ณ ป่าดารา ริมทะเลสาบวารีเยือกแข็ง
ร่างของโจวเหว่ยชิงนอนหมดสติอยู่บนพื้นในท่าแผ่แขนขาออกไปทุกด้าน ขณะนั้นเอง ร่างกายของเขาก็เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่ง
แสงสีดำนั้นห่อหุ้มรอบตัวเขาเป็นชั้นๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่มีแสงอาทิตย์จ้า พลังธาตุมืดถูกปลดปล่อยออกมาจากภายในร่างกายลอยวนล้อมรอบตัวเด็กหนุ่มไว้ราวกับรังไหม
บาดแผลเหวอะหวะบนแผ่นหลังของเขาที่ถูกบอลอัคคีขององค์หญิงโจมตีเริ่มสมานกันในความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือในขณะที่แผลของโจวเหว่ยชิงกำลังสมานตัวนั้น ไขกระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน หรือแม้แต่เส้นลมปราณที่อุดตันนั้นก็กำลังหลอมรวมเข้ากับม่านพลังสีเทามืดกลุ่มหนึ่งภายในร่าง
มันคือม่านพลังสีเทาที่น่าพิศวง ให้ความรู้สึกเยือกเย็นน่ากลัวกว่าไอความมืดจากรังไหมสีดำที่ห่อหุ้มตัวเด็กหนุ่มอยู่เสียอีก หากแต่มันก็เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่แสนแปลกประหลาด อย่างไรก็ตาม ในขณะที่กลุ่มพลังสีเทานี้กำลังแผ่ขยายออกมาจากภายในร่างกายเพื่อกลืนกินไอสีดำจากรังไหมที่ห่อหุ้มเขา ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ ตัวก็พลันเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด พืชพรรณเหล่านั้นเริ่มเหี่ยวเฉากลายเป็นสีเทาเข้ม เริ่มต้นจากพื้นที่รอบๆ ร่างของโจวเหว่ยชิงก่อนจะแผ่ขยายอาณาเขตออกไปเป็นวงกลมรัศมี 5 เมตร ทำให้พืชที่อยู่รายรอบเหล่านั้นล้มตายอย่างรวดเร็วขณะที่ตัวเด็กหนุ่มกลับเร่งรักษาตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้แลดูราวกับมีไอปีศาจลอยละล่องอยู่เหนืออากาศอย่างน่าขนลุก
ม่านพลังสีเทาเข้มที่เริ่มสมานเข้ากับไอดำจากรังไหมนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศหนาวเย็นลง แผ่ความรู้สึกกดดันและชั่วร้ายออกมา กลุ่มแสงจำนวน 5 สีแตกต่างกันลอยวนอยู่เหนือร่างของโจวเหว่ยชิง ประกอบไปด้วยแสงสีดำ สีเทา สีเขียว สีน้ำเงิน และสีเงิน เขากระตุกเล็กน้อยขณะที่กลุ่มแสงเหล่านั้นพุ่งออกมาและล่องลอยวูบวาบอยู่เหนือร่าง ทั้งหมดนั่นเป็นผลมาจากไข่มุกสีดำอันแปลกประหลาดเด็กหนุ่มกลืนลงไปก่อนหน้านี้นั่นเอง
แสงอันอบอุ่นของพระอาทิตย์ไม่อาจย่างกรายเข้ามายังบริเวณรอบๆ ร่างของโจวเหว่ยชิงได้ บนหน้าผากของเขายังปรากฏตัวอักษรสีดำว่า “ราชา” อย่างช้าๆ ในขณะที่ชั้นพลังสีดำซึ่งปกคลุมร่างของเขาก็เริ่มปรากฏเป็นลวดลายบางอย่าง ก่อนจะแผ่ออกไปยังม่านพลังสีเทาในรูปแบบเดียวกัน ชั้นพลังทั้ง 2 นั้นก่อกำเนิดเป็นลายเส้น 3 มิติก่อนจะลุกลามไปทั่วร่างกายของเด็กหนุ่มไม่เว้นแม้กระทั่งใบหน้า
เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไปเกือบค่อนชั่วโมง ก่อนที่ม่านแสงทั้งหมดจะค่อยๆ จางหายและซึมกลับเข้าไปยังร่างของโจวเหว่ยชิง ลวดลายแปลกประหลาดเหล่านั้นก็ค่อยๆ เลือนลางไปเช่นกัน
ผิวสีแทนสุขภาพดีของโจวเหว่ยชิงดูซีดขาวกว่าที่เคย ใบหน้าของเขาดูราวกับหล่อเหลามีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น แผ่นหลังที่บอบช้ำจากแรงระเบิดของบอลอัคคีก็หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่หลงเหลือร่องรอยแผลเป็นแม้แต่นิด ราวกับว่าเขาไม่เคยมีบาดแผลนั้นเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากนั้นไม่นาน นิ้วของโจวเหว่ยชิงเริ่มขยับและความทรงจำทั้งหมดก็เริ่มกลับมา ในขณะที่ลืมตาขึ้น เด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหนาวสั่นในฉับพลันนั้น แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในขณะที่ไม่ได้สติไป แต่ก็สัมผัสถึงความหนาวเย็นทั่วร่างหลังจากที่ตื่นขึ้นมาได้ เด็กหนุ่มหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ ความรู้สึกราวกับถูกแช่แข็งนี้ทำให้โจวเหว่ยชิงรู้สึกไม่สบายตัว ก่อเกิดเป็นความรู้สึกชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้
“ข้า… ข้ายังไม่ตายงั้นรึ?” โจวเหว่ยชิงลุกขึ้นนั่งทันทีทันใดและสัมผัสได้ว่าน้ำหนักตัวของเขาเบาหวิวกว่าที่เคย เด็กหนุ่มรีบกวาดมือขึ้นไปจับยังแผ่นหลังทันที ราบเรียบ? เขาเบิกตาถลนด้วยความประหลาดใจ
“ทั้งหมดนี่เป็นความฝันงั้นรึ?” โจวเหว่ยชิงมองไปรอบๆ จากนั้นก็มองเสื้อผ้าขาดวิ่นบนตัว พื้นที่รัศมีวงกลมรอบๆตัวล้วนเต็มไปด้วยซากต้นไม้ใบหญ้าที่เหี่ยวเฉา นี่มันไม่ใช่ความฝันแน่ๆ
เด็กหนุ่มยกฝ่ามือขึ้นกุมหน้า ความทรงจำของโจวเหว่ยชิงเริ่มกลับมาแจ่มชัดอย่างช้าๆ
“ไอ้ไข่มุกสีดำแปลกๆนั่นเหมือนจะเข้ามาในร่างของข้า?” ฉับพลันโจวเหว่ยชิงก็ย้อนนึกถึงความทรงจำสุดท้ายก่อนจะสลบไป ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนมีไอเย็นสายหนึ่งพุ่งเข้าสู่กระเพาะ จากนั้นเขาก็สลบเหมือดไปด้วยความหนาวไม่รับรู้อะไรอีกเลย เมื่อมองดูซากต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ โจวเหว่ยชิงจึงคาดคะเนว่ามันคือความเสียหายจากการโจมตีของบอลอัคคีขององค์หญิงตี้ฝูหยา
เนื่องจากโจวเหว่ยชิงเกิดมาพร้อมกับเส้นลมปราณอุดตัน แม้ว่าเขาจะได้รับยศศักดิ์เป็นขุนนางน้อยแต่กำเนิด ทว่าเขาก็เข้าเรียนในโรงเรียนธรรมดาที่ไม่ได้สอนเกี่ยวกับพลังของจ้าวมณี ดังนั้นเขาจึงได้คาดคะเนผิดพลาดไปเช่นนั้น หากว่าพลังขององค์หญิงตี้ฝูหยาแข็งแกร่งอย่างที่เขาจินตนาการ เธอคงไม่เป็นเพียงแค่จ้าวมณีธาตุทั่วๆ ไป ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องรับมือกับความแข็งแกร่งระดับที่เขาคิด บอลอัคคีของอีกฝ่ายคงเผาทำลายร่างกายเขาให้ไหม้เป็นจุลไปแล้ว
“ไอ้มุกสีดำนี่มันอะไรกันนะ?” แม้ว่าเขาจะคาดคะเนผิดไป แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ชัดเจนก็คือ เขาถูกบอลอัคคีนั้นโจมตีจนอาการสาหัส ขาข้างหนึ่งเกือบเหยียบปรโลกไปแล้ว แต่เป็นเจ้าไข่มุกสีดำนั่นเองที่ช่วยรักษาชีวิตเอาไว้
นี่ข้าเคยทำความดีอันใหญ่หลวงขนาดไหนมาก่อนรึเปล่านะ? หรือมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับข้า? นี่ข้ามีพลังแล้วงั้นรึ!? โจวเหว่ยชิงเริ่มตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้ว่าโดยปกติแล้วเขาจะมีนิสัยมองโลกในแง่ดีทำให้ไม่ใส่ใจในความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ทว่าการได้เกิดมาในตระกูลที่มีเกียรติเช่นนี้ เด็กหนุ่มก็ย่อมมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้แข็งแกร่งตามบิดาอย่างแรงกล้า
ขณะที่สอดส่องสายตาไปรอบๆ เขาก็พลันเลือกต้นดาราขนาดยักษ์ต้นหนึ่งใกล้ๆ เป็นเป้าใช้ทดสอบพลัง
เหตุที่ต้นไม้นี้ชื่อต้นดาราก็มาจากใบของพวกมันที่มีลักษณะเป็น 5 แฉกคล้ายกับดวงดารา ต้นดาราที่มีอายุ 100 ปี ถือว่าเติบโตจนเต็มที่แล้ว เปลือกของมันย่อมหนาและแข็งเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังมีความยืดหยุ่นที่ดีเยี่ยม นั่นคือสาเหตุว่าทำไมมันถึงถูกเลือกเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศสำหรับสร้างคันธนู
โจวเหว่ยชิงมุ่งตรงไปยังต้นดาราที่เขาเลือกไว้ ก่อนจะหมุนมือไปมา จากนั้นก็ต่อยลงที่ลำต้นหนาๆ ของมันเต็มแรง
“ปึ้ก!” “อ๊าาาา!” แน่นอนว่าเสียงแรกคือเสียงหมัดกระทบกับลำต้น และเสียงที่ตามมาคือเสียงร้องลั่นราวกับแมวที่ถูกเหยียบหาง โหยหวนราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์
โจวเหว่ยชิงนั้นหวาดกลัวต่อความเจ็บปวดมาตั้งแต่เขายังเด็กๆ ทว่าต้นดารานั้นกลับนิ่งงันไม่ขยับ กลับกลายเป็นเขาเองที่กระโดดไปมาพร้อมกับกุมกำปั้นนั้นไว้อย่างทรมาณ ความเจ็บปวดที่หมัดข้างขวานั้นแผ่ซ่านไปทั่วจนทำให้ชาจนแทบไม่รู้สึก ส่วนมือของเขาถลอกปอกเปิกจนแทบดูไม่ได้ ความทรมาณนั้นทำให้เด้กหนุ่มต้องกระโดดไปมาราว 10 นาทีก่อนจะค่อยๆ ดีขึ้นในที่สุด
“บ้าเอ้ย!” เด็กหนุ่มสบถขณะที่เป่าปากไปที่มือแรงๆ “เหอะ ดูเหมือนว่าโชคหล่นทับหัวที่ว่านั่นจะเกิดกับข้าไม่ได้จริงๆสินะ”
โชคดีที่เขายังเด็กและพลังหมัดไม่แข็งแกร่งนัก ดังนั้นกระดูกมือจึงไม่แตกหักไปเสียก่อน หลังจากที่ความเจ็บปวดจางหายไป โจวเหว่ยชิงก็จัดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ก่อนจะหยิบชุดคลุมจากข้างทะเลสาบมาสวมและเดินคอตกจากไป
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ หลังจากที่เขาจากไปราว 15 นาที ณ ตำแหน่งที่เขาได้ฝากรอยเลือดจากการหวดกำปั้นลงไปสุดแรงบนต้นดารา เปลือกแข็งรอบๆต้นเริ่มผุพังอย่างช้าๆ และกลุ่มพลังสีเทาก็ค่อยๆ แผ่กระจายออกมาเหนืออากาศ 3 วันให้หลัง ต้นดาราที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 50 ปีต้นนี้ก็ถูกกำจัดไปจากป่าดาราอย่างไร้ร่องรอย
และแน่นอน โจวเหว่ยชิงนั้นไม่ได้รับรู้เรื่องเลยนี้แม้แต่นิดเดียว
…………………………………………………….
Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา – บทที่ 2.1 ไข่มุกสีดำอันแปลกประหลาด (1)
Posted by ? Views, Released on September 19, 2021
, Heavenly Jewel Change
Type: Web Novel Author: Tang Jia San Shao, 唐家三少
ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้มีพลังเหยียบย่ำผู้อ่อนแอ
มีเด็กผู้ชายผู้หนึ่งเกิดมาเพื่อหวังจะก้าวขึ้นเป็นราชาจ้าวมณีสวรรค์
ในอาณาจักรเล็กๆ ที่ยังต้องดิ้นรนในสงครามซึ่งรายล้อม
ตัวเขาในฐานะที่เกิดในตระกูลแม่ทัพจึงจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ทว่าสวรรค์กลับไม่เป็นใจ เด็กชายเกิดมาพร้อมลมปราณอุดตัน ฝึกวิชาใดๆ ก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดก็กลายเป็นเศษสวะไร้ค่าในสายตาผู้อื่น!?
ทำลายความภาคภูมิใจของบิดา… กลายเป็นความอัปยศอดสูของคู่หมั้น…
หากแต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างปกติสุข เที่ยวเล่นจับปลาไปวันๆ โดยไร้ความละอาย!
ทว่า…เมื่อพลาดพลั้งถูกฆ่าและทิ้งให้ตาย ท้ายที่สุดสวรรค์ก็เมตตา
ไข่มุกรัตติกาลจากต่างมิติถูกดึงดูดด้วยแรงดิ้นรนอยากมีชีวิตอยู่ของเขา
มันมอบพลังที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นจ้าวมณีสวรรค์ที่หายากที่สุด!
สิ่งนั้นปลุกศักยภาพของเขาขึ้นมา… แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ไร้ค่า…
แต่นั่นจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ที่มาเปลี่ยนชะตาของเขาได้จริงหรือ?
ร่วมผจญภัยไปกับ ‘โจวเหว่ยชิง’ ตัวเอกผู้ไร้ยางอายที่ใช้เล่ห์กลทุกอย่างในการเอาตัวรอดเพื่อมุ่งไปสู่จุดสูงสุดของโลกการฝึกวิชา
สร้างยอดกองทัพ ปกป้องคนที่เขารักและขยายอาณาจักรเล็กๆ ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
นี่คือโลกใบที่ไม่คุ้นเคย พบกับระบบพลังใหม่ สุดยอดศาสตราวุธ และตัวเอกที่ไม่เหมือนใคร
Every human has their Personal Jewel of power, when awakened it can either be an Elemental Jewel or Physical Jewel. They circle the right and left wrists like bracelets of power.
Heavenly Jewels are like the twins born, meaning when both Elemental and Physical Jewels are Awakened for the same person, the pair is known as Heavenly Jewels.
Those who have the Physical Jewels are known as Physical Jewel Masters, those with Elemental Jewels are Elemental Jewel Masters, and those who train with Heavenly Jewels are naturally called Heavenly Jewel Masters.
Heavenly Jewel Masters have a highest level of 12 pairs of jewels, as such their training progress is known as Heavenly Jewels 12 Changes.
Our MC here is an archer who has such a pair of Heavenly Jewels.
Recommended Series
Comment
Facebook Comment