Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 154 ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอ

ตอนที่ 154 ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอ

 

หลังจากพวกเขากินข้าวต้มและเสร็จสิ้นการทานอาหารเที่ยง หลิวสุยเพิ่งดึงเซี่ยวเฉินไปด้านข้างแล้วกล่าว “เย่เฉิน หากข้าคิดไม่ผิด จิ้งจอกวิญญาณของเจ้ามีสายเลือดของจิ้งจอกวิญญาณหกหาง”

 

เซี่ยวเฉินพยักหน้า “มันมีปัญหาหรือ?”

 

หลิวสุยเพิ่งตอบกลับอย่างเคร่งขรึม “หากไม่มีความจําเป็น อย่านําสหายตัวนี้ออกจากยอดเขาฉิงหยุน เย่เฉิน เจ้าควรเข้าใจแนวคิดที่ว่าอย่าเผยความมั่งคั่งให้ใครเห็น!”

 

เซี่ยวเฉินรู้สึกว่ามันแปลกและถาม “ศาลากระบี่สวรรค์เป็นพวกไม่สนกฎหมาย?”

 

หลิวสุยเพิ่งส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น “แน่นอนว่ายอดเขาฉิงหยุนไร้มลทิน แต่ศาลากระบี่สวรรค์นั้นเต็มไปด้วยผู้คนทุกประเภท มันผสมไปด้วยคนดีและไม่ดี มันไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่เจ้าคิด หลักการที่ว่าผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอนั้นถูกใช้ในสถานที่แห่งนี้ในทุกวันเช่นกัน”

 

เซี่ยวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะคิดหนัก เขานึกถึงศิษย์ชั้นนอกอย่างหลิวเฉิน ถ้าศาลากระบี่สวรรค์เต็มไปด้วยคนเช่นนี้ เช่นนั้นก็ต้องพิจารณาคําพูดของหลิวสุยเฟิงหน่อย

 

หลังจากทานอาหารกลางวัน เสี่ยวไป๋ออกจากพื้นที่ประลองพร้อมกับเซี่ยวเพิ่งโดยเต็มใจ เซี่ยวเฉันรู้ว่ามันไม่ชอบอยู่ในวิญญาณหยกโลหิต ยังไงซะก็ไม่มีอันตรายมากมายภายในยอดเขาฉิงหยุน เขาจึงปล่อยมันไป

 

“เย่เฉิน ข้ามีบางสิ่งต้องทําในตอนบ่าย และไม่สามารถอยู่กับเจ้าได้ ขอโทษด้วย!” หลิวสุยเพิ่งกล่าวขอโทษกับเซี่ยวเฉิน

 

เซียวเฉินพยักหน้า หลิวสุยเฟิงอดทนสอนสั่งเขาตลอดทั้งเช้า เขารู้สึกขอบคุณมากสําหรับสิ่งนั้น เขาไม่ได้ต้องการให้หลิวสุยเฟิงอยู่ที่นี่เพื่อชี้แนะให้เขา นอกจากนี้พื้นฐานการเคลื่อนไหวทั้งแปดของกระบี่ไม่ได้ยากเกินไปที่จะต้องมีคนชี้แนะ

 

หลิวสุยเฟิงยิ้มเมื่อเห็นเซี่ยวเฉินพยักหน้า “น่าสนใจ ข้าจะจากไปก่อน จําไว้ว่าอย่านําตุ้มถ่วงน้ําหนักออกจากร่างกาย มิฉะนั้น ถ้าพี่สาวข้าเห็น ข้าจะถูกหางเลขไปด้วย” 

เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อยขณะที่มองหลิวสุยเฟิงจากไป เขาไม่ได้เร่งรีบในการฝึกทักษะกระบี่เบื้องต้น หลังจากอาหารในร่างกายเขาถูกย่อยเสร็จแล้ว เขาอบอุ่นร่างกายของตน

 

พึ่งพาเพียงพละกําลังของร่างกาย เซียวเฉินค่อยๆเริ่มวิ่งรอบพื้นที่ประลอง เซี่ยวเฉินจะเริ่มบ่มเพาะพลังหลังจากร่างกายของเขาถึงขีดจํากัดในระหว่างการวิ่งช่วงเช้า มันมีประสิทธิภาพมากกว่าเวลาปกติ

 

จากนั้นไม่นาน เซี่ยวเฉินค่อยๆวิ่งไปรอบพื้นที่ประลองห้าถึงหกรอบ คราวนี้เขารู้สึกได้ถึงการซึมซับอันแปลกประหลาดที่กําลังเกิดขึ้นจากหินภูผาสวรรค์ที่อยู่ด้านล่าง ทุกๆย่างก้าวของเขา ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาจะถูกดูดออกไป

 

ความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคยเป็นอย่างมาก หลังจากคิดมานาน ในที่สุดเขาก็จําได้ว่าเขาเคยรู้สึกเช่นนี้ที่ไหน เมื่อเขาอยู่บนแท่นหินสูงตระหง่านภายในซากโบราณของนักปราชญ์ที่ป่าอํามหิต ทุกครั้งที่มีใครปีนขึ้นไปหนึ่งขั้น พวกเขาจะสูญเสียพลังปราณไปอย่างมาก

 

ความแตกต่างของสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ช่างมากมาย หนึ่งดูดซับพลังกายภาพ และอีกหนึ่งดูดซับพลังปราณ อย่างไรก็ตาม พวกมันทํางานเหมือนกัน ทุกครั้งที่มีการดูดซับ มันจะดูดซับไปปริมาณหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่ทราบว่าพวกมันเกี่ยวข้องกันหรือไม่

 

เหงื่อค่อยๆปกคลุมหน้าผากของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินเช็ดเหงื่อและก้าวเดินต่อไป เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งทางกายภาพที่สูญเสียไป เขากัดฟันและวิ่งต่อไป

 

รอบทีละรอบ ก้าวทีละก้าว โดยท่าทางที่ไม่เหนื่อยล้า เขาพึ่งพาเพียงแค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพ และอดทนต่อความเหงาที่ไม่มีสิ้นสุด เซี่ยวเฉินยังคงวิ่งวนไปรอบพื้นที่ประลองอย่างต่อเนื่อง

 

เซี่ยวเฉินได้แต่วิ่งแล้วก็วิ่งและก็วิ่ง แต่เขายังไม่ถึงขีดจํากัด ข้าต้องอดทน! หลังจากวิ่งสามสิบรอบ เซี่ยวเฉินรู้สึกเวียนหัว แต่เขารู้ว่านี้ไม่ใช่ขีดจํากัดของเขา

 

เซี่ยวเฉินวิ่งต่อไปห้าสิบรอบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆหยุดลง เขาควบคุมความต้องการที่จะล้มตัวลงนอนและพักผ่อน

 

เซียวเฉินคอยๆนั่งลงในท่าไขว้ขวา และเข้าสู่สภาวะการบ่มเพาะพลัง เขาค่อยๆหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ และพลังปราณก็เริ่มไหลเข้าสู่เส้นปราณ

 

ไม่รู้ว่าหลิวหรูเยว่ยืนเงียบอยู่นอกประตูมานานแค่ไหน และจ้องมองไปที่เซี่ยวเฉิน เห็นเซี่ยวเฉินกําลังพยายาม นางรู้สึกเหมือนกับมองเห็นตนเองตอนยังเยาว์

 

เพราะคนรุ่นเก่าได้จากไปแล้ว พื้นที่ประลองที่แต่เดิมคึกคักกลายมาเป็นหนาวเหน็บอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นางยังคงลากร่างกายของนางวิ่งอย่างต่อเนื่องเหมือนที่เซี่ยวเฉินทําตอนนี้

 

อดทนต่อความโดดเดี่ยวอันไร้ขีดจํากัด และพึ่งพาพลังแห่งการไม่ยอมแพ้ในที่สุดนางก็มาถึงระดับที่นางเป็นอยู่ที่ละก้าวทีละก้าว

 

พลังปราณซึมซับเข้าไปในเส้นปราณของเซียวเฉินและเข้าสู่ผิวหนัง, เลือดเนื้อ, และกระดูก ร่างกายของเขาชาอีกครั้ง เหงื่อของเขาระเหยอย่างต่อเนื่อง สร้างเสาไอนําสีขาวขึ้นมา

 

เซลล์ผิวหนังของเขา เลือดเนื้อ และกระดูก เริ่มกระบวนการนี้อย่างเอาจริงเอาจัง หลังจากร่างกายของเขาถูกผลักดันถึงขีดจํากัด และถูกทําให้แข็งแกร่งขึ้นโดยพลังปราณมันเติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น

 

จากนั้นไม่นาน เซี่ยวเฉินเปิดตาของเขาขึ้น และยืดเส้นยืดสาย มีเสียงแกร็กออกมาจากกระดูกทั่วร่างของเขาด้วย เสียงแคร็กทําให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก

 

“พี่สาวหรูเยว่ ทําไมท่านอยู่ที่นี่?” เซี่ยวเฉินได้ยินเสียงเท้า และหันกลับไปพบหลิวหรูเยว่ที่สวมชุดคลุมยาวแนบเนื้อเดินเข้ามาหาเขาอย่างเชื่องช้า

 

หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มอบอุ่น สเน่ห์อย่างผู้ใหญ่ของเธอคราวนี้ถูกปลดปล่อยออกมาเต็มที่ “เจ้าเด็กเหลือขอสุยเฟิง ไปยอดเขาสตรีหยกในทุกบ่าย ข้ารู้สึกเป็นห่วงจึงเข้ามาดู”

 

“เจ้าได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวทั้งแปดของกระบี่แล้ว แสดงให้ข้าเห็นตอนนี้”

 

เซี่ยวเฉินพยักหน้าและชักกระบี่ของเขาออกมาพร้อมเสียงเชว้ง เขาตั้งสมาธิกับตัวเองและก้าวไปข้างหน้าด้วยขาขวา กระบีของเขาทําให้เกิดสายลมอนรมในขณะที่กวาดผ่านอากาศไป นี่คือการเคลื่อนไหวที่หนึ่งของทักษะกระบี่พื้นฐาน: การกวาด

 

กระบี่หยุดกลางอากาศชั่วครู่จากนั้นเขาก้าวไปข้างหน้า ด้วยขาข้างซ้ายและเท้าซ้ายของเขากดลงบนพื้นพร้อมกับคํารามออกมาเบาๆ กระบี่ถูกฟันลงมา นี่คือการเคลื่อนไหวที่สอง: การฟัน

 

ทันทีที่กระบี่ตกลงมา และเคลื่อนไปอยู่จุดต่ําสุด เซียวเฉินก้าวถอยหลังและยกกระบีขึ้นมา นี่คือการเคลื่อนไหวที่สาม: การผลัก!

 

เหลืออีกห้าการเคลื่อนไหวคือ การเฉือน, การช้อน, การกวัดแกว่ง, การสับ, และการแทง ทุกอันถูกแสดงออกมาที่ละอันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางอันจะไม่ชํานาญ เขาก็แสดงมันออกมาอย่างเรียบง่ายภายในหนึ่งลมหายใจ

 

หลิวหรูเยว่พยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม “ไม่เลว อย่างน้อย การเคลื่อนไหวพื้นฐานในแต่ละก้าวก็ถูกต้อง มันยังขาดความกระฉับกระเฉงและความต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เพียงแค่คอยๆฝึกมันไป

 

“ใช้การเคลื่อนไหวทั้งแปดต่อกรกับข้า และข้าจะชี้แนะให้เจ้า เจ้าจะเข้าใจหลังจากนั้นไม่นาน ทักษะกระบี่พื้นฐานเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษ หลังจากใช้เวลาไปกว่าหลายหมื่นปี มันสําคัญเป็นอย่างยิ่งสําหรับผู้ใช้กระบี่”

 

ได้ยินหลิวหรูเยว่ต้องการให้เขาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับนางโดยใช้ทักษะกระบี่พื้นฐาน เซี่ยวเฉินรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับความเมตตาของอาจารย์ที่เป็นขอบเขตนักปราชญ์ที่ยอมแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับเขาอย่างเต็มใจและชี้แนะเขา ถึงทักษะกระบี่เบื้องต้น ในความเป็นจริง ไม่มีใครซักคนที่เคยได้รับการดูแลที่มีเป็นสุขเช่นนี้มาก่อน

 

“พี่สาวหรูเยว่ นี่มันไม่ถูกต้อง มันก็แค่ทักษะกระบี่พื้นฐาน ข้าสามารถฝึกมันด้วยตนเอง มันไม่มีความจําเป็นต้องเสียเวลาของท่าน” เซียวเฉินปฏิเสธข้อเสนอของนาง

 

การแสดงออกกระวนกระวายปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยของหลิวหรูเยว่ นางกล่าว “หยุดพิรี้พิไรได้แล้ว บุรุษสมควรจะตรงไปตรงมากว่านี้ เจ้าอ่อนไหวเกินไปและไม่กล้าจัดการกับแค่สตรีก็พูดมา”

 

เซี่ยวเฉินไม่กล้าไม่เชื่อฟัง เขาชักกระบี่ออกมา หลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มและกล่าว “ต้องอย่างนั้น ข้าจะเป็นคนเคลื่อนไหวก่อน”

่ ่

หลังจากนางกล่าว ก็เกิดประกายเยือกเย็นขึ้นมา กระบี่สั้นของหลิวหรูเยว่เคลื่อนไปข้างหน้า และแทงตรงไปที่หน้าอกของเซี่ยวเฉิน นี่คือการแทงของทักษะกระบี่พื้นฐาน 

 

มันเป็นเพียงการแทงที่เรียบง่าย และหลิวหรูเยว่ทําให้มันดูเหมือนแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทําให้คนผู้หนึ่งไม่กล้าประมาทพลังของมัน เซียวเฉินจําได้ว่าเขาสามารถใช้การเคลื่อนไหวพื้นฐานทั้งแปดของกระบี่ได้เท่านั้น เขารีบใช้การผลักออกมา โดยการส่งดาบขึ้นไปปิดกั้นการเคลื่อนไหวของหลิวหรูเยว่

 

นี่ไม่ใช่การต่อสู้จริงๆ มันเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนชี้แนะ ดังนั้น มันจึงไม่มีจิตสังหาร ในขณะที่เขาแลกเปลี่ยนการเคลื่อนไหว หลิวหรูเยว่จะมอบคําชี้แนะให้กับเซี่ยวเฉินเป็นบางครั้ง บอกเขาถึงความผิดพลาดของเขา

 

จากนั้นนางก็จะสาธิตให้ดู แสดงรูปแบบที่ถูกต้องให้กับเซี่ยวเฉินด้วยท่าทางจริงจัง เซี่ยวเฉินมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่แรก ด้วยการแลกเปลี่ยนไม่กี่ครั้ง เขาได้พบกับการพัฒนาที่รวดเร็ว ไม่นาน เขาก็พบถึงความรู้สึกนั้น

 

ในแต่ละวันบนยอดเขานิ่งหยุนค่อยๆผ่านไปเช่นนี้ หลิวหรูเยว่จะมาแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับเซียวเฉินทุกบ่าย นอกเหนือจากทักษะกระบี่พื้นฐาน เซียวเฉินจะใช้บางเวลาในการวิ่งรอบพื้นที่ประลอง

 

ในทุกวัน เขาจะผลักดันร่างกายให้ถึงขีดจํากัดและบ่มเพาะพลัง เสริมพลังร่างกายอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เซียวเฉินสามารถวิ่งรอบพื้นที่ประลองได้หลายร้อยรอบอย่างง่ายดาย

 

ในกลางคืน เซียวเฉินจะนอนบนเตียงและอ่านคัมภีร์กระแสเมฆาที่ลู่เฉินมอบให้ การแยกประเภทพลังงานที่อยู่ในร่างกาย เป็นเพราะต้นกําเนิดปัญญายุทธ์ เส้นปราณของเขายังตกอยู่ในความวุ่นวาย

 

วันเหล่านี้เป็นวันที่สงบสุขอันหายากที่เขาสามารถจัดการทุกอย่างได้เป็นระบบ เขาได้เรียนรู้หลังจากออกจากเมืองม่อเหอ เมื่อมีสิ่งใดที่เขาไม่เข้าใจ เขาจะไปหาหลิวหรูเยว่เพื่อขอความช่วยเหลือ และเขาจะได้รับคําตอบที่น่าพอใจเสมอ

 

แม้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังของเขาจะไม่เพิ่มสูงขึ้นมาก ในหลายวันนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของเขาได้เพิ่มขึ้นสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหลังจากที่เขาแก้ปัญหาของตนได้

 

ชั่วพริบตาเดียว ผ่านไปแล้วสองเดือน เซี่ยวเฉินพัฒนาทักษะกระบีพื้นฐานจนเข้าขั้นดี เขาได้มาถึงจุดสูงสุดของความสมบูรณ์ขั้นต้น

 

หลังจากฝึกฝนทักษะกระบีพื้นฐานจนถึงระดับนี้ เซี่ยวเฉินรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของทักษะกระบีสายฟ้าฉับพลันที่เพิ่มขึ้นมากอย่างชัดเจนเมื่อเขาใช้ออกใช้มันอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ เขายังเข้าใจมันในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น เขาเพิ่งมาถึงก้าวเล็กๆของการรวบรวมความเข้าใจไปสู่ระดับสมบูรณ์แบบที่ยังไม่สําเร็จก่อนหน้านี้

 

ในตอนสุดท้าย มันก็ยังมีเรื่องที่โชคร้ายอยู่บ้าง สิ่งที่เขาต้องการเรียนรู้มากที่สุดคือ การฟังเสียงดาบและสื่อสารกับมัน แต่ถูกหลิวหรูเยว่ปฏิเสธ นางเพียงบอกว่ามันยังไม่ถึงเวลา

 

เนื่องจากเขาขอความเห็นชอบจากนาง เซี่ยวเฉินจึงไม่สามารถกดดันมากเกินไป สิ่งที่สําคัญที่สุดคือหลิวหรูเยว่ดูแลเขาอย่างดีในสองเดือนที่ผ่านมา

 

ในวันนี้ เซี่ยวเฉินยังคงทําเช่นเดิม เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้าและเตรียมตัวที่จะไปพื้นที่ประลอง ทันทีที่เขาเปิดประตู เขาพบหลิวหรูเยว่และน้องชายของนางพร้อมกับช่าวหยางและเซียวเมิง พวกเขายืนอยู่นอกประตูที่เปิดออกด้วยรอยยิ้ม

 

เซี่ยวเฉินถามด้วยความสับสน “วันนี้เป็นวันอะไร? พวกเราจะไม่ไปพื้นที่ประลองหรือ? ทําไมพวกท่านถึงมาที่นี่?”

 

หลิวสุยเพิ่งหัวเราะเบาๆ “เจ้าเดาได้ถูกแล้ว พวกเราไม่จําเป็นต้องไปพื้นที่ประลองในวันนี้ พวกเรากลัวว่าจะคลาดกับเจ้า ดังนั้น เราจึงรีบมาเพื่อบอกข่าวกับเจ้า”

 

หลิวหรูเยว่ยิ้มอบอุ่นและกล่าวต่อ “วันนี้เป็นวันที่ผู้อาวุโสสูงสุดของคายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เปิดการบรรยาย นั่นคือผู้อาวุโสสูงสุดที่เป็นขอบเขตยอดกษัตริย์ ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจว่าเราจะไปด้วยกัน”

 

ผู้อาวุโสสูงสุดขอบเขตยอดกษัตริย์ แสงไฟอันเร่าร้อนปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน เกิดระรอกคลื่นขึ้นในใจที่สงบนิ่งของเขา อย่างไรก็ตาม มันไม่น่าแปลกใจ ขอบเขตยอดกษัตริย์เป็นระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดภายในอาณาจักรต้าฉินหรืออย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset