I Don’t Want To Defy The Heavens – DTH ตอนที่ 60 ทฤษฎีธูปหอม

I Don’t Want To Defy The Heavens

 

DTH ตอนที่ 60 ทฤษฎีธูปหอม

 

วันนี้หลิน ฟานใช้เวลาทั้งวันอยู่แต่ในคฤหาสน์

 

นี่นับเป็นหนึ่งในปรากฏกาณ์ที่น่าประหลาดใจมาก

 

ลองคิดดูสิหลิน ฟานผู้ที่ไม่เคยอยู่นิ่งกลับใช้เวลาทั้งวันของเขาอยู่แต่ในบ้าน ไม่คิดว่ามันน่าประหลาดใจมั่งเลยงั้นหรือ?

 

ณ หอสมุด

 

สถานที่ที่ตระกูลหลินใช้เก็บหนังสือ เทคนิคการเพาะปลูก และเทคนิคการบ่มเพาะจิตใจเอาไว้

 

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสมาสัมผัสกับประตูนี้” หลิน ฟานมองไปที่ประตูด้วยจิตใจที่ยุ่งเหยิง

 

ชีวิตที่ยากลําบากบนโลกนี้ทําให้เขารู้สึกท้อแท้

 

แน่นอนว่าการที่อยู่ๆเขาก็มาเป็นนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวยในทันทีนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากและสนุกไปกับมัน

 

อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบันเขาก็สามารถเพลิดเพลินไปกับชีวิตเหมือนเดิมได้ แต่มันก็จะมาพร้อมกับปัญหาบางอย่าง เขามักจะถูกใครบางคนรังแกอยู่ตลอดเวลา แล้วแบบนี้ใครมันจะทนไหว?

 

“นายน้อย” ทหารยามทั้งสองที่เฝ้าหอสมุดต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

พวกเขาแข็งแกร่งมาก เพียงแค่มองเข้าไปในดวงตาเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่พวกเขาปล่อยออกมา บางทีพวกเขาอาจจะเป็นทหารยามที่แข็งแกร่งที่สุดในคฤหาสน์ตระกูลหลิน

 

หลิน ฟานโบกมือ “เปิดประตู”

 

นอกเหนือจากหัวหน้าตระกูลแล้วก็มีเพียงนายน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่หอสมุดได้

 

เมื่อได้ยินดังนั้นยามทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่วางมือของพวกเขาลงบนประตูเหล็กและโคจรกําลังภายใน หลังจากนั้นไม่นานประตูเหล็กก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ

 

ประตูเหล็กแต่ละบานมีหนักน้ำหนักอย่างน้อยหลายพันจิน และต้องเปิดมันพร้อมกัน

 

ด้านในมันมืดไปหน่อย

 

แม้ว่าหลิน ฟานจะกลัวความมืด แต่เขาก็เตรียมตัวมาอย่างดีก่อนที่จะมาที่นี่

 

เมื่อเขาเข้าไปข้างในแล้ว ทหารยามก็ปิดประตูเหล็กตามหลังเขาไปทันที

 

ทหารยามทั้งสองมองหน้ากัน

 

“นายน้อยมาที่หอสมุด!”

 

“ใช่ นายน้อยมาที่นี่จริงๆ!”

 

ทั้งสองคุยกันราวกับได้พบโลกใหม่ จากนั้นยามคนหนึ่งก็ร้องออกมาและต้องการไปรายงานเรื่องนี้ให้ท่านหัวหน้าตระกูลทราบ

 

พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ปกป้องหอสมุดมาเป็นเวลานาน

 

นานขนาดที่ตอนนายน้อยเกิดพวกเขาก็ปกป้องหอสมุดอยู่แล้ว

 

ในฐานะยามของหอสมุด พวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายน้อยจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะพวกเขาอยากจะให้นายน้อยเห็นว่าพวกเขากําลังปกป้องมรดกของตระกูลหลินอยู่ และส่วนหนึ่งมันก็ทําให้พวกเขารู้สึกภูมิใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบมา

 

อย่างไรก็ตามความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นอย่างที่หวัง 

 

เพราะในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาพวกเขาไม่เห็นนายน้อยมาที่นี่เลย

 

เขาไม่เคยแม้แต่จะเดินเฉียดเข้ามาที่นี่ด้วยซ้ํา

 

“ดูดีทีเดียว” หลิน ฟานมองไปรอบๆ เดิมที่มันมืดมาก แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาไฟมันก็สว่างขึ้น น่าแปลกที่จุดกําเนิดของแสงมันไม่ได้มาจากเทียนแต่มาจากหินเรืองแสง

 

เมื่อเห็นแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตระกูลของเขาไม่ธรรมดา

 

เพราะแม้แต่ตระกูลหยวนและเหลียงก็อาจจะไม่มีหอสมุดแบบพวกเขา

 

ชั้นวางหนังสือทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากไม้ พวกมันดูเก่าแต่ไม่ได้ผุพังและมีหนังสือมากมายวางอยู่ในนั้น

 

เมื่อมองดูดีๆเขาก็สังเกตเห็นหนังสือประเภทต่างๆมากมายรายล้อมเขาอยู่

 

หมัด

 

กระบี่

 

ดาบ

 

เทคนิคกําลังภายใน

 

และอื่นๆอีกมายมายเช่นเดียวกับสิ่งที่หอสมุดควรจะเป็น

 

เขาสุมหยิบมันขึ้นมาหนึ่งเล่ม

 

“ฝ่ามือปัญญาเทวราช”

 

“อะไรกัน?!”

 

เมื่อหลิน ฟานเห็นชื่อวิชาเขาก็ตกตะลึงทันที ที่ว่าฝ่ามือปัญญาเทวราชนี่มันหมายความว่ายังไงกัน? ถ้าเขาจําไม่ผิดนี่คือหนึ่งใน72เทคนิคชั้นยอดของวัดเส้าหลิน

 

เขาสงบสติอารมณ์ของเขาและพลิกไปที่หน้าแรก

 

“ฝ่ามือปัญญาเทวราช, เทคนิคป้องกันของนิกายทองคําขาว, 10จาก12ขั้นหายไป, ไม่สมบูรณ์”

 

“เห้อ ตอนแรกข้าก็กลัวและคิดไปเองว่ามัน เป็นหนึ่งใน72เทคนิคของวัดเส้าหลิน โชคดีที่มันไม่ใช่อย่างที่คิดไม่งั้นข้าคงจะสงสัยว่าข้ามาผิดที่รึเปล่า”

 

หลิน ฟานตบหน้าอกของเขา มันช่างน่ากลัวจริงๆ

 

แต่มันก็น่าเสียดายที่มันไม่สมบูรณ์

 

ในเมื่อมันหายไป10ขั้น แล้วเขาจะบ่มเพาะมันได้อย่างไร? ไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะ

 

ช่างมันและไปหาวิชาอื่นดีกว่า

 

ในห้องโถง

 

“ท่านหัวหน้าตระกูล นายน้อยมาที่หอสมุดเพื่อเลือกเทคนิคบ่มเพาะ” ยามที่เฝ้าหอสมุดเข้ามารายงาน

 

หลิน วานยี่ประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข “สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงงั้นรึ?”

 

“จริงแท้แน่นอนขอรับ” ยามคนเดิมกล่าว

 

มันคือเรื่องที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

 

ถ้าเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตนเองเขาก็คงไม่เชื่อเหมือนกันว่านายน้อยจะมาที่หอสมุดจริงๆ

 

“ให้เขาพบกับเทคนิคบ่มเพาะหมายเลข 1, 4 และ6” หลิน วานยี่กล่าว

 

เขารู้จักเทคนิคทั้งหมดที่อยู่ในหอสมุด และเขาก็ทําแม้กระทั้งลองบ่มเพาะพวกมันดูด้วยซ้ำ

 

เทคนิคบ่มเพาะที่เขาเพิ่งแนะนําไปเป็นเทคนิคบ่มเพาะที่ เขาคิดว่าแข็งแกร่งที่สุด พวกมันทั้งหมดซ่อนอยู่ในความมืด แม้ว่าจะมีคนต้องการจะหามัน แต่ความยากนั้นก็ยากพอๆกับการปีนขึ้นสวรรค์

 

“เข้าใจแล้วขอรับ” ยามรีบกลับไปทําตามคําสั่งของหัวหน้าตระกูลทันที

 

หลิน ฟานยังไม่ได้เลือกวิชาที่จะฝึก แต่มองไปรอบๆแทน

 

มีสําเนาที่ไม่สมบูรณ์จํานวนมาก ส่วนที่สมบูรณ์ยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่

 

และบางส่วนก็เป็นเทคนิคบ่มเพาะธรรมดาดังเช่น วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตที่เป็นวิชาที่เน้นเทคนิคขั้นพื้นฐาน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาบ่มเพาะวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตไปจนถึงขั้นกลับสู่ความจริง

 

ในแง่ของพื้นฐานดาบ หากนับกันแค่ในวัยเดียวกันกับเขา มันก็ไม่มีใครสามารถเทียบเขาได้ในเรื่องนี้

 

ตุบ!

 

มีเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่งที่ตกลงสู่พื้น 

 

เขาหยิบมันขึ้นมาและชําเลืองมอง

 

“ทักษะดาบสายฟ้าส์รูปแบบ”

 

มันเป็นเทคนิคดาบที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต และมีทั้งหมดสี่รูปแบบ

 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เพียงพอแล้วสําหรับให้ผู้บ่มเพาะทั่วไป ฝึกอย่างเดียวไปตลอดชีวิต

 

“เทคนิคบ่มเพาะนี้ดูเหมือนจะแปลกๆเล็กน้อย ในนี้มันไม่มีทั้งลมและหนู ทําไมมันถึงตกมาจากชั้นได้?”

 

หลิน ฟานถือหนังสือพร้อมกับพึมพํากับตนเอง

 

เขาตั้งใจอ่านมันและให้ระบบสนับสนุนขนาดเล็กบันทึกมันเอาไว้

 

จากนั้นเขาก็โยนมันทิ้งไปแบบไม่ใส่ใจ

 

ตุบ!

 

ในตอนที่เขากําลังจะหันกลับมา หนังสืออีกเล่มหนึ่งก็ตกลงมาจากชั้น

 

“แปลก”

 

หลิน ฟานมองไปรอบๆ มีประตูลับซ่อนอยู่งั้นเหรอ? หรืออาจจะมีคนกําลังพยายามหยอกข้าเล่น? และบางที่ใครคนนั้น อาจจะรู้ว่าข้าไม่สามารถหาเทคนิคบ่มเพาะดีๆได้ดังนั้นจึงคิดจะช่วยข้า

 

เขาหยิบมันขึ้นมาดู

 

“หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์”

 

เขาอ่านมันและให้ระบบสนับสนุนขนาดเล็กบันทึกเหมือนเดิมจากนั้นก็โยนมันทิ้งไป

 

ตุบ!

 

มีหนังสือตกลงมาอีกครั้ง

 

“ฮ่า ฮ่า”

 

หลิน ฟานส่ายหัว พวกเขาคิดว่าข้าโง่งั้นหรือ?

 

“กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน”

 

เล่มนี้เป็นเทคนิคที่เน้นการบ่มเพาะร่างกายภายนอกและก็ยังเป็นเทคนิคที่เขายังขาดด้วยเช่นกัน

 

ที่สาคัญเลยก็คือวิชานี้มันมีความคล้ายคลึงกับวิชาของนิกายพุทธเล็กน้อย

 

แต่ใครจะสน? ที่เขาต้องทําก็แค่อ่านมัน

 

ภายในระบบสนับสนุนขนาดเล็ก

 

ร่างกาย : 90 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสาม)

 

กําลังภายใน : 120 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสี่)

 

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : คัมภีร์อาทิตย์ม่วงสี่นักบุญ (ขั้นสอง)

 

เทคนิคการเพาะปลูก : วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (กลับสู่ความจริง) เทคนิคควบคุมแมลง (พื้นฐาน) กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน (ยังไม่ได้เรียน) หัตถ์เศษหยกรวมศูนย์ (ยังไม่ได้เรียน) ทักษะดาบสายฟ้าสี่รูปแบบ (ยังไม่ได้เรียน)

 

คะแนนความโกรธ : 2,826

 

หลิน ฟานบอกให้ยามด้านนอกเปิดประตู

 

ทหารยามตกตะลึง

 

เขารู้อยู่แล้วว่านายน้อยจะต้องเลือกวิชาอย่างรวดเร็ว แต่นี่มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?

 

ประตูเหล็กถูกเปิดออกด้วยเสียงดังเอี้ยด

 

เมื่อยามเห็นว่านายน้อยเดินออกมามือเปล่า เขาจึงถามออกมาอย่างสงสัย “นายน้อยท่านไม่ได้เลือกวิชาที่จะฝึกงั้นหรือขอรับ?”

 

“ข้าเลือกไปแล้ว” พูดจบหลิน ฟานก็เดินจากไป

 

ทหารยามรีบไปรายงานหัวหน้าตระกูลทันที

 

นายน้อยกลับออกมามือเปล่า ไม่รู้ว่าเขาจะเห็นเทคนิคบ่มเพาะที่ถูกผลักออกมาหรือไม่?

 

เมื่อหลิน ฟานกลับมาถึงลานด้านหลัง

 

คะแนนความโกรธก็เพิ่มขึ้น

 

“ความโกรธ +333”

 

หลิน ฟานตกตะลึง นายน้อยผู้นี้ไปทําให้ใครขุ่นเคืองกัน? เมื่อวานเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกส่วนวันนี้ก็ไม่ได้ออกไปเช่นกัน แล้วทําไมความโกรธมันถึงเพิ่มขึ้น?

 

เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นเหลียง หยงฉี บางทีขณะที่เขากําลังนอนอยู่บนเตียงเขาก็คงจะคิดมากและเกิดโกรธข้าขึ้นมา

 

หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ยินดีที่จะรับความโกรธนี้เอาไว้

 

เขาจะรับพวกมันทั้งหมดโดยไม่ลังเล เพราะยิ่งเขามีมันมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

 

เขาเพิ่มคะแนนลงไป

 

ร่างกาย : 120 (เส้นทางการต่อสู้ขั้นสี่)

 

เขาใช้คะแนนความโกรธไป 3,000คะแนนทันที มันจึงทําให้ร่างกายของเขาเข้าสู่เส้นทางการต่อสู้ขั้นสี่ และทําให้เขาเหลือคะแนนเพียง 159คะแนนเท่านั้น

 

การบ่มเพาะทั้งภายในและภายนอกให้ก้าวหน้าไปพร้อมกัน เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างดี

 

ทันใดนัั้นหลิน ฟานก็คิดบางอย่างใด

 

เขาอยากจะลองกระจายเทคนิคบ่มเพาะดูบ้าง

 

หลังจากนั้นไม่นานกําลังภายในของเขาก็กลายเป็นศูนย์ 

 

‘คะแนนความโกรธ +12,000’

 

เมื่อได้คะแนนมาแล้วเขาก็เพิ่มมันไปที่กายราชันที่มิอาจสั่นคลอน

 

คะแนนความโกรธ 12,000คะแนนสามารถทําให้วิชากายราชันที่มิอาจสั่นคลอนไปถึงระดับจุดสูงสุดได้เท่านั้น

 

ทันใดนั้นพลังในร่างของเขาก็รุนแรงขึ้นราวกับมันกําลังจะระเบิด เขาทําการต่อยออกไปทันทีเสียงของมันค่อนข้างทึบ แต่ก็ทําให้อากาศโดยรอบปั่นป่วน

 

สุดยอด!

 

เขากระจายเทคนิคบ่มเพาะนั้นและนํามันไปเพิ่มให้กับหัตถ์เศษหยกรวมศูนย์

 

ระดับของมันก็ยังคงติดอยู่ที่จุดสูงสุด เพราะมันมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการขึ้นสู่ระดับกลับสู่ความจริง

 

เขากางนิ้วทั้งห้าออก หากปราศจากกําลังภายในวิชาหัตถ์เศษหยกรวมศูนย์ก็ไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงได้

 

สีผิวบนฝ่ามือของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

 

จากสีเงินเป็นสีขาวโปร่งแสงและสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นสีดํา ไม่นานหมอกสีดําก็กระจายออกมาจากฝ่ามือของเขา

 

เขาเดินมาที่กําแพงและแทงนิ้วทั้งห้าออกไปทันทีโดยไม่ได้ออกแรงมากนัก

 

ฟุบ!

 

สิ้นเสียงรอยฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นบนกําแพง

 

“สุดยอด! ถ้ามีใครสักคนถูกโจมตีด้วยฝ่ามือนี้ร่างคงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!” หลิน ฟานอุทาน

 

ตามที่เขาหวังไว้จากระบบสนับสนุนขนาดเล็ก มันมีน้ำใจมาก

 

เขากระจายคะแนนของเขาอย่างสบายๆ

 

หากเขาไม่ชอบ เขาก็สามารถกระจายมันและเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้

 

หลังจากที่กระจายมันแล้วเขาก็เพิ่มมันเข้าไปในทักษะดาบสายฟ้าสีรูปแบบ

 

วิชานี้มีการเคลื่อนไหวทั้งหมดสี่รูปแบบ

 

ย้ายภูเขาและแม่น้ํา, สลายทองและหยก, ปีศาจและพระเจ้าหวาดกลัว, ทําลายสวรรค์และโลก

 

เทคนิคดาบนี้ต้องการกําลังภายในในการสนับสนุน เขาจึงกระจายคะแนนของร่างกายและนํามันมาเพิ่มให้กําลังภาย ในจนถึงขั้น

 

และก็เหมือนเดิมทักษะดาบสายฟ้าสี่รูปแบบสามารถไปได้ ถึงแค่ระดับจุดสูงสุดเท่านั้น

 

“ทําลายสวรรค์และโลก!” หลินฟานคํารามและฟันออกไป มันเร็วมากจนแสงตามไม่ทัน ใบดาบมันเสียดสีกับอากาศจนทําให้เกิดประกายไฟและสายฟ้าขนาดเล็กกระจายออกไป 

 

พลังงานต่างๆเริ่มมารวมตัวกันที่ใบดาบจนทําให้เกิดแสงสว่างจ้า

 

เพียงพริบตาเดียวคูน้ําลึกกว่าสิบเมตรก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา

 

เร็วมาก!

 

มันเร็วถึงขนาดที่เขาไม่ได้ทันสังเกตเลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง

 

เขากระจายคะแนนและไปเพิ่มตรงจุดที่เขายืมมา

 

ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เทคนิคบ่มเพาะทั้งสามต่างก็ทรงพลังแต่เขาก็จําเป็นที่จะต้องบ่มเพาะทั้งภายในและภายนอกเช่นกัน เพราะตอนนี้พวกมันยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่ถ้าหากเขาทํามันได้สําเร็จมันจะกลายเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก

 

หลิน ฟานยืนอยู่ที่เดิมและพึมพํากับตนเอง

 

“ดูเหมือนว่าระบบสนับสนุนขนาดเล็กกําลังล่อลวงข้า”

 

เขาไม่อยากถูกล่อลวงโดยกฎแห่งธูปหอม

 

นี่เป็นการดํารงอยู่ที่นี่กลัวยิ่งกว่ากฎแห่งเหตุและผล เพราะไม่ว่าคนๆจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของมันได้

 

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don’t Want To Defy The Heavens

I Don't Want To Defy The Heavens, IDWTDTH, Wǒ Bùxiǎng Nì Tiān A, 我不想逆天啊
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I Don’t Want To Defy The Heavensภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข “นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป” ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset