Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 1.4 พี่สาว ข้าเกรงว่านี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด! (4)

ฝ่าบาท อย่าเพคะ!” หนี่ย่าพยายามตะโกนห้ามออกมาด้วยความกลัว ถึงกระนั้น องค์หญิงก็โกรธเกินกว่าที่จะถูกหยุดได้แล้ว หญิงสาวใช้มือขวาผลักองครักษ์หญิงออกไปพ้นทาง และผายมือซ้ายไปยังโจวเหว่ยชิง
 
แม้ว่าหนี่ย่าจะมีพลังปราณสวรรค์ขั้นพื้นฐานระดับ 9 ซึ่งสูงกว่าองค์หญิงตี้ฝูหยาอยู่ถึง 2 ระดับ แต่เนื่องจากยังไม่ได้โคจรพลังออกมาจากมณียุทธของตัวเอง รวมทั้งกลัวว่าอาจจะทำอันตรายแก่องค์หญิง หนี่ย่าจึงไม่สามารถห้ามอีกฝ่ายได้ ฉับพลันนั้นเอง ตี้ฝูหยาจึงปลดปล่อยทักษะธาตุไฟออกไปโจมตีร่างของโจวเหว่ยชิงทันที
 
ทับทิมสีแดงดวงแรกบริเวณข้อมือซ้ายของตี้ฝูหยาส่องแสงสว่างวาบ ก่อนบอลอัคคีสีแดงเพลิงขนาดเท่าศีรษะจะพุ่งตรงไปยังแผ่นหลังของโจวเหว่ยชิงและระเบิดออกอย่างรุนแรง
 
โจวเหว่ยชิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาณ แรงระเบิดผลักเด็กหนุ่มออกไปไกลกว่า 5 เมตรก่อนจะม้วนร่างลงกระแทกกับพื้น แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะและคาวเลือด นอกจากนั้นยังได้กลิ่นเนื้อไหม้จากข้างหลังอย่างชัดเจน
 
“เจ้า…เจ้า…” โจวเหว่ยชิงพยายามเงยหน้าขึ้นมองตี้ฝูหยาที่กำลังตกใจด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีอย่างยากลำบาก เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าองค์หญิงจะลงมือทำร้ายตนอย่างสาหัสเช่นนี้ได้
 
ตี้ฝูหยาหน้าซีดด้วยความตกตะลึง หลังจากที่ปล่อยพลังออกไปด้วยความโกรธ หญิงสาวก็เพิ่งตระหนักถึงสิ่งที่ทำลงไปได้
 
ตี้ฝูหยาย่อมรู้ว่าอานุภาพของทักษะบอลอัคคีที่มาจากมณีดวงแรกของเธอนั้นร้ายกาจเพียงใด และถึงอย่างไรโจวเหว่ยชิงก็เป็นบุตรของท่านแม่ทัพใหญ่โจว แต่ทว่าตอนนี้ก็สายเกินไปเสียแล้วที่จะนึกเสียใจ
 
ด้วยความที่ตนเป็นองครักษ์ของตี้ฝูหยา หนี่ย่าเองก็ตกตะลึงไปไม่น้อย  หญิงสาวเหงื่อแตกพลั่ก หากว่าองค์หญิงสังหารโจวเหว่ยชิง บุตรของท่านแม่ทัพใหญ่ผู้ซึ่งได้รับพระราชทานตำแหน่งขุนนางตั้งแต่กำเนิดคนนี้จนถึงแก่ความตายจริงๆล่ะก็ อาจจะทำให้ทั้งอาณาจักรเกิดเรื่องโกลาหลก็เป็นได้ แต่ทว่าทั้งตัวนางเองและองค์หญิงก็ต่างไม่มีพลังรักษา เมื่อรู้เช่นนั้นทั้งสองจึงรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง
 
ทันใดนั้นเอง ท้องฟ้าที่เคยสว่างสดใสก็พลันมืดครึ้มลง เมฆหนาก่อตัวพร้อมกับสายฟ้าแลบแปลบปลาบเป็นระยะ ตามด้วยฟ้าผ่าเสียงดังลั่นสะเทือนแผ่นดิน ในขณะนั้น หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็รู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาจับขั้วหัวใจ
 
 “ข้า…ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะ…” ตี้ฝูหยาพึมพำกับตนเองเสียงเบา
 
หนี่ย่าพลันนึกบางอย่างออก หญิงสาวจึงรีบดันให้ตี้ฝูหยาออกวิ่งพลางกล่าว “ฝ่าบาท อากาศกำลังแปรปรวน พวกเราควรจะรีบกลับไปที่วังแล้วพาจ้าวมณีธาตุชีวิตกลับมาที่นี่เพื่อช่วยเขานะเพคะ” องครักษ์หญิงรู้ว่าเจ้าคนประหลาดโจวเหว่ยชิงที่ไม่มีพลังปราณใดๆ นั้นไม่มีโอกาสรอดชีวิตสักส่วน แต่ในเวลานี้ พวกนางต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนจะมีใครมาพบเห็นเข้า ไม่อย่างนั้นทั้งคู่คงต้องจบเห่แน่
 
แม้ว่าจะมีจ้าวมณีธาตุไฟจำนวนน้อยมากในอาณาจักรแห่งนี้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้มีเพียงเจ้าหญิงแค่องค์เดียว ตราบใดที่ไม่ถูกจับได้ ทั้งสองคนก็ยังคงมีหวังที่จะรอดจากเรื่องนี้
 
โจวเหว่ยชิงนอนเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าของทั้งสองคนเดินห่างออกไป ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าทั้งร่างของตนกำลังหลอมละลายในลาวาร้อนจัด เลือดถูกต้มจนสุก และลมหายใจก็ราวกับมีควันพวยพุ่งออกมา
 
บาดแผลด้านหลังของเขาไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป มันชาไปเกือบแทบจะทุกส่วน แต่ทว่าพิษของบาดแผลนั้นยังคงลุกลามไปทั่วร่างกายของเขา ถึงแม้หากมีจ้าวมณีธาตุแห่งชีวิตสักคนเข้ามารักษาทันทีที่ถูกโจมตี เด็กหนุ่มก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พิษของพลังธาตุไฟนั้นลุกลามไปทั่วอวัยวะทุกส่วนของร่างกายแล้ว และพลังชีวิตของเขาก็กำลังถูกรีดเค้นออกไปอย่างช้าๆ
 
โจวเหว่ยชิงนั้นแต่เดิมเป็นคนมองโลกในแง่ดี หลังจากที่กลายเป็นตัวตลกที่ไม่สามารถใช้ปราณสวรรค์ได้ เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้เรื่อยมาปราศจากอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลใดๆ ทว่าตอนนี้โจวเหว่ยชิงยังไม่อยากตายและยังมีหลายสิ่งที่อยากจะทำ เด็กหนุ่มไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าตนจะมาตายด้วยน้ำมือของคู่หมั้น ความจริงแล้วเขาไม่ได้เกลียดอีกฝ่าย เพียงแต่เกลียดสวรรค์ที่ไม่มอบร่างกายที่สามารถฝึกปราณสวรรค์ได้มาให้เขา หากได้เป็นจ้าวมณีจริงๆ เรื่องราวก็คงจะต่างออกไปจากเดิมราวกับพลิกฝ่ามือ ความเกลียดชังและความอาฆาตพยาบาทราวกับระเหยออกมาจากตัวโจวเหว่ยชิง  เขาเอ่ยสาบานด้วยความคับแค้นใจ “ตี้ฝูหยาเอ๋ย หากข้าไม่ตายวันนี้ วันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้ามาคุกเข่าต่อหน้าและอ้อนวอนให้ข้าตบแต่งเจ้าเป็นภรรยา และในตอนนั้น ข้าผู้นี้ก็จะปฎิเสธเจ้าอย่างที่เจ้าทำกับข้าในวันนี้!”
 
หลังจากสบถคำสาบานออกไปเป็นครั้งสุดท้าย โจวเหวิ่นชิงพลันสติลางเลือน แม้แต่ความเจ็บปวดบนร่างกายก็ดูจะหายไป นี่ข้าจะตายเช่นนี้จริงๆ รึ? เขาคิดพลันสลบวูบไป
 
จู่ๆ ก็มีรอยแยกสีดำแปลกประหลาดแหวกอากาศออกกว้างกว่า 3 เมตร สิ่งนั้นดูราวกับดวงตาขนาดมหึมาที่ลืมตื่นขึ้นบนอากาศ มุมปากโจวเหวิ่นชิงพลันเผยอออกพร้อมกับมีเลือดสายหนึ่งหลั่งออกมา
 
ทันในนั้นเองกลุ่มแสงแปลกประหลาดก็พุ่งออกมาจากรอยแยกสีดำนั้น มันมีรูปทรงกลม ใหญ่เท่ากำปั้นเด็กทารก สีมืดประดุจถ่าน ทว่าก็ยังเรืองรองไปด้วยแสงสีเขียว สีน้ำเงิน และสีเงินผสมกัน เลือดที่โจวเหวิ่นชิงสำลักออกมาก่อนหน้านี้พลันไหลขึ้นไปรวมกันยังที่รอยแยกนั้น พริบตาเดียวไอเย็นวูบหนึ่งก็พุ่งตรงออกมาจากลำแสงมุ่งเข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่ม ความเย็นแผ่ไปทั่วอวัยวะทุกส่วน ร่างกายของเขาเริ่มสั่นกระตุกคล้ายกับได้รับความเจ็บปวดเช่นเดียวกับที่ถูกไฟเผาครั้งก่อนหน้า หากแต่มันเป็นความรู้สึกราวกับถูกโยนเข้าไปยังห้องแช่แข็ง  โจวเหว่ยชิงพลันสะดุ้งตื่นและรู้สึกราวกับทุกสิ่งรอบตัวคมชัดขึ้นกว่าที่เคย
 
ไข่มุกรัตติกาลคล้ายจะถูกกระตุ้นด้วยพลังงานบางอย่างในร่างกายของเขา เสียงวูบเกิดขึ้นพร้อมกับไข่มุกนั้นพุ่งตรงเข้าไปในปากของโจวเหว่ยชิง เขารู้สึกหนาวเย็นในลำคอ ร่างกายก็แข็งค้างราวกับถูกแช่แข็ง สติสัมปชัญญะพลันหลุดหายก่อนจะสลบเหมือดไปในที่สุด
 
รอยแยกเหนือร่างของโจวเหวิ่นชิงปิดลงอย่างช้าๆ ดังเช่นที่มันปรากฏขึ้น ท้องฟ้ามืดครึ้มพลันสลายหายไป พระอาทิตย์กลับมาทอแสงเหนือป่าดารา และแสงสีทองก็สาดส่องเหนือทะเลสาบวารีเยือกแข็งอีกครั้ง
 
………………………………………………………..

Heavenly Jewel Change

Heavenly Jewel Change

ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์ ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!? ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น… หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย! ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด! สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า… แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ? ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร! นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power. Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels. Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters. Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes. Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset