ตูม!พื้นดินสั่นสะเทือน
สายฟ้าสีม่วงจำนวนมากฟาดลงมาบนพื้นลานประลอง
อะไรกัน?
เกิดอะไรขึ้น?!
หนีเร็วเข้า!
ศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าต้องการที่จะวิ่งหนีเมื่อเห็นสายฟ้าจำนวนมากฟาดลงมาบนพื้นแต่น่าเศร้าที่บางคนโดนสายฟ้าพวกนั้นโจมตีใส่และล้มลงในทันที
ผู้นำนิกายซวนจีถึงกับหน้าถอดสีไปครู่หนึ่ง
เพราะกว่าครึ่งหนึ่งของสายฟ้านั้นโจมตีมาโดนศิษย์ของนิกายซวนจี
กล้าดียังไงทำร้ายศิษย์ของข้า! ทันทีที่เขาพูดจบสายฟ้าก็พุ่งใส่เขาด้วยในทันที แต่มันก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้
ซูเหลียงยิ้มด้วยความดูถูกทันทีแต่รอยยิ้มของเขาก็แทบจะแข็งค้างในทันที เพราะสายฟ้าที่ถูกเขาฉีกออกกลับเข้ามารวมกันอีกครั้ง
ตูม!
ไม่เพียงแค่สายฟ้าแต่มันยังประกอบไปด้วยลมพายุอันรุนแรงที่พร้อมจะฉีกกระชากทุกสิ่ง และในพายุเหล่านั้นยังมีแสงดาบสีเงินซ่อนอยู่
อะไรกัน?! ซูเหลียงอุทานออกมาก่อนที่เขาจะถูกเป่ากระเด็นกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
ทำไมถึงคิดจะเล่นกับสายฟ้า?ท่านว่างจนไม่มีอะไรจะทำแล้วงั้นรึ? เสียงอันหยิ่งยโสดังขึ้น
คนที่เดินออกมาจากพายุนั้นอุ้มปิงหยางและฉือกูเหยียนอยู่ด้วยมือทั้งสองข้างชายเสื้อสีฟ้าของเขาโบกสะบัดไปตามสายลม ฟางเจิ้งจือ?!
นั่น…ฟางเจิ้งจือ!!!
ศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ต่างรู้จักเขาดีแต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกราวกับตัวเองกำลังเห็นผี
เป็นไปได้ยังไง?
เขาไม่ได้ตายอยู่ที่เก้าขุนเขานานแล้วงั้นรึ?
ทำไมเขาถึงโจมตีพวกเรา?
ศิษย์ที่อยู่รอบๆต่างเต็มไปด้วยความสับสน
ฟางเจิ้งจือยังไม่ตายงั้นรึ?! เห็นได้ชัดว่ามู่ฉิงเฟิงเองก็เต็มไปด้วยความสงสัย จากข่าวที่เขาได้รับ ฟางเจิ้งจือนั้นได้ถูกหลอมเป็นยาเรียบร้อยแล้ว มีคนเห็นด้วยตาตัวเองด้วยซ้ำว่าฟางเจิ้งจือถูกจับเข้าไปในหม้อจริงๆ
เขารอดมาได้ยังไง?!
เขารอดมาจริงๆ! ร่างของเต๋าฮุนสั่นสะท้าน ใบหน้าภายใต้หน้ากากของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ถ้ามีคนต้องการให้ฟางเจิ้งจือตายมากที่สุดหนึ่งในนั้นคงเป็นเต๋าฮุน เขเายังจำสิ่งที่ฟางเจิ้งจือทำไว้กับเขาได้ดี
ชื่อเสียงที่เขาสร้างมาทั้งชีวิตต้องพังลงเพราะฟางเจิ้งจือ
เขาไม่มีทางยอมรับเรื่องตรงหน้าได้
สวะ!เก้าขุนเขามัวแต่ทำอะไรกันอยู่! เต๋าฮุนโบกมือและกลับไปนั่งที่ อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงเพ่งเล็งอยู่ที่ไป่เฟย ผู้นำของเก้าขุนเขาคนใหม่
อย่างไรก็ตามคาวมจริงคือไป่เฟยก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันเขาไม่แสดงความแปลกใจออกมาแม้แต่น้อย หรือเขาจะรู้ว่าฟางเจิ้งจือยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน
นั่นฟางเจิ้งจืองั้นรึ? โม่ฉานฉือหันไปถามกู่หยวน
หืม…ใช่แล้วแต่เขาน่าจะตายไปแล้ว! กู่หยวนตอบกลับ เขาเองก็ไม่สามารถรักษาความสงบไว้ได้เช่นกัน เขาออกมาได้ยังไง?! ไม่เหมือนคนอื่น หลินมู่ไป่เองก็ตกตะลึงไม่ใช่เพราะฟางเจิ้งือยังมีชีวิตอยู่
แต่เขาสงสัยว่าฟางเจิ้งจือออกมาได้ยังไง?
เป็นไปไม่ได้?! เฉียนยู่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะนางเป็นคนเดียวที่รู้จักดินแดนหลิงหยุนดีที่สุด
ไม่มีใครสามารถออกมาจากที่นั่นได้…
เป็นเวลานับพันปีแล้ว…
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว
’เขาใช้เวลาสิบวันในการออกมาจากที่นั่น?!’
’ความสามารถของเขาน่ากลัวมาก?!’
ฟางเจิ้งจือ…ฟางเจิ้งจือ…เจ้ายังมีชีวิตอยู่งั้นหรือ? แม้แต่หนานกงมู่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยความเหนื่อล้าเองก็ลืมตาเพื่อมองดูฟางเจิ้งจือ
หืม?มูมู่น้อย ใครทำร้ายเจ้า? บอกข้ามาข้าจะล้างแค้นให้เอง! ฟางเจิ้งจือได้ยินเสียงหนานกงมู่และเห็นสภาพร่างกายของเขาในทันที
ข้า…ข้าเอง… ฉือกูเหยียนแม้นางจะอ่อนแรงแต่ก็พยายามจะตอบฟางเจิ้งจือ
หา?งั้นในเมื่อพวกเจ้าก็บาดเจ็บทั้งคู่ พวกเราไม่ควรไปสนใจเรื่องที่ผ่านไปแล้ว หนานกงมู่เจ้าก็อย่าคิดมาก
… หนานกงมู่ราวกับอยากจะพูดบางอย่างแต่เขาไมรู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
ทุกคนที่ยืนอยู่รอบๆเองก็ต่างพูดไม่ออกเช่นกัน
หืม?หนานกงเฮาเจ้ายังไม่ตายงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือถามขึ้นมาราวกับเขาได้เจอเรื่องแปลกใจที่สุดในชีวิต
ข้าเองก็ควรถามเจ้ากลับแบบเดียวกัน…
โอ้เดี๋ยวนะ! ก่อนที่หนานกงเฮาจะพูดจบ ฟางเจิ้งจือได้พูดขัดขึ้นมาพร้อมหันไปมองทางศาลาหยินหยาง ดูเหมือนว่าผู้นำศาลาหยินหยางจะเป็นคนรักษาคำพูดสินะ ถ้าเป็นแบบนี้ข้าจะไว้ชีวิตศิษย์ของศาลาหยินหยางละกัน ข้าจะเอาแค่ชีวิตนางคนเดียว!
…
เสียงของฟางเจิ้งจือไม่ได้ดังนักแต่ทุกคนได้ยินชัดเจน และตอนนี้นิ้วของฟางเจิ้งจือขี้ไปที่เต๋าซิง
เขาต้องการฆ่าเต๋าซิง?!
เข้ากล้าพูดอย่างนี้ออกมาได้ยังไง?
ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างแท้จริง
เจ้าไม่สามารถฆ่านางได้ ทันใดนั้นเสียงอันเย็นชาได้ดังขึ้น จากนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินออกมากันเต๋าซิงเอาไว้
เหยียนซิว? ฟางเจิ้งจือแปลกใจเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาเห็นหยียนซิว เขาจึงบกอว่าเต๋าฮุนรักษาคำพูด
อย่างไรก็ตาม…
ตอนนี้เหยียนซิวดูแปลกๆไป ฟางเจิ้งจือชีวิตของข้าเจ้าจะมาเอาตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้เจ้าไม่ควรจะสนใจหนานกงเฮาที่ทำร้ายผู้หญิงของเจ้ามากกว่างั้นหรือ? เต๋าซิงยิ้มก่อนจะเดินออกมาจากด้านหลังของเหยียนซิวด้วยท่าทีนิ่งสงบ
หนานกงเฮา? ฟางเจิ้งจือหันไปมองหนานกงเฮา ก่อนจะมองฉือกูเหยียนและปิงหยางเพื่อเป็นการถาม
เขาไม่ได้เห็นการโจมตีทั้งหมดเขาแค่เห็นเสียงสีเลือดส่องออกมาจากลานประลอง
เขารู้ว่าฉือกูเหยียนแข็งแกร่งแค่ไหนรวมถึงปิงหยาง และหยานฉิงที่นอนล้มอยู่บนพื้น
ข้าเข้าใจแล้ว ฟางเจิ้งจือพยักหน้า เขาเข้าใจสิ่งที่เต๋าซิงพูด นางต้องการยืนยันความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา รวมถึงยืมมือหนานกงเฮาเพื่อกำจัดเขาทิ้ง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก
สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือเกิดอะไรขึ้นกับเหยียนซิวกันแน่ ฟางเจิ้งจือเจ้าไม่ได้เป็นศิษย์ของทั้งห้าสำนัก เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน หนานกงเทียนกล่าวขึ้นมา
ใช่แล้วฟางเจิ้งจือไม่ได้เป็นศิษย์สำนักไหน
ใครบอกว่าฟางเจิ้งจือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทั้งห้าสำนักตอนนี้ฟางเจิ้งจือเป็นศิษย์หอคอยหลิงหยุนแล้ว ผู้หญิงในชุดสีแดงเดินออกมาจากฝั่งของหอคอยหลิงหยุนก่อนประกาศออกมาเสียงดัง
หอคอยหลิงหยุน?!
ฟางเจิ้งจือเข้าร่วมหอคอยหลิงหยุนแล้ว?เป็นไปได้ยังไง? ปกติหอคอยหลิงหยุนไม่รับศิษย์ผู้ชายไม่ใช่รึ?
ใช่มันเป็นไปไม่ได้!
ทุกคนที่อยู่รอบๆไม่มีทางเชื่อเพราะการที่ผู้ชายเข้ารว่มกับหอคอยหลิงหยุนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เขาเป็นศิษย์ของหอคอยหลิงหยุนจริงๆ เฉียนยู่กล่าวออกมาอย่างเงียบสงบ
จริงงั้นรึ?
หรือจริงๆแล้วเขาจะเป็นผู้หญิง?
มันเป็นไปได้ที่ไหนกัน?
ทุกคนต่างตกตะลึง
ผู้หญิงกับผีนะสิ! ฟางเจิ้งจือหยุดคำพูดไร้สาระของเหล่าศิษย์ ก่อนจะยิงสายฟ้าใส่ศิษย์คนนั้นทันที
เพราะตอนนี้เขาเห็นท่าทีหงุดหงิดและไม่พอใจของวู่จวี้เอ๋ออยู่
ตั้งแต่เขาโผล่มา…
นางยังไม่พูดกับเขาแม้แต่คำเดียว
ซึ่งอาการแบบนี้ของนางนั้นหาได้ยากนัก
ไม่ต้องกังวลข้าแค่เข้าร่วมหอคอยหลิงหยุนแค่ชั่วคราวเท่านั้น ข้าจะทรยศพวกนางและกลับไปหาเจ้าทันทีที่ทุกอย่างจบลง! ฟางเจิ้งจือขยิบตาให้วู่จวี้เอ๋ออย่างจริงใจ
ทรยศ? เขาพูดออกมาราวกับเป็นเรื่องธรรมดาๆ?!
ไม่มีใครไร้ยางอายมากไปกว่าเขาอีกแล้ว…อั้ก!
สายฟ้าพุ่งเข้าหาศิษย์คนนั้นทันทีก่อนที่เขาจะทันพูดจบ
ด้านวู่จวี้เอ๋อหลังจากนางได้ยินนางก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะพูดออกมา ถ้าเจ้าจะจัดการหนานกงเฮาได้ข้าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น!
จัดการหนานกงเฮา? ฟางเจิ้งจือหันไปมองหนานกงเฮาที่สวมชุดเกราะสีดำลายทอง ก่อนจะหันไปมองปิงหยางที่อาการสาหัส เจ้าช่วยดูแลนางแทนข้าก่อน!
อืม ฉือกูเหยียนพยักหน้าทันที
รวมถึงตัวเจ้าด้วย! ขณะที่ฟางเจิ้งจือพูด ร่างของเขาได้หายไปทันที ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆสีม่วง สายฝนสาดเทลงมา
ตูม!ขณะที่ทุกคนกำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นที่ข้างหนานกงเฮา
เยี่มไปเลยใช่ไหมล่ะ? ทันทีที่พวกเขาได้ยิน เท้าข้างหนึ่งก็ได้ลอยไปที่หน้าของหนานกงเฮาแล้ว ไม่มีใครเห็นฉากทั้งหมดได้ทัน ที่พวกเขาเห็นคือหนานกงเฮากระเด็นไปไกลแล้ว