Gate of God – ตอนที่ 345

ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เป็นเพียงสายธรรมดาของอาณาจักรเซี่ยล่ะก็

มันคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะออกคำสั่งเช่นนี้

อย่างไรก็ตามถ้า ฟาง เจิ้งจือ มีความสัมพันธ์กับกองตรวจการความมั่นคง และกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นเพียงสายลับธรรมดา

แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ฟาง เจิ้งจือ เป็นใคร

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ฟาง เจิ้งจือ ต้องไม่ตายที่นี่ อย่างน้อยที่สุดนางต้องรู้จุดประสงค์ของ ฟาง เจิ้งจือ ที่มาปรากฎตัวในค่ายของนางก่อน

 

“ฟุ้บ!

 

“ฟุ้บ!

เกือบจะเป็นเวลาเดียวกันที่องค์หญิงสั่ง ลูกศรได้พุ่งตรงเข้าหาร่างสีดำ ความหมายของคำว่า ไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม นั้นชัดเจนอยู่แล้ว

ในฐานะทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ พวกเขาจะต้องทำตามไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบไหนก็ตาม

 

อย่างไรก็ตามความเร็วของแม่ทัพไถ่นั้นเร็วเกินไป  ใช่ว่าทหารธรรมดาๆจะหยุดเขาได้ พริบตาเดียวเขาปรากฎตัวด้านหน้า ฟาง เจิ้งจือ

“ตาย!“แม่ทัพไถ่มั่นใจในความเร็วและความแข็งแกร่งของตัวเองมาก เขารู้สึกว่าไม่มีทางที่ ฟาง เจิ้งจือ จะหลบการโจมตีเขาได้

แสงที่แผ่ออกมาจากขวานสีดำขนาดยักษ์ ราวกับว่ามันจะสามารถผ่าโลกและสวรรค์ออกเป็นสองส่วนได้

แต่…

ในขณะที่เขาจะฟาดลงมา แสงสีม่วงก็ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง

นั่นคือดาบ

ดาบที่มีรอยแผลสีม่วงที่ปลายของมัน

ดาบนั้นดูธรรมดามาก อย่างไรก็ตามรอยแผลเป็นที่ปลายดาบส่งกลิ่นอายบางอย่างออกมา  มันคือจิตสังหารที่เอ่อล้นออกมาทำใหผู้คนที่สัมผัสถึงมันต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

แม่ทัพไถ่รู้สึกว่าความเร็วของเขาอยู่ที่ระดับสูงสุดแล้ว

อย่างไรก็ตามความเร็วของดาบนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่า อย่างน้อยที่สุดเมื่อตอนที่แม่ทัพไถ่ฟาดขวานลงมาดาบเล่มนี้ได้สกัดกั้นอย่างสมบูรณ์

 

ปกติแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ถือดาบอยู่ในมือ

เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดเลยว่าจะต้องใช้ดาบไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตามดาบไร้ร่องรอยพุ่งออกมาจากกระจกป้องกันใจด้วยตัวมันเอง

นอกจากนี้มันยังรับการโจมตีที่ ตัว ฟาง เจิ้งจือ เองไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน

 

“โฮกกก!

ตัวดาบสั่นสะท้านเล็กน้อย พร้อมกับเสียงคร่ำครวญของมังกร

มันคือเสียงคำรามในสมัยโบราณ ราวกับเสียงข่มขู่  แต่มันเหมือนกับปีศาจที่พุ่งออกมาจากขุมนรกตามมาด้วยความเยือกเย็นและอันตราย

 

กลิ่นอายทั้งสองที่ต่างกันแผ่ออกมาจากตัวดาบ

 

แม้แต่ร่างของแม่ทัพไถ่ก็สั่นสะท้านโดยอัตโนมัติ เมื่อสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกเหมือนเขาได้เผชิญหน้ากับราชา

ราชาเหนือกฎของโลก ผู้ที่อยู่สูงกว่าเหล่าวีรบุรุษทั้งปวง

 

ความลึกลับของมัน!

 

ทำให้หัวใจของผู้คนสั่นสะท้าน

กลิ่นอายอันทรงพลังแผ่ไปทั่วสนามฝึก

เหล่าทหารที่ยืนดูอยู่ก็เห็นดาบปรากฎขึ้นเช่นกัน มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากแม่ทัพไถ่  แม้พวกเขาจะอยู่ห่างจากตัวดาบ แต่ก็ถูกทำให้อ่อนแรงอยู่ดี

 

ความกดดันของมันทำให้พวกเขาต้องยืนนิ่งอยู่กับที่ พร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผาก

ในเวลาไม่กี่วินาทีเกราะหวายของพวกเขาก็เปียกชุ่ม

หยดเหงื่อไหลลงสู่พื้น

นักรบแห่งภูเขาทางใต้ที่เผชิญกับความตายได้อย่างไม่เกรงกลัว  อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถทนยืนด้วยความภาคภูมิใจได้ เมื่อเจอราชาที่แท้จริง

 

“ดาบ?!” ร่างขององค์หญิงเองก็แข็งค้างไปเช่นกัน อย่างไรก็ตามนางไม่รู้ว่าบรรยากาศอันทรงพลังนี้คืออะไร ลายเมฆเลือดบนร่างกายของนางค่อยๆปรากฎขึ้นมา

ราวกับดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

มันค่อยๆขยายไปทั่วขาอันงดงามขององค์หญิง ฉาน ยู่ ก่อนจะค่อยๆปกคลุมไปที่เอวและหน้าอกของนาง…

 

ที่สนามฝึก

แม่ทัพไถ่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนี้ เพราะตรงหน้าเขาก็มีเพียงดาบแค่เล่มหนึ่ง

 

เขาตกใจเพราะดาบ

แน่นอนว่าแม่ทัพไถ่ ไม่พอใจ แม้ร่างกายจะสั่นสะท้าน แม้จะมีความรู้สึกถึงอันตรายแปลกๆในจิตใจ ขวานสีดำขนาดใหญ่ก็ยังฟาดลงมาอยู่ดี

ทันใดนั้นแสงสีม่วงขยายออก กลายเป็นรูปจันทร์เสี้ยว

 

“ตูม!“ลานประลองถูกตัดออกเป็นสองส่วนด้วยแสงสีม่วง รอยแตกร้าวแผ่ขยายไปเรื่อยๆแตกร้าวออกไปเกือบ 100 เมตร

 

ตอนนี้ร่างของแม่ทัพไถ่กระเด็นขึ้นไปกลางอากาศ ขวานยักษ์สีดำถูกแบ่งเป็นสองส่วนตั้งแต่ปลายถึงด้ามจับ

“อั๊ก… ” เลือดพุ่งออกมาลงสู่สนามฝึกและที่ดาบไร้ร่องรอยเช่นเดียวกัน

แสงสีม่วงแผ่ขยายขึ้นเรื่อยๆ

บรรยากาศที่หนาวเหน็บแผ่กว้างออกไป

มีแต่ความเงียบ

ทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยความเงียบสงบ มีแต่ความเย็นยะเยือก ราวกับตอนนี้เป็นฤดูหนาว

ทหารทั้งหมดต่างหยุดนิ่งไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ทหารที่กำลังดึงธนู ก็ดึงค้างไว้อย่างนั้นไม่มีใครเคลื่อนไหว  ราวกับพวกเขาลืมวิธีว่าจะเคลื่อนไหว

ท่าทีของพวกเขาต่างกัน  แต่การแสงออกบนใบหน้าเขานั้นเหมือนกัน

 

หวาดกลัว!

ตกใจ!

ร่างกายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ  อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคิดจะปาดเหงื่อแม้แต่น้อย

เป็นเพราะว่า…

บรรยากาศแห่งความตายนั้นราวกับจิตสังหารที่มาจากขุมนรก  แม้แต่นักรบแห่งดินแดนภูเขาทางใต้ยังรู้สึกเย็นเยือกไปถึงหัวใจ

 

ลายเมฆบนตัวขององค์หญิง ฉาน ยู่ ตอนนี้ราวกับเพลิงที่ลุกไหม้  มันส่องแสงประกายระยิบระยับ  อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว  นางลืมที่จะแม้แต่ออกคำสั่ง

หรืออาจจะบอกว่าไม่จำเป็นสำหรับนางที่ต้องออกคำสั่งอีกต่อไป เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ชนะแล้ว  แม่ทัพไถ่นอนอยู่ที่พื้น พร้อมกับขวานที่แยกออกเป็นสองส่วน

เช่นเดียวกับแขนที่หักของเขา ตอนนี้โชกไปด้วยเลือด

ผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหารนั้นจะสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้  อย่างไรก็ตามไม่มีความสามารถที่จะรักษากระดูกหักได้

 

ดังนั้นเขาจึงแพ้  เขาแพ้อย่างสมบูรณ์

ในตอนนี้ ดาบไร้เงาส่งสียงคำรามออกมาอีกครั้ง ราวกับมันกำลังยินดีอยู่ แสงสีม่วงที่ขยายไปทั่วดาบค่อยๆกลับมารวมกันที่ปลายดาบ กลายเป็นรอยแผลเป็นสีม่วงอีกครั้ง

ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆเอามือไปจับดาบนั้นไว้

ถึงแม้เขาจะตกใจจากพลังอันมหาศาลของดาบ เขารู้ว่าดาบนั้นมีความคิดเป็นของตัวเอง  แต่เขาไม่เคยรู้ว่าดาบจะมีความลับเช่นนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม …

ถ้าเขาคิดอย่างถี่ถ้วน จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ

เพราะตอนที่โถงบัลลังก์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนพยายามจะดึงมันออกมา

แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้

มันจึงสามารถอธิบายได้ว่า ดาบไร้ร่องรอยนั้นอาจะครอบครองพลังที่เหนือกว่าระดับอภินิหาร

อย่างไรก็ตามพลังนี้หาใช่พลังที่คนธรรมดาจะควบคุมได้

อย่างน้อยที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่สามารถทำได้

ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เขาได้ศึกษาเรื่องนี้แล้วพลังที่ดาบเก็บไว้นั้นลึกลับมาก จนบางที่เขาไม่กล้าที่จะแตะต้องมัน

 

เขาเก็บดาบ

แสงสีม่วงก็จางหายไป

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่แม่ทัพไถ่ที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นเขาก็ถามอย่างสุภาพว่า “ถ้าข้าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าจะเชื่อข้าไหม?”

แม่ทัพไถ่ไม่ได้พูดอะไร  แต่เขากัดฟันแน่น

 

“เอาล่ะ ดูเหมือนเจ้าจะไม่เชื่อ” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว จากนั้นเขาก็หันไปทางทหารที่ตัวแข็งอยู่กับที่

 

หรือมันเป็นงานศิลปะแบบหนึ่ง?

 

ช่างเถอะ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าคนที่นี่มีงานอดิเรกคือการยืนนิ่งเฉยๆ  แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเขารีบมองไปที่ลายเมฆบนตัวขององค์หญิง ฉาน ยู่

 

“ลายเมฆ? ฟาง เจิ้งจือ ก่อนหน้านี้เชื่อว่าลายเมฆอาจจะเป็นผลจากการฝึกแบบหนึ่งของชาวภูเขาทางใต้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นแม่ทัพไถ่ ใช้พลังที่แท้จริง

เขารู้ว่าตัวเองได้คิดผิดอีกครั้ง

ถ้าเขาเดาไม่ผิดมันน่าจะสีบทอดมาทางสายเลือด  เช่นของแม่ทัพไถ่ เลืดของเขาน่าจะมากจากลิงแขนเหล็กสามตา

อย่างไรก็ตาม ลายบนร่างกายขององค์หญิง ฉาน ยู่…

 

มันคืออะไรกัน?

สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ จ้องมองไปที่ลายบนตัวขององค์หญิง จากนั้นก็เลื่อนไปที่ หน้าท้อง หน้าอก และเลื่อนขึ้นไป…

 

จากนั้นเขาก็เห็นดวงตาที่กำลังโกรธขององค์หญิง

องค์หญิง ตกตะลึงกับฉากที่เกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า นางจะไม่สังเกตุเห็นถ้าใครกวาดสายตาไปทั่วเรือนร่างของนาง

ขณะที่นางกำลังจะพูดนั่นเอง ฟาง เจิ้งจือ ก็ก้มหัวด้วยความเคารพให้นาง

 

“องค์หญิง ข้าชนะแล้วใช่ไหม?“รอยยิ้มจางๆปรากฎบนใบหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ   ท่าทางของเขาไร้เดียงสาราวกับสิ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

 

องค์หญิง อึกอักเล็กน้อย

ทหารที่อยู่รอบๆก็เริ่มได้สติแล้วเช่นกัน

 

“ชนะ?!

 

“สายของอาณาจักรเซี่ย ชนะจริงๆงั้นหรือ?

 

“ดาบนั่นคืออะไรกัน?

ในขณะที่พวกเขาพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็นึกได้แต่ภาพพลังสีม่วงที่น่าหวาดกลัว  สายตัวเล็กๆของอาณาจักรเซี่ยกลับมีพลังที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มาก

 

พวกเขาจะไม่หวาดกลัวได้ยังไง!

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset