Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 7.1 ข้อตกลง (1)

หลังจากซ่างกวนปิงเอ๋อร์ร้องไห้มาครึ่งค่อนวัน เธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย โจวเหว่ยชิงเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้าที่สดใส ก่อนจะกล่าวเตือน “ท่านผู้บัญชาการ ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ท่านยังไม่อยากกลับอีกหรือ? ถ้าพวกเราไม่กลับไปตอนนี้ คนอื่นอาจเจอพวกเราในสภาพนี้ก็ได้นะ”
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์รู้ว่าโจวเหว่ยชิงเดินกลับมาหา เธอจึงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เขาทั้งใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า! ข้าบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไปให้พ้น!?”
โจวเหว่ยชิงนั้นสามารถอ่านสีหน้าท่าทางของผู้คนได้ เขาจึงสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เธอร้องไห้มานาน ประกายความโกรธเกรี้ยวในดวงตาของเธอก็ได้บรรเทาลงมากแล้ว และแม้ว่าน้ำเสียงของเธอนั้นยังจะยังฟังดูดุร้ายอยู่ แต่มันก็ไม่มีจิตสังหารผสมอยู่แล้ว
“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เมื่อเห็นซ่างกวนปิงเอ๋อร์หยุดร้องไห้แล้ว โจวเหว่ยชิงจึงรีบวิ่งออกไปทันที แม้ว่าความโกรธของเธอจะบรรเทาไปมากแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวก็ยังอยากจะอัดเขาให้น่วมอยู่ไม่น้อย
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์เห็นโจวเหว่ยชิงวิ่งหนีออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน นั่นทำให้เธอนั้นยิ้มออกมาได้เล็กน้อย หญิงสาวยืนขึ้นก่อนจะเดินกลับไปที่ค่ายทหารอย่างช้าๆ
เมื่อโจวเหว่ยชิงกลับมาถึงที่กระโจมของตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้เขามัวแต่กลัวว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะฆ่าตนทำให้ตอนตื่นมาไม่ทันได้สังเกตภายในกระโจมอย่างถี่ถ้วน แต่ตอนนี้ก็เป็นเวลาสว่างแล้ว นั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเย็นวาบไปทั่วไขสันหลังและรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ยอมให้อภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ภายในกระโจมนั้นแทบจะเละเป็นโจ๊ก เศษเสื้อผ้ากระจายเกลื่อนกลาด และส่วนใหญ่ก็คือชุดสีเครื่องแบบทหารสีม่วงที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์สวมมาเมื่อคืนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรอยคราบเลือดติดอยู่บนผ้าปูเตียงด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนนั้นรุนแรงบ้าคลั่งแค่ไหน
โจวเหว่ยชิงรีบเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายก่อนจะรวบรวมพวกมันใส่ไว้ในถุงผ้าที่นำมาก่อนหน้า จากนั้นเขาก็ค่อยๆฉีกผ้าปูกที่นอนที่มีคราบเลือดติดอยู่อย่างระมัดระวัง เพราะสิ่งนี้คือเครื่องหมายระหว่างพวกเขาทั้งสองคน  เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้ หากในอนาคตซ่างกวนปิงเอ๋อร์ยอมรับการอยู่ร่วมกับเขา โจวเหว่ยชิงก็จะมอบสิ่งนี้กับเธอ แน่นอนว่าหญิงสาวจะรับหรือเปล่านั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หลังจากที่เขาทำความสะอาดสิ่งต่างๆ เสร็จแล้ว เด็กหนุ่มกลับไม่พบคัมภีร์วิชาเทพอมตะ ดังนั้นดูเหมือนว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะเป็นคนเก็บไป ไม่ใช่ว่าโจวเหว่ยชิงไม่อยากจะยกมันให้กับเธอ แต่ทว่าเขากลัวซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะลองฝึกวิชานี้ต่างหาก
การฝึกวิชาเทพอมตะเมื่อคืนทำให้โจวเหว่ยชิงตระหนักได้ถึงความอันตรายและความยากลำบากในการฝึกฝนวิชานี้ หากไม่ได้ไข่มุกสีดำที่ตนกลืนเข้าไปก่อนหน้า เขาก็อาจจะตายไปก่อนที่ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จะมาถึงด้วยซ้ำ
ไม่ ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแน่นอน! 
เขาต้องหาโอกาสเตือนเธอเรื่องการฝึกวิชานี้ และถึงแม้ว่าเธอต้องการที่จะฝึก ก็ต้องใช้เวลาถึง 2-3 วันกว่าจะฟื้นตัวได้
เมื่อโจวเหว่ยชิงมองไปที่มณีบนข้อมือตนเอง เขาก็รับรู้ได้ว่ามันยังไม่ได้หายไปไหน นั่นทำให้เขาตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน จากนั้นเด็กหนุ่มก็พลันรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่เผชิญมาทั้งคืน ดังนั้นเขาจึงล้มตัวลงนอนและหลับไป
ตั้งแต่เขาถูกซ่างกวนปิงเอ๋อร์ส่งตัวมายังกระโจมห่างไกลผู้คนเช่นนี้เพื่อลงโทษ นั่นทำให้ไม่มีใครกล้ามารบกวนเด็กหนุ่มเลยแม้แต่คนเดียว โจวเหว่ยชิงจึงหลับได้สนิทตลอดทั้งวัน จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน
“อ่า…ช่างสบายจริงๆ” โจวเหว่ยชิงบิดขี้เกียจก่อนที่จะมีเสียงดังกร็อบแกร่บออกมาจากกระดูกของเขา มันเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกสบายจริงๆ เด็กหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง จากนั้นเขาจึงมองไปยังมณีสวรรค์ที่ข้อมือ พวกมันยังคงลอยวนอยู่บนนั้นเป็นวงกลม
“ทำไมข้าถึงเรียกมณีสวรรค์กลับเข้าที่เหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้ล่ะ? แล้วทีนี้ข้าจะทำยังไงดีละเนี่ย?” ตั้งแต่เด็กที่โจวเหว่ยชิงถูกตราหน้าว่าเป็นเศษสวะ ทำให้เขาไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมณีพลังเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มรู้แค่เพียงความรู้พื้นฐานทั่วไป ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนควรต้องทำอย่างไร
ช่างมันเถอะ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาไปกังวลเรื่องนั้น ถึงเวลากินแล้ว! กินก่อนแล้วค่อยคิดละกัน หิวจะตายอยู่แล้ว!! เนื่องจากวันนี้เขาหลับมาทั้งวัน เมื่อรวมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เวลานี้โจวเหว่ยชิงจึงตื่นขึ้นเพราะหิวเป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มสวมเครื่องแบบทหาร เขาเอาแขนเสื้อลงมาปิดบังมณีสวรรค์ของตัวเองไว้ก่อนที่จะรีบวิ่งไปทานอาหารเย็นมื้อใหญ่
เมื่อท้องเต็มอิ่ม จิตวิญญาณของโจวเหว่ยชิงก็ถูกเติมเต็มไปด้วย เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าตัวเองมีรูปร่างใหญ่โตขึ้น แต่เดิมเขาสูงประมาณ 1.7 เมตร ซึ่งสูงมากแล้วสำหรับเด็กอายุ 13 ปีเช่นเขา อย่างไรก็ตาม คืนที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเขาจะสูงขึ้นไปอีก 2-3 เซนติเมตร และกล้ามเนื้อก็ดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นไปอีก
หากไม่นับรวมความรู้สึกผิดต่อซ่างกวนปิงเอ๋อร์แล้ว วันนี้ก็ถือว่าอารมณ์ของเขาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็ได้ครอบครองมณีสวรรค์ที่ตนใฝ่ฝันมานาน! นั่นยังไม่นับรวมมณีธาตุในตำนานของเขาเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากแม้แต่สถานะของจ้าวสวรรค์ธรรมดาก็ทำให้เด็กหนุ่มพึงพอใจอย่างยิ่งแล้ว!
หากไม่ใช่เพื่อซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เขาอาจจะตรงดิ่งกลับบ้านทันทีเพื่อบอกข่าวดีนี้แก่บิดาของตน นั่นรวมไปถึงการไปกล่าวตอกหน้าคนที่ชอบดูถูกเขาอย่างองค์หญิงตี้ฝูหยาว่าโจวเหว่ยชิงเป็นจ้าวมณีสวรรค์แล้ว!
โจวเหว่ยชิงพุ่งกลับไปที่กระโจมของเขาด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มยินดี แต่ทันทีที่เด็กหนุ่มเปิดกระโจมออก ลางสังหรณ์ก็ร้องเตือนอย่างตื่นตระหนกทันที เขาจึงตะโกนออกมา “นั่นใคร?”
สัญชาตญาณตื่นตัวที่แปลกประหลาดนั้นค่อยๆ เลือนหายไป และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไรกันแน่ ขณะนี้ท้องฟ้ามืดลงแล้ว สายตาของเด็กหนุ่มจึงมองไม่ค่อยเห็นสิ่งต่างๆภายในกระโจมมากนัก
ฉับพลัน สีหน้าของโจวเหว่ยชิงก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขามองเห็นคนที่อยู่ในกระโจมได้ชัดเต็มตา เด็กหนุ่มกล่าวทักทายด้วยด้วยรอยยิ้มโง่งม “ท่านผู้บัญชาการกองพัน ท่านมาที่นี่ทำไมหรือ?” ในขณะที่เขากล่าว ขาข้างหนึ่งได้ก้าวเข้าไปในกระโจมแล้ว แต่ทว่าขาอีกข้างกลับไม่ยอมขยับตามเพราะรู้ว่าซ่างกวนปิงเอ๋อร์มาทำอะไรที่นี่
ตอนนี้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์เปลี่ยนชุดเป็นเครื่องแบบสีน้ำเงินซึ่งเข้ากับผมสีฟ้าของเธอมาก โจวเหว่ยชิงเห็นว่าชุดเครื่องแบบของเขาถูกพับอย่างเรียบร้อยวางอยู่บนเตียงของเขา และเมื่อเด็กหนุ่มเข้าไปในกระโจม หญิงสาวก็จ้องมองไปที่เตียงด้วยสายตาว่างเปล่า
“เข้ามา” ซ่างกวนปิงเอ๋อร์พูดอย่างเย็นชา
โจวเหว่ยชิงมองไปรอบๆ เพื่อตรวจสอบว่าหญิงสาวพกอาวุธมาด้วยหรือไม่ ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้เธอมากนัก ทำได้แค่เพียงยืนอยู่ใกล้ๆ ทางเข้าออกกระโจมเท่านั้น เด็กหนุ่มเมียงมองซ่างกวนปิงเอ๋อร์ด้วยท่าทางประหม่า ราวกับว่าเมื่อคืนเขาเป็นคนถูกเธอล่วงเกิน
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของโจวเหว่ยชิง ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็หน้าแดงเถือก นี่เธอถูกเอาเปรียบโดยเจ้าคนไร้ยางอายเช่นนี้ได้อย่างไร!
“ผ้านั่นอยู่ที่ไหน” เธอถามห้วนๆ
“ผ้าอะไร?” โจวเหว่ยชิงถามอย่างไม่เข้าใจ
ซ่างกวนปิงเอ๋อร์หน้าแดงด้วยความอับอาย เธอจ้องมองที่เตียง ทันใดนั้นโจวเหว่ยชิงก็เข้าใจในทันที เขาพูดอย่างระมัดระวัง “ข้าเก็บมันไว้…เป็นที่ระลึก”
หน้าอกของซ่างกวนปิงเอ๋อร์สะท้อนขึ้นลงด้วยความโกรธ “เจ้า…เอามันมาให้ข้า!” เธอกลัวเหลือเกินว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้และเผลอฆ่าเจ้าคนหน้าด้านคนนี้เข้า!
โจวเหว่ยชิงหยิบเศษผ้าไม่กี่ชิ้นที่เขาเก็บไว้อย่างระมัดระวังออกมาจากอกอย่างลังเล จากนั้นก็ยื่นส่งให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ แน่นอนว่าเธอทนดู “ของที่ระลึก” ที่น่าอับอายนั่นไม่ไหว ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบผละออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เธอย่อมไม่รู้แม้แต่น้อยว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างโจวเหว่ยชิงนั้นจะแอบเก็บเศษผ้าไว้กับตัวด้วยอีกส่วน!
………………………………………………………

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset