Gate of God – ตอนที่ 810 เฝ้ารอ

   อย่างไรก็ตาม เขาไว้ชีวิตเรา  ผู้อาวุโสคนหนึ่งหันหันมองศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บ

   คงใช่… ผู้อาวุโสอีกคนกล่าว เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็กลืนพวกมันกลับเข้าไป

  พวกเขารู้ดีว่าแต่ละคนอยากพูดอะไร

  อย่างไรก็ตามนั่นไม่สำคัญอีกต่อไป พวกเขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

   บางทีเขาอาจจะไม่ชอบการฆ่าฟันบางทีเขาอาจจะเป็นผู้ถูกเลือกที่แท้จริง! ทันใดนั้นเอง เสียงดังออกมาจากประตูของเก้าขุนเขา

   ใครอยู่ตรงนั้น?! ผู้อาวุโสทั้งสี่ต่างตกตะลึงพวกเขามองไปยังทิศทางเดียวกัน

  พวกเขาอยู่ในสภาพที่ย่ำแยพวกเขายังไม่พร้อมที่จะรับแขก ใครก็ตามที่พูดเช่นนั้นออกมา ไม่มีทางเป็นแขกแน่นอน!

   ถ้าไม่มีหม้อหลอมทั้งเก้าเก้าขุนเขาจะมีความหมายอะไร? เสียงแผ่วเบาดังขึ้นอีกครั้งในเวลาเดียวกัน เงานับสิบก็ค่อยๆเดินออกมาจากหมอกขาว

   เข้าประจำที่เตรียมพร้อมตั้งรับ! เมื่อผู้อาวุโสทั้งสี่เห็นเงานับสิบ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป และออกคำสั่งอย่างไม่ลังเล

   ฟุบ! 

   ฟุบ!ฟู่บ! 

  ดาบพุ่งเข้าหาร่างเงาเหล่าศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บต่างลุกขึ้นยืน แม้ร่างกายจะสั่นเทาเพราะความเจ็บปวด

   ตอนนี้เก้าขุนเขายังสามารถสู้ได้อีกหรือ? เงาที่อยู่หน้าสุดหยุดเดิน ราวกับไม่รีบร้อน และรออย่างเงียบๆ

   สวะ!บอกชื่อเจ้ามา ถ้าไม่ล่ะก็ เก้าขุนเขาจะไม่ปราณี! ผู้อาวุโสทั้งสี่เดินไปอยู่ด้านหน้าเหล่าศิษย์ด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน พวกเขาพยายามเช็ดเลือดออกจากมุมปาก  ร่างของพวกเขาทั้งสี่สั่นเทาสีหน้าของผู้อาวุโสที่เสียแขนไปข้างหนึ่งกลายเป็นสีเขียว แต่พวกเขายังคงยืนหยัด

   หยุนชิงวู  เงาที่อยู่ด้านหน้าค่อยๆถอดหมวกออก ผมที่ยาวสลวยของนางหล่นลงมาประบ่า

   หยุนชิงวู? 

   ปีศาจ! 

   นายน้อยแห่งดินแดนปีศาจ! 

  ผู้อาวุโสทั้งสี่สั่นเทาหลังจากมองหน้ากันใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว เพราะพวกเขารู้ดีว่าพวกปีศาจไม่ใช่มิตรสหายอย่างแน่นอน

  อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงยืนหยัดต่อหน้า หยุน ชิงวู จากนั้นพวกเขาก็มองเงานับสิบที่ด้านหลังของนาง

   ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับพวกปีศาจข้าคิดว่าเจ้า ในฐานะนายน้อยของเผ่าปีศาจ คงจะรู้ดีใช่ไหม? หนึ่งในผู้อาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา   ใช่ข้ารู้  หยุน ชิงวู พยักหน้า

   งั้นทำไม? เมื่อผู้อาวุโสได้ยิน เขาจึงถามเพิ่มด้วยความโกรธ

   ตามข้อตกลงปีศาจที่เข้ามาก่อสงครามในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จะต้องถูกฆ่าอย่างไม่ยกเว้น ตอนนี้ ข้าอยู่ที่นี่ พวกท่านคิดว่าข้าจะสามารถออกไปได้ไหม? หยุน ชิงวู ไม่โกรธที่ผู้อาวุโสตะโกนแม้แต่น้อย นางถามคำถามกลับ

   หยุนชิงวู พวกเรารู้ว่าเจ้าคือนายน้อยของปีศาจ ดังนั้น พวกเราตัดสินใจจะเมตตาเจ้า เจ้าอยากมาตายที่นี่จริงๆหรือ? สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งสี่มืดมนลงในทนัที

   ข้าพูดอะไรผิดงั้นหรือ? หยุนชิงวู ถาม

   เจ้ากล้าดียังไง!เผ่าปีศาจมีกำลังน้อยกว่าแสนคน รวมถึงพ่อของเจ้า จักรพรรดิหยุน เจ้ามีทหารปีศาจที่เทียบเท่ามนุษย์ในระดับเซียนไม่เกินแปดคนเท่านั้น พวกเจ้าไม่สามารถ…     ใช่แล้วถ้าหากสำนักทั้งห้าร่วมมือกัน พวกปีศาจจะมีชีวิตรอดถึงทุกวันนี้ได้ยังไง? ข้าเชื่อว่าปีศาจคงจะสูญพันธ์ไปตั้งแต่การต่อสู้ครั้งใหญ่เมื่อร้อยปีก่อนแล้ว ถูกไหม? หยุนชิงวู พูดขัดขึ้นมา จากนั้นนางก็แหงนหน้ามองดวงอาทิตย์และพูดขึ้น  อย่างไรก็ตาม มันเป็นความอัปยศของสำนักทั้งห้าไม่มีวันเปลี่ยน แม้แต่ เมิ่งเทียน ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงกลลวงของพวกท่านได้! 

   เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ผู้อาวุโสสี่พูดด้วยความโกรธ

   ใช่แล้วในตอนนั้น พวกท่านยังไม่ได้เข้าร่วมสำนักทั้งห้า จากนั้น ท่านจำการต่อสู้ที่ทะเลสาบสิบลี้นอกเมืองหลวงของอาณาจักรเซี่ยได้ไหม? หยุนชิงวู พูดหลังจากที่นึกบางอย่างได้

   ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องการต่อสู้ที่ทะเลสาบสิบลี้เจ้าควรจะรู้ผลของการกระทำตัวเองด้วย! เจ้าต้องการก่อสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจรึ?     ข้าไม่ต้องการก่อสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจ หยุนชิงวูพูดพร้อมส่ายหัว จากนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกายและพูดต่อ  ข้าต้องการก่อสงครามระหว่าง มนุษย์ ปีศาจ และอสูร! 

   อะไรนะ?! 

   การต่อสู้ระหว่างสามเผ่าพันธุ์เจ้าอยากจะ … 

   เป็นไปไม่ได้!เผ่าอสูรไม่มีร่วมมือกับเจ้า ! 

  เมื่อผู้อาวุโสทั้งสี่ได้ยินต่างก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในทันที ไม่มีใครอยากจะเชื่อ

   โฮก! ทันใดนั้นเสียงคำรามของสัตว์อสูรก็ดังขึ้น

  ในเวลาเดียวกันเงาทั้งห้าด้านหลังหยุนชิงวูก็พุ่งเข้าหาผู้อาวุโสทั้งสี่ สายลมพัดหมวกของพวกเขาออก เผยให้เห็นดวงตาพวกเขา ดวงตาที่มีสีต่างกัน อย่างไรก็ตาม จิตสังหารพวยพุ่งออกมาจากพวกเขา

   อสูร! 

   ราชาอสูร!ราชาอสูรทั้งห้าตน! 

   เจ้ากล้าดียังไงหยุนชิงวู! 

  ดวงตาของเหล่าผู้อาวุโสเหลือกถลนมันเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนั้น หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

  พวกเขารู้สึกสิ้นหวังอย่างที่สุด!

  ในฐานะที่เป็นหนึ่งในห้าสำนักของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้อาวุโสของเก้าขุนเขา ไม่ได้กลัวราชาอสูร ถ้าเป็นสถานที่หรือเวลาอื่น ราชาอสูรห้าตนไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้

  อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้มันต่างกัน…

  ตอนนี้การปรากฎตัวของราชาอสูรทั้งห้าไม่ใช่เรื่องที่จะรับมือได้ง่ายพวกเขาแต่ละคนสะบักสะบอม บาดแผลเต็มตัว

   รีบส่งข่าวถึงสำนักทั้งสี่เผ่าอสูร …     ฉึก! เสียงของเนื้อที่ถูกเฉือนดังชัดเจน

  เลือดสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในพริบตาทั้งเก้าขุนเขาก็เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลนอง ราวกับที่ทะเลสาบสิบลี้ เลือดสีแดงส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์

  ในขณะที่การสังหารหมู่เกิดขึ้นหยุนชิงวูยังคงยืนอยู่ที่เดิม นางมองไปบนท้องฟ้า และพึมพำเบาๆอีกครั้ง

   บางทีเจ้าอาจไม่ชอบการฆ่าล้าง และเจ้าคือผู้ถูกเลือกที่แท้จริง 

   ข้าคิดว่า…เจ้าคงเกลียดข้าหลังจากได้ยินเรื่องนี้ เจ้าอาจต้องการฆ่าข้าก็ได้ 

   ใช่ข้าหลอกใช้เจ้า แต่ข้าก็ให้โอกาสเจ้าแก้แค้นเช่นกัน 

   สงครามระหว่างเจ้ากับข้าไม่สามารถเลี่ยงได้…  

   ไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นมนุษย์และข้าเป็นปีศาจ…แต่เพราะเจ้าไม่เคยรู้ว่าทำไมโลกใบนี้ถึงเป็นแบบนี้!    …

  10วันต่อมา

  ท้องฟ้ามืดครึ้ม

  สายฝนสาดลงท่ามกลางหญ้าและดอกไม้

  ดอกไม้เบ่งบานทั่วถึงพื้นที่รอบหอคอยหลิงหยุน

  หอคอยหลิงหยุนเป็นหอคอยจริงๆ

  อย่างไรก็ตามหอคอยแบ่งเป็นเก้าชั้น ชั้นล่างสุดปูด้วยอิฐสีขาว

  ตั้งแต่ชั้นล่างสุดชั้นสองหรือชั้นสาม ก็เหมือนกันหมด ชั้นที่สี่ พื้นกระเบื้องสีเขียวกลายเป็นสีขาวหิมะ เหมือนกับหยกที่ส่องประกายระยิบระยับ

  เมื่อเข้าสู่ชั้นที่เจ็ด…

  กระเบื้องสีขาวเปลี่ยนเป็นสีทองราวกับเป็นแสงของดวงอาทิตย์ ฝนที่ตกลงมากระทบกระเบื้อง ค่อยๆไหลออกจากกระเบื้อง  หอคอยหลิงหยุนไม่เหมือนสำนักอื่นๆที่นี่ไม่ได้มีศิษย์มากมาย ในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จะมีศิษย์เพียงสองร้อยคนอยู่ตลอดเวลา

  ศิษย์ทุกคนอาศัยอยู่ในหอคอยหลิงหยุน

  นอกจากพวกเขาหอคอยหลิงหยุนมีสมาชิกคนอื่นอีก พวกเขาเป็นคนรับใช้หรือไม่ก็เป็นแขก

  ความจริงแล้วหอคอยหลิงหยุนไม่สามารถเทียบกับอีกสี่สำนักได้

  อย่างไรก็ตาม…

  หอคอยหลิงหยุนเป็นข้อยกเว้นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  มันอยู่ในสถานที่ห่างไกลจากสำนักอื่นศาลาเต๋าสวรรค์เป็นพันธมิตรกับหุบเขาฟู่ซี่ ศาลาหยินหยางเป็นพันธมิตรกับเก้าขุนเขา มีเพียงหอคอยหลิงหยุนที่อยู่สันโดษ

  แน่นอนว่าเขตแดนของหอคอยหลิงหยุนนั้นกว้างใหญ่มันใหญ่กว่าเขตแดนของสำนักทั้งสี่เสียอีก สภาพอากาศน่ารื่นรมย์ กลิ่นหอมดอกไม้ลอยอบอวล

  เป็นสถานที่ในฝัน

  อย่างไรก็ตามตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสำนักทั้งห้า ไม่มีใครพยายามบุกเข้าเขตแดนของหอคอยหลิงหยุนเลยสักครั้ง

  เพราะที่นี่คือหอคอยหลิงหยุน!

  สายตานับไม่ถ้วนจ้องมองไปที่หอคอยหลิงหยุนบางคนเป็นความหวัง บางคนเป็นความมั่นใจ บางคนเป็นความเคารพ

  แน่นอนว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่ต่างออกไป

  มันไม่ใช่ความหลงใหลหรือความคาดหวัง

  ดวงตาที่สดใสราวกับน้ำบริสุทธิ์ดวงตาที่เต็มไปด้วยความความเย่อหยิ่ง

  อย่างไรก็ตามวันนี้… สายตาของนางแสดงถึงการตัดสินใจ

  แม้สายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าดวงตาคู่นี้ยังคงจ้องมอง ราวกับไม่สนใจสายฝนแม้แต่น้อย เหนือหอคอยมีเมฆที่มืดครึ้มลอยอยู่ แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า

  ครึ่งปี!

  เป็นเวลาครึ่งปีแล้วดวงตาคู่นี้ยังคงจ้องมองไปยังทิศทางเดิม

  วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม กลุ่มเมฆลอยหนา แสงของดวงอาทิตย์ไม่สามารถเล็ดลอดมาได้แม้แต่น้อย

  ไม่ว่านางจะพยายามเบิกตากว้างแค่ไหนก็ไม่สามารถเห็นแสงอาทิตย์ได้

  นางกัดที่ริมฝีปากหมอกขาวเริ่มบดบังดวงตาคู่นั้น ฝ้าขาวที่ขึ้นบนดวงตาทั้งสองข้าง อาจเป็นเพราะจ้องมองอยู่นานเกินไป

  อย่างไรก็ตามฝ้าขาวก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น

  หลังจากจมอยู่ในความคิดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

   เขาตายแล้วชีวิตแลกชีวิต เจ้าจะรอคนที่ตายแล้วอยู่คุกน้ำแข็งแบบนี้งั้นหรือ?     ข้าจะรอ 

   แม้ว่าจะผ่านมาครึ่งปีแล้ว? 

   ข้าจะรอต่อไป! 

   แม้เขาจะไม่มา?เจ้าก็จะรอต่อไปหรือ? 

   ใช่! 

   … 

  ดวงตาที่สดใสค่อยๆปิดลงนั่นเพราะฝนตกกระทบลงบนดวงตาของนาง

  จากนั้นดวงตาคู่นั้นก็เปิดขึ้นอีกครั้งและมองไปที่หอคอยสูงที่เริ่มถูกเมฆบดบัง

  จนกระทั่ง…

  ร่างๆหนึ่งปรากฎขึ้นจากที่ไกลๆร่างที่พร่ามัวค่อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับร่มในมือ

  ร่มธรรมดา!

  มันทำจากกระดาษน้ำมันและมีสีเหลืองเล็กน้อย

  อย่างไรก็ตามร่างนั้นสวมชุดคลุมยาวสีน้ำเงินสายฝนตกลงเบาๆ ในขณะที่เดิน ชายเสื้อพริ้วไหวตามสายลม

  ร่างที่เดินอย่างมั่นคงแม้ว่าสายลมจะพัดชายเสื้อ แต่ร่างนั้นไม่ได้เดินเหยียบดอกไม้แม้แต่ดอกเดียว

  จนในที่สุดร่มก็ปรากฎขึ้นเหนือดวงตาของทั้งสอง บดบังหอคอยสูง ดวงตาที่มองไปยังแสงอาทิตย์ กลุ่มเมฆและสายฝน

  อย่างไรก็ตามดวงตาคู่นั้นปล่อยให้ร่มได้บดบังทุกสิ่งที่อยู่เหนือหัว

  สายฝนตกกระทบร่มเบาๆ

  แปะแปะ

  ร่างสองร่างอยู่ใกล้กันมากพวกเขายืนอยู่ใต้ร่ม ชุดสีน้ำเงินและชุดยาวสีแดงโบกสะบัดไปตามสายลม

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset