…
ฟางเจิ้งจือ รู้สึกงุนงงในขณะที่จ้องมองไปยังทะเลสาบที่ห่างออกไปไกล ตามปกติ เหยียน ซิว จะมาหาเขาแล้ว
อย่างไรก็ตามเหยียน ซิว ไม่มีการตอบรับแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะส่งเสียงออกมา
มียางอย่างผิดปกติ!
มีบางอย่างเกิดขึ้น!
เหยียนซิว ไม่มีทางเมินข้า นอกจาว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา!?
ฟางเจิ้งจือ รีบคิดอย่างหนัก แต่เขาไม่ได้ช้าลงเลย นั่นเป็นเพราะเหล่าศิษย์ศาลาเต๋าสวรรค์ตามเขามาติดๆ นอกจากนี้ถ้ามีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับ เหยียน ซิว เขาต้องไปช่วย
ใกล้แล้วใกล้ถึงแล้ว! !
ฟางเจิ้งจือ เริ่มวิตกมากขึ้นเมื่อเขาเข้าใกล้ทะเลสาบ
เหยียนซิว เจ้าอยู่ที่ไหน? เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เข้าใกล้พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
มันส่งเสียงเบาๆออกมาฟาง เจิ้งจือ คงจะไม่รู้สึกตัว ถ้าเขาไม่ได้เติบโตมาในป่า เขาสามารถสัมผัสได้
เมื่อได้ยินเสียงจู่ๆก็มีชายชุดคนหนึ่งพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ด้านซ้าย เขารวดเร็วอย่างมาก
ซุ่มโจมตี? ฟางเจิ้งจือ แค่คาดเดาว่าเป็นการซุ่มโจมตี แต่เมื่อเขาเห็นชายชุดดำคนนั้น เขาก็ตระหนักในทันทีว่ามันยิ่งกว่าที่เท่าคิดเอาไว้
เขาขว้างตะปูออกไปอย่างไม่ลังเล
หือ? ชายคนนั้นประหลาดใจกับการตอบสนองของฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่เขาจะหลบในทันที
ครึกครึก ครึก …
ชายชุดดำหันมองรอบๆและตระหนักว่ามันไม่ใช่อะไรอื่น เป็นแค่ตะปูธรรมดา เขารู้สึกตกใจอย่างชัดเจน การใช้วิธีแบบนี้หาได้ยากมากในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เจ้าเด็กเหลือขอเจ้าจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น! ใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะวิ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามฟาง เจิ้งจือ ไม่มีอารมณ์มาเสวนาด้วย
เขาคิดแต่เรื่องของเหยียน ซิว หลังจากถูกซุ่มโจมตีโดยชายชุดดำ มันยิ่งทำให้เขากังวลมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม…การซุ่มโจมตียังไม่จบแค่นั้น
หลังจากฟาง เจิ้งจือ หลบการโจมตีครั้งแรก ชายสองคนก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ทั้งสองฝั่ง
ในเวลาเดียวกันเขารู้สึกถึงความเย็นด้านบนศีรษะ
สี่คนเหรอ?! ฟางเจิ้งจือ ผงะ เพราะเขารู้สึกได้ว่าคนซุ่มโจมตีเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอกลับกันพวกเขาแข็งแกร่งมาก
ถ้าเขาไม่ได้เอะใจเรื่องที่เหยียน ซิว ไม่ตอบเขา และไม่มีตะปูติดตัว เขาคงหลบการโจมตีเมื่อครู่ไม่ได้
เขาไม่สามารถหลบการโจมตีจากทั้งสามทางพร้อมกันได้
มันคือความแข็งแกร่งเขาไม่แกร่งพอจะหลบการโจมตีทั้งหมดนี้ได้
นั่นเพราะพวกเขารวดเร็วมาก
ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นร่างของ ฟาง เจิ้งจือ กระเด็นออกจากพื้น เขาหลบดาบบนหัวของเขา แต่เขาไม่สามารถหลบฝ่ามือทั้งสองที่พุ่งมาจากด้านหน้าได้
พลังที่รุนแรงปะทะที่หน้าอกของเขาแรงระเบิดส่งเขาลอยไปด้านหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะเดียวกัน พลังที่รุนแรงก็ปะทะที่ด้านหลังของเขาอีก มันเป็นฝ่ามือของชายที่ลอบโจมตีไม่สำเร็จ อั้ก! ฟางเจิ้งจือ กระอักเลือดออกมาคำใหญ่
เขาทรุดลงกับพื้น
ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราสี่คนจะต้องมาทำงานร่วมกันเพียงเพราะชายที่อยู่ในระดับจุติน่าประหลาดจริง! ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้น
ชายที่อยู่ในระดับจุติ…พวกเราทั้งสี่ทำงานร่วมกัน …พวกมันเป็นเซียนเหรอ?! ฟาง เจิ้งจือ คาดเดาพลังของพวกเขาหลังจากได้ยิน
มีแต่คนที่อยู่ในระดับจุติเท่านั้นที่จะพูดถึงคนที่อยู่ในระดับจุติด้วยน้ำเสียงที่ดี
สี่เซียน…ปรากฏตัวขึ้นที่ตีนเขาของศาลาเต๋าสวรรค์พร้อมกัน?
ฟางเจิ้งจือ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์เขาได้รู้ถึงความแข็งแกร่งไม่มากก็น้อยของทั้งห้าสำนักในแดนศักดิ์สิทธิ์ในศาลาเต๋าสวรรค์มีผู้นำศาลาเพียงหนึ่งคนกับผู้อาวุโสอีกเจ็ดคน รวมถึงศิษย์ที่อยู่ในระดับเซียนอีกประมาณสิบสองคน
หรือกล่าวอีกนัยก็คือในศาลาเต๋าสวรรค์มีเซียนประมาณยี่สิบคน
ฟางเจิ้งจือ จึงพอเดาได้ว่าสำนักอื่นๆก็คงมีขุมกำลังประมาณนี้เช่นกัน
เมื่อรวมทั้งห้าสำนักจะพอสรุปได้ว่าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมีเซียนอยู่ทั้งหมดประมาณร้อยคน
ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้
อย่างไรก็ตามคำถามหนึ่งข้อยังคงไม่ได้รับคำตอบ
ฟางเจิ้งจือ เคยได้ยินวลีที่ว่า หนึ่งศาลา สี่เซียน สิบสามกองตรวจการ จากการจัดอันดับมันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ศาลาเต๋าสวรรค์นั้นจะอยู่เหนือสี่เซียน
นอกจากศาลาเต๋าสวรรค์ทำไมถึงมีเซียนอีกสี่คนอีก และทำไมพวกเขาทั้งสี่ถึงไม่มาช่วยตอนที่สู้ในแดนใต้?ถ้าเซียนไม่ได้รับให้เข้าไปยุ่งในสงครามของแต่ละอาณาจักร แล้วทำไม เหยียน เฉียนหลี่ ถึงทำแบบนั้นได้?
นี่เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน
แน่นอนว่าฟาง เจิ้งจือ เคยถามเรื่องนี้กับเซียนสวรรค์พักพิง ผ่านทาง วู่ จวี้เอ๋อ
อย่างไรก็ตามเซียนสวรรค์พักพิงไม่ได้ตอบฟาง เจิ้งจือ โดยตรง เขาเพียงพูดว่าเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เข้าสู่ดินแดนศักสิทธิ์จะเข้าใจทุกอย่างเอง
แต่ตอนนี้…ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และศาลาเต๋าสวรรค์มาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว เขาอ่านหนังสือในศาลาเต๋าสวรรค์ แต่เขาก็ยังไม่พบคำตอบ
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
มีเซียนสี่คนมาที่นี่เพื่อฆ่าเขา
หรือศาลาเต๋าสวรรค์ตั้งใจวางแผนเอาไว้?
ไม่น่าเป็นไปได้
ฟางเจิ้งจือ ล้มเลิกความคิดนั้นไป เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ศาลาเต๋าสวรรค์เองก็ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ล่วงหน้าได้เช่นกัน
หากเป็นเช่นนั้น… มีคำอธิบายที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
อย่างที่ฉือ กูเหยียน กังวล คนจากเก้าขุนเขาและศาลาหยินยางจะมาหาเขาทันทีที่เขาออกจากศาลาเต๋าสวรรค์
พวกเขาน่าจะมาจากทั้งสองที่นี้?
ทั้งสองสำนักส่งคนมางั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือ เลิกคาดเดา เพราะตอนนี้เขาอยู่ในสถการณ์ที่ยากจะรับมือกว่าเดิมแล้ว
ข้างหลังเขาเป็นศาลาเต๋าสวรรค์
ด้านหน้าเขาก็เป็นเก้าขุนเขาและศาลาหยินหยาง ภายใต้สถานการณ์ปกติเขาไม่มีทางออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิตอยู่แน่นอน
เห้อนี่เป็นชะตาของข้างั้นหรือ? ฟาง เจิ้งจือ สงสัย ถ้าเขาไม่รีบออกมาจากศาลาเต๋าสวรรค์ขนาดนี้ ทุกอย่างจะเลวร้ายน้อยลงกว่านี้หรือไม่?
แต่ตอนนี้เขาก็กลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้ว
แม้ว่าเขาจะเลือกที่จะอยู่ในศาลาเต๋าสวรรค์ต่อเขาก็ไม่สามารถทนดู ฉือ กูเหยียน สู้กับคนที่ต้องการเข้ามาฆ่าเขาเรื่อยๆได้ ถ้าเป็นแบบนั้นสงครามในศาลาเต๋าสวรรค์ก็พร้อมจะปะทุขึ้นมาตลอดเวลา
มันแทบไม่ต่างกันเลยยังไงการต่อสู้ก็ต้องเกิดขึ้น ต่างกันแค่ที่เขาหรือ ฉือ กูเหยียน จะต้องเป็นผู้สู้
เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมของเขาได้
อย่างไรก็ตามปัญหาในตอนนี้คือเขาไม่สามารถสู้กับชะตากรรมของเขาได้ เพราะมีเซียนถึงสี่คนยืนอยู่รอบๆเขา รวมถึงผู้อาวุโสทั้งสามและศิษย์จากศาลาเต๋าสวรรค์จำนวนมากอยู่ด้านหลัง
เขาจะสู้ได้ยังไง?
……………………………………..