Gate of God – ตอนที่ 891 เพราะเราคือเพื่อนกัน

  ท่าทีของไป่เฟยไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งต้น

  อย่างไรก็ตามในตอนนี้ทุกคนต่างเห็นชัดเจนว่าสีหน้าของไป่เฟยกลายเป็นซีดขาว

  แกร้ง!เสียงที่คมชัดดังสะท้อนที่ข้างหูของเขา ในตอนนี้ฟางเจิ้งจือลดดาบลงเล็กน้อย

  เขาแทงดาบเข้าไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!

   แข็งมาก?อย่าบอกนะว่าไป่เฟยฝึกร่างกายให้แข็งเป็นหิน? ฟางเจิ้งจือตกใจ แต่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

  แม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าร่างกายของพวกอสูรมีความแข็งมากแต่ความแข็งระดับนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป

  เดี๋ยวก่อน!

  ไป่เฟยมีสมบัติป้องกัน!

  ฟางเจิ้งจือเองก็มีกระจกป้องกันใจนั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถตอบสนองได้อย่างไร้ปัญหา

  ฟางเจิ้งจือเผยยิ้ม

  สมบัติที่สามารถป้องกันดาบไร้ร่องรอยได้?

  เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่สมบัติทั่วๆไป

  .โจมตีอีกครั้ง!

  การตัดสินใจของฟางเจิ้งจือไม่มีเหตุผลมันขึ้นอยู่กับการตอบสนองของไป่เฟยที่รับการโจมตีของดาบไว้

  พูดตามตรงไป่เฟยดูอ่อนแอกว่าเขาแต่เพราะอะไรนั้น ฟางเจิ้งจือเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

  และไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนี้เพราะการที่ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอกว่านั่นหมายความว่าฟางเจิ้งจือสามารถฆ่าเขาได้

  ฟางเจิ้งจือเหวี่ยงตัวเข้าหาไปเฟยอย่างรุนแรง

  ในชั่วพริบตาร่างของพวกเขาก็อยู่ประชิดกันฟางเจิ้งจือเห็นชัดเจนว่าดวงตาของไป่เฟยขยายขึ้นฉับพลับ

  จากนั้น…

  มือข้างซ้ายของฟางเจิ้งจือจับไปที่หน้าอกของไป่เฟย

  เขาฉีกเสื้อของไป่เฟยออกอย่างแรงขณะที่ตะโกนออกมา  ถ้ามีของดีก็แบ่งข้าบ้างสิ! 

   แบ่ง? เห็นได้ชัดว่าไป่เฟยไม่สามารถตอบสนองได้ทัน สีหน้าของเขาซีดขาวในทันที

  ครืด!ระหว่างรอยฉีกที่เกิดขึ้นนั้นมีสีทองส่องประกายอยู่

   อย่างที่คิดเลยเจ้าใช้กระจกป้องกันใจ!  ดวงตาของฟางเจิ้งจือเบิกกว้าง เขาคว้ากระจกป้องกันใจจากไป่เฟยไว้ ตอนนั้นเองเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

  ด้านล่างกระจกป้องกันใจเป็นสีแดงสด

  มันไม่ใช่รอยเลือดแต่เป็นรอยสีชมพูบางอย่าง และฟางเจิ้งจืตระหนักว่ารูปทรงของเสื้อผ้านั้นผิดปกติ

   สายรัด?สายรัดสีแดงรึ?!  แม้จะเห็นแบบเฉียดๆแต่เขาก็มั่นใจทันทีว่ามันนั้นคืออะไร

  เดี๋ยวก่อน!

  ทำไมไป่เฟยถึงใช้สายรัด?

  เพื่อความแน่ใจฟางเจิ้งจือพยายามยื่นมือออกไปจับโดยไม่รู้ตัว

   ไร้ยางอาย! ในที่สุดไป่เฟยก็ตะโกนเสียงดังออกมา สีหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำ

   ผู้ชายที่สวมสายรัดเอวยังกล้าเรียกข้าไร้ยางอายอีกหรือ?  ฟางเจิ้งจือกำลังจะว่าเขาต่อ แต่ความหนาวเหน็บก็สั่นสะท้านขึ้นมาที่หลังคอของเขา

  เขารู้สึกถึงลางไม่ดี

  ความแข็งแกร่งที่แผ่ซ้าน

  ลอบโจมตี?   ความไวในการตอบสนองของฟางเจิ้งจือที่มีต่อการลอบโจมตีนั้นไม่ธรรมดา

  ดังนั้นเขาเตะขาไปด้านหลังในทันทีในขณะที่ใช้มือตบไปที่หน้าอกไป่เฟย

  เป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดจากสัญชาตญาณทำให้เขาไม่ทันได้หันมองว่าศัตรูคือใคร

  ตูม!

  ร่างของไป่เฟยลอยออกไปเพราะแรงตบของฟางเจิ้งจือราวกับเส้นแสงที่พุ่งผ่านท้องฟ้า

  จากนั้นร่างของเขาก็กระแทกที่พื้นอย่างแรงพร้อมกับกระอั่กเลือดออกมา

  ในขณะเดียวกันตำแหน่งที่ฟางเจิ้งจือยืนอยู่เมื่อครู่ใบมีดสั้นสองเล่มตัดผ่านอากาศไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรง

  เวลาดูเหมือนจะหยุดลงในตอนนั้นเองเหล่าศิษย์จากสำนักต่างๆและพวกอสูรบนท้องฟ้าได้หยุดเคลื่อนไหว   เขาถูกแทงงั้นหรือ?! 

   ไม่ดูเหมืนอมันจะเป็นการตบ ฟางเจิ้งจือโจมตีพวกอสูรจริงๆงั้นหรือ?! 

   เดี๋ยวก่อนทำไมไป่เฟยถึงถูกแทงด้วยมีด แต่กลับกระเด็นออกไปแทน? แล้วทำไมเขาถึงอ่อนแอขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าเขาไม่ใช่ศิษย์ของเทียนซิงแต่เป็นอสูรเหมือนกัน? 

  มันเป็นฉากที่น่าตกใจ

  ไม่มีใครคาดคิดว่าฟางเจิ้งจือจะสามารถแทงไป่เฟยได้แต่นั่นไม่สำคัญ เขาพยายามแทงไป่เฟยทั้งยังตบไป่เฟยอีก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์ุกับพวกอสูร

   อย่าบอกนะว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับพวกอสูรจริงๆถ้าเป็นเช่นนั้นเขาหนีออกจากเก้าขุนเขาได้ยังไง?  แม้แต่เต๋าฮุนก็ประหลาดใจ

  แน่นอว่าคนที่ประหลาดใจที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟางเจิ้งจือ

  ต้องขอบคุณแรงตบเมื่อกี้ที่ทำให้ฟางเจิ้งหลบมีดที่พุ่งเข้ามาได้และในที่สุดเขาก็เห็นร่างที่ยืนอยู่ตรงจุดเดิมของเขา

  มันคือปีศาจที่ถูกแทงโดยฟางเจิ้งจือก่อนหน้านี้

  ’มันยังไม่ตาย!’

  ได้ยังไง?

  เดี๋ยวก่อน!

  ดูเหมือนเขาจะเป็นอสูร!

  ฟางเจิ้งจือตระหนักในทันทีความแตกต่างระหว่างอสูรและมนุษย์ จุดตายของมนุษย์คือหัวใจ แต่ถ้าเป็นพวกอสูรจุดตายของพวกเขาคือไข่มุกอสูร

  เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ

  แม้จะตัดแขนตัดขาพวกอสูรไปก็ไร้ประโยชน์ท้ายที่สุดร่างกายของพวกเขาจะฟื้นฟูกลับเป็นปกติ

   ข้าคิดว่ามีปัญหาซะแล้ว… ฟางเจิ้งจือเหลือบมองรอบข้างที่เต็มไปด้วยอสูร เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขาทันที  ประมาทเกินไป

  เขาคิดแต่จะฆ่าศัตรูในการโจมตีเดียวแต่หากไม่สำเร็จ เขาลืมคิดวิธีหนีออกไปอย่างสิ้นเชิง

   นายน้อย! 

   จักรพรรดินีน้อยไม่เป็นไรใช่ไหม? 

  เสียงตะโกนดังก้องสะท้อนอย่างไรก็ตามสำหรับฟางเจิ้งจือ พวกอสูรรอบตัวต่างกังวลอาการของไป่เฟยมากกว่า

   นายน้อย?จักรพรรดินีน้อย?  ฟางเจิ้งจือตกตะลึง ทำไมพวกอสูรถึงเรียกไป่เฟยต่างออกไป นอกจากนี้พวกเขาแบ่งออกเป็นสองฝั่ง?

  เดี๋ยวก่อน?

  นายน้อย?!

  ฟางเจิ้งจือหันมองไป่เฟยอย่างรวดเร็วเขาที่ล้มอยู่บนพื้นไม่ไกลเกินไปกำลังเอามือจับหน้าอก และตอนนั้นเขารู้สึกได้ว่ามันแปลกๆตอนที่ตบไป่เฟย   ผู้หญิง?ผู้หญิงที่อ่อนแอ แต่ถูกเรียกว่า นายน้อย? …หยุนชิงวู!  ถ้าฟางเจิ้งจือไม่เข้าใจในสถานการณ์อีก เขาต้องโง่มากแน่ๆ

  อย่างไรก็ตามความคิดนี่ทำให้เขาสับสนอีกครั้งทุกคนที่นี่เป็นเป็นพวกอสูร

  อสูร?

  จักรพรรดินีน้อย?!

   ฟางเจิ้งจือที่ดินแดนทางใต้ ข้าตบเจ้าไปหนึ่งครั้ง ในวันนี้เจ้าตบข้าคืนแล้ว พวกเราไม่มีอะไรติดค้างต่อกันอีก เสียงที่แผ่วเบาลอยเข้าหูของฟางเจิ้งจือ ตามด้วยหน้ากากมนุษย์ที่กำลังหลุดออก เผยผิวที่อ่อนนุ่ม และใบหน้าที่สง่างามให้เห็น

  ผมยาวสีดำสลวยถึงเอวนางคือหยุนชิงวู

  นางมีสีหน้าที่ซีดขาวอย่างมากแต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเช่นกัน

  ฟางเจิ้งจือตกตะลึง

  เขาเดาตัวตนของหยุนชิงวูได้อย่างถูกต้องแต่การได้เห็นนางจริงๆเป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

   แต่ข้าไม่ได้แทงเจ้าก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ? ฟางเจิ้งจือพึมพำแม้จะไม่รู้เหตุผลเบื้องหลัง

   ใช่เจ้าพูดถูกแล้ว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของข้า หยุนชิงวูพูดในขณะที่ลุกขึ้น

   เอาล่ะในเมื่อเราไม่ติดค้างกันแล้ว ข้าขอตัว ฟางเจิ้งจือพยักหน้า ในฐานะผู้ชายมักใจดีและไม่ใส่เรื่องเล็กๆน้อยเหมือนผู้หญิง เขาจึงเลือกที่จะไม่โต้แย้งกับหยุนชิงวู

  อย่างไรก็ตามเหล่าอสูรที่รายล้อมต่างจ้องมองด้วยแววตาที่โกรธแค้น ในชั่วพริบตาฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าท้องฟ้ามืดทึมไปในทันที

  นั่นเพราะมีอสูรมากถึง200-300 ตนรายล้อมเขาอยู่

   ฟางเจิ้งจือตาย!  เกือบจะในทันทีอาวุธนับร้อยชี้ไปที่ฟางเจิ้งจือ และส่องแสงออกมา

  ท้องฟ้าสว่างจ้าในทันที

  ฟางเจิ้งจืออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจมันกระทันหันเกินไป

  เมื่อไม่นานเขายังเป็นผู้เฝ้ามองการต่อสู้ของคนอื่นอยู่เลยแต่ตอนนี้กลับถูกอสูรนับร้อยรายล้อม

  มีคำที่ว่า’หนีเสือปะจรเข้’ ช่างเหมาะกับสถานการณ์แบบนี้จริงๆ

  ครืน!ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าชิวิตของเขาตกอยู่ในความมืดมิด ลำแสงสีดำพุ่งมาที่ด้านข้างของเขา

  ความรู้สึกที่เย็นเยือกเหมือนอยู่ในนรกทำให้ใจของเขาสั่นเทา

  นั่นคือเหยียนซิว!

   เหยียนซิวเจ้าเชื่อข้าไหม?  ฟางเจิ้งจือหันมองเหยียนซิวที่อยู่ข้างเขา ในตอนนี้ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าเหยียนซิวแปลกๆ

  ไม่ใช่แค่กลิ่นอายเย็นเยือกที่เขาปล่อยออกมาเท่านั้นแต่เป็นเพราะความสับสนและความสงสัยที่เหยียนซิวมองมาที่ฟางเจิ้งจือ

   ข้าไม่รู้แต่ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่โกหกข้า เหยียนซิว ส่ายหัวจากนั้นก็พยักหน้า ไม่มีแสงในดวงตาที่ดำสนิทขอเงขาแม้แต่น้อย

   แน่นอนข้าจะไม่โกหกเจ้า! พวกเราคือเพื่อน เพื่อนที่ดีที่สุด!  ในตอนนั้นเอง น้ำตาเริ่มไหลซึมออกจากดวงตาของฟางเจิ้งจือ

  เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหยียนซิวแต่เขาเดาได้ว่าเหยียนซิวสูญเสียความทรงจำไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดเหยียนซิวก็ยังจจำเขาไม่ได้ในตอนนี้

  แม้จะเป็นเช่นนั้นเขาก็เลือกจะยืนข้างเหยียนซิวอย่างไม่ลังเลเพราะเขาเชื่อว่าเหยียนซิวจะไม่แทงข้างหลังเขาแน่นอน

   เพื่อน? เหยียนซิวเริ่มสับสนอีกครั้ง เขาจ้องไปที่ฟางเจิ้งจือ จากนั้นก็เผยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจ  ใช่ พวกเราเป็นเพื่อนกัน! 

   เพื่อน 

   ใช่แล้วเพื่อน… 

  ทั้งคู่ไม่ได้พูดเสียงดังนักแต่ก็ดังพอจะทำให้เหล่าศิษย์โดยรอบได้ยิน

   พวกเขาอยากเป็นเพื่อนกัน? 

   ในเวลาแบบนี้พวกเขาสร้างมิตรด้วยรอยยิ้ม? 

  เหล่าศิษย์โดยรอบไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เห็นได้

  ในขณะเดียวกันทางฝั่งหอคอยหยินหยาง เต๋าซินลุกขึ้นและจ้องมองทั้งสองคนในทันที เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

   ซิวยิ้ม?ตลอดเวลาที่หอคอยหยินหยาง ข้าไม่เคยเห็นเขายิ้มเลยสักครั้ง แต่หลังได้พบกับฟางเจิ้งจือ เขายิ้ม …ได้เช่นนั้น? เต๋าซินกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างไม่สามารควบคุมได้

  ฟางเจิ้งจือไม่สนใจอะไรอีกหลังจากที่เหยียนซิวพูดและเผยยิ้มออกมา

   ในฐานะเพื่อนเจ้าไม่ควรเลี้ยงข้าวข้าหน่อยหรือ? 

   แน่นอนข้ามีเงินเยอะมาก เงิน ข้า… เหยียนซิวพยักหน้าอย่างไม่ลังเล แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็หยุดกระทันหัน ร่างของเขาสั่นอย่างรุนแรง ออร่าสีดำส่องสว่างออกมาไม่หยุด เขาดูเจ็บปวดอย่างมาก

  สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคือเงาใต้ฝ่าเท้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

   เหยียนซิว! ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะอ้าปาดพูดอีกครั้ง พื้นดินก็สั่นสะเทือน แสงสีดำพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน

  ตูมตูม!

  แสงสีดำพุ่งขึ้นจากพื้นดินอย่างต่อเนื่องบรรยากาศสั่นสะเทือน ราวกับอยู่ในขุมนรก ในขณะเดียวกันบนพื้นดินก็เต็มไปด้วยสีแดงสด ราวกับกลายเป็นทะเลเลือด

  สิ่งที่แปลกที่สุดคือดวงตาสีดำของเหยียนซิว จู่ๆก็มีจุดแสงสีแดงปรากฎขึ้นสองจุด มันเป็นจุดสีแดงเลือด

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset