Gate of God – ตอนที่ 714 สายฟ้าสาม

　นางล้อข้าเล่นหรือไงกัน?!
เขาพึ่งบาดเจ็บจากการถูกฟ้าผ่าครั้งแรก…
ฟางเจิ้งจือ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
สายฟ้าที่สองผ่าลงมาแล้ว
เขาเบิกตากว้างไม่ได้คิดอะไรอีก
มันใหญ่กว่าเดิมเกือบสองเท่า!
”ตูม!”ขณะที่ ฉือ กูเหยียน หลบการโจมตี ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกราวกับเขากำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า
เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
เขารู้สึกชาไปทั้งตัวหัวมึนงง
แน่นอนว่าฉือ กูเหยียน กำลังต่อสู้กับ หนานกง เฮา อยู่
เมื่อฉือ กูเหยียน โจมตี หนานกง เฮา เขาไม่ได้หลบ แต่กลับแทงดาบไปข้างหน้า
แต่เมื่อฉือ กูเหยียน โจมตีอีกครั้ง เขาไม่สามารถหลบได้ จนถูกดาบบาดไปเล็กน้อยและกระเด็นไปด้านข้าง
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับฟาง เจิ้งจือ
ราวกับเขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นไม่สนใจอันแปลกประหลาดที่ผู้คนมอง เขามีเป้าหมายเดียวคือ ฟาง เจิ้งจือ
เทียนซิง และ มู่ ฉิงเฟิง ที่มองอยู่มีความคิดที่ต่างกัน
มู่ฉิงเฟิง ประหลาดใจที่ หนานกง เฮา เลือกที่จะโจมตีในตอนนี้
แม้หนานกง เฮา จะยังเข้ามาในศาลาเต๋าสวรรค์ได้ไม่นาน แต่ช่วงสองปีมานี้ เขาได้แสดงให้เห็นถึงบุคคลิกและความสามารถที่สูงส่ง
ดังนั้นการที่เขาทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่นอน..
เช่นเดียวกับมู่ ฉิงเฟิง ด้าน เทียนซิง นั้นเองก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่เขายิ่งประหลาดใจที่ หนานกง เฮา สามารถหลบการโจมตีของ ฉือ กูเหยียน ได้
ซึ่งตอนนี้นั้นฉือ กูเหยียน ได้กระตุ้นชีพจรเจ้าแม่หนี่วาให้ตื่นขึ้นแล้ว ถ้าพลังของนางขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่อไร แม้แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะนางได้่
แต่หนานกง เฮา สามารถหลบการโจมตีของนางได้ถึงสองครั้ง
”ไม่เลวเลย!”เทียนซิง ยิ้ม เขายิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ ถูกโจมตีด้วยสายฟ้าที่สอง
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป…
เทียนซิงรีบพุ่งไปข้างหน้า
เขาไม่รู้ว่าทำไมคำพยากรณ์สวรรค์ถึงเลือกทั้งสองคนนั้นแต่เขารู้ว่ายิ่ง ฟาง เจิ้งจือ มีพลังเพิ่มขึ้นเท่าไร เขาคงนอนไม่หลับมากขึ้นเท่านั้น
ฟางเจิ้งจือ ต้องตาย!
เทียนซิงพุ่งเข้าหา ฟาง เจิ้งจือ
แต่ครั้งนี้มีอีกคนที่ทำแบบเดียวกับเขา　　มู่ฉิงเฟิง
”เทียนซิงเจ้าคิดจะต่อต้านสวรรค์งั้นหรือ?” แม้ มู่ ฉิงเฟิง จะไม่รู้ว่าทำไม หนานกง มู่ ถึงเลือกเวลานี้เพื่อโจมตี แต่เขาคิดว่ามันแปลก
เพราะมันดูแปลกเขาจึงต้องหยุดมัน
และคนที่เขาต้องหยุดคือเทียนซิง ไม่ใช่ หนานกง เฮา เนื่องจากเทียนซิงนั้นแข็งแกร่งกว่า หนานกง เฮา มาก
”ต่อต้านสวรรค์?ฮ่าฮ่า ตาเฒ่า ท่านคิดว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่เป็นผู้ที่ถูกเลือกงั้นหรือ มันเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น!” เทียนซิง ตอกกลับ
เขาไม่คิดจะหยุด
”บังเอิญงั้นรึ?!”
”มันจะเป็นไปได้ยังไง?”
”แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญนั่นหมายความว่ามีผู้ที่ถูกเลือกสองคนงั้นรึ?”
ทุกคนตอนนี้ล้วนสับสน
พวกเขามีความกังวลคล้ายๆกัน　　พวกเขาสามารถยอมรับได้ที่ฉือ กูเหยียน ถูกเลือก
แต่สำหรับฟาง เจิ้งจือ มันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะยอมรับได้ง่ายๆ
มีสองคนที่ถูกเลือก?
มันบังเอิญหรือเป็นส่วนหนึ่งของโชคชะตา?
แน่นอนแม้ว่าเทียนซิงอ้างว่านี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญแต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันความจริงได้
ตอนนี้ทุกอย่างดูแปลกประหลาดเกินไป
”ตูม!”เสียงต่อสู้ดังสนั่นจากด้านบน
”ท่านพี่อย่าฆ่าฟาง เจิ้งจือ!” เสียงที่เร่งรีบดังขึ้นมาจากระยะไกล ก่อนที่ร่างหนึ่งจะพุ่งเข้ามา
และมีร่างหนึ่งตามเขามาอย่างใกล้ชิด
หนานกงมู่ และ หยาน ฉิง
ทั้งคู่ต่างหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้ของตัวเองจนพวกเขาเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย
แต่ตอนนี้หนานกง มู่ กลับทิ้งการต่อสู้ไปในทันที และรีบพุ่งเข้าไปหา หนานกง เฮา เขาเลิกสนใจ หยาน ฉิง ที่กำลังพุ่งตามมาข้างหลัง
สำหรับหยาน ฉิง…
เขาไล่ตามหนานกง มู่ ไปอย่างกระชั้นชิด
”เขาเป็นน้องชายของหนานกง เฮา จริงๆงั้นหรือ?”
”ข้าคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น!”
”เขาบอกว่าหนานกง เฮา กำลังจะฆ่า ฟาง เจิ้งจือ? พวกเขาเคยมีปัญหากันมาก่อนหรือเปล่า?”
”อาจเป็นไปได้!”
เหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างมองฉากที่เกิดขึ้นมันเป็นฉากที่แปลกประหลาดมาก
”หา?พวกเขาทั้งสองคนจะมาสู้ด้วยงั้นรึ?” เทียนซิง สัมผัสได้ถึงทั้งสองร่างที่เข้ามาใกล้ แต่เขาไม่มีเวลาคิดมาก
เพราะมู่ ฉิงเฟิง เข้ามาใกล้เขาแล้ว
เขาต้องฆ่าฟาง เจิ้งจือ ให้ได้ในการในการโจมตีเดียว ก่อนที่ มู่ ฉิงเฟิง จะเข้ามาถึง
ทุกอย่างกลายเป็นฉากที่ยุ่งเหยิงหนานกง มู่ พยายามโจมตี ฟาง เจิ้งจือ ขณะที่ ฉือ กูเหยียน กำลังปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ อยู่
และตอนนี้ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เขาถูกสายฟ้าผ่าใส่ถึงสองครั้งติด
เทียนซิงกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกับ มู่ ฉิงเฟิง และ หนานกง มู่ กับ หยาน ฉิง ก็กำลังจะเข้าร่วมในความวุ่นวายครั้งนี้เช่นกัน
”…” ไอลีนโนเวล
ทุกคนต่างพูดไม่ออก
….
สำหรับฟาง เจิ้งจือ เขาไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่าในชีวิตของเขาจะต้องถูกสายฟ้าผ่าใส่ติดๆกันถึงสองครั้ง
ทางเลือกตอนนี้ของเขามีไม่มาก
อย่างแรกคือถามฉือ กูเหยียน ว่าจะมีสายฟ้าผ่าลงมาอีกหรือไม่ และใครจะเป็นผู้ที่รับมันไป　　และอย่างที่สองคือสลับที่กับฉือ กูเหยียน
เขาอยากจะเลือกทางที่สอง
แต่เมื่อเขาเห็นเทียนซิง พุ่งเข้ามา…
ฟางเจิ้งจือ พูดไม่ออก
และยิ่งพูดไม่ออกขึ้นไปอีกเมื่อเขาเห็นสายฟ้าที่สามกำลังจะฟาดลงมา
มันใหญ่กว่าเดิมเกือบสามเท่า!
”ตัวเลือกทังคู่…แย่พอๆกัน?!”เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถเลือกได้
ถ้าเขาถูกฟ้าผ่าครั้งนี้
เขาต้องตายแน่นอน!
แต่ถ้าเขาไปสู้กับเทียนซิง…เขาก็ต้องตายเช่นกัน
ช่างเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย
เขาไม่มีทางเลือก
”ฉือกูเหยียน ถ้าข้าตายฝากดูแลพ่อแม่ของข้าด้วย!” ฟาง เจิ้งจือ เตรียมที่จะดึง ฉือ กูเหยียน ไปด้านหลัง　　ถ้าเขารับทั้งสองทางแทนอย่างน้อยเขาก็ตายคนเดียว นางน่าจะรอด…
”เจ้าจะตายไม่ได้!”ฉือ กูเหยียน ไม่หันหลังกลับ นางยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว
ชุดสีชมพูของนางเต็มไปด้วยเลือด
”ตูม!”สายฟ้าที่สามพุ่งเข้ามา แต่คราวนี้นางไม่ได้หลบ
แน่นอน…
นั่นหมายความว่าฟาง เจิ้งจือ ก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน
เพราะเขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของฉือ กูเหยียน
”…”ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จะอธิบายในสิ่งที่เขารู้สึกออกมายังไง เพราะมันเป็นสิ่งที่โง่มาก
เวลาผ่านไปไม่นานเขารู้สึกว่ากระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนไหลออกมาจากร่างของ ฉือ กูเหยียน
ถ้าครั้งแรกกับครั้งที่สองมันทำให้เขารู้สึกตัวเบาราวกับลอยอยู่กลางอากาศ　　ครั้งที่สามนี้มันทำให้เขารู้สึกถึงสภาพไร้น้ำหนักเขารู้สึกราวกับว่าได้เกิดใหม่อยู่ท่ามกลางกองเพลิง
เขาได้กลิ่นไหม้จากเนื้อหนังของเขา
เขากำลังจะตายใช่ไหม?
ฟางเจิ้งจือ ไม่อยากยอมรับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังจ้องมองเทียนซิงและ หนานกง เฮา ที่ยืนอยู่ด้านหน้า
ถึงอย่างนั้นฉือ กูเหยียน ก็ไม่ได้เคลื่อนไหว
”ข้าต้องตายไปพร้อมกับฉือ กูเหยียน จริงๆหรือ? ไม่ ข้ายังตายไม่ได้ ข้าอุตส่าห์มีชีวิตมาจนถึงตอนนี้ ข้าจะตายได้ยังไง?” แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่อยากตาย เพราะเขากลัวความตายมาก และนั้นทำให้เขาต้องคิดอย่างรอบคอบที่สุด “ใช่แล้ว เต๋าหยินหยาง วงจร….ในตอนนี้ ข้าอยู่ในวงจรเดียวกันกับ ฉือ กูเหยียน อีกครั้ง!”
เขาไม่สนใจว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นจะได้ผลไหมแต่เขารู้ว่าเขาควรจะลองทำอะไรสักอยาง
เขาเริ่มดึงพลังออกมาจากกลืนกินโลกก่อนที่จะใช้เต๋าหยินหยางเพื่อสร้างวงจรขึ้นมา
แน่นอนว่าครั้งนี้วงจรของเขาไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเพลิงพันปีเหมือนเดิมแต่ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างของเขากับ ฉือ กูเหยียน
”ตูม!”เมื่อวงจรเริ่มขับเคลื่อน ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าร่างกายกำลังถูกกลืนกินด้วยกระแสไฟฟ้า
งั้น…
วงจรหยินหยางจะทำให้พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นพลังของเขาหรือไม่?
ฟางเจิ้งจือ หัวเราะเยาะในใจ สวรรค์คิดว่าจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ?
ฟางเจิ้งจือ คิดก่อนที่เขาจะชูนิ้วกลางขึ้นไปบนฟ้า
เดี๋ยวก่อน!
ทำไมเขาถึงสามารถยกมือขึ้นได้?
ฟางเจิ้งจือ สงสัย ก่อนที่จะมองไปยังมือและพบว่าผิวหนังที่ไหม้เกรียมนั้นได้ลอกออกแล้ว　　สิ่งที่เหลืออยู่คือผิวใหม่ที่สมบูรณ์เปล่งประกายอยู่ด้านใต้
และที่สำคัญที่สุดบนผิวใหม่นี้เขาสามารถมองเห็นสัญลักษณ์สีทองจางๆอยู่บนนั้น
……………………………………..