Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 126 เจ้ามันช่างบ้าคลั่งและรวดเร็วนัก

ตอนที่ 126 เจ้ามันช่างบ้าคลั่งและรวดเร็วนัก

เซี่ยวเฉินหันหลังกลับและมองไปที่ตัวนมู่ฉิงกับจี้ชางคงที่ตามมาทีหลัง และเพลิงไร้ขอบเขตที่เริ่มเผาไหม้อยู่ในตาขวาของเขาก่อนหน้านี้ในที่สุดก็กําลังกลายเป็นแสงสีม่วง เมฆเพลิงได้ปรากฏขึ้น พร้อมกับเสียง “พุ่ม” และเผาไหม้ท้องฟ้าไปกว่าครึ่ง ขัดขวางพวกคนทั้งสองที่กําลังไล่ตามมา

ไม่นานเมฆเพลิงก็ได้กระจายไปทั่ว และเซี่ยวเฉินก็ได้หายไปจากสายตา จี้ชางคงได้ลงมาที่พื้นพร้อมกับเสียงตูมดังสนั่น รอยเท้าของเซี่ยวเฉินที่ทิ้งไว้บนใบหน้าของเขายังไม่จางหายไปไหน

ด้านหลังของเขา นักบุญของตระกูลจได้รีบตามมาถึง เมื่อพวกเขาเห็นจี้ชางคงที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ําและผิวที่ขาวซีด พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

จี้ชางคงได้พูดออกมาด้วยเสียงอันเย็นเยือก “ค้นให้ทั่วทั้งป่าเข้า จะไม่กลับไปที่แคว้นหนานหลิงจนกว่าเราจะเจอเซี่ยวเฉิน” 

เมื่อมาถึงส่วนรอบนอกของป่าอํามหิต เซี่ยวเฉินก็ได้นํายาฟื้นฟูเข้าปาก เขาได้ใช้ท่าอัสนีหลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่องและมุ่งหน้าไปค่ายกลลวงตา จากนั้นไม่นาน

เขาก็จัดการนําตัวทุกคนที่อยู่เบื้องหน้า เขาเข้าสู่ค่ายกลลวงตา

เซี่ยวเฉินปรากฏตัวขึ้นในค่ายกลลวงตาและได้เห็นแม่น้ำจ้วงที่คุ้นเคย รวมไปถึงโขดหินที่ยืนสูงไปที่ริมแม่น้ํำ เซี่ยวเฉินก็ถอนหายใจอย่างหนักด้วยความโล่งอก เขาได้พุ่งออกจากพื้นดินด้วยเท้าของเขาและกระโดดลงที่พื้นผิวของแม่น้ำ

เขาใช้วิชามังกรฟ้าเมฆาทะยานและเร่งความเร็วไปบนพื้นผิวของแม่น้ำ เขาตัดผ่านส่วนน้ําตกที่ไหลเชี่ยวกรากด้วยเสียงดังตุ้มและในทันทีหลังจากนั้นก็นั่งไขว้ขาขัดสมาธิบนโขดหินประหลาดที่อยู่ด้านหลังน้ำตก

ยาฟื้นฟูฉี และ ยาหวนคืนโลหิต… เม็ดยาฟื้นฟูรวดเร็วทั้งหลายมักจะมีผลข้างเคียงเสมอ เมื่อใช้พวกมันไปนานเข้า จะทําให้เกิดอาการเสพติดเป็นอย่างมาก

วันนี้ เซี่ยวเฉินได้ใช้ยาฟื้นฟูฉีไปมากกว่าสิบเม็ด และเขาก็ไม่กล้าที่จะเพิกเฉยและหมุนนเวียนพลังปราณในร่างกาย เพราะเขาต้องการขับพลังงานส่วนเกินของยาออกจากร่างกายเขา

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ได้หมุนเวียนอยู่ในร่างกายเขาและชําระล้างพลังงานส่วนเกินของยาออกจากเส้นปราณจนหมด หลังจากระบบไหลเวียนพลังปราณของเขาฟื้นคืนกลับมาดีแล้ว มันก็กลับสู่จิตวิญญาณต่อสู้ และจิตวิญญาณต่อสู้มังกรฟ้าก็ได้ดูดกลืนพลังปราณทั้งหมด

มังกรฟ้าค่อยๆจมลงสู่สระน้ําใสสะอาดไปอย่างช้าๆ จากนั้นไม่นาน พลังปราณบริสุทธิ์ก็ไหลจากจิตวิญญาณต่อสู้เข้าสู่เส้นปราณ ในร่างกายของเขา หลังจากมันเข้าสู่เส้นปราณก็ซึมซับเข้าไปสู่ผิวหนังและกระดูกไปจนทั่วร่างของเซี่ยวเฉิน

ทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียนซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้จนครบ 81 รอบ และสารเหนียวสีดําก็ค่อยๆไหลออกมาจากรูขุมขนของเซี่ยวเฉินอย่างช้าๆ ด้วยการบังคับเป็นเวลานานพลังงานส่วนเกินของยาก็ได้ออกจากร่างกายของเขา

หลังจากพลังงานของยาถูกขับออกไป เซี่ยวเฉินก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนแรงอย่างมาก นอกจากนี้ สารเหนียวสีดําก็ทําให้ผิวของเขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก

เซี่ยวเฉินกระโดดออกจากน้ําตกอย่างรวดเร็วและพุ่งลงไปที่แม่น้ำจ้วงที่กําลังไหลเชี่ยวกรากพร้อมกับเสียง “ฟุมม” และสารเหนียวสีดําบนตัวของเขาก็ถูกล้างออกไปในทันทีโดยน้ําในแม่น้ํา 

เชี่ยวเฉินโผล่ขึ้นมาบนผิวของแม่น้ําและสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกได้ถึงความสดชื่น แม้ว่าเขาจะยังรู้สึกอ่อนแอเป็นอย่างมาก แต่จิตวิญญาณของเขาก็สดชื่นเป็นอย่างมาก ทั้งความคิด, พลังฉี, และจิ ตวิญญาณทั้งหมดล้วนแต่อยู่บนจุดสูงสุด

“ปัง!”

เซี่ยวเฉินกระโจนออกจากนดั่งมังกรพุ่งเข้าฝั่ง เศษน้ำกระจายไปทั่วในขณะที่เขาลงยืนอยู่บนฝั่ง

เซี่ยวเฉินนาเสื้อผ้าแห้งสะอาดออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล และเปลี่ยนใส่พวกมัน เซี่ยวเฉินไม่ได้ทําอะไรอีก; เขาเดินต่อไปและพบกับสถานที่ดูสะดวกสบายและได้เอนนอนลง และสุดท้ายก็เริ่มงีบหลับ

เช้าวันต่อมาดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นจากทางตะวันออก เสียงนกร้องจิ้บๆไพเราะไปทั่วทั้งป่า เสียงพวกนี้ได้ปลุกเซียวเฉินขี้นมาอย่างไม่เต็มใจ

เซี่ยวเฉินได้ยืนขึ้นอย่างช้าๆและยืดตัว เขารู้สึกกระฉับกระเฉงเป็นอย่างมาก ร่างกายและจิตใจของเขาได้ฟื้นฟูถึงจุดสูงสุดแล้ว

เซี่ยวเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อยขณะที่เขานําแหวนมิติทั้งหมดของ สานุศิษย์ตระกูลชั้นสูงออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขา แม้เขาจะไม่ได้รับมรดกของมหาปราชญ์หรือเพลิงสวรรค์ของจักรพรรดิเที่ยวหรูแต่ผลการเก็บเกี่ยวของเขาก็ออกมาเยี่ยม

อันดับแรก เขาจะนําทุกอย่างที่อยู่ในแหวนมิติของต้วนมู่ออกมา กองไว้ที่พื้นทันใดนั้น กองหินวิญญาณขนาดใหญ่ยุทธภัณฑ์ และ ยาโอสถก็ตกลงมาที่พื้น

เซี่ยวเฉินตรวจสอบและนับมันอย่างระมัดระวัง มันมีหินวิญญาณระดับต่ำมากกว่า 100 ก้อน หินวิญญาณระดับกลาง 20 ก้อน ชุดเกราะระดับปฐพี 2 ชิ้น อาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี 2 ชิ้น ขวดยาโอสถที่สูงกว่าระดับสี่ 10 กว่าขวด 

และสุดท้ายตําราทักษะต่อสู้โบราณอีกหนึ่งเล่ม

“ดูเหมือนว่าทรัพย์สมบัติของตระกูลที่สืบทอดจากมหาปราชญ์จะดูถูกไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้สืบทอดของตระกูลชั้นสูงจะพกสมบัติมากมายเดินไปเดินมาเช่นนี้” เซียวเฉินพูดออกมาอย่างเบา

เซี่ยวเฉินไม่ลังเลและนําสิ่งของจากแหวนของสานุศิษย์ตระกูลชั้นสูงอื่นออกมาจนหมด บนพื้นดินในตอนนี้เต็มไปด้วยหินวิญญาณ และอาวุธจิตวิญญาณมากมาย

“ตอนนี้ข้าพูดได้เต็มปากแล้วว่าข้ารวย ด้วยหินวิญญาณ อาวุธจิตวิญญาณ และยาโอสถอันมากมาย ข้าจะสามารถบ่มเพาะจนไปถึงระดับนักบุญได้เลย” เซี่ยวเฉินตื่นเต้นด้วยความยินดีเพราะทรัพย์สมบัติของตระกูลชั้นสูงทั้งหมดในพระราชวังใต้ดินตอนนี้ เป็นของเขาแล้ว

มูลค่าของสิ่งของพวกนี้เมื่อนํามารวมด้วยกันเข้าด้วยกันมันเที่ยบได้กับครึ่งหนึ่งของทรัพย์สมบัติของตระกูลชั้นสูง ไม่ว่าสําหรับใคร นี่เป็นความร่ำรวยอันยิ่งใหญ่

เซี่ยวเฉินเรียบเรียงสิ่งของและนับอีกครั้ง ผลลัพธ์คือเขาได้รับ 200 หินวิญญาณระดับต่ํา 80หินวิญญาณระดับกลาง 5 อาวุธจิต วิญญาณระดับปฐพี 3 ชุดเกราะระดับปฐพี่ขั้นสูง 6 ตําราทักษะการต่อสู้โบราญ และยาโอสถอีกนับไม่ถ้วน

“ตึง!” เซี่ยวเฉินผลักกองหินวิญญาณออกไป, และเรือสงครามสี เงินขนาดเล็กอันงดงามก็ปรากฏเบื้องหน้าเซียวเฉิน

“โธ่เว้ย! มีใครบางคนเคยพยายามตามหาสมบัติลับสมัยบรรพกาลในพระราชวังใต้ดิน!” เซี่ยวเฉินอุทานอย่างตกใจเมื่อเขาถือเรือสงครามขนาดเล็กไว้บนมือ

เซี่ยวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไปในเรือสงครามสีเงิน ทันใดนั้นเขารู้สึกราวกับว่าเขาได้เดินเข้าสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่

แต่อย่างไรก็ตามดินแดนนี้ก็เต็มไปด้วยความเสียหาย

มีชิ้นส่วนเสียหายไปในทุกที่: สัญลักษณ์ค่ายกลในส่วนชั้นในก็ไม่ สมบูรณ์ มันเสียหายรุนแรงมาก ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทําให้เรือสงครามสีเงินไร้ซึ่งพลังงาน หากคนทั่วไปได้รับสิ่งนี้ไปเขาจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่านี่คือสมบัติลับ

เซี่ยวเฉินถอนสัมผัสวิญญาณของเขาออกมาและจ้องไปที่เรือสงครามสีเงินที่อยู่ในมือของเขา เขารู้สึกเสียดายมาก หลังจากผ่านมากว่าหมื่นปี มันไม่มีทางที่จะไม่เกิดความเสียหายกับอาวุธลับได้เลย

นอกจากนี้ ค่ายกลโจมตีในนั้นก็เสียหายอย่างสมบูรณ์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะซ่อมแซมมัน และถึงแม้จะสามารถซ่อมได้แต่ มันก็ใช้ได้เพียงเป็นเครื่องมือในการขนส่งเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินก็ยังคงตัดสินใจที่จะซ่อมมัน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้สําหรับเขาที่จะปรับแต่ง สมบัติลับยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับการบ่มเพาะของเขา เพียงแค่ตามหาวัสดุก็ใช้เวลานานจนนับไม่ไหวแล้ว

ตอนนี้มีสมบัติลับที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์อยู่ตรงหน้าเขา แต่มันดันไม่เหมาะกับเขาที่จะใช้มัน สําหรับค่ายกลโจมตีที่มันมีอยู่ เขาสามารถสลักอักษรใหม่เพื่อที่จะทําให้มันแข็งแกร่งขึ้น

สิ่งที่สําคัญที่สุดคือนี่เป็นสมบัติลับที่ถูกสร้างโดยมหาปราชญ์ มหาปราชญ์ได้ทิ้งสัญลักษณ์สุดท้ายไว้ที่มัน; หลังจากผ่านมากว่าหมื่นปี, มันก็ได้หยั่งลากลึกอยู่ในเรือสงครามแล้ว

“สิ่งที่ข้าบอกได้จากที่เห็น, สมบัติลับที่ถูกสร้างโดยมหาปราชญ์โบราณนั้นเป็นสมบัติเวทย์มนต์ที่ถูกบันทึกอยู่ในหนังสือบ่มเพาะพลัง” เซียวเฉินบ่นกับตัวเองหรือว่าหนังสือบ่มเพาะพลังจะมีความเกี่ยวข้องกับโลกใบนี้?

เขาสายหัวของเขาและนึกถึงสิ่งที่เขาคิด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ เซี่ยวเฉินใส่หินวิญญาณและชุดเกราะที่อยู่บนพื้น เข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล เขาใช้เวทย์แรงโน้มถ่วงและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและมุ่งหน้าไปที่ภูเขาด้านที่มีน้ำตกไหลลงมา

เสียงลมพุ่งผ่านตั้งอยู่ภายในภูเขา เซียวเฉินยืนอยู่บนต้นไม้เก่าที่เติบโตขึ้นในภูเขาที่คดเคี้ยว เซี่ยวเฉินมองไปไกล และเห็นยอดเขาที่สูงเป็นอย่างมาก มีเมฆลอยรอบยอดเขานั้นซึ่งทําให้มันดูขุ่นมัวและลึกลับมาก

“ที่นั่นเหรอ ?” เซี่ยวเฉินกล่าวออกมาอย่างเบา และบินขึ้นไปข้างหน้า

สายลมหนาวเล็กน้อยได้พัดมาที่เขา เสื้อผ้าและผมของเซียวเฉินพัดไปตามสายลม ยิ่งไปสูงขึ้น ลมก็ยิ่งแรงขึ้นมันแรงซะจนเขาไม่สามารถเปิดตาได้

หลังจากผ่านไปนาน, เซี่ยวเฉินก็ได้ลงจอดที่ยอดเขาพร้อมกับเสียง “อู่” ถ้าเขายืดแขนเขาออกไป เขาก็จะสามารถแตะเมฆสีขาว ได้พลังจิตวิญญาณในรอบตัวเขาหนาแน่นมาก ทําให้เขารู้สึกได้ถึงความมุ่งพล่านของพลังงานจิตวิญญาณที่ซึมซาบเข้ามาเล็กน้อย

เซี่ยวเฉินพบจุดที่ว่างเปล่าและนําหินวิญญาณระดับต่ำออกมา จากแหวนห้วงจักรวาลทีละชิ้น เขาพร้อมที่จะสร้างค่ายกลรวบรวมพลังจิตวิญญาณขั้นต่ำสะสมพลังจิตวิญญาณพลังธรรมชาติของเรือสงครามสีเงิน

ที่จริง ค่ายกลรวบรวมจิตวิญญาณอันนี้ สามารถทําให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้นไปอีก ถ้าเซียวเฉินใช้หินวิญญาณระดับกลาง แต่อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินก็ไม่สามารถใช้หินวิญญาณระดับกลางอย่างฟุ่มเฟือยได้

หนึ่งหินวิญญาณระดับกลางนั้นสามารถเทียบได้กับหินวิญญาณ ระดับต่ำนับ 100 ก้อน ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครโง่พอที่จะแลกเอาเปลี่ยน เพราะว่าหินวิญญาณระดับกลางหายากยิ่งในอาณาจักรต้าฉิน

จากนั้นไม่นาน ค่ายกลรวบรวมพลังวิญญาณขั้นต่ําก็ปรากฏเซี่ยวเฉินวางเรือสงครามสีเงินไว้ที่ตรงกลางของค่ายกลและจากนั้น เขาก็ส่งพลังปราณเข้าไปข้างในอย่างช้าๆ สัญลักษณ์ค่ายกลค่อยๆสว่างขึ้นเล็กน้อยและค่อยๆขยายออกไปอย่างช้าๆ

พลังงานจิตวิญญาณอันหนาแน่นที่อยู่โดยรอบก็ไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ภายในค่ายกล พลังงานจิตวิญญาณกลายเป็นหมอกควัน จากนั้นไม่นานที่จริงแล้วนั่นคือการควบแน่นเป็นหยดน้ำพลังงานจิตวิญญาณ

“ตึง!”

ในส่วนกลางของค่ายกล ทันใดนั้น เสาแห่งแสงอันรุ่งโรจน์ก็สว่างขึ้นและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เรือสงครามสีเงินอันเล็กและงดงามก็ได้ลอยขึ้นไปในเสาแสง และรูปร่างของเรือสงครามก็ส่องแสวสองชนิดที่แตกต่างกันออกมา

เซี่ยวเฉินขยายสัมผัสวิญญาณเข้าไปข้างใน; รอยสลักสัญลักษณ์ ค่ายกลที่อยู่ในเรือสงครามเงินก็หมุนวนอย่างรวดเร็วและดูดซับพลังงานจิตวิญญาณอันน่าสยดสยองที่อยู่ในเสาแสงเข้าไป

หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง หินวิญญาณที่อยู่บนพื้นก็ได้ส่งเสียงแตกออกมาอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินอุทานออกมา “ไม่นะ! ปริมาณพลังงานจิตวิญญาณที่เรือสงครามสีเงินต้องการมันน่ากลัวเกินไปแล้ว ขนาดค่ายกลรวบรวมพลังจิตวิญญาณระดับต่ำก็ยังไม่เพียงพอที่จะทําให้มันพอใจ”

ความอยากอาหารของสหายผู้นี้ยิ่งใหญ่เกินไป เซี่ยวเฉินคิดอย่างขมขึ้นอยู่ภายในหัวใจของเขาพลังงานจิตวิญญาณที่ถูกเตรียมไว้ มากกว่าหนึ่งร้อยหินวิญญาณไม่เพียงพอที่จะใช้ในการซ่อมแซม 

เป็นเวลา 2 ชั่วโมง นี่เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาอย่างสมบูรณ์

เชี่ยวเฉินนแก่นวิญญาณของราชันย์สิงโตทองคําออกมาจาก แหวนห้วงจักรวาล เขามองไปที่เรือสงครามเงินอย่างช้าๆและรู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย เพราะแก่นวิญญาณทองคําเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณที่ราชาสิงห์โตทองคําดูดซับมากว่าร้อยปี

มันบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าผู้บ่มเพาะลักษณะใดก็สามารถดูดซับมันได้โดยตรง เมื่อมันถูกวางไว้ในค่ายกลรวบรวมจิตวิญญาณ มันสามารถยกระดับค่ายกลรวบรวมจิตวิญญาณไปอยู่ในระดับกลางได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินรู้สึกลังเลที่จะทําแบบนั้น เพราะเขาตั้งใจจะออกจากที่นี่หลังจากที่เขาทะลวงคอขวดเข้าสู่ระดับกษัตริย์ ขอบเขตกษัตริย์เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่และเมื่อเขาผ่านมันไปได้ เขาจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทุกคน แต่ถ้าเขาพลาดตัวเขาก็จะจางหายไปตามกาลเวลา

ในท้ายที่สุด เขาก็เก็บมันกลับไปและนําหินจิตวิญญาณระดับกลางออกมาแทน มูลค่าของหินจิตวิญญาณขั้นกลางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแก่นวิญญาณ นอกจากนี้มันยังมีประโยชน์มากอีกมากมาย เพราะมันถูกยอมรับเป็นเงินตราไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เมื่อเซี่ยวเฉินวางมันลงในค่ายกล หัวใจของเขาก็เหมือนถูกทิ่มแทง

เซี่ยวเฉินวางหินจิตวิญญาณระดับกลาง 40 ก้อนก่อนที่ค่ายกลรวบรวมวิญญาณขั้นกลางจะเสร็จสมบูรณ์ นั่นเป็นครึ่งนึ่งของสิ่งที่เซี่ยวเฉินได้รับมา เซี่ยวเฉินทําสัญลักษณ์มือ และสายลมอันรุน รงก็พัดผ่าน และพลังงานจิตวิญญาณทั้งหมดในระยะพันเมตรก็เพิ่มขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“เตาะแตะ! เตาะแตะ!”

หยดน้ําพลังงานจิตวิญญาณตกลลงมาที่ยอดเขาเหมือนกับสายฝน นี่คือแก่นแท้ของพลังงานจิตวิญญาณ เซี่ยวเฉินไม่อยากทําให้มันเสียเปล่า เขานําสมบัติเวทย์มิติออกมาคือขวดหยกและวางมันไว้ด้านข้างเพื่อเก็บหยดน้ําจากท้องฟ้า

เสาแห่งแสงที่อยู่ตรงกลางก็กลายมาเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม และเรือสงครามสีเงินก็เริ่มปลดปล่อยรังสีอันไร้ขอบเขตออกมา เซี่ยวเฉินสามารถรู้สึกได้ถึงเฒ่าแห่งนักปราชญ์ที่กําลังฟื้นตัวอย่างช้าๆได้อย่างชัดเจน

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset