ยู่ ยี่ปิง หยิบชาขึ้น แม้เขาไม่ได้มอง ซู ฉิง แต่เจาก็ประทับใจอย่างเห็นได้ชัด
ซู ฉิง ก้มเคารพองค์รัชทายาทอีกครั้ง
“ด้วยความเคารพฝ่าบาท การทดสอบระดับสภาเป็น 1 ในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดของอาณาจักร ในการทดสอบ เราจะแสดงให้เห็นว่าพวกเราเชื่อถือได้และเห็นคุณค่าของภูเขาทางใต้ นอกจากนี้เราจะใช้โอกาสนี้เพื่อหาว่าพวกเขามีทัศนคติยังไงต่ออาณาจักร แม้จะเป็นผู้ต่อต้าน แต่พวกเขาจะไม่ทำการกบฏอย่างเปิดเผย นี่คือจุดประสงค์แรกของเรา “ หลังจากโค้งคำนับ ซู ฉิง ก็อธิบายรายละเอียดต่อทันที
องค์รัชทายาทพยักหน้า
“การทดสอบระดับสภา เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการแสดงพลังของพวกเรา อัจฉริยะและชนชั้นสูงมากมายจะมาที่นั่น หลังจากได้เห็นพลังของพวกเรา พวกมันจะต้องคิดหนักก่อนที่จะพยายามทำอะไร! นี่เป็นจุดประสงค์ของเรา เพื่อขจัดความไม่สงบสุขของพวกอาณาจักรบริวาร! “ ซู ฉิง กล่าวเพิ่ม
“พูดได้ดี! แผนนี้จะทำให้พวกเราบรรลุ 2 เป้าหายข้างต้น แล้วเราจะบรรลุอีก 2 เป้าหมายได้ยังไง? “ องค์รัชทายาทถามอย่างตื่นเต้น
“ผลประโยชน์ที่ 2 และ 3 นั้นเชื่อมโยงกัน ผู้เข้าสอบเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ดินแดนภูเขาทางใต้หวั่นใจได้ ดังนั้นเราต้องรวมมันเข้ากับการประลองประจำปี เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีกองกำลังที่เข้มแข็ง ! “
“ถ้าในกรณีนี้! ถ้าพวกเราจัดการประลองประจำปีที่นั่นต่อให้พวกเขาไม่คัดค้าน แต่มันเหมือนจะเป็นการข่มขู่ อย่างไรก็ตามกฎการทดสอบระดับสภานั้นระบุไว้ว่าผู้ที่เข้าแข่งขันสามารถพาทหารข้ามพรมแดนไปได้ มันจะดูเป็นมิตรยิ่งขึ้น! “องค์รัชทายาทพยักหน้ายืนยัน
“ข้าประทับใจวิสัยทัศน์ของท่านเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ท่านสามารถดูแลการทดสอบแทนองค์จักรพรรดิเนื่องจากองค์จักรพรรดินั้นต้องคุมประเทศจากเมืองหลวง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถไปยังดินแดนภูเขาทางใต้ได้ จากนั้นท่านสามารถกลายเป็นผู้คุมสอบได้เช่นกัน ในทางตรงกันข้ามราชาต้วนจะเป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น!”
“ดี ดีมาก! บอกข้าข้อสุดท้ายมา! “
“เกี่ยวกับผู้ที่ท่านจะยืมมือสังหาร ฟาง เจิ้งจือ ซึ่ง ราชาต้วน นั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ ฟาง เจิ้งจือ เท่าไรนัก ข้ามั่นใจว่าการยื่นความช่วยเหลือเล็กน้อยจากท่าน ราชาต้วนต้องไม่ทิ้งโอกาสทองเช่นนี้ไปแน่นอน “ ซู ฉิง คุกเข่า
“เจ้าหน้าที่ซู โปรดลุกขึ้น! ท่านพูดถูก! การจัดการทดสอบขึ้นที่ภูเขาทางใต้นั้นเป็นการเดินเกมที่ฉลาดมาก! ข้าแน่ใจว่าน้อง6 ต้องไม่ยอมพลาดโอกาสเช่นนี้แน่ๆ ฮ่า ฮ่า … งั้นใครมีความคิดเห็นอื่นๆอีกไหม “ องค์รัชทายาทสอบถามอีกครั้ง
“เจ้าหน้าที่ซู มองได้ทะลุปรุโปร่ง ข้าไม่มีความเห็นอื่นอีก! “ ยู่ ยี่ปิง ลุกขึ้นจากเก้าอี้และโค้งคำนับองค์รัชทายาท
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆก็มองกันไปมาและพยักหน้า พวกเขาไม่ได้โง่ แผนการของ ซู ฉิง นั้นได้รับความเห็นชอบจากทั้งองค์รัชทายาทและ ยู่ ยี่ปิง พวกเขาจะไม่แสดงความคิดเห็นไปในทางตรงข้ามเด็ดขาด
“ดี งั้นเรามาเริ่มงานกันเถอะ!”
…
กลางดึก
ภายในห้องลับ ณ ที่พักของราชาต้วน
ชายหนุ่มสวมเกราะยืนอยู่กลางห้อง ราชาต้วนนั่งอยู่ด้านหน้าเขา
ถัดจากราชาต้วนเป็นท่านเฮ่าในชุดของนักปราชญ์และผู้อาวุโสเหวิน
“ข้าได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของท่านและเสนอแผนแก่องค์รัชทายาทแล้ว ท่าทีของเขาดูเหมือนจะเห็นด้วย! “ ชายหนุ่มยกหัวขึ้นเล็กน้อย
เขาคือเจ้าหน้าที่ระดับ 4 ซู ฉิง
“ดีทำได้ดี!” ราชาต้วนยิ้มเมื่อได้ยิน ซู ฉิง พูด
“ท่านช่างชาญฉลาดยิ่งนักที่ให้เสนอแผนดังกล่าวแก่องค์รัชทายาท!” ท่านฮั่วลุกขึ้น และพา ซู ฉิง ไปที่เก้าอี้
“ขอบคุณมากท่านเฮ่า แต่มันยังไม่จบเท่านี้ มันยังเร็วเกินไปที่จะขอรางวัล ข้าได้นำรางวัลที่องค์รัชทายาทมอบให้ข้ามาด้วย โปรดรับมันไป! “ ซู ฉิง โค้งคำนับและมอบมันให้กับราชาต้วน
“ฮ่าฮ่าฮ่า … เจ้าหน้าที่ซู เป็นการเสี่ยงมากในครั้งนี้ เจ้ายังสามารถหลอก ยู่ ยี่ปิง ได้อีกด้วย สามารถเอารางวัลจากองค์รัชทายาทมาได้ เช่นนั้นข้ามีไข่มุขแห่งทิศตะวันออกมอบให้เจ้า มันเป็นของที่ได้มาจากอาณาจักรบริวารมันเป็นของเจ้าแล้ว! “ ราชาต้วนสะบัดมือ ไข่มุกเม็ดหนึ่งพุ่งออกไป
“ขอบคุณฝ่าบาท!”ซู ฉิง หมอบ
“ท่านราชาต้วน ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว แค่รอการทดสอบเริ่มขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ข้าจะรีบไปที่ภูเขาทางใต้เพื่อเตรียมพร้อม! “ ผู้อาวุโสเหวินกล่าวออกมา
“ดี ขอบคุณเจ้ามาก มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ควบคุมภูเขาทางใต้ได้ ความสำเร็จของแผนการ ขึ้นอยู่ดับเจ้า!? ราชาต้วนลุกขึ้นและโค้งให้ผู้อาวุโสเหวิน
“ท่านช่างเมตตามากยิ่งนัก! ข้าจะเริ่มเดินทางเดี๋ยวนี้! “
“ผู้อาวุโสเหวิน นี่ก็มืดแล้ว ให้ข้ามั่นใจว่าท่านออกไปอย่างปลอดภัย!” ท่านฮั่วเดินไปข้างๆผู้อาวุโสเหวิน
“ตกลง!” ผู้อาวุโสเหวินพยักหน้า
…
เทศการชงโหย่ง (เทศกาลชงโหย่งมีความคล้ายคลึงกับเทศกาลเชงเม้ง คือ ทั้งครอบครัวจะมารวมกันที่ฮวงซุ้ยเพื่อบูชาบรรพบุรุษเฉกเช่นที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน) รู้จักกันในเทศกาลมังกรคู่ เป็น 1 ใน 4 เทศกาลที่ยิ่งใหญี่ที่สุด มีกิจกรรมมากมายตลอดวัน
ปีนี้เทศกาลนี้มีความหมายมาก
ดวงอาทิตย์อยู่ในจุดสูงสุด
กลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วงกระจายไปทั่วประทูทางตะวันออก ดอกเบญจมาศสีทองวางอยู่รอบๆลาน ตรงกลางเป็นเวทีขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าไหมสีแดง
แถวของทหารรักษาพระองค์ในชุดเกราะสีทองยืนอยู่รอบๆลาน ท่าทางของพวกเขานั้นเคร่งขรึม ประชาชนจำนวนมากยืดคอและกระโดดเพื่อให้มองเห็นในลาน
บนเวที
องค์จักรพรรดิ หลิน มู่ไป่ เป็นผู้นำพิธี
ในเทศกาลนี้มีพิธีการมากมายใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงทำพิธีเสร็จทั้งหมด
เมื่อองค์จักรพรรดิก้าวเท้าลงจากเวที นั่นหมาความว่าพิธีการทั้งหมดได้เสร็จสิ้นแล้ว
อุณภูมิเพิ่มขึ้นเรื่อยเพราะความร้อนจากดวงอาทิตย์
อย่างไรก็ตามไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนเดินออกจากงาน มีงานสำคัญอีกอย่างคืองานเปิดการทดสอบระดับจักรพรรดิและการทดสอบระดับสภาเบื้องต้น
พวกเขาเลือกวันที่นี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ประการแรกพวกเขารู้สึกเป็นเกียรติกับการมีส่วนร่วมของบรรพบุรุษและนี่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าผู้เข้าสมัคร นอกจากนี้การทดสอบด้านการต่อสู้ต้องระงับลงด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่เป็นการสะดวกที่จะเรียกว่าจัดสอบใหม่
ดังนั้นเขาจึงตั้งชื่อว่าการทดสอบระดับสภาเบื้องต้น
เขาเลือกวันนี้ เหมือนเป็นการให้เหล่าอัจฉิรยะแสดงความเคารพต่อเหล่าบรรพบุรุษ
เสียงระฆังดังก้อง
การทดสอบระดับสภาเบื้องต้น ได้เริ่มขึ้น
จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มีเพียง 12 กว่าคนที่รอดชีวิต มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
กฎง่ายๆ พวกเขาจะทำการจับฉลากรายชื่อ
ชื่อของพวกเขาเริ่มปรากฏให้เห็นบนกระดาน ฟาง เจิ้งจือ, เหยียน ซิว, หนานกง มู่, ซิง ฉิงซุย ชื่อทุกคนอยู่บนนั้น
ยังไงก็ตาม …
ไม่มีชื่อ ฉิง หยาง
ปิง หยาง นั่งอยู่ด้านขวาขององค์จักรพรรดิ สวมชุดคลุมสีแดงขอบทองอันสดใส นางดูท่าทีไม่พอใจอะไรบางอย่าง
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้
ทุกคนรู้ว่า ฉิง หยาง คือ ปิง หยาง
ที่สำคัญไปกว่านั้น ปิง หยาง ได้หนีองค์จักรพรรดิออกไปจากเมืองหลวง การไม่ว่ากล่าวนาง ก็ถือเป็นการตามใจอย่างหนึ่ง
เขายังจะปล่อยให้ ปิง หยาง สร้างปัญหาต่อไปในการทดสอบครั้งนี้งั้นรึ?
ในโลกแห่งเซียน ผู้เข้าสอบส่วนมากผ่านเข้ามาในรอบสาม
ฟาง เจิ้งจือ, หนานกง มู่, ซิง ฉิงซุย เท่านั้นที่เข้าสู่รอบที่ 4
เช่นนี้ทั้งสามชื่อจึงถูกนำออกมาจากตะกร้าฉลาก และให้ผ่านเข้ารอบ 2 เลย เพื่อความยุติธรรม
ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างรอคอยด้วยความคาดหวัง
ยังไงก็ตาม …
เจ้าหน้าที่ต่างตกใจเมื่อเห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้อยู่ที่นี่
เมื่อ 10 วันก่อน ฟาง เจิ้งจือ ได้จัดการ ยู่ เหวินกู ที่เมืองตงหลิน ข่าวนั้นแพร่กระจายไปทั่ว การเกินทางมาน่าจะใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ปรากฏตัว นอกจากนี้ยังไม่มีข่าวว่าเขาได้เดินทางมาถึงที่นี่
เขามาสาย?!
เจ้าหน้าที่หลายคนไม่อยากจะเชื่อ นี่คือการทดสอบระดับสถาเบื้องต้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่ง และเหล่าอัจฉริยะให้ความสำคัญกับมันมาก
เมื่อไรกันที่มีคนกล้ามาสาย?
“มันเป็นการดูถูกทุกคน!”
“นี่ไม่ใช่แค่การดูถูก! แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ให้ความเคารพการทดสอบ! “
“ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันล้วนทรงพลัง ข้าคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ คงยอมแพ้ไปแล้ว ? ถ้าเขาไม่ปรากฎตัวขึ้นมา ก็ให้ฝ่ายตรงข้ามผ่านเข้ารอบไปได้เลย!”
“ต่อให้เขาผ่านก็ไม่มีทางเป็น 3 อันดับแรกได้หรอก”
“ข้าคิดว่า 3 อันดับแรกน่าจะเป็น เหยียน ซิว, หนานกง มู่, ซิง ฉิงซุย”
“เหยียน ซิว พึ่งเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์เร็วๆนี้เอง “เขาต้องพึ่งโชคสักหน่อยละนะ”
“ข้าเกรงว่าโชคของเขาคงไม่ดีนัก!”
การถกเถียงกันที่ด้านล่างเริ่มเร่าร้อนยิ่งขึ้น
โชคของ เหยียน ซิว ไม่ดีเท่าไร แม้เขาจะไม่เจอ หนานกง มู่ หรือ ซิง ฉิงซุย ในรอบแรก
แต่เขาต้องเจอกับชายอายุ 40 ปีที่เข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์หลายปีมาแล้ว
“รอบที่ 3 เหยียน ซิว เจอกับ เฉิน หยวนฟาง!”
หลังจากการแข่งขัน 2 รอบแรก เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว
ทุกสายตาจ้องไปที่ เหยียน ซิว ที่กำลังหลับตาอยู่ วันนี้เขาสวมชุดสีขาวและรองเท้าหนังสีขาว
ไม่กี่เดือนผ่านมา เขาไม่ได้ดูแตกต่างจากเดิมมากนัก
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเขาดูเหนื่อยล้า ใบหน้าของเขาดูซูบผอมลงกว่าเดิม
“ข้าได้ยินมาว่า เหยียน ซิว อยู่แต่ในบ้านช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ข้าสงสัยว่าเขาได้ทำอะไรไปบ้าง? “
“ใครจะสนกัน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะก้าวออกจากขั้นตั้งต้นไปขั้นกลางในช่วงเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ฝ่ายตรงข้ามของเขาอยู่ในขั้นกลางมากว่า 5 ปีแล้ว”
“แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก แต่ข้าคิดว่า เหยียน ซิว มีโอกาสที่จะชนะ เขามีพัดภูเขาและแม่น้ำ สวรรค์และโลก ที่เป็น 1 ใน 5 สมบัติของตระกูลเหยียน อยู่”
“มันต้องน่าตื่นเต้นมาก ข้าเคยได้ยินว่า เหยียน ซิว นั้นทรงพลังมาก ข้าจะได้เห็นกับตาซักที! “