การเรียนรู้ต้องเริ่มจากวัยเด็ก
มันเป็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้เรียนรู้จากโลกก่อน แต่ตอนที่เขาเกิดใหม่เขาอยู่ในร่างเด็ก ทำให้เขาสามารถจดจำเต๋าต่างๆได้ง่ายกว่าเดิม
คนที่โตแล้ว การจำจำหนังสือสักหน้าโดยอ่านเพียงแค่สองถึงสามครั้งนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่เด็กสามารถทำได้
ฟาง เจิ้งจืออ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เข้าสอบคนอื่นๆถึงตกใจ เช่นเดียวกันเขาไม่เข้าใจความรู้สึกของ หนานกง เฮา
“120 ยังน้อยเกินไป?!” หนานกง เฮา นั้นไม่เคยสะทกสะท้านกับเรื่องต่างๆมาก่อน แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะมีเต๋ามากกว่า 120 ดวง!
หนานกง เฮา เป็นอัจฉริยะ
เขามองคนรอบข้างต่ำกว่าตัวเองเสมอ
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เขาได้ใช้เวลากว่าอาทิตย์หนึ่งเพื่อศึกษา ฟาง เจิ้งจือ เพื่อเข้าใจเขาให้ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น…
ตระกูลหนานกงได้ส่งบางคนไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือและหมู่บ้านภูเขาทางใต้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ฟาง เจิ้งจือ
หนานกง เฮา นั้นจริงจังกับการเตรียมตัวก่อนสู้รบมาก
เขาแม้แต่สามารถคาดเดาการกระทำล่วงหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ นอกจากนี้ หนานกง เฮา มีข้อได้เปรียบเรื่องระดับพลัง
เขามั่นใจมากว่าตัวเองต้องชนะ
ในความเป็นจริง ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของ หนานกง เฮา แม้แต่การหายตัวไปแปลกๆของ หนานกง เฮา ที่หอแห่งปัญญา หรือการปรากฎตัวของ ฟาง เจิ้งจือ ที่ดินแดนภูเขาทางใต้
หนานกง เฮา ได้เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว
สี่ปีของการเก็บตัว …
การปรากฎตัวของ หนานกง เฮา นั้นเป็นการดึงดูดความสนใจ นอกจากนี้เขายังใช้เครือข่ายข่าวของตระกูล หนานกง ในการสืบข้อมูลการเคลื่อนไหวของเผ่าปีศาจ
จากนั้นเขาก็ทำผลสอบให้เสมอกับ ฟาง เจิ้งจือ ในการทดสอบด้านปัญญา
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ หนานกง เฮา วางไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่ ฟาง เจิ้งจือ มีเต๋ามากกว่า 100 ดวง
“หรือเพราะมันเป็นความลับมาตลอด?” หนานกง เฮา รู้สึกว่ามีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น
มันค่อนข้างแปลก
ฟาง เจิ้งจือ นั้นไร้ยางอายและชอบทำตัวเป็นจุดสนใจ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับตลอดเวลา
หนานกง เฮา ไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้ยังไง
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากล่าวมีผลกระทบแค่ไหน
ตอนที่อยู่กับ ฉือ กูเหยียน เขาบอกนางว่ามีเกือบสามร้อยเต๋า
อย่างไรก็ตามนอกจากนางชี้ให้เห็นถึงปัญหา นางก็ไม่ได้บอกว่ามันผิดปกติตรงไหน นางยังแม้แต่ยอมตกลงทำสัญญาทาสกับ ฟาง เจิ้งจือ
เขามองไปที่ หนานกง เฮา ผู้กำลังยืนนิ่ง
ความอดทนของ ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆหมดลง เขาค่อยๆยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
เขาไม่คิดจะเล่นเกมทายตัวเลขกับ หนานกง เฮา อีกต่อไป
เห็น หนานกง เฮา ไม่พูดอะไรออกมา ฟาง เจิ้งจือ จึงโบกมือที่ชูสามนิ้วไปมา
“130?” ท่าทางของ หนานกง เฮา เปลี่ยนไปเมื่อเห็นนิ้วทั้งสาม ดวงตาอันนิ่งสงบของเขาเริ่มสั่นไหว
ตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ ขอต่อสู้แบบยุติธรรม เป็นครั้งแรกที่ หนานกง เฮา คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ควรนับถือ แต่ตอนนี้…
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามอง ฟาง เจิ้งจือ อย่างจริงจัง
“เขามี 130 เต๋า?!“
ผู้เข้าสอบทุกคนรู้ในทันที มันเป็นตัวเลที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้เข้าสอบคนไหนจะส่งเสียงหวาดกลัวออกมา เสียงอันโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นมาทันที
“หนานกง เฮา เจ้านึกไม่ออกจริงๆหรือไง? สามนิ้วแต่เป็น 130?! 300 เจ้ารู้จัก 300 หรือไม่?!“
ฟาง เจิ้งจือ ถามออกมา ตั้งคำถามกับคนที่ฉลาดที่สุดในอาณาจักร
อย่างที่พูด เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
คำแนะนำของเขายังไม่ชัดเจนมากพอ?
เขาบอกว่า 100 น้อยเกินไป?
หนานกง เฮา บอก 120
ได้ ไม่มีปัญหา ในเมื่อมันยังไม่ใกล้เคียง เขาจึงตัดสินใจชูสามนิ้วขึ้นมา
แต่…
หนานกง เฮา เดาว่า 130!
เขาจะทนต่อการดูถูกแบบนี้ได้ยังไง?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจว่าใครจะบอกว่าเขาใจร้อน ต่อให้มันจะเป็นการดูถูกอัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาจักร แต่เขาก็ต้องการระบายความโกรธของเขา
เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ พุ่งผ่านอากาศราวกับใบมีด
ผู้เข้าสอบทุกคนได้ยินชัดเจน
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถตั้งสติได้ทัน
มีสองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ หนึ่งคือ ฟาง เจิ้งจือ พึ่งดูถูก หนานกง เฮา มันเห็นได้ชัดเจน
เขาไม่พยายามพูดให้สุภาพด้วยซ้ำ
ราวกับเขาถามช่างไม้ว่ารู้วิธีตัดไม้หรือไม่
หรือถามทหารว่ารู้วิธีต่อสู้หรือไม่
ใครจะกล้าตั้งคำถามกับความฉลาดของ หนานกง เฮา?!
แม้แต่องค์จักรพรรดิเองก็ไม่กล้าพูดอะไรแบบนั้น ในความเป็นจริงไม่มีใครในโลกที่จะคิดอย่างนั้นดวยซ้ำ
สำหรับจุดที่สอง …
ฟาง เจิ้งจือ บอกว่า 300!
300?
เขาหมายถึงอะไร?
เขากำลังพูดถึงเงินใช่ไหม? หรือทองคำ? เขาอาจจะไม่ได้พูดถึงเต๋าก็ได้?! 300 ?! มันเป็นเรื่องตลกอะไรกัน?
มากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้คือ 183 นอกจากนี้คนที่ทำได้ก็เป็นตอนอายุ 90! ฟาง เจิ้งจือ อายุเท่าไรกัน? 15? 16?
ใครจะเชื่อ?
ผู้เข้าสอบปฏิเสธที่จะเชื่อ
หนานกง เฮา ไม่ต้องการเชื่อเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ได้พูดออกมาชัดเจนแล้ว
“เจ้ารวบรวม… 300 เต๋า ?!” หนานกง เฮา ทวนคำพูดนี้ในใจ ปกติเขานั้นจะเป็นคนที่สงบและเยือกเย็น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ความสงบของเขาราวกับถูกพังทลาย
นอกจาก หนานกง เฮา แล้ว วู่ เฟิง, เฉิน เฟยยู่, ซิง ฉิงซุย ล้วนตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน
แม้แต่ เหยียน ซิว ที่รู้มาก่อน ก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
เขาเคยได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูดเรื่องนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก เพราะบนโลกนี้มีคนมากมายที่รวบรวมเต๋าได้ประมาณห้าสิบเต๋า
แน่นอนว่าตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ บอกว่าเขารวบรวมเต๋ามากกว่าร้อยเต๋า เหยียน ซิว แค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น
เขาคิดเสมอว่า ฟาง เจิ้งจือ ฉลาด
เช่นนั้น…
เขาไม่แปลกใจที่ ฟาง เจิ้งจือ จะทำได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินว่ามันมากกว่าคนที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ แม้แต่ เหยียน ซิว ก็แทบตั้งสติไม่ได้
หนานกง เฮา ยืนเงียบ
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆก็เงียบเช่นกัน
หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ ว่า หนานกง เฮา เสร็จ เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเขาก็พึ่งคิดได้ว่าได้ดูถูกฝ่ายตรงข้ามไป
แต่ หนานกง เฮา ไม่ได้ดูถูกเขา
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มีมารยาทดีนัก ถ้าเขาอยากจะดูถูกใคร เขาจะทำทันทีโดยไม่คิดเป็นรอบที่สอง
อย่างไรก็ตาม มันไม่ดีนักที่จะดูถูกคนที่พูดดีๆกับตัวเอง
เช่นนั้นเมื่อเขาเห็น หนานกง เฮา ยังคงเงียบ เขาจึงคิดจะทำให้บรรยากาศสผ่อนคลายและอึดอัดน้อยลง
ขอโทษ?
มันดูสุภาพเกินไปและไม่จำเป็น
ฟาง เจิ้งจือ จึงเลือกวิธีของตัวเอง เขาตัดสินใจบอกควาจริงกับ หนานกง เฮา เพือแสดงความจริงใจ
“เอา ตามจริงก็ประมาณ 300 ถ้าเอาแบบชัดเจน ข้ามี 388 เต๋า ในมิติพิเศษของข้า!” ฟาง เจิ้งจือ เปิดผยตัวเลขที่แท้จริง
มันเป็นความจริง
เขาไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย!
การบ่มเพาะพลังนั้นทุกคนล้วนมีแนวทางเป็นของตัวเอง ทุกคนล้วนปกปิดมันอย่างมิดชิด จะมีใครเปิดเผยมันให้กับคู่ต่อสู้ของตัวเองรู้กัน?
น้อยคนมากที่จะทำเช่นนี้
แต่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ เขาบอกกับ หนานกง เฮา ถึงจำนวนที่แท้จริง มันเหมือนกับบอกกับ หนานกง เฮา ถึงจำนวนวิชาที่ตัวเองฝึกฝน
แน่นอน…
ฟาง เจิ้งจือ บอกมันอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่า หนานกง เฮา คงไม่สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์อะไรได้มากมาย
เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะคำนวณวิชาที่เขาใช้จากเต๋าได้
ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เปิดเผยความจริง เป็นตัวเองที่สับสนและตกใจ
เกิดอะไรขึ้นกับ หนานกง เฮา?ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถเข้าใจได้ หนานกง เฮา ยืนอยู่ตรงหน้าเขาราวกับหุ่นไม้
โอ้?
อัจฉริยะอันดับหนึ่งยืนนิ่งเป็นตอไม้?
หรือเขารู้สึกประทับใจเกินไปกับความซื่อสัตย์ของ ฟาง เจิ้งจือ?
ฟาง เจิ้งจือ คิดไม่ออก เขาหันหลังไปและพบว่าท่าทีของทุกคนยิ่งกว่า หนานกง เฮา เสียอีก
“แกร้ง แกร้ง” เสียงโลหะดังขึ้น
เป็นเสียงของดาบที่หล่นลงพื้น ฟาง เจิ้งจือ เห็นผู้เข้าสอบทุกคนกำลังอ้าปากค้าง ดวงตาแทบถลนออกมาจากเบ้า
ฟาง เจิ้งจือ แทบไม่รู้จะพูดอะไรกับสิ่งที่เขาเห็น
ทุกคนดูราวกับตัวโง่งม!
“388?”“
“เขาบอกว่าเขามี 388 … “
ทุกคนไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
ตามจริงแค่ ฟาง เจิ้งจือ ดูถูก หนานกง เฮา พวกเขาก็ตกตะลึงแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ พูดพวกเขาแทบล้มไปนอนอยู่กับพื้น
388 เต๋า?
มันมากเกินไปแล้ว!
พวกเขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนรวมถึงอาจจะไม่เจออีกเลยในอนาคต
มีแค่คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่รวบรวมเต๋าได้ 183 ดวงในชีวิต เขาสามารถเข้าสู่ระดับจุติและถือเป็นคนหนึ่งที่แข็งแกร่งมาก
แม้เขาจะไม่สามารถเป็นเซียนได้ แต่แค่นั้นก็ถือว่าเขาก็แข็งแกร่งมากมากแล้ว
ผู้คนล้วนสงสัยว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อไปถึงระดับเซียน
มันเป็นความคิดที่น่ากลัว
ไม่มีใครกล้าคิดว่าคนที่อยู่ในระดับเซียนและมีเต๋ามากกว่าร้อยดวงจะน่ากลัวแค่ไหนกัน?
แต่…
300!
388!
เขามีศักยภาพมากแค่ไหนกัน?
อันดับหนึ่งของระดับสะท้อนสวรรค์
เมื่อผู้เข้าสอบทุกคนได้สติ พวกเขาจำได้ถึงการโจมตีของ ฟาง เจิ้งจือ ในการทดสอบระดับสภา ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
ตอนนั้นทุกคนล้วนคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นต้น พวกเขาไม่เคยคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถสู้กับ หนานกง มู่, ซู ตงหลิน และ ซิง ฉิงซุย ได้