Heroes of Marvel ตอนที่712

ครุ่นคิด

  ตอนนี้เเจ็คสันได้ปล่อยให้พวกกัปตันโรเจอร์ส ตรวจสอบ ลูกบาศก์เวทมนตร์ เขาไม่ได้วางเเผนที่จะทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อความปลอดภัย เเจ็คสันจะต้องเตรียมพื้นที่ห้องลับที่มีการป้องกันที่เเข็งเเกร่งในไซบีเรียเเห่งนี้ยังมีฐานลับไฮดร้าที่ได้รับการบูรณะใหม่อยู่

   ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาเท่านี้สงครามในนิวยอร์ก็คงจะไม่เกิดขึ้น! ขณะที่ คนอื่น ๆ กำลังตรวจสอบลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสันได้ครุ่นคิดถึงพล็อตเรื่องเดิม

  ในพล็อตเรื่องเดิมสงครามในนิวยอร์กเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่มาก นั่นก็เพราะที่นั่นได้มีการรวมตัวของซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากเเละปะทุสงครามในนิวยอร์ก เเต่สิ่งนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เเต่ทว่าการเเทรกเเซงของเเจ็คสันก็มักจะนำพาการเปลี่ยนเเปลงมาให้เสมอ

  โดยปกติการเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องของเเจ็คสันได้เปลี่ยนเเปลงอะไรไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นบุคลิกนิสัยหรือกระทั่งตัวตน

  ยกตัวอย่างเช่นโลกิตามพล็อตเรื่องเดิม หลังจาก ที่โลกิรับรู้ว่า ตนเองมีสายเลือดของเผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เขาจะต้องเข้าร่วมกับเผ่ายักษ์น้ำเเข็งเพื่อจัดการโอดิน เเต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นแบบนี้

  เดิมธอร์จะต้องกลับไปที่เเอสการ์ดเพื่อร่วมต่อสู้ในฐานะเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์นั้นรุนเเรงมาก

  ยักษ์น้ำเเข็งที่มีเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเข้าร่วมทำให้เเอสการ์ดไม่สามารถรับมือได้การรวมตัวของสองเผ่าพันธุ์สามารถกดดันเเอสการ์ดได้ เเต่การต่อสู้นี้หากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถ้าจะให้รู้ผลเเพ้ชนะก็คงจะต้องรออีกหลายปี

  ดังนั้นหากให้อ้างอิงตามเดิมธอร์ในตอนนี้ยังไม่สามารถฟื้นคืนพลังได้สำเร็จ ถึงแบบนั้นเขาก็ยังคงมีเวลาเตรียมตัวเพื่อที่จะกลับไปช่วยเหลือเเอสการ์ดได้ทันหากเป็นดังที่เขาคาดเอาไว้เเจ็คสันตั้งใจว่าจะเดินเเผนการตามรูปแบบของเขา

  ตราบเท่าที่ลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ในมือของเเจ็คสันเขามีความมั่นใจที่จะทำให้สงครามในนิวยอร์กไม่เกิดขึ้นเเละ ส่งเสริมอิทธิพลของโลกโดยการพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกนี้ นอกเหนือจากนี้ อิทธิพลของลูกบาศก์เวทมนตร์หากสามารถควบคุมได้ดั่งใจนึกเขายังสามารถส่งทีมคณะของโลกไปสำรวจในอวกาศได้อีก

   เเม้ว่าฉันจะมีความมั่นใจในเรื่องนี้อยู่หลายส่วนเเต่ทุกอย่างที่ฉันคิดคงไม่ง่ายดายแบบนั้น! เห็นเเรงผลักดันเเละอุปสรรคที่จะต้องเผชิญเเจ็คสันครุ่นคิดเล็กน้อย

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดจู่ ๆ กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้เดินมาที่เบื้องหน้าของเขา

   มิราจไนท์คุณคงจะเห็นซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เหล่านั้นเเล้ว พวกมันจะถูกนำไปไว้ที่ห้องวิจัย ซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้จะต้องถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์เพื่อการศึกษาวิจัย ฉันคงต้องรบกวนคุณด้วย! 

  เหตุผลที่กัปตันโรเจอร์สพูดกับมิราจไนท์แบบนี้ก็เพราะว่าซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้สำคัญอย่างมากเเละตอนนี้คนที่จะสามารถศึกษาวิจัยมันได้ดีที่สุดคงจะไม่พ้น โทนี่ สตาร์ค มิราจไนท์ ,ศาสตราจารย์ เเละ ดร.แบนเนอร์ เพราะแบบนี้ กัปตันโรเจอร์สจึงต้องการวานมิราจไนท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

  สำหรับประตูมิติอวกาศที่กำลังเปิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตสิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือวางกำลังป้องกันเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา

   เรื่องนี้… ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันคิดไตร่ตรองเล็กน้อย

   มิราจไนท์ฉันรู้ว่า คุณมีธุระอื่นที่กำลังให้ความสนใจ เเต่คราวนี้คุณจำเป็นจะต้องช่วยเหลือพวกเราในการเเก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน! กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดกับมิราจไนท์ด้วยสีหน้าจริงจัง

  ก่อนหน้านี้มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ได้หลุดไปยังต่างโลกเเละได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่ในจักรวาลที่เเตกต่าง ประสบการณ์ของพวกเขาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย เเต่ถึงอย่างนั้นก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

   ก็ได้…ฉันจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่คุ้นเคยกับพวกเขาเท่าไหร่ก็ตาม! เเจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม

  ฟุ่บ!

  จากนั้นประตูห้องลับก็ถูกเปิดขึ้นกลุ่มทหารจำนวนมากได้เเบกร่างของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เข้ามาพวกเขานำเข้ามาเพื่อเตรียมนำไปเข้าศึกษาในห้องวิจัย

  …

 

ครุ่นคิด

  ตอนนี้เเจ็คสันได้ปล่อยให้พวกกัปตันโรเจอร์ส ตรวจสอบ ลูกบาศก์เวทมนตร์ เขาไม่ได้วางเเผนที่จะทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อความปลอดภัย เเจ็คสันจะต้องเตรียมพื้นที่ห้องลับที่มีการป้องกันที่เเข็งเเกร่งในไซบีเรียเเห่งนี้ยังมีฐานลับไฮดร้าที่ได้รับการบูรณะใหม่อยู่

   ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาเท่านี้สงครามในนิวยอร์ก็คงจะไม่เกิดขึ้น! ขณะที่ คนอื่น ๆ กำลังตรวจสอบลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสันได้ครุ่นคิดถึงพล็อตเรื่องเดิม

  ในพล็อตเรื่องเดิมสงครามในนิวยอร์กเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่มาก นั่นก็เพราะที่นั่นได้มีการรวมตัวของซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากเเละปะทุสงครามในนิวยอร์ก เเต่สิ่งนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เเต่ทว่าการเเทรกเเซงของเเจ็คสันก็มักจะนำพาการเปลี่ยนเเปลงมาให้เสมอ

  โดยปกติการเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องของเเจ็คสันได้เปลี่ยนเเปลงอะไรไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นบุคลิกนิสัยหรือกระทั่งตัวตน

  ยกตัวอย่างเช่นโลกิตามพล็อตเรื่องเดิม หลังจาก ที่โลกิรับรู้ว่า ตนเองมีสายเลือดของเผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เขาจะต้องเข้าร่วมกับเผ่ายักษ์น้ำเเข็งเพื่อจัดการโอดิน เเต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นแบบนี้

  เดิมธอร์จะต้องกลับไปที่เเอสการ์ดเพื่อร่วมต่อสู้ในฐานะเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์นั้นรุนเเรงมาก

  ยักษ์น้ำเเข็งที่มีเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเข้าร่วมทำให้เเอสการ์ดไม่สามารถรับมือได้การรวมตัวของสองเผ่าพันธุ์สามารถกดดันเเอสการ์ดได้ เเต่การต่อสู้นี้หากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถ้าจะให้รู้ผลเเพ้ชนะก็คงจะต้องรออีกหลายปี

  ดังนั้นหากให้อ้างอิงตามเดิมธอร์ในตอนนี้ยังไม่สามารถฟื้นคืนพลังได้สำเร็จ ถึงแบบนั้นเขาก็ยังคงมีเวลาเตรียมตัวเพื่อที่จะกลับไปช่วยเหลือเเอสการ์ดได้ทันหากเป็นดังที่เขาคาดเอาไว้เเจ็คสันตั้งใจว่าจะเดินเเผนการตามรูปแบบของเขา

  ตราบเท่าที่ลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ในมือของเเจ็คสันเขามีความมั่นใจที่จะทำให้สงครามในนิวยอร์กไม่เกิดขึ้นเเละ ส่งเสริมอิทธิพลของโลกโดยการพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกนี้ นอกเหนือจากนี้ อิทธิพลของลูกบาศก์เวทมนตร์หากสามารถควบคุมได้ดั่งใจนึกเขายังสามารถส่งทีมคณะของโลกไปสำรวจในอวกาศได้อีก

   เเม้ว่าฉันจะมีความมั่นใจในเรื่องนี้อยู่หลายส่วนเเต่ทุกอย่างที่ฉันคิดคงไม่ง่ายดายแบบนั้น! เห็นเเรงผลักดันเเละอุปสรรคที่จะต้องเผชิญเเจ็คสันครุ่นคิดเล็กน้อย

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดจู่ ๆ กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้เดินมาที่เบื้องหน้าของเขา

   มิราจไนท์คุณคงจะเห็นซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เหล่านั้นเเล้ว พวกมันจะถูกนำไปไว้ที่ห้องวิจัย ซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้จะต้องถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์เพื่อการศึกษาวิจัย ฉันคงต้องรบกวนคุณด้วย! 

  เหตุผลที่กัปตันโรเจอร์สพูดกับมิราจไนท์แบบนี้ก็เพราะว่าซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้สำคัญอย่างมากเเละตอนนี้คนที่จะสามารถศึกษาวิจัยมันได้ดีที่สุดคงจะไม่พ้น โทนี่ สตาร์ค มิราจไนท์ ,ศาสตราจารย์ เเละ ดร.แบนเนอร์ เพราะแบบนี้ กัปตันโรเจอร์สจึงต้องการวานมิราจไนท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

  สำหรับประตูมิติอวกาศที่กำลังเปิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตสิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือวางกำลังป้องกันเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา

   เรื่องนี้… ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันคิดไตร่ตรองเล็กน้อย

   มิราจไนท์ฉันรู้ว่า คุณมีธุระอื่นที่กำลังให้ความสนใจ เเต่คราวนี้คุณจำเป็นจะต้องช่วยเหลือพวกเราในการเเก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน! กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดกับมิราจไนท์ด้วยสีหน้าจริงจัง

  ก่อนหน้านี้มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ได้หลุดไปยังต่างโลกเเละได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่ในจักรวาลที่เเตกต่าง ประสบการณ์ของพวกเขาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย เเต่ถึงอย่างนั้นก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

   ก็ได้…ฉันจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่คุ้นเคยกับพวกเขาเท่าไหร่ก็ตาม! เเจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม

  ฟุ่บ!

  จากนั้นประตูห้องลับก็ถูกเปิดขึ้นกลุ่มทหารจำนวนมากได้เเบกร่างของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เข้ามาพวกเขานำเข้ามาเพื่อเตรียมนำไปเข้าศึกษาในห้องวิจัย

  …

 

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล
Status: Ongoing Author:
หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต เเจ็คสัน ได้หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เเปลกประหลาดกระทั่งสามารถบินบนฟ้าได้ ตอนเเรก เเจ็คสันคิดว่าเขาได้ หลุดข้ามจากฝั่งอเมริกาไปยังประเทศอื่น ๆ จนกระทั่งมีบางอย่างแปลก ๆ ปรากฏออกมา ในขณะดูช่องข่าว เเจ็คสันได้เห็นชายหนุ่มยักษ์ตัวสีเขียวได้กระโดดขึ้นลงบนอาคารของนิวยอร์กโดยไม่เเคร์สายตาใดใด ทั้งยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ของผู้เพาะกายที่สวมใส่เครื่องแบบสีฟ้าเเดงถือโล่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ แต่หลังจากการถ่ายทอดช่วงเวลาข่าวจบลง เเจ็คสัน ดึงโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเเละโทรออก”Mr. Stark เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเกราะเทคโนโลยีขั้นสูงที่คุณมี” นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลก มาร์เวล เขาอยากที่จะมีชีวิตที่เงียบสงบเเละราบรื่น เเต่เเล้วโชคชะตากลับไม่เป็นเช่นนั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset