Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 138 ขโมยจูบ

ตอนที่ 138 ขโมยจูบ

 

ในกลางดึก ขณะที่เซี่ยวเฉินนั่งอยู่บนกิ่งไม้ เขาได้ยินเสียงบ่นพึมพําอันอิดโอย เขาค่อยๆลงจากต้นไม้และเดินไปทาง เหลิ่งหลิวซู

 

ใบหน้าของเหลิ่งหลิวซูซีดมาก หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ นางขมวดคิ้วอย่างหนัก และนางสูดหายใจสั้นๆอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่านางกําลังฝันร้าย และตอนนี้ตกอยู่ภายใต้ความเครียดเป็นอย่างมาก

 

เซี่ยวเฉินเหยียดมือออกไปและวางบนหน้าผากนาง จากนั้นเขาส่งเกลียวคลื่นพลังปราณอันอ่อนโยนไปในร่างกายนาง เนื่องจากเซี่ยวเฉินบ่มเพาะทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ พลังปราณของเขามีผลบางส่วนเหมือนกับฉีอมตะ 

 

จากนั้นไม่นาน การแสดงออกของเหลิ่งหลิวซูก็ค่อยอ่อนลง ลมหายใจของนางกลายมาเป็นสงบและมั่นคง และหยุดทําคิ้วขมวด เซี่ยวเฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก และหยุดส่งพลังปราณให้กับนาง เขาถอนมือออกมาและเตรียมจะจากไป

 

“ฟุบ!”

 

เพียงแค่เซียวเฉินถอนมือออก เหลิ่งหลิวซูจับมันไว้ ดวงตาของนางยังปิดอยู่ และนางที่เหมือนจะหลับอยู่ก็พูดออกมา “ท่านพ่อ อย่าไป อย่าทิ้งหลิวซูไว้คนเดียว…”

 

เหลิ่งหลิวซูจับมือของเซี่ยวเฉินแน่นมาก เซี่ยวเฉินรู้สึกอับอายภายในใจของเขา เขายิ้มอย่างขมขื่น และคิดกับตนเอง สาวน้อยเจ้าจําคนผิดแล้วล่ะ ได้โปรดอย่าจับข้าแน่นนัก เซี่ยวเฉินพยายามเต็มที่ที่จะแกะมือนางออก แต่เขาพบว่าถ้าเขาไม่ใช่พลังปราณ เขาไม่สามารถแกะมันได้ 

 

เขากลัวว่าเขาจะปลุกนางถ้าเขาใช้พลังปราณ ดังนั้นเขาทําได้เพียงแค่นั่งลงอย่างเชื่องช้าเท่านั้น และไม่เคลื่อนไหวมากเกินไป เขาไม่สามารถแม้แต่จะนอนหลับหรือบ่มเพาะพลัง เขาเปิดตาทิ้งเอาไว้และปกป้องนาง

 

ในค่ําคืนมันมืดเป็นอย่างมากภายในปาที่เงียบสงบ เมื่อเขาเหยียดมือออกไป เขาไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือของเขา เซี่ยวเฉินนั่งอยู่ด้านข้างเหลิ่งหลิวซู และฟังนางหายใจอย่างสงบ เขาไม่ขยับแม้ว่าจะรู้สึกอึดอัด

 

เมื่อเกือบจะเช้า ในที่สุดเซียวเฉินรู้สึกว่านางปล่อยมือที่จับเขาไว้ เขารีบดึงมือกลับไปและตรวจสอบบาดแผลของนางอีกครั้ง เขาพบว่ามันไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว สิ่งที่นาง ต้องการมีแค่การพักผ่อนเท่านั้น

 

เซี่ยวเฉินยืนขึ้นและรู้สึกปวดหลัง หลังจากใช้เวลาทั้งคืนโดยไม่ได้นอน จิตใจของเขาอ่อนเพลีย เขาตบแก้มทั้งสอง และมองไปยังแสงที่ส่องออกมาทางตะวันออกในขณะที่เตรียมจะจากไป

 

“เจ้าช่วยชีวิตข้าโดยบังเอิญ ตอนนี้ข้าได้ช่วยเจ้าคืนแล้ว รวมถึงใช้เวลาทั้งคืนเพื่อปลอบโยนเจ้า ตอนนี้เราควรจะหายกันแล้ว” เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อย และกล่าวในขณะที่มองเหลิ่งหลิวซู

 

หลังจากเขาก้าวไปสองก้าว ทันใดนั้นเขาก็หยุด เขารู้สึกเหมือนเขาสูญเสียบางสิ่ง เขาพึมพํากับตนเอง “ข้าถูกหาว่าเทียบไม่ได้แม้แต่เดรัชฉาน? หลังจากเปลื้องผ้าสา วงาม และนอนพักกับนางอยู่ทั้งคืน แต่ข้าไม่ได้แม้แต่จะทําอะไรทั้งนั้น ”

 

เซี่ยวเฉินกลับมาอย่างรวดเร็ว และมองไปที่ใบหน้างดงามของเหลิงหลิวซู เขาหายใจเข้าลึกๆ และจูบลงบนหน้าผากของนางอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาพุ่งออกไปในทันที

 

เหลิงหลิวซูที่กําลังหลับไม่ได้ตอบสนองอะไร เมื่อท้องฟ้าสว่าง และแสงตะวันแรกแย้มกระทบใบหน้าของนาง นางก็ค่อยตื่นขึ้นมา

 

นางค่อยๆลืมตาขึ้นมารู้สึกว่าดวงตะวันสว่างเกินไป เหลิ่งหลิวซูเห็นว่านางถูกคลุมด้วยเสื้อผ้า นางเผยท่าทางอันสับ สน

 

“มีใครบางคนช่วยข้าไว้? ใครเป็นคนช่วย?” ก่อนที่นางจะหมดสติเมื่อวานนี้ ความทรงจําสุดท้ายที่นางเห็นคือมีสายฟ้าผ่าลงมาจากฟากฟ้า และนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจาก

 

นางค่อยๆยืนขึ้นและผลักเสื้อผ้าไปด้านข้าง ในที่สุด นางพบว่าชุดส่วนบนของนางฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นางเผยให้เห็นส่วนสําคัญบนหน้าอกของนาง นางอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตาม นางประหลาดใจเป็นอย่างมากเพราะบาดแผลบนหน้าอกของนางหายเป็นปกติภายในหนึ่งคืน มันหายเป็นปกติอย่างไม่น่าเชื่อ บาดแผลปิดตัวแล้ว

 

แม้ว่าจะมีอาการชาอยู่บ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ นอกจากนี้ มันถูกรักษาอย่างทันท่วงที  มันจะไม่มีแผลเป็นหลงเหลือ

 

ผู้ใดในโลกใบนี้เป็นคนช่วยข้าไว้? คนผู้นี้มควรมาจากศาลากระบี่สวรรค์ จิตใจของเหลิ่งหลิวซูเต็มไปด้วยความสงสัย เพราะถ้าเขามาจากศาลากระบี่สวรรค์คนผู้นั้นก็ควรจะอยู่ข้างนาง

 

ทันใดนั้น นางนึกถึงความฝันเมื่อคืน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับบิดาที่ล่วงลับไปแล้วของนางยืนอยู่เคียงข้างนาง นางจับมือของเขาและบอกเขาอย่าจากนางไป มันรู้สึกเหมือนกับเป็นความจริง

 

เหลิ่งหลิวซูนําเอาชุดของเสื้อผ้าออกมาจากแหวนมิติ หลังจากนางเปลี่ยนใส่ ทันใดนั้นนางค้นพบขวดยาสองขวด นางก้มลงและหยิบมันขึ้นมาเปิดมันออกและมองดู หลังจากทําเช่นนั้น กลิ่นหอมของยากระจายออกมา เห็นได้ชัดว่าเด็ดยาเหล่านี้เป็นของระดับสูง

 

นางหยิบกระดาษคําแนะนํายาขี้มา และอ่านมันอย่างระวัง คําถามที่นางมีในใจเพิ่มขึ้น ใครในโลกที่ช่วยข้าไว้? นอกจากนี้ เขายังมีความละเอียดละออในเรื่องเช่นนี้ด้วย

 

นางเดินไปโดยรอบและสํารวจรอบด้านของตน แต่นางไม่ค้นพบอะไรทั้งสิ้น นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ นางก้มหัวลงและโน้มตัวลงไปที่ต้นไม้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นางตกใจเมื่อค้นพบร่องรอยว่ามีใครสักคนที่นั่งอยู่เคียงข้างนางเป็นเวลานาน

 

ศาลากระบี่สวรรค์เป็นหนึ่งในสามนิกายใหญ่ในอาณาจักรต้าฉิน มันอยู่มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เทียนหวู่ และดํารงมากว่าหมื่นปี ในใจของประชาชนแห่งอาณาจักรต้าฉิน ศาลากระบี่สวรรค์มีตัวตนดั่งแดนศักดิ์สิทธิ์

 

ตามชื่อของมัน นี่เป็นนิกายที่มุ่งเน้นไปที่เส้นทางแห่งกระบี่ ทักษะการต่อสู้ทั้งหมด ทักษะการเคลื่อนไหว หรือวิธีการบ่มเพาะพลังล้วนเกี่ยวข้องกับกระบี่ มันเป็นแดนศักดิ์ สิทธิ์สําหรับผู้ที่บ่มเพาะเส้นทางกระบี่

 

นิกายดาบเงาหมอกก็เช่นเดียวกัน เพียงแค่ว่ามันเป็นดาบนิกายศาลากระบี่สวรรค์และนิกายดาบเงาหมอกเป็นอริกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งสองนิกายทําสงครามกันมาหลายครั้งในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของทั้งสองนิกายเทียบเท่ากัน ไม่มีใครนําหน้ากว่าใคร

 

อย่างไรก็ตามไม่กี่ปีที่ผ่านมาประมาณ 20 ปีที่แล้ว ศาลากระปสวรรค์ประสบภัยพิบัติลึกลับ มีผู้เชียวชาญรุ่นก่อนหลายคนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ส่งผลให้ความแข็ง แกร่งของพวกเขาลดลง

 

แม้เช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้าดูถูกความแข็งแกร่งของศาลากระบี่สวรรค์ มันไม่ได้ทําให้สูญเสียทักษะต่อสู้ที่ส่งต่อกันลงมากว่าหมื่นปี ด้วยระบบของนิกาย พวกเขาจะผงาดสู่จุดสูงสุดอีกครั้งในสักวันหนึ่ง

 

นิกายตั้งอยู่ในเทือกเขาหลิงหยุน เทือกเขาหลิงหยุนเป็นหนึ่งในสี่เทือกเขาขนาดใหญ่ของอาณาจักรต้าฉิน มียอดเขาขนาดใหญ่เจ็ดแห่ง และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีพลังจิตวิญญาณรวมตัวกันอยู่หนาแน่นของอาณาจักรต้าฉิน

 

เมื่อมีคนบ่มเพาะพลังที่นั่น ระดับการบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มขึ้นสูงและเร็วกว่าคนผู้อื่น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงตําราทักษะที่ครอบคลุมและทรัพยากรบ่มเพาะที่ไร้ขีดจํากัด ส่งผลให้ผู้คนจํานวนมากต้องการเข้าร่วมกับศาลากระบี่สวรรค์

 

ที่เชิงเขาของภูเขาหลิงหยุน มีเมืองที่ไม่เล็กไปกว่าเมืองไป๋สุ่ยตั้งอยู่ มันถูกเรียกว่าเมืองกระบี่ เมืองกระบี่เป็นของศาลากระบี่สวรรค์ ทั้งหมดของดินแดนร้านค้า บ้านประมูล และตลาดล้วนเป็นของศาลากระบี่สวรรค์

 

เมืองกระบี่ยังเป็นที่รู้จักกันในนามนิกายชั้นนอกของศาลากระบี่สวรรค์ ทุกๆปีนิกายชั้นในของศาลากระบี่สวรรค์จะใช้เวลาหนึ่งเดือนเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ที่มีความสามารถ

 

หากพวกเขาพลาดช่องทางนี้ จะไม่มีโอกาสเข้าสู่นิกายชั้นในของศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาทําได้แค่เข้านิกายชั้นนอกและรอคอยการทดสอบโอกาสดังกล่าวจะมีหนึ่ง ครั้งในทุกหกเดือน

 

แม้ว่าจะเป็นเพียงนิกายชั้นนอก ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าได้ หากคนผู้นั้นไม่เข้าสู่ระดับเชี่ยวชาญยุทธก่อนอายุ15 พวกเขาจะไม่ได้รับโอกาสในการเข้าทดสอบ

 

ขนาดเกณฑ์ของนิกายชั้นนอกก็สูงมากแล้ว  ใครจะสามารถจินตนาการออกถึงเกณฑ์ที่ใช้เข้าสู่นิกายชั้นในจะเข้มงวดมากแค่ไหน ถึงเช่นนั้นก็ยังมีฝูงชนผู้ใช้กระบีมายังส ถานที่แห่งนี้ไม่ขาดสาย

 

นี่ถือเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับผู้ใช้กระบี่ หากไม่มีใครไปเมืองกระบี่ และทดสอบค่ายกลกระบี่สวรรค์วิญญาณร่ําไห้ที่โด่งดัง หรือเก็บตนสันโดษที่นั่น หากเป็นผู้ใช้กระบี่พว กเขาจะต้องเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

 

หลังจากเซียวเฉินแยกทางกับเหลิ่งหลิวซูเป็นเวลาครึ่งเดือน ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองกระบี่อันโด่งดัง เนื่องจากเขาพบความอยุติธรรมมากมายระหว่างทางจึงทําให้เขาล่า

 

เมืองกระบี่ปรากฏในสายตาเขาแล้ว บนเส้นทางอันยาวไกล  มีผู้บ่มเพาะพลังพกกระบี่ขนาดใหญ่อยู่มากมาย ผู้บ่มเพาะบางคนถึงขนาดพกกระบีหลายเล่ม เซียวเฉินเคยเห็นอาวุธจิตวิญญาณระดับปฐพี่มาหลายชิ้น

 

ก่อนที่เขาจะเข้าเมืองกระบี่ เขาสามารถสัมผัสบรรยากาศมันได้ก่อนแล้ว  ผู้รักในการใช้กระบี่มักจะมีกระบี่เป็นของตนในสถานที่แห่งนี้ หากเจ้าไม่ได้ถือกระบี่เจ้าจะอายจนไม่กล้าเดินบนถนน

 

เพราะเซียวเฉินเดินมือเปล่า เขาจึงถูกดูหมิ่น ทุกคนมอบสายตาแปลกประหลาดให้แก่เขา  มีบางคนแม้กระทั่งรู้สึกว่าเขาดูหมิ่นเมืองกระบี่ จิตสังหารปรากฏในสายตาของคนเหล่านั้น

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกหดหูอย่างมาก เพื่อความสะดวกในการต่อสู้ เซี่ยวเฉินไม่เคยทําฝักให้กับกระบี่เงาจันทร์ ถ้าเขานํากระบี่เงาจันทร์ออกมาตอนนี้ มันจะไม่สะดวกเป็นอย่างมาก

 

ในที่สุด เซียวเฉินไม่สามารถทนต่อสายตาที่ทุกคนมอบให้เขาได้อีกต่อไป เขากําลังเตรียมที่จะสร้างผักให้กับกระบี่เงาจันทร์ของเขา ก่อนเข้าเมืองยังถูกมองเหยียดถึงเพียงนี้ เขาเกรงว่าเขาจะต้องถูกท้าดวลในทันทีเมื่อเขาเข้าไปในเมือง

 

ก่อนเข้าเมืองกระบี่ มีร้านค้านับไม่ถ้วนอยู่เต็มตามข้างทางของถนนใหญ่ มีกระบี่ขนาดใหญ่หลายอันที่วางอยู่ด้านหน้าร้าน เซี่ยวเฉินถามไปทั่ว และพบว่าหากใครสามารถหยิบมันขึ้นมาได้ด้วยระดับความแข็งแกร่งของเขา พวกเขาสามารถรับกระบี่ไปได้ฟรี

 

หลังจากเซียวเฉินได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มออกมา “นี่ช่างน่าสนใจ มีกระบี่กี่เล่มที่ข้าสามารถได้รับโดยใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย?”

 

อย่างไรก็ตามเซี่ยวเฉินในตอนนี้ไม่มีเวลาหรือความสนใจที่จะทําเช่นนั้น เขาตั้งใจเดินเข้าไปยังร้านขายอาวุธ และ มองไปโดยรอบร้านค้าเต็มไปด้วยกระบี่ ไม่มีอาวุธอื่น 

 

มีกระบี่อยู่ทุกประเภท  กระบี่ทหารม้า  กระบี่กว้าง  กระบี่สั้น  กระบี่ยาว และทุกประเภททุกรูปแบบของกระบี่ที่เซี่ยวเฉินไม่รู้ชื่อ มันช่วยเปิดวิสัยทัศน์ให้กับเขา 

 

ที่น่าแปลกใจคือกระบี่ทุกเล่มมีชิ้นส่วนของศิลาแสงจันทร์อยู่บางส่วน พวกมันเป็นอาวุธจิตวิญญาณทั้งหมด  บางเล่มถึงขนาดอยู่ในระดับลึกลับ

 

มันน่าตกใจอย่างมาก  ร้านค้าธรรมดาในเมืองกระบี่ขายอาวุธจิตวิญญาณตั้งมากมาย อาวุธจิตวิญญาณสําหรับที่นี่เหมือนเป็นสินค้าทั่วไป

 

ภายในร้านมีผู้คนไม่มาก  เห็นได้ชัดว่าธุรกิจไม่ดีเป็นอย่างมาก เซียวเฉินมองไปโดยรอบครู่หนึ่ง และบังเกิดความคิดทางธุรกิจขึ้นมา มีอาวุธจิตวิญญาณมากมายอยู่ที่นี่ หากเขาบังเอิญซื้อบางอย่างและเอามันไปขายมันที่หลัง เขาจะได้เงินก้อนใหญ่

 

เซี่ยวเฉินมองไปที่เจ้าของร้านและถาม “มีกระบี่อยู่ที่นี่เท่าไร?”

 

เจ้าของร้านเป็นชายชราในอายุ 70 ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอย แต่เขาก็ดูไม่เหมือนกับคนอายุมาก  เขาดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

 

ชายชราคาดเดาตัวตนเซี่ยวเฉินและยิ้มอย่างอบอุ่น “แขกผู้มีเกียรติ  เจ้ายังไม่ได้เป็นสาวกชั้นนอกใช่หรือไม่? ในกรณีนี้ เจ้าไม่มีสิทธิที่จะซื้อกระบี่”

 

เซี่ยวเฉินตกตะลึง  เขาไม่คาดคิดว่าจะมีกฏเช่นนั้น เขารู้สึกเหมือนชายชราจะมองแผนของเขาออกและยิ้มอย่างงมง่าม “ในกรณีนั้น ข้าสงสัยว่าท่านสามารถสร้างฝึกให้ข้าได้หรือไม่?”

 

ชายชรายิ้มออกมา “เรื่องนี้ข้าทําได้นํากระบี่ของเจ้าออกมาและให้ข้าดู!”

 

ทัศนคติของชายชราผู้นี้โอนอ่อนเป็นอย่างมาก  มันทําให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ยิน เซี่ยวเฉินไม่ลังเลและนํากระบี่เงาจันทร์ออกมาและส่งออกไป

 

ชายชราถือกระบี่เงาจันทร์ และใช้มือของเขาลูบไล้มันอย่างอ่อนโยน สีหน้าที่แสดงออกมาของเขาไม่เปลี่ยนในขณะที่ยิ้มเล็กน้อย “นี่เป็นกระบี่ที่ดี ข้าไม่ได้เห็นการออกแบบเช่นนี้มานานแล้ว ขนาดของคมอยู่ตรงกลางระหว่างกระบี่ขนาดใหญ่และขนาดกลาง รูปร่างเพรียวบางของมันเกือบจะเข้าสู่ระดับสมบูรณ์แบบ”

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

IMDC, 仙武同修
Score 6.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2008 Native Language: Chinese
เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset