ให้…ข้า? ฟางเจิ้งจือนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เขามองพื้นที่ปูด้วยหญ้าแห้งและหน้าของปิงหยางที่กลายเป็นสีแดง
เดี๋ยวก่อน!
ฉากตรงหน้าเขาเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
เขาไม่ได้คุยเรื่องจริงจังกับปิงหยางอยู่งั้นหรือ?หรือท่าทีของเขาดูไม่จริงจัง?
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!
อะไรคือความหมายของคำว่า’แม้ข้าจะยังเด็ก แต่ถ้าเจ้าต้องการข้าก็จะให้เจ้า’? ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าโลกทั้งใบเปลี่ยนไปเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ
ยิ่งไปกว่านั้น…
เกิดอะไรขึ้นกับสมองของปิงหยาง?เขาออกจะเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ นางกลับคิดว่าเขาเป็นคนแบบนั้นหรือไงกัน? หืมม?ดูเหมือนช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาปิงหยางจะโตขึ้นเล็กน้อย นอกจากขาที่ดูอุดมสมบูรณ์ขึ้น ส่วนอื่นก็ดูเหมือนจะ…
ฟางเจิ้งจือมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของปิงหยางเปรียบเทียบกับการพบกันครั้งแรก ปิงหยางเปลี่ยนไปจริงๆ
ทั้งความเป็นหญิงสาวและเสน่ห์เย้ายวนที่เพิ่มขึ้นใบหน้าที่มีสีแดงอ่อนๆราวกับดอกท้อที่กำลังบาน
อึก!ฟางเจิ้งจือกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวและบังคับให้ตัวเองหยุดมองปิงหยาง จากนั้นเขาก็มองไปยังกองหญ้าแห้งด้านหลังเขา
เมื่อมองไปยังหนังสัตว์ที่เขานำมาจากดินแดนภูเขาทางใต้ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจของฟางเจิ้งจือ มันค่อนข้างน่าสนใจ…
หรือเขาควรตามน้ำไปดี?
แม้ว่ามันจะค่อนข้างแปลก…
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังจมอยู่ในความคิดปิงหยางที่ตอนแรกเขินอายกลับพูดออกมาด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
เจ้าไร้ยางอายเรายังไม่ได้แต่งงานกันเลย คนอื่นจะเข้าใจผิดและมองข้าในแง่ลบได้ พวกนั้นจะบอกว่าข้าไม่บริสุทธิ์และทำเรื่องที่ไม่เหมาะสม? ขณะที่พูดปิงหยางก็มองฟางเจิ้งจือด้วยความคาดหวัง
ในขณะเดียวกันร่างของฟางเจิ้งจือสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ราวกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชนแต่อยู่ดีๆกลับโดนน้ำเย็นเฉียบสาดใส
บัดซบ!
เขากำลังคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่?!
อย่างแรกสุดคือปิงหยางอายุแค่สิบห้าปีห่างไกลจากคำว่าบรรลุนิติภาวะยิ่งไปกว่านั้นนึกถึงเรื่องที่ปิงหยางเคยป้องกันการโจมตีจากราชาอสูรให้เขา เขาจะทำเรื่องที่เป็นการทำร้ายนางได้ยังไง?
เขารู้ว่าปิงหยางกังวลแต่เขาจะปลอบนางยังไงดี? อย่างที่ปิงหยางบอกพวกเขายังไม่ได้แต่งงานกันแล้วคนอื่นจะมองพวกเขายังไง?
บางทีถ้าเป็นโลกเก่าของเขาผู้คนอาจจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักถ้าชายหญิงหลับนอนกันด้วยความรัก
อย่างไรก็ตามโลกนี้นั้นต่างออกไป
ยิ่งไปกว่านั้นปิงหยางเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรเซี่ยและเป็นนายน้อยของหอคอยหลิงหยุนเขาจะทำเรื่องแบบนี้กับคนที่มีสถานะสูงส่งแบบนั้นได้ยังไง?
เดี๋ยวก่อนมีอีกปัญหาหนึ่ง…
ปิงหยางอาจจะมีความต้องการตามธรรมชาติแต่เพราะตำแหน่งของนางทำให้นางต้องทำตัวให้สูงส่งตลอดเวลา แล้วนางจะเป็นยังไงหลังแต่งงาน?
ฟางเจิ้งจือไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องนี้มากนักแต่เขาเคยได้ยินคนพูดไว้ว่าผู้หญิงบางคนก่อนแต่งงานนั้นเหมือนนกน้อย แต่หลังแต่งงานกลายเป็นเสือที่ดุร้าย เจ้าไร้ยางอายทำไมเจ้าถึงไม่พูดอะไรเลย…เจ้าโกรธหรอ? จริงๆแล้วข้าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ข้าเพียงแต่…ข้ารู้สึกว่า… ปิงหยางกังวลยิ่งขึ้นเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือเงียบไป นางหายใจหอบถี่มากยิ่งขึ้นพร้อมกับเคลื่อนตัวเข้าหาฟางเจิ้งจือ
ขอบตาของฟางเจิ้งจือกระตุก
นั่นเพราะขณะที่นางเคลื่อนตัวเขาหาเขาปิงหยางเริ่มปลดกระดุมเสื้อของนางเผยให้เห็นชุดบางๆที่ซ่อนอยู่ด้านใน
และนางเตรียมจะถอดมันออก
โอ้ย!นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน?! นางเอาจริงงั้นรึ?! ฟางเจิ้งจือลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกจากถ้ำไปทันที
ปิงหยางหยุดค้างอยู่กับที่นางดูตกใจ ไม่สบายใจและสับสน
บรรยากาศกลายเป็นอึดอัดทันที
เสียงหายใจอันหนักหน่วงสามารถได้ยินจากด้านในถ้ำแม้ไม่มีกองไฟอุณหภูมิภายในถ้ำก็สูงพอที่จะทำให้หน้าของใครคนหนึ่งไหม้ได้
จากนั้นฟางเจิ้งจือก็หันหลังกลับไป
เขาหันกลับไปพร้อมรอยยิ้มอันสดใสดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับมีเปลวเพลิงเคลื่อนไหวอยู่
ปิงหยางเจ้ารู้จักวิธีเต้นรำไหม?
เต้นรำ? ปิงหยางตกใจอย่างชัดเจน นางยังตั้งตัวไม่ทัน นางไม่เข้าใจว่าทำไมฟางเจิ้งจือถึงกล่าวเรื่องนั้นออกมาในสถานการณ์แบบนี้
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือกลับเริ่มสัมผัสร่างของนางจากใบหน้าและเลื่อนลง…
แบบนี้…เข้าใจไหม? ฟางเจิ้งจือกล้าวพร้อมกับขยับร่างกาย
นี่..นี่คือการเต้นรำงั้นหรือ? ปิงหยางเงียบไปสักพักก่อนจะถามออกมา
อะไรเจ้าไม่รู้งั้นรึงั้นเพลงนี้ล่ะเจ้ารู้ไหม?…อันนี้ล่ะ เจ้ารู้ไหม?…เห้อ เจ้ามันน่าเบื่อจริงๆ! ฟางเจิ้งจือพยายามทำท่าอื่นๆอีกสองสามครั้ง อย่างไรก็ตามเขาโบกมือด้วยความผิดหวังเพราะปิงหยางยังคงอยู่ในอาการงุนงง
ในที่สุดปิงหยางก็ได้สติจากความอายกลายเป็นความโกรธถึงขีดสุด
ไร้ยางอาย!!
เอ๊ะเจ้าจะทำอะไร ต่อสู้กับข้างั้นรึ? ตัวเล็กๆของเจ้าคิดว่าจะเอาชนะข้าได้งั้นรึ? เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเผลอตบก้นของเจ้างั้นหรือ?
ไร้ยางอายที่สุดข้าจะฆ่าเจ้า!!
ตึง!
ถ้ำที่ปิดอยู่ถูกเปิดออกทันที่ร่างสองร่างที่ต่อสู้กันกลิ้งออกมาจากถ้ำ
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว
แสงสีเงินของดวงจันทร์ส่องกระทบร่างทั้งสองที่แนบชิดกันอยู่
ปล่อย!อ้าปากของเจ้าออกเดี๋ยวนี้! ฟางเจิ้งจือกล่าวพร้อมกับเส้นเลือดบนหน้าผากที่ปูดโปน นางกัดไหล่เขาอย่างแรงถ้าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ ไหล่ของเขาคงขาดไปแล้ว
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกัดฟันเพราะความเจ็บปวดปิงหยางก็อ้าปากของนางออกจากไหล่ และพุ่งมาที่ใบหน้าของฟางเจิ้งจือในทันที
อื้ม… ฟางเจิ้งจือเบิกตากว้าง
เขารู้สึกถึงรสริมฝีปากเล็กๆบนริมฝีปากของเขาสมองของเขาพร่ามัวเล็กน้อย บัดซบ! ข้าถูกบังคับทำแบบนี้อีกแล้ว?!
ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังจะโอบกอดปิงหยางนางกลับผละร่างของนางออกทันที
หึเจ้าคิดว่าข้าจะชอบคนไร้ยางอายอย่างเจ้างั้นรึ? ถ้าเจ้าจะแต่งงานกับข้าอย่างน้อยเจ้าต้องมีวัง! ปิงหยางทำหน้ามุ่ยพร้อมกล่าวออกมา
วัง?เจ้าคิดจะให้กล้าชิงตำแหน่งจักรพรรดิมางั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือยิ้มอย่างชั่วร้าย
กล้าดียังไง?!ถ้าเจ้ากล้าที่จะชิงตำแหน่งจากท่านพ่อ ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าเด็ดขาด อย่างไรก็ตามถ้าเจ้าจะไปบุกยึดจักรวรรดินักรบศักดิ์สิทธิ์หรืออาณาจักรแสงจันทร์นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่วังต้องสวยกว่าของอาณาจักรเซี่ยนะ นอกจากนี้ข้ายังต้องการห้องนอนที่ตกแต่งด้วยไข่มุกเงางามและข้าต้องการผนังที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงหมื่นชิ้น! แล้วก็…
เชิญเจ้าตามสบายข้าจะไปแล้ว ฟางเจิ้งจือกล่าวพร้อมเดินเข้าไปในป่า
เดี๋ยวก่อนเฮ้…เจ้าไร้ยางอาย เจ้าจะไปที่ไหน? ปิงหยางตามฟางเจิ้งจือไป
เลิกตามข้าได้แล้ว
ไม่ข้าจะตามเจ้าไป!
ข้าไม่มีวังข้าไม่มีทั้งไข่มุก ไม่มีทั้งอัญมณีสีแดงหมื่นเม็ด!
เจ้ามี!
ไม่ข้าไปมีตอนไหนกัน?
เจ้ามีจริงๆ!ตราบใดที่เจ้าแต่งงานกับข้าท่านพ่อจสร้างวังให้เจ้าที่ตีนเขาคังหลิง และสร้างห้องที่มีไข่มุกกับอัญณีสีแดงหมื่นเม็ดให้! มันเป็นสินสอดทองหมั้นของข้า!
จริงรึ?
แน่นอนท่านพ่อย่อมให้ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ!
ได้งั้นเจ้าก็สามารถตามข้ามาได้
… ปิงหยางพูดไม่ออก เจ้าไร้ยางอาย ถ้าท่านพ่อสร้างวังให้เจ้ารวมถึงห้องที่เต็มไปด้วยไข่มุกและอัญมณีสีแดง เจ้าจะแต่งงานกับข้าไหม?
ตอนนี้ตำแหน่งของฉือกูเหยียนคือรองหัวหน้าสาวใช้อุ่นเตียงให้ข้าเจ้าคิดว่าหลังจากเข้ามาในครอบครัวฟางแล้วตำแหน่งของเจ้าคืออะไร? ฟางเจิ้งจือถามอย่างสบายๆ
งั้น…ข้าก็จะเป็นสาวใช้อุ่นเตียงที่มีตำแหน่งรองจากพี่เหยียนหลังจากพี่เหยียนถูกเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าข้าก็จะกลายเป็นรองหัวหน้าสาวใช้ไง ใช่ไหม? ปิงหยางตอบอย่างจริงจังหลังจากคิดไปสักพัก
เจ้าดูไม่เรื่องมากเท่าไรนัก?
แน่นอนข้าไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้วโดยเฉพาะกับพี่เหยียน…โอ้ใช่ พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกัน?
หาหยุนชิงวู ฟางเจิ้งจือตอบ
หาหยุนชิงวู?!เจ้า…เจ้าจะไปที่หนองน้ำยักษ์งั้นรึ? มันเป็นที่ที่อันตรายที่สุด ทั้งเผ่าอสูรและเผ่าปีศาจอยู่ที่นั่นมากมาย…ข้าได้ยินว่ามีราชาอสูรมากกว่าสิบตนและตัวตนระดับเทพเจ้าอย่างน้อยสามคน ยิ่งไปกว่านั้นจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือก็อยู่ที่นั่น! ปิงหยางพูดด้วยความแปลกใจกับคำตอบของฟางเจิ้งจือ
……………………………………..