Chapter 136: มาทั้งสองคนเลยนั่นแหละ
ในเวทีเมื่อเฉินตงผสานรวมกับสัตว์วิญญาณของเขาหนวดจํานวนมากยื่นออกมาจากด้านหลังเขาเหมือนแม้ยาว
ร่างกายของเหอเสี่ยวหยูกําลังลุกเป็นไฟและเธอหลบหนวดที่พุ่งเข้ามาได้อย่างว่องไวทุกครั้ง ที่แม้ยาวกําลังจะตีเธอดูเหมือนว่ามันจะคาดหวังให้เธอบิดร่างกายของเธอไปในตําแหน่งแปลกๆ เพื่อให้หลบหนีการโจมตีของหนวดได้อย่างง่ายดาย
ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะกังวลแทนเธอ ผู้ชมต่างลุ้นกับเด็กผู้หญิงมากและไม่ต้องการเห็นเธอถูกหนวดเหล่านั้น
เซียวู่ฉางมองไปที่หานเฟยและพูดว่า “หานเฟยฉันคิดว่าฉันเคยเห็นคุณทําท่าทางแบบเดียวกับเหอเสี่ยวยูหรือเปล่านะ”
เซียงหนานเยาะเย้ย “คุณสองคนมีความรักงั้นหรอ? คุณและเธอได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวลึกลับร่วมกันที่ไม่มีใครรู้หรอ?”
ใบหน้าของหานเฟยเปลี่ยนเป็นสีดํา “ไปให้พ้น! ฟางเจ๋อสอนฉันเรื่องนี้! และเขาไม่อนุญาตให้ฉันสอนเรื่องนี้กับใคร”
“ห้ะ”
คนอื่น ๆ ประหลาดใจฟางเจ๋อสอนพวกเขาหรอ? ฟางเจ๋อสอนทักษะการต่อสู้ให้พวกเขาอย่างลับๆ? นั่นมันมากเกินไปแล้ว! ทําไมเขาไม่สอนพวกเราบ้างฉัน
หวังไปยูขมวดคิ้ว “แม้ว่าเหอเสี่ยวยูจะสามารถหลีกเลี่ยงหนวดเหล่านั้นได้ แต่การโจมตีของเฉินตงดูเหมือนจะมากเกินไป เหอเสี่ยวยูควรเข้าหาเขาถึงจะใช้การโจมตีของเธอเองได้”
หานเฟยส่ายหัว “เหอเสี่ยวยูกําลังจะแพ้ หากเธอเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ด้วยธนูเพียงเล็กน้อย เธอก็สามารถชนะได้ เธอจะไม่สามารถชนะได้หากเข้าใกล้เขาไม่ได้”
ตามที่เขาคาดไว้ในเวทีเหอเสี่ยวยูมุ่ยหน้า เฉินตงยากที่จะรับมือ! ทําไมเขาถึงมีหนวดมากมายขนานดี้? หนวดเหล่านี้แกว่งไปมาและฉันก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย!
เหอเสี่ยวยูโกรธมากจนเธอขว้างเบ็ดไม้ไผ่ของเธอออกโดยใช้พลังจิตวิญญาณทั้งหมดของเธอ
ตูม!
หนวดหลายเส้นถูกบดขยั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันพลังของเบ็ดไม้ไผ่นได้
เฉินตงโดนกระแทกด้วยเบ็ดทําให้กระเด็นถอยออกไปสี่หรือห้าเมตรและอาเจียนออกมาเป็นเลือด
แต่ก่อนที่เขาจะสู้กลับเขาได้ยินเหอเสี่ยวหยู่ตะโกนว่า “ฉันยอมแพ้ แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเอาชนะคุณได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ทําให้คุณบาดเจ็บได้”
เฉินตงหน้าแดงด้วยความโกรธ?!
เหอเสี่ยวยูเดินไปหยิบเบ็ดอย่างช้าๆ เมื่อเธอเดินผ่านเฉินตงเธอพูดกับเขาอย่างจริงจังว่า “มันไม่มีประโยชน์หรอกแม้ว่าคุณจะเข้าสู่ห้าอันดับแรก คุณตายแน่”
เฉินตงตอกกลับ “อิ่ม! มันไม่ใช่เรื่องของคุณอยู่ดีล่ะน่า!”
เหอเสียวหยู่พูดอีกครั้งง่ายๆว่า “คุณแพ้แน่”
หานเฟยหัวเราะ “อย่างน้อยเธอก็ไม่ตายนะ”
ในรอบชิงชนะเลิศหานเฟยเท่านั้นที่ไม่มีคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามทั้งสี่คนต่างก็โล่งใจ
เฉินตงได้สู้กับหญิงสาวชื่อซูจินจากหมู่บ้านวงใจสวรรค์อาวุธของหญิงสาวคือธนู ทักษะการต่อสู้ด้วยธนูอันทรงพลังที่เธอได้แสดงให้เห็นถึงพลังของธนูอีกครั้ง
เฉินตงอยู่ใช้เวลาไม่ถึงห้านาที แม้ว่าเขาจะเก่งในการโจมตีจากระยะไกล แต่คู่ต่อสู้ของเขาก็สามารถโจมตีจากระยะไกลได้ หนวดของเขาแตะต้องตัวเธอไม่ได้ด้วยซ้ำดังนั้นเขาจึงต้องพ่ายแพ้
กูหลงยู่โชคร้ายมากที่คู่ต่อสู้ของเขาคือฟางซิงซึ่งสิ่งที่ทําให้ทุกคนประหลาดใจคือกหลงยู่ยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่ได้เข้าสู่เวที
กูหลงยู่นั่งบนที่นั่งของเขาและอึดฮัด “คุณคิดว่าฉันโง่เหรอไงฟางซิงเป็นถึงผู้นําทีมเด็กของดวงใจสวรรค์ได้ เธอจะอ่อนแอได้อย่างไร”
ดังนั้นฉากต่อไปนี้จึงน่าอายมาก มีเด็กผู้หญิงสองคนที่เหลืออยู่ซึ่งมาจากทีมดวงใจสวรรค์คือซูจินและฟางซิงในทีมนําสวรรค์เหลือเพียงหานเฟยเท่านั้นแม้ว่าหานเฟยจะแพ้ในการต่อสู้ครั้งต่อไป แต่เขาก็เป็นม้ามืดของการแข่งขันชิงทรัพยากรในปีนี้ที่ทําให้หมู่บ้านน้ำสวรรค์ได้รับการจัดอันดับที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งก็คืออันดับที่สอง
เมื่อเห็นผู้ตัดสินกําลังเตรียมจับฉลากหานเฟยจึงลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ไม่ต้องจับฉลาก คุณสองคนรุมฉันเลยก็ได้”
ทุกคน: “????”
ผู้ตัดสิน: “????”
ฟางซิงและซูจินตกตะลึง เขาจริงจังงั้นหรอ ฟางชิงรู้ว่าหานเฟยแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอ! เขามั่นใจในตัวเองขนาดนี้ได้อย่างไร?
เป็นอีกครั้งที่ผู้ชมอยู่ในความโกลาหล
“ฆ่าเขาซะ”
“เขาพูดเองนะ”
“เอาเลย! สอนบทเรียนให้เขา”
ผู้ตัดสินไม่ปฏิเสธแต่พูดซ้ำว่า “หานเฟยคุณต้องการท้าทายคนสองคนในเวลาเดียวกันหรอ”
หานเฟยตะคอก “ใช่ ฉันจะได้จบเรื่องนี้ในครั้งเดียว!”
ผู้ตัดสินไม่สนใจเขาและมองไปที่ฟางซิงและซูจิน “คุณคิดอย่างไร? หากคุณสองคนไม่เห็นด้วยฉันจะจับสลากต่อไป”
ฟางซิงกล่าวอย่างหนักแน่น “ไม่มีปัญหา
ฟางซิงสงสัยในพลังการต่อสู้ของหานเฟย เขาไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ใด ๆ ตามที่เธอสังเกตเห็นเขามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งเท่านั้น การโจมตีของชีจี๋นั้นทรงพลังมาก แต่ก็ไม่สามารถแม้แต่จะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายของเขาเลย
หานเฟยก้าวขึ้นไปบนเวทีและเกาท้องของเขา “เลือกได้ชาญฉลาด แต่เนื่องจากคุณสองคนเป็นเด็กผู้หญิงฉันจึงไม่ชอบฆ่าและไม่ชอบรังแกผู้หญิง น่าเสียดายที่เปยเฮงแพ้ไปแล้ว ไม่งั้นฉันจะตัดหัวเขาทิ้งที่นี่แน่นอน”
เปยเฮงนั่งอยู่บนที่นั่งของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว เขาโกรธมาก แต่ไม่กล้าพูดอะไร ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้สูงไปกว่าของ ชีจีมากนัก ถ้าเขาสู้กับหานเฟยเขาอาจจะถูกฆ่าจริงๆ
ใบหน้าของเฒ่าจ๋าวเป็นสีดําทั้งหมด คุณกําลังทําบ้าอะไรอยู่? หยุดโม้เสียทีได้ไหม!
ในเวทีฟางซิงกระซิบบางอย่างกับซูจิน
จากนั้นพวกเขาก็ตะโกนพร้อมกันว่า “ผสาน”
หานเฟยหรี่ตาและในขณะที่พวกเขาผสานกับสัตว์วิญญาณพวกเขาก็หายไป
“พวกเขาทําได้ไงน่ะ”
หานเฟยได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเหวี่ยงใส่เขาซึ่งดูเหมือนจะเป็นลูกศรของซูจิน แต่แล้วเขาก็ได้ยินอย่างอื่น
ทันใดนั้นเขาก็เอียงศีรษะและโบกมีดสองเล่มในมือ เมื่อมีเสียงดังขึ้นมีคนถอยออกไปและหานเฟยกําลังจะไล่ล่าแต่ก็ถูกลูกศรพลังวิญญาณสามดอกขวางทางของเขา
เกิดเสียงดังลั่น …
หานเฟยเหวี่ยงมีดของเขาและลูกศรพลังวิญญาณทั้งสามก็ถูกฟาดจากหานเฟย
“อืม..ไม่เลว!”
หานเฟยขยับร่างกายไปด้านข้างทันใดนั้นมีดเล่มหนึ่งของเขาก็สว่างวาบด้วยพลังวิญญาณ เขาโบกมืออย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดและการระเบิดที่รุนแรงก็ปะทุขึ้นในอากาศ
ฟางซิงปรากฏตัวขึ้น เธอกระเด็นไปตามพื้น
หานเฟยเหวี่ยงมีดของเขาและทําลายลูกศรพลังวิญญาณที่ถูกยิงออกมาจากด้านหลัง เขามองไปที่ฟางชิงด้วยสายตาประชดประชัน
จากนั้นหานเฟยเหน็บแนมพวกเขาว่า “นั่นคือทั้งหมดที่คุณมีหรอ?”
ฟางซิงตกใจมาก เธอรู้สึกได้ว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงแค่ปรมาจารย์ตกปลาระดับกลางเท่านั้น เขามีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง? ในฐานะนักล่าแม้แต่นักตกปลาระดับสูงก็ยังต้องระมัดระวังอย่างมากในการต่อสู้กับเธอ แต่เขากลับป้องกันเธอได้อย่างง่ายดาย!
“จิน ลูกศรฝน”
ฟางซิงหายตัวไปอีกครั้งและซูจินก็ยิงลูกศรขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อลูกธนูตกลงมามันก็กลายเป็นลูกศรที่หนาแน่นซึ่งส่งผลต่อการรับรู้และการได้ยินของหานเฟยอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่เลว…”
ทันใดนั้นหางทั้งเจ็ดก็ปรากฏขึ้นข้างหลังหานเฟยและในเวลาเดียวกันเขาก็กําเบ็ดไผ่สีม่วงของเขาไว้แน่น
ในสายตาของคนอื่นหานเฟยเหมือนกําลังยอมแพ้ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยลูกศรและฟางซิงก็กําลังซุ่มอยู่ แต่ผู้ชายคนนี้ยืนนิ่งและถือเบ็ดไว้ในมือข้างเดียว
บางคนรู้สึกประหลาดใจ สัตว์วิญญาณที่ทําสัญญาของหานเฟยคืออะไรกันนะ เขามีหางได้อย่างไร?
เมื่อฝนลูกศรตกลงมาหางทั้งเจ็ดที่อยู่เบื้องหลังหานเฟยก็ขยับ
แซ่บแซ่บแซ่บๆๆๆๆ
เมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝนเป็นเวลาห้าวินาทีหานเฟยก็ตะโกนและกวาดเบ็ดไผ่สีม่วงเป็นวงกลม 360 องศา เบ็ดไผ่สีม่วงเปล่งประกายด้วยพลังวิญญาณและกลายเป็นวงกลมที่เปล่งประกายในอากาศ …
ในขณะนี้ฟางซิงก็ปรากฏตัวขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเบ็ดของหานเฟยเธอกระโดดขึ้นและแทงมีดสั้นในมือไปที่หานเฟย
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มขี้เล่นที่อยู่บนริมฝีปากของหานเฟยเธอก็ตกใจ เธอรู้ทันทีว่าเธอประเมินคู่ต่อสู้ของเธอต่ำไป
ทันใดนั้นหานเฟยก็แทงเบ็ดลงไปที่พื้นและง้างปลายมันอย่างรวดเร็วในทิศทางตรงกันข้ามกับฟางชิง
พั๊วะ!
ฟางซิงกระเด็นออกไปและเธอก็กระอักเลือดออกมา
หานเฟยไม่ได้มองไปที่เธอ แต่รีบเอาเบ็ดตกปลาบ้างไปข้างหลังของเขา เขาเหวี่ยงตะขอตัดผ่านอากาศและตรงไปที่ซูจิน
ซูจินขมวดคิ้วและยิงธนูไปที่ตะขอ แต่ตะขอกลับหลบราวกับว่ามันมีตา
เซียวู่ฉางตกใจ “มันเป็นเทคนิคเบ็ดนี่! เขาเรียนรู้เทคนิคการที่ทรงพลังแบบนี้ได้ไง”
ผู้ชมลืมที่จะตะโกนเพราะปากของพวกเขาเพิ่งอ้าออก เจ้าอ้วนนี้มาจากไหน?! นี่มันบ้าไปแล้ว! เขามีพลังมากเกินไป
ในขณะที่ซูจินพยายามหลบหนีทันใดนั้นตะขอก็พุ่งเร็วขึ้นมันมัดเธอและดึงเธอกลับไปหาหานเฟย
หานเฟยยิ้มเยาะ “คนกับปลาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่? เนื่องจากฉันสามารถจับปลาด้วยเบ็ดตกปลาได้ฉันก็สามารถจับคนได้เช่นกัน”
ที่ด้านหลังฟางซิงก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้หานเฟยไม่หันกลับไปมอง เขาง้างปลายก้านเบ็ดไผ่สีม่วงและกระเด้งเธอลอยออกไปอีกครั้ง
ฟางซิงกระเด็นไปอีกครั้งและซูจินก็มาถึงหานเฟย
หานเฟยคลายคันเบ็ดและจับคันธนูยาวในมือของซูจิน “ฉันคิดว่าจะมีนักตกปลาที่เก่งกาจอยู่ท่ามกลางพวกคุณ แต่น่าผิดหวังจัง ที่มันไม่มีเลย”