่อได้
อย่างไรก็ตามเต๋าซิงที่บาดเจ็บค่อยๆลุกขึ้นช้าๆมือหนึ่งกุมอยู่ที่ไหล่ของนาง อีกมือชี้ไปที่ฟางเจิ้งจือ ฟางเจิ้งจือ ข้าเสียใจ…ข้าเสียใจที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าด้วยมือของฆ่าเอง ความผิดพลาดในวันนั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ในวันนี้ขึ้น! …
…
ความเงียบปกคลุมไปทั่ว
โม่ฉานฉือมู่ฉิงเฟิงและคนอื่นๆหันไปมองฟางเจิ้งจือเงียบๆ
พวกเขากำลังรอคำตอบของฟางเจิ้งจือ
เต๋าซิงหยุดพ่นเรื่องไร้สาระ!เมิ่งเทียนจะเป็นเจ้าไร้ยางอายได้เช่นไร! เสียงหนึ่งดังขึ้น
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากปิงหยาง
…
ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออกจริงๆ
มันเป็นเรื่องแปลกที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้กับคนที่รู้จักตัวเขาอยู่แล้ว
ใช่แล้ว!
เมิ่งเทียนจะเป็นเจ้าเด็กนั่นได้ยังไง?
แน่นอนฟางเจิ้งจือไม่มีพลังพอที่จะฆ่าเทพอสูรหลินจีได้ด้วยตัวคนเดียว!
เหล่าศิษย์เริ่มพูดขึ้นด้วยความสับสนอีกครั้ง
โม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงไม่ได้กล่าวอะไรอีกพวกเขาเพียงจมอยู่ในความคิดเงียบๆ
เชื่อหรือไม่?
มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปพวกเขาอยากจะเชื่อแต่ก็ไม่กล้ายอมรับความจริง
แน่นอนว่าคำตอบจะถูกเปิดเผยด้วยการกระทำเพียงครั้งเดียวของฟางเจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือขี้เกียจที่จะเล่นละครต่อไปเหตุผลที่เขาเล่นละครเป็นเมิ่งเทียนคือหนึ่งคือเพื่อปกป้องหมู่บ้านภูเขาทางเหนือและข้อสองคือใช้ตัวตนเทพสงครามเพื่อทำให้กลุ่มพันธมิตรสวรรค์ร่วมมือ
ตอนนี้เต๋าฮุนตายไปแล้วกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ต้องหาผู้นำคนใหม่ มันไม่สำคัญอีกต่อไปไม่ว่าเขาจะเป็นเมิ่งเทียนหรือฟางเจิ้งจือ
เขาไม่เคยต้องการจะเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์
หน้ากากผ้าสีดำค่อยตกลงไปที่พื้นพร้อมกับผ้าคลุมสีดำ
ใบหน้าที่หล่อเหลาถูกเปิดเผย
ในเวลาเดียวกันชุดสีน้ำเงินที่คุ้นเคยเปิดเผยให้ทุกคนเห็นเช่นกัน
โลกตกอยู่ในความเงียบ
ทุกคนจ้องมองไปที่ฟางเจิ้งจือ
เทพสงครามเมิ่งเทียน…
คือฟางเจิ้งจือจริงๆ!
เป็นฟางเจิ้งจือที่ฆ่าเทพอสูรหลินจีบุกไปจับตัวเจ้าปีศาจที่เมืองเงาเลือด! แนะนำให้พวกเขาฆ่าราชาอสูร!
ทุกอย่างเป็นฟางเจิ้งจือที่ลงมือ
ในที่สุดความลับก็ถูกเปิดเผย
ฟางเจิ้งจือคือเมิ่งเทียนดังนั้นไม่แปลกเลยที่เขาจะไม่ปล่อยเต๋าซิงไป เขาเป็นศัตรูกับศาลาหยินหยาง
ว้าวเมิ่งเทียนเป็นเจ้าไร้ยางอายฟางเจิ้งจือจริงๆด้วย! ได้ยินเสียงประหลาดใจของปิงหยาง
แน่นอนว่านางถอดหน้ากากผ้าออกเช่นกันเผยให้เห็นใบหน้าอันไร้เดียงสาของนาง
…
…
มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือรวมถึงคนอื่นๆเงียบลงอีกครั้ง
พวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์อันซับซ้อนและไม่สามารพูดอะไรออกมาได้เมื่อเห็นใบหน้าของปิงหยาง
นางกำลังปั่นหัวพวกเขาเล่น!
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์และสี่อาณาจักรล้วนรู้ว่าปิงหยางเป็นคนสนิทของฟางเจิ้งจือไม่มีใครเชื่อว่าปิงหยางจะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของฟางเจิ้งจือ
พูดไม่ออกแปลกใจ ตกใจ
มันทำให้พวกเขาอุทานออกมา
ฟางเจิ้งจือ!!! เมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือจริงๆ?!
เขาอายุเท่าไรกันเชียว?
เจ้าเด็กไร้ยางอายมีพลังเพิ่มขึ้นขนาดนี้ในเวลาเพียงหกเดือนได้ยังไง?!
สัตว์ประหลาดเขาต้องเป็นสัตว์ประหลาดแน่นอน!
แม้ทุกคนจะเตรียมใจเอาไว้แล้วแต่เมื่อความจริงปรากฎขึ้น พวกเขาก็รู้สึกตกใจมากอยู่ดีเมื่อเห็นใบหน้าของฟางเจิ้งจือ
มันเกินไป!
มันเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายเกินไปกว่าที่หัวใจดวงเล็กๆของพวกเขาจะรับไหว!
……………………………………..