ตามปกติแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้อยู่ในความสงบสุขเท่าไรนักสมุนไพรและสมบัติล้ำค่ามากมายรอถูกค้นพบ
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีสัตว์ร้ายหลบซ่อนตามถ้ำ
ก่อนที่อีกไม่นานมันจะกลายเป็นเพียงอาหารบนกองไฟเนื้อของพวกมันน่ากินมากหลังจากที่ถูกฆ่าสดๆ
กองไฟในถ้ำค่อนข้างอบอุ่นแต่เพราะอากาศไม่ค่อยถ่ายเทจึงทำให้รู้สึกอับชื้นเล็กน้อย
ใบหน้าของปิงหยางขึ้นสีเล็กน้อยเพราะนางกำลังนอนอยู่บนหน้าอกของฟางเจิ้งจือนางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างของอีกฝ่าย
เจ้าไร้ยางอายเจ้าจับเจ้าปีศาจได้จริงๆใช่ไหม? ปิงหยางหายใจแรงขึ้นขณะมองกองไฟด้านหน้า
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฟางเจิ้งจือกล่าวอย่างสบายๆ
เจ้ายังคงไร้ยางอายเช่นเคย… ปิงหยางยิ้มขณะที่เช็ดปากของนางที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมันกับหน้าอกของฟางเจิ้งจือ แล้วตอนนี้เจ้าปีศาจอยู่ที่ไหน? เจ้าไม่กลัวว่าหมู่บ้านภูเขาทางเหนือจะเป็นอันตราย…
ปิงหยางหยุดพูดตอนท้ายประโยคเพราะนางรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือเมื่อไม่นานมานี้
ข้าทิ้งเขาไว้ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ฟางเจิ้งจือตอบ
อือ ปิงหยางคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่ทิ้งเจ้าปีศาจไว้ยังหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ข้อแรกตราบใดที่หยุนชิงวูไม่มีความสงสัยในตัวตนของ’เมิ่งเทียน’นางก็จะไม่มองหาเจ้าปีศาจจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ข้อที่สองถ้าหมู่บ้านภูเขาทางเหนือเจอกับวิกฤติพวกเขาก็อาจจะแก้ไขได้ด้วยการสังหารเจ้าปีศาจที่อยู่ในมือ
เมื่อนางคิดถึงเรื่องเหล่านี้ดวงตาของนางเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
แล้วเราจะไปที่ไหนต่อภูเขาสวรรค์? พวกเราจะได้เปรียบถ้าไปที่นั่น! ดวงตาของปิงหยางลุกโชนด้วยความปรารถนา
นางจำได้ดีถึงการต่อสู้บนภูเขาสวรรค์
เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนที่ล้มแล้วอยากจะลุกยืนขึ้นอีกครั้งฟางเจิ้งจือค่อนข้างนับถือเรื่องนี้
ในเมื่อเจ้าอยู่ในหอคอยหลิงหยุนมาสักพักแล้วเจ้าเคยได้ยินเรื่อง’แหล่งพลังเทพเจ้า’ไหม? แทนที่จะตอบคำถามของปิงหยาง ฟางเจิ้งจือกลับถามเรื่องอื่นแทน
แหล่งพลังเทพเจ้า?มันคืออะไรกัน? ปิงหยางดูสับสน
เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องของมันมาก่อนงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือดูผิดหวังเล็กน้อย เขาคิดเสมอว่าทั้งห้าสำนักในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ล้วนมีประวัติศาสตร์ยาวนาน
ดังนั้นเขาหวังว่าเขาจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับ’แหล่งพลังเทพเจ้า’ที่หลินจีกล่าวถึงจากหอคอยหลิงหยุนบ้าง
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า…
มันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
ข้ามั่นใจข้าอ่านหนังสือทุกเล่ม ทุกหน้าในหอคอยหลิงหยุนแล้ว ข้าไม่เคยเจออะไรที่เกี่ยวข้องกับ…แหล่งพลังเทพเจ้า? ปิงหยางกล่าว อย่างไรก็ตามนางกระพริบตาถามด้วยความสงสัย มันคือเรื่องสำคัญงั้นหรือ? มันมีหน้าตาเป็นเช่นไร?
ข้าเองก็ไม่มั่นใจเกี่ยวกับมันเท่าไรนัก… ฟางเจิ้งจือส่ายหน้า ดูเหมือนข้อมูลที่ได้มาจากหลินจีไม่เพียงพอที่จะช่วยอะไรได้
หรือมันจะเป็นชิ้นส่วนข้อความ? ปิงหยางถาม ข้อความ? ฟางเจิ้งจือมองปิงหยาง จากท่าทีของนางเขาสามารถบอกได้ว่านางกำลังคิดบางอย่างอยู่ เจ้าคิดอะไรอยู่?
ไม่มีอะไรมากแต่ข้าจำได้ว่ามู่ฉิงเฟิงเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องข้อความอะไรสักอย่างตอนที่อยู่บนภูเขาสวรรค์
มู่ฉิงเฟิง?
ใช่ดูเหมือนว่าข้อความเหล่านั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเรียกรวมทั้งห้าสำนักที่ภูเขาสวรรค์ ข้าคิดว่า…มู่ฉิงเฟิงน่าจะรู้เรื่องบางอย่าง
ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน? ฟางเจิ้งจือจำเรื่องที่ปิงหยางพูดไม่ได้แม้แต่น้อย
เจ้ามาสายมู่ฉิงเฟิงพูดก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้นเกี่ยวกับเรื่องเล่าของมารดาแห่งโลก เจ้ามาตอนที่พี่เหยียนได้รับบาดเจ็บ โอ้ใช่ ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง? ปิงหยางนึกเรื่องของฉือกูเหยียนได้ในทันที ตอนนี่นางอยู่ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนืออย่างไรก็ตามนางยังไม่ตื่น ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้วขณะคิดเรื่องที่ปิงหยางกล่าว
มารดาแห่งโลก?
มู่ฉิงเฟิงได้ยินเรื่องนี้ได้ยังไง?
นางยังไม่ตื่นอีกหรือนี่ก็ผ่านมานานแล้ว? ปิงหยางกังวลอย่างเห็นได้ชัด
หืมมแม้นางจะยังไม่ตื่น แต่อาการของนางก็คงที่แล้ว โอ้ใช่ เจ้าพูดเกี่ยวกับเรื่องมารดาแห่งโลก มู่ฉิงเฟิงได้บอกไหมว่าเขารู้มาจากไหน?
ใช่เขาบอกว่ามาจากซากปราสาทหินสีดำด้านล่างของศาลาเต๋าสวรรค์ ข้าคิดว่าพี่เหยียนก็เคยไปที่นั่นมาก่อน? ปิงหยางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ปราสาทหินสีดำ?ด้านล่างศาลาเต๋าสวรรค์…หรือว่าจะเป็นสิ่งนั่น?! ดวงตาของฟางเจิ้งจือสว่างขึ้น ราวกับบางอย่างเข้ามาในหัวของเขา ตอนนั้นเหยียนซิวถูกเซียนทั้งสามจากเกาะจันทราสีดำจับตัวไว้แล้วอยู่ดีๆซากปรากสาทสีดำก็ปรากฎออกมา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เข้าไป ตอนนั้นเขาไม่มีอารมณ์จริงๆ
เดี๋ยวก่อน!
ตอนที่มันตกลงมา…
มันเป็นตอนเดียวกันกับที่สัตว์ร้ายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เริ่มเปลี่ยนไปยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนทั้งดินแดนศักสิทธิ์จะเปลี่ยนไปตั้งแต่มันปรากฎขึ้น
งั้น…
ฟางเจิ้งจือขมวดคิ้วด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาคิดว่ามีความสัมพันธ์พิเศษระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
อย่างไรก็ตามณ ตอนนั้นเขาคิดแค่เรื่องที่จะช่วยเหยียนซิว ดังนั้นเขาจึงฝืนหาทางไปศาลาหยินหยาง จากนั้นเขาก็ถูกจับลงหม้อหลอมที่เก้าขุนเขา หลังจากนั้นเขาก็ไปที่หอคอยหลิงหยุนและภูเขาสวรรค์
ฟางเจิ้งจือไม่เคยคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกมากมายนัก
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
เขารู้สึกว่าเขาได้ละเลยเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นมาเกินไป
สิ่งเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นต้นตอของเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นบนโลก
เรื่องเกี่ยวกับมารดาแห่งโลกอาจเกี่ยวข้องกับ’แหล่งพลังเทพเจ้า’ที่หลินจีกล่าวถึง?หรือซากปราสาทสีดำอาจจะเป็น…แหล่งพลังเทพเจ้า?! ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าแม้แต่หยุนชิงวูเองก็ไม่รู้ว่าแหล่งพลังเทพเจ้าจริงๆแล้วหน้าตาเป็นยังไง
นั่นเพราะถ้านางรู้ทุกอย่างคงไม่ซับซ้อนเหมือนตอนนี้
สำหรับหลินจี…
นางบอกว่าใครที่ครอบครองแหล่งพลังเทพเจ้าจะสามารถครองโลกได้
วิเคราะห์จากความสำคัญของ’แหล่งพลังเทพเจ้า’ทำไมหยุนชิงวูถึงยังไม่ตามหามัน? ถ้านางรู้ว่ามันทรงพลังขนาดนั้นก็น่าจะตามหามันนานแล้ว
นางคงไม่วุ่นวายกับแผนการควบคุมดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ทันใดนั้นเองดวงตาของฟางเจิ้งจือมีแสงสีเงินสว่างขึ้น เขาราวกับเข้าไปยังอีกโลกหนึ่ง
เจ้าไร้ยางอายบอกความจริงข้ามา เจ้าอยู่ระดับเทพเจ้าแล้วหรือเปล่า? ปิงหยางถามด้วยความคาดหวัง
ไม่ข้ายังไม่ได้แตะขอบประตูของระดับเทพเจ้าด้วยซ้ำ ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ทำไมปิงหยางถึงถามเรื่องนี้
งั้นเจ้าเอาชนะหลินจีได้ยังไง?ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินว่าเจ้าสามารถจัดการนางได้ด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว! ปิงหยางสับสน
ฆ่า?ฮ่าฮ่า…ข้าเพียงทำให้นางสลบไปเท่านั้น ฟางเจิ้งจือส่ายหน้า
สลบ?เป็นไปไม่ได้ ข้าจำได้ว่าท่านแม่กล่าวว่าไม่มีใครมีพลังเทียบเท่าได้กับตัวตนระดับเทพ?
ท่านป้าเฉียนพูดเช่นนั้นรึ?
อืม?เจ้าเรียกแม่ของข้าว่าท่านป้างั้นรึ? ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้ายังทำราวกับไม่เคารพท่านแม่ของข้าอยู่เลย! ปิงหยางยิ้ม
ข้าหมกมุ่นเกินไปเห้อ…เพราะเวลาข้าแสดงข้าจะเข้าถึงตัวละครนั้นมาเกินไป ตอนที่ข้าแสดงเป็น’เมิ่งทียน’ข้าจึงต้องทำให้สมจริงและหยุดเรียกแม่ของเจ้าว่าท่านป้า ฟางเจิ้งจือพูดพร้อมอมยิ้มเช่นกัน
ทำไมข้ารู้สึกว่าสิ่งที่เจ้าทำมันไร้ยางอายมากกว่าเป็นการแสดงเสียอีก? ปิงหยางถาม
แค่กแค่ก… ฟางเจิ้งจือกระแอ้มและเปลี่ยนเรื่อง ข้ารู้แล้วว่าพวกเราควรทำอะไรต่อไป!
ทำอะไรงั้นรึ? ปิงหยางถามด้วยความคาดหวัง
เจ้าคิดว่าสิ่งที่ข้าอยากทำมากที่สุดในตอนนี้คืออะไร? ฟางเจิ้งจือยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองดูปิงหยาง
ตอนนี้? ปิงหยางเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของฟางเจิ้งจือ ร่างกายของนางพลันสั่นสะท้านในทันที
ใช่แล้ว ฟางเจิ้งจือพยักหน้า
… ปิงหยางเขินอายเล็กน้อยเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือพยักหน้า จากนั้นนางก็มองไปรอบๆ นางเอนกายลงบนหญ้าแห้งและกล่าวออกมา ถึงแม้ข้าจะยังเด็ก แต่ถ้าเจ้าต้องการ ข้าก็จะให้เจ้า…
……………………………………..
��