Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 203 หลิงจ๋อโลหิต

ตอนที่ 203 หลิงจ๋อโลหิต

 

เซี่ยวเฉินได้บรรลุถึงระดับเทียบเท่าชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองของสลักร่างพยัคฆ์มังกรไปเรียบร้อยแล้ว, ร่างแกร่งทรงพลัง,เพิ่มเลือดโลหิตและพลังฉีอย่างมหาศาล และ “ก่อเกิดพลังศักดิ์สิทธิ์,ตัดภูเขาสะบั้นหินผา”

 

TLเซี่ยวเฉินได้ฝึกฝนร่างกายไปจนเทียบเท่าสองชั้นแรกแล้ว ทําให้ตอนเริ่มฝึกฝนสลักร่างพยัคฆ์มังกรจึงข้ามไปที่ชั้นสามเลย

 

ดังนั้นเมื่อเขาบ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกร,เขาจึงไม่พบอุปสรรคใดๆ เขาสามารถบ่มเพาะไปถึงชั้นที่สองได้ในทันที จากนั้นเขาก็เริ่มบ่มเพาะชั้นที่สามของมัน, พยัคฆ์คํารามสะเทือนไพร,อํานาจเหนืออสูรนับร้อย

 

ทักบ่มเพาะพลังนั้นแตกต่างจากทักษะต่อสู้พวกมันไม่ต้องการความเข้าใจระดับสูง;เพียงแค่ต้องทําตามวิธีการไปเท่านั้นการมีร่างกายที่ดีนั้นหมายถึงการมีความสามารถที่ดีพร้อมผู้ที่มีความสามารถดีพร้อมก็จะบ่มเพาะพลังได้อย่าง รวดเร็วผู้ที่มีความสามารถทําหน่อยก็จะช้าลง

 

หลังจากผ่านไปเจ็ดวัน ในที่สุดเชี่ยวเฉินก็บ่มเพาะพลังสลักร่างพยัคฆ์มังกรถึงชั้นที่สามเหตุผลหลักที่ทําให้เซี่ยวเฉินบ่มเพาะพลังได้รวดเร็วเช่นนี้ก็คือเขาได้วางรากฐานร่างกายมาอย่างดีหากคนทั่วไปมาบ่มเพาะพลังนี้ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถเพียงใดมันก็จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือนๆ

 

หลังจากที่บ่มเพาะสลักร่างพยัคฆ์มังกรมาถึงชั้นที่สามเซียวเฉินต้องทําเพียงหมุนเวียนทักษะบ่มเพาะพลัง,และกระดูกของเขาก็ส่งเสียง“กรอบแกรบออกมา กล้ามเนื้อแขนขาทั้งสี่ของเขาสงวนพลังเอาไว้แต่พวกมันเต็มไปด้วยพลังระเบิด

 

เมื่อเซี่ยวเฉินชกออกไป,นอกจากสายลมที่มาจากกําปั้นของเขามันยังมีเสียงพยัคฆ์คํารามเสียงคํารามดังและกังวานมันช่างทรงพลังอย่างมากมันเหมือนกับพยัคย์คํารามออกมาและสั่นสะเทือนปาจริงๆ สัตว์อสูรนับร้อยไม่หาญกล้าที่จะท้าทาย

 

เมื่อเขาสําเร็จถึงขั้นที่สาม,มันมีผลประโยชน์ตามมาความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินเพิ่มขึ้นอีก 500 กิโลกรัมการจู่โจมเต็มกําลังของเขาสามารถขึ้นไปได้ถึง 4,000 กิโลกรัม

 

จุดปราณจุดที่สี่บนแขนของเขา,จุดเน่ยกวนทันใดนั้นก็เปิดออก

 

หลังจากนี้ เซี่ยวเฉินก็ใช่เวลาทั้งวันไปกับการเสริมสร้างพื้นฐานของสลักร่างพยัคฆ์มังกรจากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝนทึกษะหมัดระดับปฐพีขั้นต่ํา-หมัดพยัคฆ์มังกร

 

ทักษะต่อสู้นั้นแตกต่างจากทักษะบ่มเพาะพลังพวกมันพึ่งพาความสามารถในการเข้าใจของผู้ฝึกฝนผู้ฝึกฝนต้องคิดเกี่ยวกับเนื้อหาแก่นแท้ของทักษะต่อสู้และดึงพลังที่สมบูรณ์ของมันออกมา

 

กระบวณท่าแรกก็คือพยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา เซี่ยวเฉินไม่เคยเห็นพยัคฆ์ร้ายที่แท้จริงมาก่อนเขาไม่สามารถเข้าใจถึงที่วงท่าและกระแสพลังของพยัคฆ์ร้าย เป็นผลให้เมื่อเขาฝึกฝนมัน,เขารู้สึกว่ามันไม่เป็นไปอย่างราบลื่น

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเขาจําได้ว่าหลังจากที่เข้ามาในโลกใต้พิภพ.ในปาแรกที่เขาข้ามมาเขาได้เจอกับสัตว์อสูรวิญญาณระดับห้า-พยัคฆ์เพลิงคลั่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า

 

เซี่ยวเฉินใช้คาถาแรงโน้มถ่วงและเริ่มมองหาไปทั่วทุกที่เมื่อตอนที่เขาลอยอยู่ในอากาศ.เขาได้ยินเสียงคํารามดังสะท้อนไปมา

 

หลังจากที่เขามุ่งหน้าเข้าไป,เซี่ยวเฉินก็ยินดีที่พบว่ามันคือพยัคฆ์เพลิงคลังที่กําลังออกล่าอาหาร

 

วันเวลาผ่านไป,เซี่ยวเฉินไม่ได้ทําอะไร เขาเพียงแค่เว้นระยะห่างออกมาและสังเกตการณ์ทุกการเคลื่อนไหวของพยัค ฆ์เพลิงคลั่ง

 

สองวันผ่านไป

 

สามวันผ่านไป…

 

ในพริบตาเดียวเซียวเฉินได้เอ้อระเหยลอยไปลอยมาอยู่ในป่าแห่งนี้เจ็ดวันเต็ม เหมือนกับวันแรก,เชี่ยวเฉินไม่ได้ลงมือทําอะไรเขาเพียงสังเกตการณ์ชีวิตของพยัคฆ์เพลิงค ลัง,ทุกท่วงท่าที่มันทํา

 

เขาเหมือนจะเป็นบ้าราวกับเขาได้กลายร่างไปเป็นพย คฆ์เพลิงคลั่งหมัดพยัคฆ์มังกร? พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา? เขาได้ลืมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ไปนานแล้ว

 

ในช่วงบ่ายของวันนี้ เซี่ยวเฉิน ผู้ที่เป็นบ้ามาหนึ่งอาทิตย์,ทันใดนั้นก็ร้องคํารามขึ้น เขากระโดดลงจากยอดของต้นไม้,ราวกับว่าเขาคือพยัคฆ์ตัวใหญ่ สิ่งมีชีวิตทั้งหม ดตื่นกลัว;กลุ่มนกบินออกจากหมู่ต้นไม้

 

เซี่ยวเฉินชกหมัดออกไปกลางอากาศ ก่อนที่หมัดของเขาจะได้ลงถึงพื้น,สายลมหนาแน่นจากกําปั้นของเขาเปากองใบ ไม้ร่วงที่อยู่บนพื้นใบไม้ที่ร่วงหล่นเติมเต็มไปในอากาศ ในที่สุด,เขาก็ลงมาถึงพื้นดิน

 

ในวินาทีถัดไปเกิดเป็นเสียงดังสนั่น,เกิดหลุมใหญ่ขนาด 20 เมตรปรากฏขึ้นบนพื้น ฝุ่นหินดินควันนับไม่ถ้วยถูกตบลอยขึ้นไปในอากาศ, บดบังท้องฟ้าเอาไว้ จากนั้นพวกมันก็ตกลงมาราวกับลูกเห็บ

 

“ฟู!” ในจังหวะนี้ มีสายลมกรรโชก ดินหินในอากาศกลายเป็นผุยผงเมื่อลมพัดผ่าน มันกลายเป็นว่าหมัดของเซียวเฉินได้มาถึงจุดที่เขาเข้าใจรายละเอียดของทักษะอย่าง ถ่องแท้เศษหินดินพวกนี้ทั้งหมดถูกทําลายจากภายใน

 

เป็นบ้าไปกว่าหนึ่งอาทิตย์เต็มและได้บรรลุในทันทีเนี่คือกระบวณท่าแรกของทักษะหมัดระดับปฐพีขั้นต่ําพยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผาในท้ายที่สุดเซียวเฉินก็สามารถบ่มเพาะมันจนไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม

 

เซี่ยวเฉินถอนหมัดกลับมาและยืนตัวตรง เขาใช้พลังปราณค่อยๆปัดฝุ่นที่ลงมาบนตัวของเขา เขาเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขพลังอํานาจของทักษะต่อสู้ระดับปฐพีขั้ นต่ําไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง

 

ตอนนี้เขาได้เรียนรู้กระบวณท่านี้แล้ว เขาจะมีไพ่ตายอีกใบไว้ใช้ในการต่อสู้ระยะประชิด, นอกเหนือจากเบี่ยงร่างกระแทกด้วยวิธีนี้เขาสามารถดึงความแข็งแกร่งของร่างกายของเขามาเป็นข้อได้เปรียบ

 

ภายในพิภพใต้ดิน,ทุ่งสมุนไพรธรรมชาติ

 

เซี่ยวเฉินซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้หนาทึบ,ซ่อนกระแสพลังทั้งหมดของเขาไว้เขาจ้องมองไปที่ลิงปีศาจกระหายเลือด 500 เมตรห่างออกไป

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดคือสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดมันเทียบเท่ากับระดับขอบเขตนักบุญมันเป็นสัตว์อสูรวิญญาณประเภทวานรสติปัญญาของมันส่งกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรวิญญาณทั่วไป

 

มันมีพละกําลังที่น่ากลัวไหวพริบและสติปัญญาที่ดีลิงปีศาจกระหายเลือดมันยากที่จะรับมือด้วย

 

มีการของหลิงจือโลหิตอายุเกือบ 300 ปี มันเป็นสมุนไพรที่เสริมสร้างร่างกายได้เป็นอย่างดี หลิงจื่ออายุ 300 ปีมันเพียงพอสําหรับเซียวเฉินที่จะฝึกฝนในตลอดระยะเวลานี้ไม่สามารถเสริมสร้างกําลังของเซียวเฉินไปได้อีก 250 กิโลกรัมเซียวเฉินถูกมันดึงดูดเป็นอย่างมาก

 

กระบวนท่าที่สองของหมัดพยัคฆ์มังกร, พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนคือทักษะต่อสู้ประเภทป้องกันเหมือนกับก่อนหน้านี้เซี่ยวเฉินไม่สามารถเข้าใจมันได้ภายในระยะเวลาสั้น ดัง นั้นเชื้อจึงปล่อยมันไปก่อนเขากลับไปที่แผนดั้งเดิมของเขาที่จะมองหาสมุนไพรที่สามารถเสริมสร้างเลือดโลหิตและพลังฉีของเขาได้

 

หลิงจือโลหิตอายุ 300 ปีคือเป้าหมายแรกของเขา

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดสูงประมาณ 5 เมตรเมื่อมันยีนตัวตรงมันเดินลาดตระเวนไปรอบๆหลิงจือโลหิตอย่างระมัดระวังดวงตาแดงก่ําของมันจ้องมองไปในพื้นที่โดย รอบพร้อมกับเจตนาฆ่าฟัน

 

ภายใต้อิทธิพลที่แข็งแกร่งของลิงปีศาจกระหายเลือด,สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 จํานวนหนึ่งที่กําลังจ้องมองหลิงจือโลหิตก็หนีไปไกล

 

เซี่ยวเฉินเคยมาที่นี่แล้วเมื่อ 2 วันก่อน เขาเห็นสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 ขั้นสูงสุด-หมาปาปิกเงินถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆโดยลิงปีศาจกระหายเลือดต่อหน้าต่อตาของเขา ฉากเลือดที่สาดไปทุกที่นั้นโหดร้ายเป็นอย่างมาก

 

เซียวเฉินสังเกตการณ์ทุกการต่อสู้ของเล่นพิซซ่ากระหายเลือดเป็นเวลาสองวัน มันทําให้เซี่ยวเฉินเข้าใจถึงความ แข็งแกร่งของมันเป็นอย่างดี

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดจะพึ่งพาความรู้สึกที่แหลมคม,ความรวดเร็ว,พลังแขนที่มีน้ําหนักมากกว่า 5000 กิโลกรัมของมัน,เช่นเดียวกับขนของมัน,ที่แข็งแกร่งดุจ เหล็กกล้าคมมีดทั่วไปไม่สามารถตัดมันให้ขาดได้

 

เสียงฉันได้คํานวณอย่างรอบคอบ ถ้าเขาพึ่งพากําลังความแข็งแกร่งร่างกายของเขา เขามีโอกาสเพียงครึ่งที่จะทําได้สําเร็จ อย่างไรก็ตาม,เมื่อเขารวมทักษะต่อสู้, ทักษะเคลื่อนไหว,และเพลิงแท้อัสนีม่วงของเขา,โอกาสของเขาจะ เพิ่มขึ้นไปถึงเจ็ดในสิบส่วน

 

เซี่ยวเฉินกําเศษดินเล็กน้อยขึ้นมาจากที่ด้านล่างของพุ่มไม้ด้วยความนึกคิดของเซี่ยวเฉิน,เขาใช้ออกคาถาสละชีพกองดินในมือของเขาเปล่งแสงออกมา,ผ่านไปครู่ห นึ่ง,มันกลายไปเป็นนกตัวเล็กบินออกไป

 

ด้วยระดับการบ่มเพาะพลังของเซียวเฉิน,เขาสามารถใช้อะไรก็ตามแต่เพื่อร่ายคาถาสละชีพสร้างสัตว์ตัวเล็กๆขึ้นมาอย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถจะนําไปใช้ในการต่อสู้ได้ยังคงต้องการสิ่งของที่มีพลังงานจิตวิญญาณเป็นพื้นฐาน

 

นกตัวน้อยเป็นวนอยู่บนท้องฟ้าก่อนที่จะตรงไปที่หลิงจื้อโลหิตด้านข้างลิงปีศาจกระหายเลือด หลังจากที่มันบินผ่านลิงปีศาจกระหายเลือดไป,มันก็พุ่งตรงไปที่หลิงจือโลหิต

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับมนุษย์มุมปากของมันยกขึ้นเผยเป็นรอยยิ้มน่ากลัวมันกระโจนขึ้นเบาๆและกลายเป็นแจ้งสีแดงก่ํามุ่งหน้าตรงไปที่นกตัวน้อย

 

“ป้าบ!”

 

เมื่อลิงปีศาจกระหายเลือดกวาดแขนของมันไปในอากาศด้วยพลังมหาศาล,สามารถมองเห็นได้ถึงระลอกคลื่นบางเบาปรากฏขึ้นในอากาศ อย่างไรก็ตาม,นกตัวน้อย เหมือนกับหยั่งรู้และได้เป็นสูงขึ้นไป,หลบฝ่ามือของมัน

 

เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบา หลังจากสังเกตการณ์มาสองวัน,เขาคุ้นเคยกับลิงปีศาจกระหายเลือดว่ามันกระโดดสูงได้เพียงใด:ด้วยการกระโดดตบเบาๆ กระโดดด้วยแรงเล็กน้อย,หรือกระโดดเต็มกําลังของมัน

 

นกตัวน้อยบินหลบอย่างต่อเนื่อง ลิงปีศาจกระหายเลือดรู้สึกเจ็บใจและเกรี้ยวโกรธอย่างสมบูรณ์มันไล่จับนกตัวน้อยที่กําลังบินตรงมาที่พุ่มหญ้าที่เซี่ยวเฉินกําลังซ่อนตัวอยู่

 

“ป้าบ! ป้าบ!”

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดกระโดดด้วยพลังทั้งหมดของมันร่างของมันลอยสูงขึ้นไป 50 เมตรในอากาศความเร็วของมันพุ่งถึงจุดสูงสุด,สามารถมอง เห็นได้เพียงเส้นสีแดง นกตัวน้อยไม่สามารถหลบได้ทันเวลาแล้วถูกทุบจนแหลกเป็นผง

 

“ฟุ ฟิว !”

 

ขณะที่ลิงปีศาจกระหายเลือดกําลังพึ่งพอใจและลงถึงพื้น,เซี่ยวเฉินก็กระโดดออกมาจากพุ่มหญ้า เขาคํารามออกมาเสียงดัง,ราวกับพยัคฆ์ได้เข้าสิงร่างของเขาเขาพุ่งเข้าหาลิงปีศาจกระหายเลือด

 

เซี่ยวเฉินคํานวณไว้อย่างดี มันเป็นจังหวะที่ลิงปีศาจกระหายเลือดได้กระโดดขึ้นไปเต็มกําลังและอยู่ระหว่างที่กําลังจะร่วงลงมา

 

มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้กลางอากาศไม่มีทางที่จะหลบการโจมตีของเซี่ยวเฉินได้

 

ร่างใหญ่โตของลิงปีศาจกระหายเลือดถูกกระแทกกลับไปด้วยหมัดนี้มันตอบสนองอย่างรวดเร็วและตีลังกากลางอากาศมันลงถึงพื้นด้วยแขนขาทั้งสี่และลื่นไถลไปหลายเมตรก่อนที่จะตั้งตัวได้

 

“ซี่! ซี่!”

 

มีร่องลึกบนพื้นเมื่อลิงปีศาจกระหายเลือดพยายามใช้ แขนขาทั้งสี่จับพื้นเอาไว้,ทําให้ฝุ่นควันลอยขึ้นไปทั่วทุกที่

 

เซียวเฉินไม่ได้หยุดคิด:เขาไม่ได้สนใจว่าลิงปีศาจกระหายเลือดจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่,หรือมันจะได้รับบาดเจ็บเท่าใดในทันทีที่เขาชกไป,เขาได้ไล่ตามลิงปีศาจกระหาย เลือดในทันทีเพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

“ฉวะ!”

ในทันทีที่ลิงปีศาจกระหายเลือดลงถึงพื้น, ร่างมนุษย์ก็บินทะลุผ่านกลุ่มควันพร้อมกับเสียง “เสี้ยว” กลุ่มควันถูกเป่าหายออกไปภาพร่างหมัดปรากฏขึ้น,พุ่งตรงไปที่ลิงปีศาจกระหายเลือด

 

“ปัง! ปัง! ปัง!”

 

ลิงปีศาจกระหายเลือด,ที่ตั้งตัวยืนขึ้นได้แล้ว,ขยับแขนของมันอย่างรวดเร็วมันรวดเร็วเป็นอย่างมากมันป้องกันกําปั้นของเซี่ยวเฉินเอาไว้ได้หนึ่งคนและหนึ่ง สัตว์อสูร…พวกเขาต่อสู้กันอย่างดิบเถื่อนที่สุดในพื้นที่เปิดโล่

 

ไม่มีทักษะต่อสู้ที่แพรวพราว มีเพียงภาพหมัดลอยตัดไปมา,สร้างคลื่นกระแทกออกมาโดยรอบร่างทั้งสองวูบไหวไปรอบๆ:พวกเขารวดเร็วจนมองเห็นเพียงแค่เงา

 

ลิงปีศาจกระหายเลือดร้องคํารามอย่างเกรี้ยวกราดมือขวาสีแดงของมันเปล่งแสงออกมาความเร็วและความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นสองเท่าในทันที

 

“พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา!”

 

เซี่ยวเฉินคํารามออกมาเสียงดังพร้อมกับหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกร มีเสียงแตกกรอบแกรบดังมาจากกระดูกของเขาความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นสองส่วนในทันที, เพิ่มขึ้นถึง 5,000 กิโลกรัมฉีและโลหิตทั่วทั้งร่างของเขาพลุ่งพล่านออกมา,เผาไหม้อย่างเร่าร้อน

 

เซี่ยวเฉินกลายเป็นพยัคฆ์ร้ายต้อนรับมือสีแดงขนาดใหญ่ของลิงปีศาจกระหายเลือดอย่างไม่เกรงกลัว

 

ในวินาทีถัดมา กําปั้นทั้งสองเข้าปะทะกันและส่งเสียงอันดังออกมาเกิดพลังเกือบจะ 10,000 กิโลกรัม เกิดระเบิดขึ้นในอากาศมันฟังดูราวกับเสียงฟ้าร้องทั่วทั้งทุ่งสมุน ไพรสั่นสะเทือน

 

หากมีใครมาเห็นเข้า,พวกเขาควจะหัวเราะเยาะเย้ยเซี่ยวเฉินที่เอาพละกายไปวัดกับสัตว์อสูรวิญญาณ ทุกคนล้วนรู้ดีว่

 

ลักษณะร่างกายของสัตว์อสูรดีกว่าของมนุษย์,ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือการฟื้นตัว

 

พวกเขาต่างเผ่าพันธุ์กันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างกัน การต่อสู้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรวิญญาณที่พึ่งพากําลังกาย,นักบ่มเพาะพลังส่วนใหญ่จะใช้ทักษะต่อสู้เพื่อคว้าชัยชนะ ไม่มีใครโง่งมพอที่จะไปแข่งขันในเรื่องพลังกาย

 

“โซว! โซว! โซว!”

 

สัตว์อสูรวิญญาณหลายตัววิ่งเข้ามาจากระยะไกลพวกมันรออยู่ในบริเวณใกล้เคียง,กําลังมองดูเซียวเฉินและลิงปีศาจกระหายเลือดฟัดกัน

 

สัตว์อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่ได้โงเง่าเช่นกันพวกมันกําลังรอจนกว่าทั้งสองจะบาดเจ็บและฉวยโอกาสนั้นเข้ามาแย่งชิงหลิงจ๋อโลหิตอายุสามร้อยปี

 

หลังจากรับการโจมตี,สายโลหิตไหลออกมาจากมุมปากของเซี่ยวเฉิน เขาถอยหลังกับไปสิบก้าวทุกก้าวทิ้งรอยเท้าลึกเอาไว้

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset