Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 1.2 พี่สาว ข้าเกรงว่านี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด! (2)

โจวเหว่ยชิงเบิกตากว้างราวกับฝันของเขาพลันเป็นจริงขึ้นมา ชั่วขณะนั้น เสียงร้องของหญิงสาวอีกคนก็ร้องตะโกนออกมา “ฝ่าบาท ได้โปรดระวัง! มีคนอยู่แถวนี้เพคะ!”
 
ทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกน หญิงสาวผมชมพูก็ตื่นตระหนกราวกับลูกนกตัวน้อย เธอก้มตัวผลุบลงไปในน้ำอย่างรวดเร็วจนเห็นเพียงแค่ศีรษะขณะมองไปรอบๆ อย่างแตกตื่น
 
ก่อนที่โจวเหว่ยชิงจะทันได้ขยับตัว เขาพลันรู้สึกว่ารอบลำตัวเขาสว่างวาบขึ้น จากนั้นโลกก็หมุน เสียง พลั่วะ ดังขึ้น ก่อนที่ตัวเขาจะลอยละลิ่วไปปะทะกับพื้น
 
“เกิดอะไรขึ้น?” แม้ว่าโจวเหว่ยชิงจะไม่สามารถใช้ปราณสวรรค์ได้ แต่เขาก็ถูกฝึกโดยบิดาที่เข้มงวดตั้งแต่ยังเด็ก ร่างกายของเขาจึงมีศักยภาพที่ดีเหนือผู้อื่นมาก ซึ่งแน่นอนว่าแข็งแกร่งและว่องไวกว่าคนทั่วไป
 
โจวเหว่ยชิงม้วนตัวแตะพื้นก่อนจะลุกยืนขึ้น
 
ในระยะ 3 เมตรข้างหน้ามีหญิงสาวอายุราว 20 ปียืนจ้องมองเขาอยู่ นางมีรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆ สวมชุดเกราะหนังและถือดาบในมือ ข้างหลังยังสะพายคันธนูสวรรค์ที่ทำมาจากไม้ดารา
 
เมื่อกวาดมองพริบตาหนึ่ง โจวเหว่ยชิงก็จำสัญลักษณ์ดอกดาราที่ติดอยู่บนเกราะของหญิงสาวได้ทันที มันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของเหล่าองครักษ์พิทักษ์ราชวงศ์ นี่ หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นราชองครักษ์งั้นหรือ?
 
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของโจวเหว่ยชิงอย่างแท้จริงคือมณียุทธ์ 3 ดวงที่ลอยอยู่เหนือข้อมือขวาของเธอต่างหาก!
 
 มณีทั้ง 3 ดวงนั้นประกอบด้วยหยกสามชนิด ด้วยสายตาอันเฉียบคมของโจวเหว่ยชิงร่วมกับรัศมีพลังที่แผ่ออกมา เขาเห็นได้ชัดว่ามณีนั้นประกอบด้วย หยกอำพัน 3 ส่วน หยกน้ำแข็ง 3 ส่วน และหยกหินมังกร 4 ส่วน
 
แม้ว่าโจวเหว่ยชิงจะไม่สามารถฝึกปราณได้ แต่เขาก็รู้ว่ามณียุทธ์ทั้งสามนั้นไม่ได้มีไว้แค่เป็นของประดับ แต่มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความแข็งแกร่งของผู้ใช้ปราณสวรรค์
 
ในดินแดนไร้ขอบเขตนั้น ความแข็งแกร่งของแต่ละคนสามารถวัดได้ใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ระดับพลังปราณสวรรค์ จำนวนมณียุทธ์และจำนวนมณีธาตุ หากว่าบุคคลหนึ่งโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง เขาก็จะถูกนับถือเป็นจ้าวมณีผู้แข็งแกร่ง
 
มนุษย์นั้นเชื่อว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกที่พระเจ้าได้สร้างขึ้น และร่างกายของมนุษย์นั้นก็ย่อมเป็นของขวัญจากพระเจ้า
 
มีหลากหลายวิธีที่จะฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งความแข็งแกร่ง สิ่งพื้นฐานก็คือพลังปราณที่รู้จักกันในนาม “ปราณสวรรค์” พลังปราณสวรรค์นั้นแบ่งเป็น 4 ระดับใหญ่ๆ คือ ปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐาน ขั้นทะลวงพิภพ ขั้นทะลุสวรรค์ และขั้นบรรลุวิถี นอกจากนั้น แต่ละขั้นนั้นยังแบ่งออกเป็น 12 ระดับย่อยๆอีกด้วย
 
ในตำนานกล่าวไว้ว่า หากฝึกฝนจนถึงขั้นบรรลุวิถี จะสามารถควบคุมได้แม้กระทั่งการสร้างและทำลายจักรวาล ทั้งยังมีอายุขัยยืนยาว ดังนั้น พลังปราณสวรรค์จึงเปรียบเหมือนพลังพื้นฐานที่ทำให้สามารถใช้มณีได้ ไม่ว่าจะเป็นมณียุทธ์หรือมณีธาตุก็ตาม และหากไร้ซึ่งพลังปราณสวรรค์ที่เหมาะสม จ้าวมณีก็จะไม่สามารถฝึกให้แข็งแกร่งได้ ไม่ว่ามณีที่ครอบครองนั้นจะทรงพลังเพียงใดก็ตาม
 
ในดินแดนไร้ขอบเขตแห่งนี้ ทุกคนจะมีมณีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นมณียุทธ์หรือมณีธาตุ จะทราบได้ก็ต่อเมื่อฝึกฝนพลังปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานถึงระดับ 3 เท่านั้น จึงจะสามารถปลุกมณีประจำตัวให้ตื่นขึ้นมาได้
 
การฝึกพลังปราณสวรรค์นั้นยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น การฝึกฝนพลังปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานให้ถึงระดับ 3 จึงลำบากแสนสาหัสราวกับการเกิดใหม่ 3 ครั้งเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโอกาสน้อยกว่าหนึ่งในร้อยที่จะฝึกสำเร็จเสียด้วย
 
เมื่อคนผู้หนึ่งสำเร็จพลังปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานถึงระดับ 3 และปลุกมณีของตนได้แล้ว จะนับได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่ผู้คนเรียกว่า “จ้าวมณี” ดังนั้น เมื่อโจวเหว่ยชิงมีเส้นชีพจรอุดตัน ทำให้เขาไม่สามารถเริ่มฝึกพลังปราณสวรรค์ได้ นั่นทำให้เด็กหนุ่มถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่สามารถฝึกพลังปราณสวรรค์ไปจนถึงขั้น 3 และปลุกพลังมณีแต่กำเนิดของตนขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงเป็นได้เพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้น
 
มณีพลังมี 2 รูปแบบ หลังจากถูกปลุกขึ้นมาโดยเจ้าของ มณีที่ปรากฏที่ข้อมือขวาเรียกว่ามณียุทธ์ ส่วนมณีที่ปรากฏที่ข้อมือซ้ายเรียกว่ามณีธาตุ มณีทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยปกติแล้ว คนที่ครอบครองมณียุทธ์นั้นมักจะเป็นเหล่าทหารกล้าที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง มณียุทธ์นั้นนอกจากจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายให้แก่ผู้ใช้แล้ว ยังสามารถเปลี่ยนเป็นเกราะหรืออาวุธได้อีกด้วย ในทางตรงกันข้าม มณีธาตุมักจะปรากฏอยู่ในบุคคลที่มีความฉลาดเฉลียว พวกเขาใช้มณีธาตุเพื่อควบคุมธาตุต่างๆที่เข้ากับตนเอง และยังสามารถผนึก ทักษะ ลงไปในมณีได้อีกด้วย
 
สำหรับจ้าวมณียุทธ์และจ้าวมณีธาตุนั้น สิ่งที่บ่งบอกความแข็งแกร่งของพวกเขาคือจำนวนมณีที่พวกเขาครอบครอง ซึ่งแต่ละคนสามารถมีมณีได้ทั้งหมดสูงสุด 9 ดวง
 
ผู้ที่ครอบครองมณี 1-3 ดวง จะถูกเรียกขานว่า จ้าวมณีระดับปฐม
 
ผู้ที่ครอบครองมณี 4-6 ดวง จะถูกเรียกขานว่า จ้าวมณีระดับปรมะ
 
ผู้ที่ครอบครองมณี 7-9 ดวง จะถูกเรียกขานว่า จ้าวมณีระดับเทวะ
 
ในแต่ละระดับขั้นก็ยังจำแนกออกเป็น ขั้นแรก ขั้นกลาง และขั้นสูงสุด
 
ดังนั้น ราชองครักษ์หญิงตรงหน้าเขานี้ก็คือจ้าวมณียุทธ์ที่ครอบครองมณีระดับปฐมขั้นสูงสุด
 
อย่างไรก็ตาม อย่าได้ริอาจดูถูกจ้าวมณีระดับปฐมขั้นสูงสุดอย่างองครักษ์สาวตรงหน้าเด็ดขาด เพราะในอาณาจักรเล็กๆอย่างเกาทัณฑ์สวรรค์นั้นมีจ้าวมณีน้อยกว่า 100 คน และราชองครักษ์หญิงผู้นี้น่าจะเป็น 1 ใน 50 คนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ เนื่องจากจ้าวมณีนั้นหาได้ยากยิ่ง จ้าวมณีที่ครอบครองมณียุทธ์ 3 ดวงได้จึงหมายความว่าได้ฝึกปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานไปถึงระดับ 10 แล้วเป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็อาจจะทะลุไปสู่ปราณสวรรค์ขั้นทะลวงพิภพเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ ด้วยพลังระดับนี้ องครักษ์หญิงผู้นี้สามารถต่อสู้กับทหารกล้านับ 100 คนได้อย่างสบายๆ
 
มณียุทธ์และมณีธาตุนั้นเกิดขึ้นมาจากมณีหลายชนิด สำหรับมณียุทธ์พวกมันคือหยกหลากหลายประเภท ซึ่งชนิดของหยกก็จะก็จะเสริมพลังทางกายภาพแตกต่างกันออกไป มีทั้งหมด 6 แบบ หยกน้ำแข็งนั้นเสริมความแข็งแกร่ง หยกอำพันเสริมความยืดหยุ่น หยกเหลืองเสริมพละกำลัง หยกหินมังกรเสริมความว่องไว หยกแดงเสริมความคล่องแคล่วในการตอบสนอง และหยกดำเสริมความอึดให้แก่ร่างกาย
 
สำหรับมณียุทธ์นั้นสามารถมีส่วนผสมของหยกได้หลากหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น มณีของราชองครักษ์หญิงคนนั้นประกอบด้วยหยกอำพัน 30% หยกน้ำแข็ง 30% และหยกหินมังกร 40% หากเปรียบมณียุทธ์เป็น 100 ส่วน องครักษ์หญิงจะมีความยืดหยุ่น 30 ส่วน ความแข็งแกร่ง 30 ส่วน และความเร็ว 40 ส่วน นั่นช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอะไรเช่นนี้!
 
โจวเหว่ยชิงรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวจากนัยน์ตาอาฆาตของหญิงสาว เขารู้สึกว่าแผ่นหลังเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ จึงรีบลนลานแก้ตัว “พี่สาว ข้าเกรงว่านี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด!”
 
“เข้าใจผิดงั้นรึ?” ราชองครักษ์หญิงสะบัดมือพร้อมกับชักดาบออกมา แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้ใช้พลังจากมณียุทธ์ทั้ง 3 ของตนเอง ทว่าดาบนั้นกลับเปล่งแสงเรืองรองไปด้วยปราณสวรรค์ เมื่อมองดูจึงรู้ว่าพลังปราณของราชองครักษ์หญิงผู้นั้นยังไม่สามารถปลดปล่อยออกมาจากดาบได้โดยตรง ดังนั้นโจวเหว่ยชิงจึงสันนิษฐานว่าปราณสวรรค์ของอีกฝ่ายน่าจะยังอยู่ในขั้นพื้นฐาน เนื่องจากคนที่มีพลังปราณสวรรค์ขั้นทะลวงพิภพจะสามารถปล่อยพลังออกมาจากอาวุธที่ถือได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าหญิงสาวย่อมไม่จำเป็นจะต้องใช้มณีทั้งสามเมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลธรรมดาที่ไร้ทั้งพลังและอาวุธอย่างโจวเหว่ยชิง
 
พริบตานั้นเอง ปลายดาบก็จ่อพาดเข้าที่ลำคอของโจวเหว่ยชิงเสียแล้ว ขยับเพียงเล็กน้อยก็สามารถปลิดชีวิตของเขาได้ทันที
 
“ท่านพี่สาวจ้าวมณียุทธ์ นี่มันเรื่องเข้าใจผิด! ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่ได้เห็นอะไรแม้แต่นิด! ปะ ปล่อยข้าไปเถิด!!” โจวเหว่ยชิงมองไปยังองครักษ์สาวด้วยสายตาอ้อนวอน กอปรกับหน้าตาใสซื่อของเขา ทำให้แลดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
 
……………………………………………………

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset