ตอนที่ 1019 ความตายและความจริงของจารึก
เป็นเขาจริงๆ?!เขาคือเทพสงครามเมิ่งเทียน? ท่าทีของเหยียนซิวเปลี่ยนไปทันที เขาจำใบหน้าตรงหน้าได้ดี
ฟางเจิ้งจือ
ในการต่อสู้ที่ภูเขาสวรรค์ฟางเจิ้งจือได้ร่วมมือกับฉือกูเหยียนจนเอาชนะเทพปีศาจมากได้และช่วยเหลือมนุษยชาติให้หลบหนี
จากนั้นฟางเจิ้งจือก็กลับไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือและไม่ได้เหยียบกลับเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกเลย
จนกระทั่งตอนนี้…
ฟางเจิ้งจือได้ปรากฎตัวตรงหน้าเขาในฐานะของเทพสงครามเมิ่งเทียนเหยียนซิวจะไม่ตกใจได้ยังไง?
เขารู้สึกถึงความคุ้นเคย
เหยียนซิวรู้สึกคุ้นเคยกับฟางเจิ้งจือแม้เขาจะเคยพบกันเพียงครั้งเดียวที่ภูเขาสวรรค์ก็ตามอย่างไรก็ตามเขารู้สึกเหมือนเคยรู้จักกันมานานแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมเขาถึงรู้สึกเช่นนี้?
ขณะที่เขากำลังคิดเสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้งด้านหลังของเขา
เต๋าซิงทีนี้เจ้าก็ตายอย่างสงบได้แล้ว ฟางเจิ้งจือกล่าวพร้อมพุ่งไปที่ด้านหลังของฟางเจิ้งจือ
แสงสีฟ้าปรากฎขึ้น
มันเป็นเต๋าสวรรค์
ฟางเจิ้งจืออาศัยจังหวะที่เหยียนซิวกำลังตกใจย้ายตำแหน่งไปยังที่เต๋าซิงอยู่
ไม่!!! เหยียนซิวได้สติและต้องการจะหยุดฟางเจิ้งจือ แต่มันสายเกินไป ดาบของฟางเจิ้งจือแทงลำคอของเต๋าซิงแล้ว
เลือดสดๆสัมผัสกับปลายดาบ เขารู้ว่าไม่มีทางหยุดฟางเจิ้งจือได้อีกต่อไปเขาทำได้เพียงยืนเงียบๆมองสิ่งที่เกิดขึ้น
ใช่…ข้าควรตายจริงๆแล้วข้าควรตายไปนานแล้ว…ซิวเจ้าไม่ควรเสียใจ เพราะข้าไม่คู่ควร ไม่คู่ควรแม้แต่น้อย.. ความว่างเปล่าและโดดเดี่ยวปรากฎขึ้นในดวงตาของเต๋าซิง นางไม่ได้ดิ้นรนอีกต่อไป
ใช่แล้วเจ้าไม่สมควรทำให้เหยียนซิวเสียใจด้วยซ้ำ ฟางเจิ้งจือกล่าว
ฟางเจิ้งจือ!ต่อให้เจ้าฆ่าข้าได้ แต่เจ้าไม่สามารถ…
เอาความทรงจำของเหยียนซิวกลับมา?เจ้าผนึกความทรงจำของเหยียนซิวใช่ไหมล่ะ? ฟางเจิ้งจือขัดเต๋าซิง
ข้าไม่เข้าใจนอกจากข้าและเต๋าฮุนไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เจ้ารู้ได้ยังไง? ร่างของเต๋าซิงสั่นสะท้านก่อนที่ท่าทีของนางจะกลับไปสงบเช่นเคย
ความตายมักจะทำให้คนสงบลงได้เพราะเต๋าซิงได้เลิกดิ้นรนเพราะรู้ว่านางไม่มีความหวังอีกต่อไปแล้ว
ตั้งแต่ที่เจ้าได้พูดถึงการรวมกันของหยินและหยางข้าเองก็ได้คาดการณ์บางเรื่องไว้แล้วจากนั้นความเจ็บปวดบนใบหน้าของเจ้าก็ได้พิสูจน์การคาดการณ์ของข้า ฟางเจิ้งจือตอบ
ฮ่าฮ่า…ฟางเจิ้งจือเจ้าสามารถรู้ได้ว่าความทรงจำของเหยียนซิวนั้นผนึกอยู่บนตัวข้า ข้า…พูดไม่ออกจริงๆ เต๋าซิงหัวเราะขึ้นมาอย่างกระทันหัน
อะไรนะความทรงจำของเหยียนซิวถูกปิดผนึกอยู่ที่เต๋าซิง?
เกิดอะไรขึ้น?
นางทำแบบนั้นได้ยังไง?
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างตกตะลึงเมื่อได้ยิน
ด้านเหยียนเฉียนหลี่และมู่ฉิงเฟิงต่างเบิกตากว้างพวกเขาไม่คาดคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เต๋าซิงหลับตาลงโดยไม่กล่าวอะไรออกมา
ความทรงจำพุ่งเข้าสู่จิตใจของนางราวกับสายน้ำนางเห็นตอนที่เหยียนซิวเกิด สิ่งที่เหยียนซิวพบเจอ ความเป็นสหายระหว่างเหยียนซิวและฟางเจิ้งจือ
ความทรงจำเหล่านี้ปะปนอยู่กับความทรงจำของตัวนางเองบางทีมันก็ทำให้นางสงสัยว่านี่คือตัวนางหรือเหยียนซิวกันแน่
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไป
เพราะนางกำลังจะตาย
ท่านพี่… เต๋าซิงพึมพัมราวกับนางกำลังเรียกหาบางคน
แฝดหยินหยาง
มันเป็นกรณีพิเศษมากที่ทำให้เต๋าฮุนและเต๋าซิงมีพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัว
อย่างไรก็ตามน่าเศร้าที่พรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้เกิดขึ้นในครอบครัวธรรมดาๆสุดท้ายมันได้กลายเป็นโศกนาฏกรรม การเกิดของเต๋าฮุนและเต๋าซิงเป็นโศกนาฏกรรม
ความจริงแล้วเต๋าฮุนไม่ได้ถูกเรียกว่าเต๋าฮุนในตอนที่นางเกิดนางชื่อว่า’หลี่ อวี้เหลียน’ ซึ่งเป็นชื่อสามัญธรรมดาๆเช่นเดียวกับครอบครัวของนางที่มีพ่อทำงานในกองทัพและแม่ที่เป็นชาวนาธรรมดาๆ
อย่างไรก็ตามไม่มีใครล่วงรู้ว่าสิบปีต่อมาแม่ของนางจะให้กำเนิดเต๋าซิงขึ้น
ในเวลานั้น…
พ่อของพวกนางได้ตายไปในสงครามตั้งแต่ห้าปีก่อน
ข่าวลือมากมายได้เกิดขึ้นและโจมตีครอบครัวของนางราวกับปีศาจร้ายคำครหาและคำดูถูกมากมายทำให้แม่ของพวกนางตรอมใจตาย
แฝดหยินและหยาง
ความน่ากลัวของการย้อนกลับของหยินและหยางเป็นเหตุผลว่าทำไมลูกคนที่สองถึงต้องใช้เวลาเกือบสิบปีอยู่ในครรภ์
พ่อได้ตายลงในสนามรบขณะที่แม่ของพวกนางเลี้ยงดูเต๋าฮุนที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดปีและเต๋าซิงที่มีอายุเพียงขวบเดียวเท่านั้น
โชคดีที่…
พรสวรรค์ทำให้เต๋าฮุนค่อยๆมีพลังมากขึ้นนางค่อยๆเปิดเผยเต๋าซิงให้โลกภายนอกรับรู้ และในที่สุดเต๋าซิงก็กลายเป็นอัจฉริยะผู้ทรงพลังเช่นกัน
ตอนนั้นเองที่เต๋าฮุนพบกับชายอีกคน
ชายธรรมดาๆที่ทำให้เต๋าฮุนรู้สึกปลอดภัยทำให้จิตใจของนางสงบ
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่สงบสุขทั้งเต๋าฮุนและชายคนนั้นมีพลังจากการบ่มเพาะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดชายคนนั้นได้ใช้พลังของตัวเองเพื่อท้าชิงตำแหน่งผู้สืบทอดศาลาหยินหยางได้สำเร็จ
ทุกอย่างดูเป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตามมันเป็นวันที่ชายคนนั้นเข้าไปในห้องของเต๋าซิงและเต๋าฮุนรู้เป้าหมายที่แท้จริงของชายคนนั้น
แฝดหยินและหยาง
การรวมกันของหยินและหยางจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อหยินและหยางเชื่อมต่อกัน
การที่จะกลายเป็นผู้นำศาลาหยินหยางคนต่อไปชายคนนั้นต้องการทั้งเต๋าฮุนและเต๋าซิงให้กลายเป็นแหล่งพลังของเขา
มันเป็นวันที่ฝนตกหนัก…
เต๋าซิงยังจำวั้นนั้นได้ดีถึงหน้าตาที่บิดเบี้ยวของชายคนนั้นเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่งขณะที่กระหน่ำแทงเต๋าฮุนที่พยายามห้ามเขา
สุดท้ายชายคนนั้นตายภายใต้คมดาบของเต๋าซิง
มันเป็นวันเดียวกันกับที่จิตใจของเต๋าซิงกลายเป็นนิ่งสงบนางรักษาอาการบาดเจ็บให้พี่สาวของนางและสวมหน้ากากเต๋าฮุนให้นาง
ท่านพี่ตั้งแต่นี้ไปท่านไม่ใช่หลี่อวี้เหลียนอีก ท่านคือเต๋าฮุน!
เต๋าฮุน?!
ตั้งแต่วันนั้นหลี่อวี้เหลียนได้หายไปจากโลกใบนี้มีเพียงเต๋าฮุนและเต๋าซิงที่ราวกับได้เกิดใหม่เท่านั้น
ฆ่าข้า! เต๋าซิงลืมตาขึ้น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา ความโกรธเกลียดโลกใบนี้ นางเกลียดทุกสิ่ง
นางเคยสาบานว่าจะอยู่เหนือชายทุกคนบนโลกใบนี้เพื่อพิสูจน์ว่าผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้ชายและสามารถแข็งแกร่งได้มากกว่า
ตำแหน่งผู้นำศาลาหยินหยางไม่สามารถทำให้เต๋าซิงพึงพอใจได้อีกต่อไป
นางต้องการให้เต๋าฮุนกลายเป็นผู้นำของมนุษยชาติผู้นำกลุ่มพันธมิตรสวรรค์ ผู้ที่ปกครองโลกใบนี้ นางต้องการพิสูจน์ให้ชายที่ตายไปแล้วคนนั้นได้เห็นว่านางและพี่สาวสามารถขึ้นไปได้สูงกว่าที่ชายคนไหนเคยไปถึง
เต๋าซิงนั้นสู้เพื่ออำนาจและพลังมาตลอดชีวิตของนางอย่างไรก็ตามนางกลับตกหลุมรักเหยียนซิวเพราะนางผนึกความทรงจำของเขาเอาไว้
นางต้องการจะเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เหยียนซิวฟังแต่นางกลัวว่ามันจะทำให้เขาอึดอัด
เพราะจริงๆแล้วนางไม่ได้มีพื้นภูมิอันสูงส่งรวมทั้งมีมลทิน
น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มของเต๋าซิง
มันไหลลงไปถึงลำคอผสมกับเลือดสีแดงย้อมไปทั่วลำคอของนางจากนั้นมันไหลลงบนพื้นจนกลายเป็นแอ่งน้ำสีแดงขนาดย่อมๆ
เต๋าซิงทรุดลงบนพื้น
ฟางเจิ้งจือไม่ให้โอกาสแก่เต๋าซิงอีกต่อไป
มันเป็นความรักที่เกิดจากการผนึกความทรงจำมันนับได้ว่าเป็นความรักที่แท้จริงงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือไม่เข้าใจในความรักเท่าไรนัก แต่เขารู้ว่าเหยียนซิวไม่มีทางได้ความทรงจำคืนถ้าเขาไม่ฆ่าเต๋าซิง
การรวมกันของหยินหยางและวงจรหยินหยาง…ตอนที่เต๋าซิงช่วยเหยียนซิวนางได้ผนึกความทรงจำของเขาเอาไว้ที่จิตวิญญานของเต๋าซิง
มันได้ถูกกำหนดจุดจบไว้แล้ว
ตอนที่เต๋าฮุนตัดสินใจทำเรื่องนี้นางไม่ได้นึกถึงความเป็นไปได้ที่เต๋าซิงจะตกหลุมรักเหยียนซิวเพราะความทรงจำของเขา
แต่ตอนนี้…
เต๋าซิงตายแล้ว
เหยียนซิวทรุดตัวลงกับพื้น
เขาดูราวกับเจ็บปวดจนถึงขีดสุดดวงตาของเขาแดงก่ำ
อ๊าก!.. เหยียนซิวเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นความทรงจำที่หายไปกำลังไหลทะลักเข้าสู่หัวของเขา ซิวเอ๋อร์เจ้าเป็นอะไรมากไหม?! เหยียนเฉียนหลี่ตรงไปหาเหยียนซิวทันที แต่ด้วยพลังบางอย่างรอบตัวเหยียนซิวทำให้เขาเข้าไปใกล้มากไม่ได้
ขณะเดียวกันฟางเจิ้งจือได้ไปถึงตัวเขา
เขาวางมือข้างหนึ่งลงบนไหล่ของเหยียนซิวทำให้ร่างกายของเขาสงบลง
จากนั้นดวงตาของเหยียนซิวพลันสงบลงสีแดงได้หายไป อย่างไรก็ตามท่ามกลางความสงบนั้นมันมีความเศร้าศร้อยเล็กน้อย
ข้าสามารถทรยศทุกคนบนโลกได้ยกเว้นเพียงคนเดียว เหยียนซิวกล่าวคำพูดธรรมดาๆ
อืม ฟางเจิ้งจือพยักหน้า เขารู้ว่าเหยียนซิวหมายถึงอะไร การที่เขาพูดเช่นนั้นเท่ากับความทรงจำของเขาได้กลับคืนมาแล้ว
แต่เขาก็ไม่ลืมเลือนความทรงจำเกี่ยวกับศาลาหยินหยาง
ส่งร่างของนางมาให้ข้า เหยียนซิวหันไปหาเต๋าซิง
ได้ ฟางเจิ้งจือพยักหน้าอีกครั้ง
เหยียนซิวไม่ได้พูดอะไรอีกไม่มีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นระหว่างเขากับฟางเจิ้งจือ
มันดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่…
ใช่พวกเราทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ฟางเจิ้งจือรู้ว่าเหยียนซิวกำลังคิดอะไรจากการที่เขาหันไปมองศพที่นอนอยู่บนพื้นรอบๆ
ปิงหยางกระโดดออกมาอย่างมีความสุขและวางมือลงบนไหล่ของเหยียนซิวข้างหนึ่งส่วนอีกข้างกอดเอวของฟางเจิ้งจือ
เหยียนซิวข้าเป็นคนที่ช่วยให้เจ้าได้สติกลับคืนมาเลยนะ เจ้าจะขอบคุณข้ายังไงดี? ปิงหยางกระพริบตาให้ฟางเจิ้งจือและกล่าวออกมา
ข้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณเจ้า เหยียนซิวตอบ
ทำไม?
ทำไมข้าต้องขอบคุณเจ้าด้วยในเมื่อเจ้าไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย
… ปิงหยางพูดไม่ออก
ด้านฟางเจิ้งจือเขาหัวเราะออกมาทันที
เหยียนซิวเป็นเรื่องดีแล้วที่มีชีวิตอยู่ ฟางเจิ้งจือกล่าวอย่างยินดี
ใช่แล้วพวกเรายังมีชีวิตอยู่ เหยียนซิวพยักหน้า
… ปิงหยางยังคงพูดไม่ออก
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเพราะทั้งสามคนสามารถรับรู้ได้ถึงความเป็นสหายยิ่งไปกว่านั้นมีเรื่องมากมายกำลังรอพวกเขาอยู่
เหยียนซิวค่อยๆหันไปมองเหยียนเฉียนหลี่ช้าๆจากนั้นเขาก็คุกเข่าลง ข้าขอโทษ ท่านปู่
ซิวเอ๋อร์เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ เหยียนเฉียนหลี่พยุงเหยียนซิวให้ลุกขึ้นทันทีพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
เขาผู้ผ่านสนามรบมากมายได้หลั่งน้ำตาออกมาเพราะเหยียนซิวได้ความทรงจำกลับคืนมา!
ยิ่งไปกว่านั้นเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
…
เจิ้งจือข้าคิดว่าเจ้าน่าจะสนใจจารึก เหยียนซิวชี้ไปที่แผ่นหินจารึกที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
จารึก? ฟางเจิ้งจือมองไปยังทิศทางที่เหยียนซิวชี้ไป
เขาเห็นแผ่นศิลาสีดำที่มีรอยขีดเขียนอยู่บนนั้น
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่คำของโลกใบนี้มันราวกับเป็นตัวหนอนยึกยือหรือสัญลักษณ์พิเศษ
หืม?ข้าคิดว่าข้ารู้จักอักษรเหล่านี้ ฟางเจิ้งจือกล่าวพร้อมกระพริบตามองอักษรบนศิลาหินอย่างตั้งใจ
……………………………………..