ตอนที่ 254 การพังทลายของกลืนกินโลก
ไม่ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ไม่ได้เกิดผลกระทบอันหนักหน่วง มีแค่รอยเล็กๆบนก้อนหินเท่านั้น
ฟาง เจิ้งจือ เดินไปรอบๆ ไม่พบอะไรเป็นพิเศษ
เขาจึงตัดสินใจจะออกไป
แต่ทันใดนั้นเขาสังเกตุหินดำก้อนหนึ่งอยู่บนพื้นเขาคิดสักพักก่อนจะเก็บมันเข้าไปในกระจกป้องกันใจ
“ข้าจะใช้มันเป็น 1 ในอาวุธลับของข้า!”
…
ซิง หยวนกัว และ ไป่ ซิง ต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนก็เช่นกัน
พวกเขาจะออกไปทั้งๆที่อยู่กลางสงครามได้ยังไง?
โถงบัลลังก์และแท่นบูชาได้หายไป คนชุดดำสวมหน้ากากก็เช่นกัน พื้นที่รอบๆเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชั่วพริบตา
พวกเขากลับมาอยู่ที่ภูเขาคังหลิง
ค่ายทหารตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขา
เป็นค่ายทหารที่ ซิง หยวนกัน นั้นยึดเป็นฐานที่มั่นมันทำให้เขารู้สึกเย็นเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง
ไป่ ซิง ยืนนิ่ง
อย่างไรก็ตามเขาได้สติอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกของเขาพลันกลายเป็นหวาดกลัวและตกใจ เขาพบว่าสิ่งที่เป็นไปได้ ได้เกิดขึ้น
“กลืนกินโลกได้พังทลายลง?”
เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขารู้ว่าการเข้ามายังกลืนกินโลก เขาไม่มีทางออกมาได้อีก
เขาไม่สามารถทำมันได้ เขาทำไม่ได้ แม้แต่ ซิง หยวนกัว ก็ทำไม่ได้แม้แต่เซียนที่ทรงพลังที่สุดก็ทำไม่ได้
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว …
มีคนย้าย “หินพลังงาน” ของกลืนกินโลก
อย่างไรก็ตามหินนั้นจะถูกเคลื่อนย้ายได้ยังไง? มันอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาคังหลิง!ใครมีพลังที่จะย้ายหินออกไปจากที่นี่ถึง 100 ไมล์?
“เกิดอะไรขึ้น?” ไป่ ซิง ไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้ดีว่าเกิดปัญหาเร่งด่วนขึ้นแล้ว
เขาพุ่งออกไป ร่างของเขากลายเป็นลำแสงสีเงิน เขาใช้พลังทั้งหมด เพื่อพุ่งเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาคังหลิง
ซิง หยวนกัว เองก็สับสนเช่นเดียวกัน
ยังไงก็ตาม เขารู้สึกได้ว่าเขาถูกปดปล่อยออกมาจากกลืนกินโลก ไม่ใช่แค่เพราะชายชุดดำสวมหน้ากากหายไป
สำคัญที่สุดคือ ไป่ ซิง ตัดสินใจที่จะพุ่งตัวออกไป
ซิง หยวนกัว ไม่ได้ไล่ตามไปเขาไม่รู้ว่ามันเป็นอีกแผนของ ไป่ ซิง หรือไม่ นอกจากนี้เขามีเรื่องสำคัญกว่า คือช่วยทหารที่บาดเจ็บกว่า 2,000 คนให้รอดชีวิตไป
ไป่ ซิง อาจจะวิ่งไปได้ แต่กองทัพสัตว์นั้นไม่ได้
“ตั้งขบวน!”
ทหาร 2,000 คนเคลื่อนไหวทันทีเมื่อได้ยินคำสั่ง พวกเขายืนเป็นวงกลมสามชั้น หอกของพวกเขาชี้ไปข้างหน้าตอนนี้พวกเขาคล้ายเม่นขนาดใหญ่
“โฮก!”
“บรู๋ววว!”
ความโกรธของสัตว์ 4000 ตัว หัวเหไปที่ทหารทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อปราศจากผู้นำ พวกมันไม่สามารถทำลายการป้องกันของเหล่าทหารได้
การสู้รบครั้งใหญ่เกิดขึ้น แต่ตอนจบนั้นคาดเดาได้อยู่แล้ว
พวกมันนั้นฉลาด หลังจากที่พวกมันรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรเหล่าทหารได้ พวกมันก็ตัดสินใจยอมแพ้จริงๆพวกมันก็ไม่ได้มีความบาดหมางกับทหารเหล่านี้
ฉือ กูเหยียน ยืนอยู่ตรงกลางของวงกลมนางเห็นทหารที่ยืนกัน ปิง หยาง อยู่
“ข้า เหวิน เต๋าเปา จะปกป้องท่านเอง!สัตว์ร้ายตัวไหนที่กล้าทำร้ายท่าน ข้าจะทำร้ายมันซะ! “ เหวิน เต๋าเปา ตะโกน พร้อมยกหอกลงเขาเอาชนะสัตว์ที่กำลังจะมาถึง
“เจ้าไร้ยางอายนั่นไปไหนกัน? เขาตายแล้ว? เขาไปไหนกัน … “ ปิง หยาง ยังคงพึมพัมกับตัวเอง ไม่สนใจ เหวิน เต๋าเปา
นอกจากนั้น นางยังถือหอกฉีหลิน พร้อมทั้งสวมชุดเกราะเปลวเพลิง ทั้งๆที่นางไม่ได้มีอันตรายใดๆ
“ปิง หยาง!” ร่างกายของ ฉือ กูเหยียน กลายเป็นลำแสง ก่อนจะไปปรากฎตัวต่อนหน้า ปิง หยาง
“พี่เหยียน…เจ้าไร้ยางอาย..เขา…เขาตายแล้ว!” ดวงตาของ ปิง หยาง เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็น ฉือ กูเหยียน
“อย่าพูดไร้สาระอย่างนั้น เจ้าขโมยโรคจิตนั่นโชคดีจะตาย … เขาจะตายได้อย่างไร? “ ท่าทีของ ฉือ กูเหยียนเปลี่ยนไปทันที แต่นางก็ยังปลอบใจ ปิง หยาง
“เขาตายจริงๆ ข้าเห็นกับตา! เขาถูกห่าตาย! “
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!” ท่าทีอันสงบตอนแรกของ ฉือ กูเหยียน เปลี่ยนไปทันที เมื่อได้ยิน
นางรู้ว่า ปิง หยาง ไม่เคยโกหก
…
มีหมอกบางๆปกคลุมหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ชาวบ้านมองทหารขี่ม้าทั้ง 4 คน ด้วยความกังวล พวกเขาสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
แต่ก็ไม่ใครแสดงความหวาดกลัวออกมา
หมู่บ้านภูเขาทางเหนือมีเพียง 100 ครัวเรือนเท่านั้น พวกเขาอยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปี ถึงแม้จะ มีการทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆ แต่พวกเขาก็พร้อมจะต่อสู้กบคนจากภายนอก
พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ศัตรูกำลังมองหา ฟาง เจิ้งจือ
8 ปีก่อน ตอนที่ จาง หยางปิง พา ฟาง เจิ้งจือ เข้ามาในหมู่บ้านจากหมู่บ้านที่ยากจนตอนนั้น ตอนนี้หมู่บ้านพวกเขานั้นร่ำรวยมากยิ่งขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหนวยล่าสัตว์ไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นาก่อนเลย
ทุกคนรู้สึกขอบคุณ ฟาง เจิ้งจือ และครอบครัวฟาง เป็นอย่างมากแม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะอายุเพียง 15 ปี แต่เขาก็อยากใฟ้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน
ถึงเขารู้ว่าจะมีคนคัดค้านเพราะ ฟาง เจิ้งจือ อายุแค่ 15 ปีก็ตาม!
ถ้าไม่มี ฟาง เจิ้งจือ หมู่บ้านภูเขาทางเหนือก็ไม่มีวันมาถึงทุกวันนี้ใครจะเห็นด้วยที่มีคนจะมาเอาตัว ฟาง เจิ้งจือ ไป?
ชายทั้ง 4 คนเดินเข้ามา
“สวัสดีชาวบ้านทุกคน แม่ทัพของพวกเราได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้กลับมาที่หมู่บ้าน พวกเรามาเยี่ยมเยียนเขาเล็กน้อย มีใครรู้ไหมว่าเขาอยู่ไหน ? “ รองแม่ทัพคนหนึ่งลงมาจากหลังม้า และยิ้มให้ชาวบ้านอย่างแจ่มใส
“ท่านทั้ง 4 คนมาที่นี่เพื่อหา เจิ้งจือ ? “จาง หยางปิง ก้าวออกไปทันที เมื่อได้ยิน
“ใช่” รองแม่ทัพพยักหน้า
“เนื่องจากพวกท่านมาที่นี่เพราะหา เจิ้งจือ ก็ถือว่าเป็นแขกของหมู่บ้านพวกเราไม่ได้มีอาหารรสเลิศนักในหมู่บ้าน แต่ก็พอมีพวกเนื้อและเหล้าที่หมักมากว่า 30 ปี พวกท่านต้องการเข้ามาพักสักครู่ไหม?” จาง หยางปิง เรียกชาวบ้านให้ไปเตรียมโต๊ะ
“เดี๋ยวก่อน!” แม่ทัพพูด “เจ้าเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านรึ?”
“ขอรับ ข้าชื่อ จาง หยางปิงข้าเป็นผู้อาวุโสของที่นี่ กรุณาบอกสิ่งที่พวกท่านต้องการ! “ จาง หยางปิง ตอบสุภาพ
“พวกเรามาพบนายน้อยฟางด้วยเหตุผลบางอย่าง เจ้าเป็นผู้นำของที่นี่ ไปเรียกเขาออกมาสิ “ แม่ทัพพูดกับ จาง หยางปิง
“ท่านแม่ทัพ ท่านมาผิดเวลาไปเสียหน่อย เขาเดินทางไปเมืองหลวงแล้ว ท่านก็รู้ว่าเขาต้องไปร่วมการทดสอบระดับจักรพรรดิ … “
“โครม!”
ก่อนที่ จาง หยางปิง จะพูดจบ เขาก็ล้มลงไปแม้จะแข็งแรง แต่ จาง หยางปิง ที่อายุ 50 ปี ถึงกับล้มลงไปกับพื้น
“อย่ามาทำปากดีกับข้า! ข้ามีคำสั่งให้หาตัว ฟาง เจิ้งจือ ใครก็ตามที่พยายามขัดขวางจะต้องโดนลงโทษอย่างสาสม!”แม่ทัพจับแส้ยาวไว้ในมือ เขาจ้องไปที่ชาวบ้านทุกคนราวกับเป็นพระเจ้าที่กำลังจะมอบความตายให้ทุกคน
ชาวบ้านที่เตรียมจัดวางอาหารหยุดการกระทำลงในทันที พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่แม่ทัพด้วยความเกลียดชัง
พวกชาวบ้านเป็นต้นเหตุ
แม้พวกเขาจะเกรงกลัวกองทัพ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทนเห็นผู้นำของหมู่บ้านถูกทำร้ายได้
“พวกเจ้ามองหาอะไรกันฮะ! พวกเจ้ากล้าขัดคำสั่งทหารงั้นรึ? เหอะลองดูสิ! “ 1 ในแม่ทัพตะโกนออกมา
เขาลงจากม้าและเดินไปหาชาวบ้าน
เขาจะทำให้พวกชาวบ้านโกรธและเกลียดชัง ตราบใดที่พวกชาวบ้านเป็นฝ่ายลงมือก่อน พวกเขาก็จะมีข้ออ้างในการลงโทษพวกชาวบ้าน
ตอนนั้น ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ยอมออกมางั้นรึ?
“ท่านแม่ทัพ, เจิ้งจือ ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยเขาอาจะสร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าทหาร แต่มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ได้ลงโทษเขา ทำไมท่านไม่ลงโทษข้าแทน ข้ายอมรับความผิดทั้งหมด! “ จาง หยางปิง พุ่งออกไป และเดินไปหารองแม่ทัพ
“ขยะ!” รองแม่ทัพเตะ จาง หยางปิง ล้มลงไปกับพื้น
จาง หยางปิง อาจจะถึกทน แต่เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาหลังจากที่ถูกตีและถูกเตะ เขาก็เริ่มหน้าซีดและกระอักเลือดออกมาจากปาก
“อั๊ก!”
“ที่รักข้า ท่านเป็นอะไรไหม?” ผู้หญิงคนหนึ่งล้มลงกับพื้น และพยุง จาง หยางปิง ขึ้นมา
นางคือภรรยาของ จาง หยางปิง
ข้างหลังนางมีชายหนุ่มดูอายุไม่มาก อายุประมาณ 20 ปีเท่านั้น
เมื่อเห็น จาง หยางปิง นอนหน้าซีดอยู่ที่พื้น เขาถึงกับเข่าทรุด
“เหอะช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!” รองแม่ทัพด่าสาปแช่ง เมื่อเห็น จาง หยางปิง กระอักเลือด ออกมาท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเหลือบไปมองท่านแม่ทัพ
แม่ทัพยืนนิ่งสงบ เขาไม่ได้มองไปที่ จาง หยางปิงเขานั่งอยู่บนม่า พร้อมตวัดแส้ เสียงคมชัดดังสะท้อนออกมา
“ผู้นำของเจ้าได้ขัดคำสั่งของทหารมีความผิดร้ายแรง! ทั้งหมดเป็นผลจากการกระทำของเขา! ถ้าพวกเจ้าเอาตัว ฟาง เจิ้งจือ ออกมาข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ไม่งั้นก็ … ตาย! “
“ตายซะ!”
คำพูดสุดท้ายดังสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน ท่าทีของชาวบ้านทั้งหมดเปลี่ยนไปทันที
รองแม่ทัพตระหนักว่ามีบางสิ่งเริ่มแย่ลง เขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
นอกจากนี้พวกเขาอยู่ภายใต้คำสั่งโดยตรง
แม่ทัพได้พารองแม่ทัพมา 3 คนเท่านั้น มีเพียงเรื่องเดียวที่พวกเขาต้องทำ!