Gate of God – ตอนที่ 889 ถูกใส่ร้าย

   เกิดอะไรขึ้นมนุษย์เข้าร่วมกับอสูร?  ดวงตาของเต๋าฮุนเต็มไปด้วยความเย็นชา ในขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้า

   เขาเป็นศัตรูต่อมนุษย์ทุกคนอย่างเห็นได้ชัด! ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเต๋าฮุนผยยิ้มและพูดขึ้นเพราะเขาเข้าใจในความหมายที่เต๋าฮุนพูด

   ใช่แล้วข้าจะจบชีวิตของคนทรยศ!  หลังจากเต๋าฮุนพูดจบ เขาก็ก้าวออกมาจากฝั่งศาลาหยินหยางโดยไม่ถามเต๋าซิงแม้แต่น้อย จากนั้นก็ปรากฎตัวที่ลานประลองนพริบตา

  ริมฝีปากของเต๋าซิงขยับราวกับว่านางอยากพูดอะไรบางอย่างอย่างไรก็ตามทันทีที่เห็นเต๋าฮุนไปปรากฎตัวท่ามกลางสนามรบนางก็หยุดความคิดนั้นไป

  ฉากที่เกิดขึ้นดึงดูดความสนใจของเหล่าศิษย์โดยรอบ   หืม?เต๋าฮุนก็เข้าร่วมการต่อสู้? 

   ในเมื่อตัวตนของเหล่าผู้อาวุโสถูกเปิดเผยแล้วไป่เฟยเองก็น่าสงสัยเช่นกัน! 

   ไม่สำคัญว่าไป่เฟยจะเป็นใครผู้นำทั้งสามคนที่จะร่วมต่อสู้พร้อเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมาก 

   ใช่แล้วข้าต้องได้เรียนรู้บางอย่างจากพวกเขา 

  เหล่าศิษย์แทบไม่สนใจการคุกคามของอสูรแม้แต่น้อยสิ่งสำคัญที่สุดคือผู้นำของสำนักทั้งห้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ภูเขาสวรรค์แห่งนี้ด้วย ทำไมพวกเขาต้องกังวลเกี่ยวกับอสูรอีก?

  ในขณะที่เหล่าศิษย์คิดว่าเต๋าฮุนจะโจมตีพวกอสูรจู่ๆเขาก็ชี้ดาบไปทางฟางเจิ้งจือที่ซ่อนตัวอยู่หลังรูปปั้น

   ฟางเจิ้งจือเจ้ากล้าร่วมมือกับอสูรและทำลายความสงบสุขของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง!  เต๋าฮุนปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาในขณะที่พูด

   ร่วมมือกับอสูร? 

   เต๋าฮุนพูดว่าเขาร่วมมือกับพวกอสูรงั้นเหรอ? 

   เกิดอะไรขึ้น? 

  เหล่าศิษย์ต่างตกตะลึงกับคำพูดของเต๋าฮุน

  ความจริงแล้วแม้แต่สำนักอื่นต่างก็สับสนอย่างมากเพราะฟางเจิ้งจือพึ่งจัดการกับตระกูลหนานกง

  ตามสถานการณ์ในตอนนี้…

  เป็นไปได้มากว่าตระกูลหนานกงนั้นร่วมมือกับพวกอสูรจึงนับว่าตระกูลหนานกงเป็นศัตรู แล้วฟางเจิ้งจือจะร่วมมือกับพวกอสูรได้ยังไง?

   ข้าร่วมมือกับพวกอสูร? ฟางเจิ้งจือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินอย่างไรก็ตามเขาเรียกสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

  นั่นเพราะเขาไม่แปลกใจเลยไม่ว่าเต๋าฮุนจะพูดอย่างไร เขาก็หวังให้ฟางเจิ้งจือตายอยู่ดี

  ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

  มันเรื่องธรรมดาที่เต๋าฮุนจะหาโอกาสใส่ร้ายฟางเจิ้งจือให้เป็นอาชญากร

  และนี่เป็นเวลาที่เหมาะแก่การส่ร้ายเขาอย่างมาก

  อย่างไรก็ตามตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะแก่การเผชิญหน้ากันจริงๆงั้นหรือ?

   เต๋าฮุนเจ้าโง่หรือเปล่า? ฟางเจิ้งจือตอกกลับอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจความสับสนรอบข้างแม้แต่น้อย

   โอหัง! 

   เจ้ากล้าดูหมิ่นผู้นำของเราได้ยังไง! 

  เหล่าศิษย์ศาลาหยินหยางตอบโต้ทันทีที่ได้ยินคำพูดของฟางเจิ้งจือ

   ทำไมเจ้าไม่กล้าเหรอ? ฟางเจิ้งจือตอบกลับและโบกมือเล็กน้อย ก่อนที่สายไฟจะผ่าลงที่กลางหัวของเหล่าศิษย์ที่ต่อว่าเขา  ตูม!

  พวกเขากระเด็นออกไปทันที

   นี่… 

  เหล่าศิษย์ที่อยู่โดยรอบต่างสั่นกลัวเมื่อเห็นสิ่งนี้ แม้พวกเขาจะรู้ว่าฟางเจิ้งจือเป็นคนที่หยิ่งยะโส แต่สิ่งที่ได้ยินมากับการไดเห็นด้วยตาของตัวเองมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง

   เขาโจมตีออกไปแบบนั้นเลยเหรอ? 

   ชายคนนี้ไม่กลัวอะไรเลยจริงๆ! 

   เต๋าฮุนถ้าเจ้าอยากจะสู้ข้าก็พร้อมแล้ว ยังไงก็ตาม การใส่ร้ายให้ข้าร่วมมือกับพวกอสูรนี่ไม่โง่เกินไปใช่ไหม? ฟางเจิ้งจือพูดในขณะที่เอามือท้าวสะเอว

   ฮึ่มฟางเจิ้งจืออย่าพยายามปฏิเสธ ทุกคนรู้ดีว่าเจ้าถูกโยนลงหม้อหลอมของเก้าขุนเขา เจ้าจะรอดมาได้ยังไงถ้าไม่ได้รับความช่วยเลือจากพวกอสูร? เต๋าฮุนเห็นศิษย์ที่กระเด็นไปไกล สีหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ออกไป

  เขารู้จักฟางเจิ้งจือดีไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยที่เขาจะโจมตีศิษย์ไปสัก 2-3 คน

   หลักฐานล่ะ? ฟางเจิ้งจือหัวเราะแล้วตอกกลับ

   ความจริงที่ว่าเก้าขุนเขาถุกปกครองโดยพวกอสูรเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน! เต๋าฮุนชี้ไปทางอสูรทั้งสี่ตนแล้วพูดอย่างเยือกเย็น

  เหล่าศิษย์และอีกสามสำนักที่เหลือต่างก็ตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น

  พวกเขาอาจจะไม่เชื่อแต่คำพูดของเต๋าฮุนก็ทำให้ต้องฉุกคิด

  อย่างที่เต๋าฮุนพูดถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกอสูร แล้วฟางเจิ้งจือจะออกจากเก้าขุนเขามาได้ยังไง?

  นั่นเป็นหลักฐานชั้นดี

   ฟางเจิ้งจือถึงเวลาที่ต้องตอบแทนพวกเราแล้ว หยุดเสียเวลาแล้วฆ่าเต๋าฮุน เหล่าอสูรจะช่วยเจ้ากำจัดศาลาหยินหยางเอง!  ในขณะนั้นเองเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น

  มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไป่เฟยผู้ที่ยืนอยู่ฝั่งเก้าขุนเขา

   ตอบแทนงั้นเหรอ? 

   ฆ่าเต๋าฮุนและกำจัดศาลาหยินหยาง!! 

  ประโยคสั้นๆพวกนั้นเปลี่ยนความคิดของศิษย์ทุกคนในทันทีทุกคนต่างหันมองไปที่ฟางเจิ้งจือ

   ฟางเจิ้งจือเจ้ากล้าดียังไงถึงเข้าร่วมกับพวกอสูร! 

   ลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นมนุษย์ไม่ใช่อสูร! 

  ในเวลาไม่นานเสียงต่อว่าฟางเจิ้งจือก็ดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนพวกเขาไม่ให้อภัยมนุษย์ที่เข้าร่วมกับพวกอสูรอย่างแน่นอน

   บ้าเอ้ยข้าถูกหลอกงั้นเหรอ! ท่าทีของฟางเจิ้งจือเปลี่ยนไปและสังเกตุผู้คนโดยรอบ

  เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนการของพวกเขา  ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนเล่นงานซะแล้วตามปกติแล้วเขามักจะเป็นคนพูดหว่านล้อมคนอื่น แต่คราวนี้เขาเป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อซะเอง

  ฟางเจิ้งจือณรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรในตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้คือจัดการไป่เฟยและพิสูจน์ตัวเองซะ

  อย่างไรก็ตามทั้งฉือกูเหยียนและปิงหยางต่างก็ได้รับบาดเจ็บเขาจะทิ้งพวกนางไปแล้วจัดการไป่เฟยได้ยังไง

  เมื่อเขาเริ่มคิดเสียงของเต๋าฮุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

   ฟางเจิ้งจือเจ้าทรยศต่อเผ่าพันธ์ูมนุษย์ ข้า…เต๋าฮุนจะสังหารเจ้าเสีย! เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะปล่อยให้ฟางเจิ้งจือได้อธิบายตัวเองหรือจัดการไป่เฟยแม้แต่น้อย

  เขาเข้ามาใกล้ฟางเจิ้งจือทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงอยู่ใต้ใบหน้านั้น

   เข้ามาเลย! ฟางเจิ้งจือไม่ได้ถอยหนี  ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนเล่นงานซะแล้วตามปกติแล้วเขามักจะเป็นคนพูดหว่านล้อมคนอื่น แต่คราวนี้เขาเป็นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อซะเอง

  ฟางเจิ้งจือณรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรในตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้คือจัดการไป่เฟยและพิสูจน์ตัวเองซะ

  อย่างไรก็ตามทั้งฉือกูเหยียนและปิงหยางต่างก็ได้รับบาดเจ็บเขาจะทิ้งพวกนางไปแล้วจัดการไป่เฟยได้ยังไง

  เมื่อเขาเริ่มคิดเสียงของเต๋าฮุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

   ฟางเจิ้งจือเจ้าทรยศต่อเผ่าพันธ์ูมนุษย์ ข้า…เต๋าฮุนจะสังหารเจ้าเสีย! เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะปล่อยให้ฟางเจิ้งจือได้อธิบายตัวเองหรือจัดการไป่เฟยแม้แต่น้อย

  เขาเข้ามาใกล้ฟางเจิ้งจือทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงอยู่ใต้ใบหน้านั้น

   เข้ามาเลย! ฟางเจิ้งจือไม่ได้ถอยหนีเต๋าฮุนโจมตีเข้ามาแล้ว เขาต้องตอบโต้

  ฟางเจิ้งจือยกดาบไร้ร่องรอยขึ้นทันทีแสงสีม่วงพุ่งเข้าหาเต๋าฮุนอย่างไม่ลังเล

  ตูม!

  เต๋าฮุนกระเด็นออกไปด้วยความรุนแรงเขาถอยหลังออกไปถึงสามก้าว

  ศิษย์ทั้งหมดต่างไม่เชื่อสิ่งที่เห็นพวกเขาเห็นเลือดหยดอยู่ที่นิ้วของเต๋าฮุน

  ตรงกันข้ามฟางเจิ้งจือไม่ได้ขยับเขยื่อนแม้แต่น้อย ไม่ได้ล่าถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวคือชุดคลุมสีน้ำเงินที่กำลังพริ้วไหวไปกับสายลม

   เขากำลังสู้กับเต๋าฮุนจริงๆเหรอ? 

   เขาไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย? 

   เขาแข็งแกร่งมากเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่อายุเท่านี้ได้ยังไงกัน? เต๋าฮุนเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถเอาชนะเต๋าฮุนได้! 

   ชายคนนี้อยู่ในระดับเซียนขั้นสูงสุดด้วยงั้นหรือ?มันเป็นไปไม่ได้! 

  ตอนนี้ศิษย์ที่อยู่โดบรอบตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

  แม้พวกเขาจะรู้ว่าฟางเจิ้งจือแข็งแกร่งแค่ไหนตอนที่สู้กับหนานกงเฮาแต่ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมาถึงระดับนี้

  ความจริงแล้วแม้แต่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือต่างก็ตกใจ

   เด็กนั่นมีพลังมากพอจะเผชิญหน้ากับเต๋าฮุนได้แล้ว! เห็นได้ชัดว่าโม่ฉานฉือไม่สามารถปกปิดความประหลาดใจของเขาไว้ได้

  ในความประทับใจแรกของเขาคือฟางเจิ้งจือนั้นแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าไรนัก เขาไม่เชื่อว่าฟางเจิ้งจือจะขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขาได้

  อย่างไรก็ตามเขาต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า

   ชายคนนี้เติบโตขึ้นแล้วจริงๆนอกจากนี้ยังอยู่ในระดับที่น่ากลัว ถ้าเขาเข้าร่วมกับพวกอสูรจริง มันคงจะเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อพวกเราแน่!  แม้ว่ามู่ฉิงเฟิงจะไม่เชื่อว่าฟางเจิ้งจือเข้าร่วมกับพวกอสูร แต่ก็อดกังวลไม่ได้ยิ่งตอนนี้ฉือกูเหยียนอยู่ในมือของเขา

  ถ้าฟางเจิ้งจือขู่จะเอาชีวิตของฉือกูเหยียนขึ้นมาเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง

   หืม?ท่านผู้นำศาลาหยินหยาง ทำได้แค่นั้นหรือ? ข้าคิดว่าท่านจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ ดูเหมือนข้าจะประเมิณท่านสูงเกินไปนะ!  ฟางเจิ้งจือเผยยิ้มเล็กน้อยและหัวเราะออกมา

   สามเดือน…ผ่านไปเพียงสามเดินเท่านั้น เขาแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ได้ยังไง?  เต๋าฮุนยกนิ้วขึ้นและมองไปที่บาดแผล เห็นได้ชัดว่าเขาตะลึงเล็กน้อย

  แม้จะไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เขาก็ยังตกใจที่ฟางเจิ้งจือสามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

   ถ้าศาลาหยินหยางจะทำร้ายฟางเจิ้งจือต้องผ่านนิกายเงาก่อน! 

   ถูกต้อง! 

   เต๋าฮุนการต่อสู้ของพวกเราเมื่อสามเดืนอก่อน มันยังไม่จบ! 

  ในตอนนั้นวู่จวี้เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็ลุกขึ้น

  รวมถึงเซียนสวรรค์พักพิงและเหยียนเฉียนหลี่

  เขาทั้งสามก้าวเดินออกมาจากฝั่งนิกายเงา

  ฟางเจิ้งจือเผยยิ้มอีกครั้ง

  จากนั้นก็มองไปที่เฉียนยู่และแสดงท่าทีอย่างจริงใจออกมา  ท่านป้า ข้าเป็นส่วนหนึ่งของหอคอยหลิงหยุน ท่านจะนั่งดูข้าถูกรังแกอยู่เฉยๆงั้นหรือ? 

   เจ้าเด็กเหลือขอข้าจำไม่ได้ว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราตอนไหน …ตอนที่เจ้าไปก่อเรื่องที่หอคอยหลิงหยุนงั้นหรือ? เฉียนยู่พูดอย่างไม่เต็มใจ   ท่านป้าท่านจะไล่ข้าออกตอนนี้งั้นเหรอ? แทนที่จะตอบคำถามของเฉียนยู่ ฟางเจิ้งจือยังคงถามต่อ

   ดูเหมืนนเจ้าจะไม่สำนึกซะเลยข้าไม่เคยเจอคนไร้ยางอายเช่นเจ้ามาก่อน! เฉียนยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน อย่างไรก็ตามนางหันมองเต๋าฮุนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดว่า  ผู้นำเต๋า ข้าขอพูดอย่างตรงไปตรงมา ฟางเจิ้งจือเป็นคนของข้า ดังนั้นเจ้าอย่าคิดจะแตะเขาได้แม้แต่ปลายเล็บ! 

   ของข้า?! 

   เฉียนยู่พูดว่าฟางเจิ้งจือเป็นของนางงั้นหรือ? 

   เกิดอะไรขึ้น? 

   อย่าบอกนะว่าเฉียนยู่และฟางเจิ้งจือ… 

  ท่าทีของเหล่าศิษย์ประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในขณะที่มองไปยังเฉียนยู่และฟางเจิ้งจือ

  ในทางกลับกันจักรพรรดิหลินมู่ไป่ซึ่งนั่งอยู่ห่างออกไปไม่สามารถทนฟังได้ เขาคิดว่าสิ่งที่เฉียนยู่พูดมันไม่เหมาะสมแม้แต่น้อย แต่เขาก็ต้องพูดอะไรบางอย่างออกมาเช่นกัน

   เยว่เอ๋อร์จักรพรรดินีแห่งอาณาจักรเซี่ย และข้าได้มอบชื่อองค์ชายให้กับฟางเจิ้งจือ เขาคือองค์ชายคัง อาณาจักรเซี่ยจะไม่ยอมให้ผู้นำเต๋าทำอันตรายต่อฟางเจิ้งจือเช่นกัน!  หลินมู่ไปพูดอย่างชัดเจน

  แม้จะเป็นประโยคที่เรียบง่ายแต่ก็ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าเฉียนยู่มีความสัมพันธ์กับอาณาจักรเซี่ย และทำให้คำพูดที่ไม่เหมาะสมของนางถูกไขกระจ่าง

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือเบะปากลง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขายังไม่เคยยอมรับการเป็นเขยของเฉียนยู่เลยสักครั้ง

  อย่างไรก็ตามเขารู้สึกยินดีมากกว่าที่เฉียนยู่เข้าข้างเขา

   เต๋าฮุนเจ้าอยากฆ่าข้าไม่ใช่รึ? ไม่งั้นท่านต้องผ่านท่านป้าของข้าเสียก่อน! ฟางเจิ้งจือชี้ไปยังเฉียนยู่ในขณะที่พูดออกมา

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset