…
ที่หน้าผาด้านหน้าศาลาเต๋าสวรรค์ฟางเจิ้งจือไม่ได้สนใจความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ตีนเขา อย่างไรก็ตามตัดสินจากเวลา ตอนนี้โม่ฉานฉือน่าและคนอื่นน่าจะเข้าไปในซากปราสาทสีดำแล้ว
เช่นนั้นเขาต้องจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด!
หลังจากปิงหยางไปหลบด้านหลังเขาแล้วฟางเจิ้งจือดึง ดาบที่เปล่งประกายสีเขียวออกมาทันที
มันเป็นดาบที่เขาได้มาจากหอคอยหลิงหยุนแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าดาบไร้ร่องรอย แต่มันก็นับได้ว่าเป็นดาบชั้นยอดเช่นกัน ในแง่ของคุณภาพและความคม
เมฆเคลื่อนไหวไปตามใบดาบ
แสงสีเขียวจากใบดาบสะท้อนไปถึงฟากฟ้า โฮก!ในเวลาเดียวกันราวกับมีมังกรสีเขียวอ้าปากกว้างอยู่ด้านหน้าใบดาบ
ระวังท่านเทพปีศาจ! แม้ว่าราชาอสูรและทหารปีศาจจะหวาดกลัวความโหดร้ายของเทพปีศาจ แต่เขาก็นับได้ว่าเป็นความหวังเดียวของชัยชนะครั้งนี้
ในเวลาเดียวกันโจวฉีลุกขึ้นยืนจากพื้น
สภาพของเขาดูน่าสงสารเล็กน้อยใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยผงปูนขาว เขาไม่แม้แต่จะสามารถลืมตาขึ้นได้
นอกจากนี้ยังมีคราบเลือดเปื้อนทั่วใบหน้าและมุมปากของเขา
ตาย! เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
ไม่มีใครรู้ว่าโจวฉีได้ยินคำเตือนจากราชาอสูรทั้งหกและทหารปีศาจหรือไม่อย่างไรก็ตามคลื่นพลังสีเทาถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาราวกับสัตว์ร้าย
ครืน! พื้นดินแตกออกเพราะแรงกดดันอันทรงพลังยิ่งไปกว่านั้นหญ้าที่เขียวขจีบนพื้นกลายเป็นสีดำในทันที
โจวฉีกระโจนเข้าหาดาบสีเขียวของฟางเจิ้งจือทันที
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ
ทั้งราชาอสูรและทหารปีศาจพวกเขาไม่สามารถเชื่อสายตาของตัวเองได้
นอกจากพวกเขาแม้แต่ฟางเจิ้งจือเองก็ตกตะลึงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นคนโง่พอที่จะกระโดดเข้าใส่ดาบของเขา
ตูม!
โจวฉีชนเข้ากับดาบสีเขียวอันเปล่งประกายคลื่นสีเทารอบตัวเขาหายไปทันที
แต่ทันใดนั้นแสงสีเขียวอันเปล่งประกายบนใบดาบกลับถูกดูดเข้าไปในรอยแผลเป็นรูปกากบาทที่หน้าผากของโจวฉี
มันแปลกมาก
เกิดอะไรขึ้น? ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังแปลกใจ เขาสังเกตุเห็นว่าบาดแผลของโจวฉีกำลังได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
โอ้ดูเหมือนเจ้าโจวฉีจะแข็งแกร่งมาก! ปิงหยางอ้าปากค้างกับฉากตรงหน้า
อย่างนั้นรึ? ฟางเจิ้งจือถามนาง
เอ่อ…พวกเราควรหนีไหม? ปิงหยางกระพริบตาและถามกลับ
เป็นความคิดที่ดีแต่ไม่ใช่ตอนนี้… ฟางเจิ้งจือส่ายหน้า
หลังจากจบประโยคโจวฉีที่พึ่งดูดซับพลังจากดาบสีเขียวได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง
ตัดสินจากความเร็วของโจวฉี..
เขาเร็วกว่าก่อนหน้านี้มาก
ยิ่งกว่านั้นคลื่นพลังสีเทาปล่อยออกมาจากร่างเขาทุกทิศทางราวกับตาข่ายยักษ์ที่พุ่งเข้าหาฟางเจิ้งจือ
วิ่ง! เมื่อเห็นตาขายยักษ์สีเทาพุ่งมา ฟางเจิ้งจือจับมือปิงหยางและกระโดดลงจากหน้าผาทันที
หืม?เจ้าไม่ได้บอกว่านี่ไม่ใช่เวลาหนีงั้นหรือ? ปิงหยางกอดแขนของฟางเจิ้งจืออย่างไม่สามารถควบคุมได้
จากนั้น…
ไม่มีจากนั้นเพราะนางถูกฟางเจิ้งจือดึงตกลงมาด้วย
กรี้ด!ช่วยด้วย!
… บางครั้งฟางเจิ้งจือรู้สึกว่าความสามารถของปิงหยางนั้นพัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตามบางทีเขารู้สึกว่าความสามารถในการแสดงยังดูอ่อนด้อยเช่นเคย การที่นางมาตะโกนขอความช่วยเหลือตอนนี้มันดูสมเหตุสมผลตรงไหน?
ฟางเจิ้งจือไม่อยากสนใจปิงหยางมากนั้นเขาหันไปมองรอยยุบเล็กๆที่หน้าผาด้านบน
มันเป็นตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้ตำแหน่งที่ถูกตาข่ายยักษ์สีเทาโจมตีใส่
อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าโจวฉีต้องตามมาแน่นอน
ตาย! เสียงเย็นชาดังขึ้นอีกครั้งด้านหลังฟางเจิ้งจือ
ฟางเจิ้งจือเดาไว้แล้วว่าโจวฉีต้องตามมาอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้กังวลเกินไปเพราะเขาได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
เขาบิดร่างกายไปด้านหลัง
ปั้ง!ฝ่ามือของทั้งสองชนกันอีกครั้ง
ร่างของโจวฉีลอยกลับขึ้นไปเล็กน้อยขณะที่ฟางเจิ้งจือและปิงหยางดิ่งลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วเพราะแรงส่งจากฝ่ามือโจวฉี
ท่านเทพปีศาจโปรดระวังมันอาจจะเป็นแผน! หนึ่งในราชาอสูรรีบกระโดดตามโจวฉีลงไปเพื่อเตือน
เจ้าเด็กเหลือขอตายซะ! สีหน้าโจวฉีดำคล้ำอีกครั้งเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือหลบหนีไปกับปิงหยาง
ในขณะเดียวกันเขาเห็นร่างของราชาอสูรที่ตามลงมาเขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอามือตบเข้าที่หน้าอกของราชาอสูรและไล่ตามฟางเจิ้งจือไปด้วยความรวดเร็ว
ปัง!ร่างของราชาอสูรลอยกระเด็นกลับขึ้นไปบนหน้าผา เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว เขาดูอ่อนแอราวกับตายไปแล้ว
พี่หยิงท่านเป็นยังไงบ้าง?!
พี่หยิง!
ใครก็ได้รีบไปเอายามาเร็วเข้า!
สีหน้าของราชาอสูรคนอื่นเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่คิดว่าโจวฉีจะโหดร้ายขนาดทำร้ายราชาอสูรเพื่อไล่ตามเมิ่งเทียนได้ขนาดนี้
บัดซบ!
เห้อ…
ราชาอสูรคนอื่นๆต่างถอนหายใจพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆเมื่อเจอกับเมิ่งเทียนหรือต่อให้เป็นเทพปีศาจที่อยู่ฝ่ายเดียวกันก็ตาม ด้านล่างสุดของผาโจวฉีเร่งตามฟางเจิ้งจือไปอย่างรวดเร็ว
คลื่นสีเทาราวกับตาข่ายยักษ์แผ่ออกมารอบตัวของโจวฉีอย่างต่อเนื่อง
ฟางเจิ้งจือกำลังเจอกับปัญหา
ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้เปรียบอย่างแน่นอนถ้าลอบโจมตีจากด้านหลังอย่างไรก็ตามเขาไม่คิดเลยว่าสภาพร่างกายของโจวฉีจะกลับเป็นปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาต้องใช้พลังอะไรบางอย่างแน่นอน
มันจะเป็นการดูดกลืนพลังของคนอื่นเหมือนที่หนานกงเฮาเคยใช้หรือเปล่า?
แต่มันดูต่างออกไปเล็กน้อย
ฟางเจิ้งจือจำได้ว่าวิชาสังเวยเลือดของหนานกงเฮาสามารถดูดกลืนพลังได้แต่ต้องปลดปล่อยพลังที่เคยดูดไปก่อนหน้านี้
แต่พลังของโจวฉีดูน่ากลัวกว่าเล็กน้อย…
หลังจากดูดซับความเปล่งประกายจากดาบสีเขียวบาดแผลของเขาหายเป็นปกติและดูมีพลังมากขึ้น
ราวกับว่าพลังของดาบนั้นถูกดูบซับโดยสมบูรณ์
นอกจากนั้นคลื่นพลังสีเทาที่ปล่อยออกมาจากร่างของเขาดูหนาแน่นขึ้นและมีกลิ่นของความตาย
สัญชาตญานของเขาบอกว่า…
เขาไม่ควรเข้าไปติดอยู่ในตายข่ายยักษ์นั่นต่อให้เขาไม่ตายแต่ใช่ว่าปิงหยางจะรอด
ตาย! ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังคิดวิธีโต้กลับ โจวฉีก็ตบมาที่เขาอย่างรวดเร็ว
โง่หรือไง?จะเพิ่มความเร็วให้ข้าอีกงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือกำลังจะยืดฝ่ามือออกไป
อย่างไรก็ตามก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะกระทบกับฝ่ามือของโจวฉีเขาสังเกตุเห็นสายตาที่หรี่เล็กของโจวฉี
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้โง่!
เขาผ่านการต่อสู้มามากมายเขาสามารถคาดเดาการกระทำของคู่ต่อสู้ได้ อย่างน้อยเขาก็มันใจว่ากาตบครั้งนี้ของโจวฉีต้องไม่ใช่การโจมตีธรรมดา
ฟางเจิ้งจือดึงมือกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วบวกกับก่อนหน้านี้ที่ฟางเจิ้งจือบีบเอวของปิงหยางเบาๆ
กรี้ด! เสียงร้องของปิงหยางดังขึ้น
ในเวลาเดียวกันแสงสีทองได้พุ่งไปที่ลำคอของโจวฉี
หอกเพลิงฉีหลิน!
หนึ่งในสิบสมบัติที่มีพลังโจมตีอันรุนแรงของอาณาจักรเซี่ย!
นอกจากนี้มันยังเป็นอาวุธโปรดของปิงหยาง
หลังจากฟางเจิ้งจือ’ส่งสัญญาน’นางก็โจมตีออกไปโดยไม่ลังเล มันทั้งแม่นยำและรุนแรง
กลางอากาศแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะหลบ
อย่างไรก็ตามโจวฉีเป็นคนธรรมดา? ไม่มีทาง
เมื่อโจวฉีเห็นหอกฉีหลินใกล้เข้ามาเขาจึงเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแปลกๆราวกับตีลังกากลางอากาศ
มันเป็นไปได้งั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อยเพราะบนอากาศไม่มีพื้นผิวให้เขาใช้เป็นที่เหยียบ
อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือรู้ได้อย่างรวดเร็วคลื่นสีเทาก่อตัวขึ้นที่เท้าของโจวฉี
ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ประโยชน์จากคลื่นอากาศ
ฟางเจิ้งจือเองก็มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เล็กน้อยนอกจากนี้มันเป็นเพราะพลังเฉพาะตัวของเทพปีศาจทำให้เขาตีลังกากลางอากาศได้
แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือก็มีบางอย่างที่บ้าบอพอกัน
ปีก!
ปีกสีดำขนาดมหึมาคู่หนึ่งเขาสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างฉับพลันในอากาศ
ฟึบ!ปีกสีดำขนาดใหญ่กางออกอย่างสมบูรณ์ ลมแรงพัดผ่านผ้าคลุมสีดำ
กลางอากาศ!
มันคือสมรภูมิหลักของฟางเจิ้งจือตอนนี้!
ควบคุมคลื่นอากาศ?แม้ว่ามันจะทำให้โจวฉีเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้แต่มันจะเทียบกับปีกจริงๆได้ยังไง?
นั่นมันปีกสีดำ! ท่าทีของโจวฉีเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นกล้ามเนื่อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของฟางเจิ้งจือ
โอ้?เจ้ารู้จักมันด้วยหรือ? ฟางเจิ้งจือตกใจเล็กน้อย เขาจำได้ว่าขโมยปีกสีดำนี้มาจากเจ้าปีศาจ
จากน้ำเสียของโจวฉีดูเหมือนว่าเขาไม่เพียงแต่รู้จักมันแต่คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
ตาย! ฟางเจิ้งจือจับมือของปิงหยางเพื่อบังคับทิศทางของหอก
ฉึก! เกิดรูลึกพอที่จะมองเห็นได้ว่ามีกระดูกปกคลุมร่างกายของโจวฉีอีกชั้น
การแสดงออกของโจวฉีเปลี่ยนไปเขาหันร่างและแทงมือเข้าไปที่ผาหิน จากนั้นเขาก็ดึงคลื่นสีเทากลับเข้าร่างและใช้เท้าดันกับหน้าผาอย่างแรงเพื่อกระโจนขึ้นไปด้านบน
หืม?เขาไม่สู้แล้วรึ? ฟางเจิ้งจือแปลกใจเล็กน้อย เขาเห็นโจวฉีดึงพลังกลับไป
เอ๋?…ดูเหมือนเขากำลังหนีหรือเปล่า? ปิงหยางเองก็แปลกใจเช่นกันเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
หนี?! ฟางเจิ้งจือเคยวิ่งหนีจากสนามรบหลายครั้ง อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ศัตรูหนีจากเขา
เอาจริงดิ?
เขาไม่ใช่ตัวตนระดับเทพเจ้าหรอกรึ?
ทำไมเขาถึงหนี?
……………………………………..