ฉือกูเหยียนไม่สามารถมองเบื้องหลังของวิชาที่ฟางเจิ้งจือใช้ออกมาได้
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไปเพราะหนานกงเฮาถูกฟางเจิ้งจือโจมตีจนกระเด็นออกไปแล้ว นอกจางนั้นร่างของหนานกงเฮายังถูกล้อมรอบไว้ด้วยแสงดาบสีทองขณะที่เด็นออกไป
มันเป็นฉากที่น่าตกใจมาก!
จากตอนแรกที่ทุกคนมองฟางเจิ้งจือเป็นเพียงชายที่ไร้ยางอายแต่ตอนนี้ทุกคนกลับมองฟางเจิ้งจือเป็นชายที่น่ากลัวมาก
พลังของฟางเจิ้งจือเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้
โจมตีหนานกงเฮากระเด็นออกไปได้ในครั้งเดียว?
ตูม!ร่างของหนานกงเฮาปะทะเข้ากับพื้นอย่างรุนแรง ชุดเกราะสีดำของเขาเต็มไปด้วยเลือดจากการถูกวิชาล้านคมดาบทิ่มแทง
เขาบาดเจ็บ?!
หนานกงเฮาบาดเจ็บ?
เขาแข็งแกร่งมาก…เป็นไปได้ยังไง?
ศิษย์ที่อยู่รอบๆมองไปที่หนานกงเฮาก่อนจะมองไปที่ฟางเจิ้งจือ ด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด
หนานกงเฮาสามารถจัดการหยานฉิงได้อย่างง่ายดายหรือต่อให้หยานฉิงร่วมมือกับปิงหยางและฉือกูเหยียน ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนานกงเฮาอยู่ดี….
ตอนนั้นพวกเขาคิดว่าคงไม่มีใครในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จะสามารถสู้กับหนานกงเฮาได้อีกต่อไป
เขาก็เป็นเซียนงั้นหรือ?!
ข้าคิดว่าเขาเหนือกว่าเซียนทั่วไปด้วยซ้ำ!
เป็นไปไม่ได้เขาจะอยู่ในระดับเซียนขั้นสูงสุดดได้ยังไง? มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้…เจ้าเด็กนี่อายุแค่18ปีเท่านั้น!
ไม่มีใครเชื่อว่าเด็กหนุ่มที่อายุ18ปีจะอยู่ในจุดสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
ไม่ถึงสามเดือนเจ็าเด็กนั่น…เติบโตจนไม่ใช่คนที่ข้าจะสามารถมองข้ามได้อีก ท่าทีของมู่ฉิงเฟิงเต็มไปด้วยความซับซ้อนขณะมองหนานกงเฮาที่ล้มอยู่บนพื้น
ย้อนกลับไปที่ศาลาเต๋าสวรรค์ไม่กี่เดือนก่อนเขารู้ว่าศักยภาพของฟางเจิ้งจือนั้นแทบจะพอๆกับฉือกูเหยียน ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นเขามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ได้นาน…
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือนั้นร้ายกาจและคาดเดาได้ยากเกินไป
เขาไม่ต้องการถูกผูกมัดด้วยอะไรทั้งสิ้น
เช่นนั้นเขาจึงไม่สามารถยื่นมือออกไปคัดค้านการตัดสินใจของเหล่าผู้อาวุโสได้
ถือว่าเป็นเรื่องดีและเรื่องร้ายในเวลาเดียวกัน
เรื่องดีคือศาลาเต๋าสวรรค์และฟางเจิ้งจือไม่ได้จบลงที่การเป็นศัตรูคู่แค้นกัน
แต่ก็ถือเป็นโชคร้ายที่พระเจ้าได้ส่งโอกาสดีๆมาให้ต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้
เห้อ… มู่ฉิงเฟิงถอนหายใจออกมา พร้อมกับมองไปที่เหล่าผู้อาวุโสด้วยความผิดหวัง
ท่านผู้นำศาลา…
พวกเราพลาดเองพวกเราไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าเด็กนั่น…
เหล่าผู้อาวุโสต่างรู้ความคิดของมู่ฉิงเฟิงจริงๆแล้วพวกเขาเองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน
….
ในเมื่อมันจะเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ มู่ฉิงเฟิงโบกมือก่อนจะหันไปมองฉือกเหยียน ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานฉือกูเหยียนจะสามารถทะลวงพลังเข้าสู่ระดับเซียนได้ จากนั้นนางจะนำเกียรติยศมาสู่ศาลาเต๋าสวรรค์! ใช่แล้วถ้านางอยู่ในระดับเซียนนางไม่มีทางอ่อนแอกว่าฟางเจิ้งจือแน่นอน!
ถูกแล้ว!
ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งพยักหน้าในทันทีแม้มันจะน่าเศร้าที่ฟางเจิ้งจือไม่ได้เป็นศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ แต่พวกเขาก็ยังคงฝากความหวังไว้กับฉือกูเหยียนได้
มู่ฉิงเฟิงไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะเรื่องสำคัญในตอนนี้คือการจัดการหนานกงเฮา รวมถึงเค้นความจริงว่าเขาออกมาจากประตูสวรรค์ได้ยังไง…
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว…
มีเพียงฟางเจิ้งจือที่มีความสามารถพอจะทำเช่นนั้นได้ในตอนนี้
ตูม!เสียงดังขึ้นอีกครั้งเพราะฟางเจิ้งจือมาหยุดอยู่หน้าหนานกงเฮาแล้ว ก่อนที่เขาจะเตะไปที่ร่างที่ล้มลงอย่างไม่ลังเล
เฮ่าเอ๋อร์! หนานกงเทียนตะโกนออกมาด้วยความวิตก เขาไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกระทันหันได้
แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือได้ยินเสียงนั้นแต่เขาไม่ได้สนใจ ตอนนี้เขาต้องการจะจัดการหนานกงเฮาให้ไว้ที่สุดเท่านั้น
เขาต่อยไปที่หนานกงเฮาอีกรั้ง
อย่างไรก็ตามเมื่ออีกหมัดถูกส่งออกไปมันกลับถูกหยุดอยู่หน้าหนานกงเฮาประมาณหนึ่งนิ้ว
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
บรรยากาศอันน่าขนลุกปรากฎขึ้นอีกครั้ง
หืม? ฟางเจิ้งจือแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่าง ปิงหยาง, ฉือกูเหยียนและหยานฉิงกับ หนานกงเฮา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแปลกใจกับพลังตรงหน้า
แต่เขาเพียงผงะเล็กน้อยเล็กน้อยเท่านัน
โดยไม่ลังเลเขาเตะหนานกงเฮาที่ทั้งร่างตอนนี้ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีแดง ร่างของหนานกงเฮากระเด็นออกไปอีกครั้ง
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของหนานกงเฮาหยดลงบนพื้นรวมเข้ากับวิชาสังเวยเลือด…
นายน้อยฟางเพียงไม่กี่เดือนถึงกับพัฒนาได้ขนาดนี้ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! หนานกงเฮาค่อยๆลุกขึ้น แสงสีแดงค่อยๆเปล่งออกมาจากดาบในมือ
เจ้าแปลกใจงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือตอบกลับด้วยคำถาม
แน่นอนว่าข้าแปลกใจเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม…ดูว่าเหมือนจะยังไม่พอ! ขณะที่หนานกงเฮาพูด ชุดเกราะสีทองบนร่างของเขาเริ่มเปล่งแสงสีทองออกมา เลือดที่เปรอะเปื้อนบนชุดเกราะค่อยๆหายไป ราวกับร่างของหนานกงเฮาได้ดูดซึมมันกลับไปจนหมด
มันเป็นฉากที่แปลกมาก
หืม?เป็นไปไม่ได้! แม้ฟางเจิ้งจือจะเคยเจอเรื่องแปลกๆมากมาย แต่เขาก็อดแปลกใจไม่ได้กับเรื่องตรงหน้า แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรเพราะคลื่นพลังสีเลือดได้ปรากฎตรงหน้าเขาแล้ว
มันพุ่งผ่านไหล่ของเขาไปมันดูเหมือนจะไม่ได้พุ่งมาหาเขา
หืม?! ฟางเจิ้งจือรีบหันไปมองฉือกูเหยียนและปิงหยางที่ใบหน้าซีดขาวด้วยความอ่อนแรงทันที
มันพุ่งไปที่พวกนาง!
’เดี๋ยวก่อน!
’มันมุ่งหน้ามาที่ข้าเช่นกัน!’
ขณะที่ฟางเจิ้งจือหันไปมองเขาสัมผัสได้ถึงเงาดาบจางๆที่พุ่งมายังลำคอของเขา
ความคิดมากมายปรากฎขึ้นในใจของฟางเจิ้งจือ
แม้ฉือกูเหยียนจะบาดเจ็บแต่นางก็น่าจะสามารถหยุดพลังของหนานกงเฮาได้แต่ว่า…มันก็อันตรายเกินไปจริงๆ อืม…
เขาต้องยอมรับว่ามันเป็นการโจมตีที่ไร้ความเมตตาจริงๆ!
ฟางเจิ้งจือไม่ลังเลอีกต่อไป
ผสาน:ผลึกน้ำแข็งนรก! ขณะที่ฟางเจิ้งจือตะโกนแสงสีดำเปล่งประกายเริ่มกระจายตัวออกจากจุดที่เขายืนอยู่
มันเป็นเต๋านรก!
มันเป็นหนึ่งในหกเต๋าที่มีความสามารถในการป้องกันอันสูงสุดผสานเข้ากับเต๋าผลึกที่ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเก้าขุนเขาได้ใช้ฟางเจิ้งจือทำการผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน…
บรรยากาศแปลกๆปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าเหนือภูเขาสวรรค์
มันเป็นเมืองที่เกิดจากผลึกน้ำแข็งลุกท่วมไปด้วยไฟสีดำขณะที่หิมะจำนวนมากๆค่อยร่วงลงมาจากเมืองนั้น
มันเป็นฉากที่แปลกประหลาด
อย่างไรก็ตามทันทีที่มันปรากฎดาบที่พุ่งมาหาฟางเจิ้งจือก็ถูกหยุดทันทีราวกับถูกแช่ด้วยน้ำแข็ง
ในเวลาเดียวกันผลึกน้ำแข็งจำนวนมากได้ปรากฎตัวต่อหน้าฉือกูเหยียนและปิงหยางเพื่อหยุดพลังสีแดงเลือด
ตูม!
พื้นดินทรุดตัวลง
ร่างของหนานกงเฮาเองก็ทรุดตัวลงเช่นกันราวกับกำลังถูกลากลงไปบนพื้นด้วยพลังอันลึกลับ
อะไรกัน?!
ฟางเจิ้งจือใช้วิชาอะไรกัน?
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหนึ่งในหกเต๋าแห่งการจุติเต๋านรก อย่างไรก็ตามดูเหมือนจะไม่ได้มีเพียงเต๋านรกอยางเดียว…เต๋าผลึกงั้นหรือ?!
ศิษย์ที่ดูอยู่รอบๆต่างอ้าปากค้าง
พวกเขาไม่เคยเห็นวิชาแบบนี้มาก่อน วิชาที่ทำให้เกิดฉากอันแปลกประหลาดบนท้องฟ้า…มันเป็นวิชาแบบไหนกัน?
หนานกงเฮานั้นต่างออกไปเขาสงบมาก น้ำแข็งที่เกาะดาบและขาของเขาค่อยๆหายไป เขาแทงดาบไปที่ฟางเจิ้งจือทันที อย่างไรก็ตามการโจมตีครั้งนี้ถูกกำหนดให้พลาดเอาไว้แล้ว
เพราะน้ำแข็งที่เพิ่มขึ้นรอบตัวหนานกงเฮาตลอดเวลาแม้ว่าหนานกงเฮาจะสลายพวกมันไปแล้วก็ตามมันเพียงพอที่จะมอบเวลาให้ฟางเจิ้งจือ
เจ้าคิดว่ามันจะง่ายแบบนั้นงั้นรึ?! เสียงดังขึ้นเหนือหัวฟางเจิ้งจือ ลำแสงสีม่วงพุ่งใส่หนานกงเฮา
มันเป็นคุกที่ทำจากผลึก
มันปกคลุมร่างของหนานกงเฮาในทันทีเปลวเพลิงสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากรอยแตกบนพื้น
มันเป็นพลังที่ต่างกันแต่สามารถรวมกันได้อย่างมั่นคงด้านบนปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ ขณะที่ด้านล่างปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ
การผสานไฟและน้ำแข็งสมบูรณ์! ฟางเจิ้งจือยืนอยู่บนกรงผลึก ขณะที่ชายเสื้อของเขาปลิวไปตามสายลม