Immortal and Martial Dual Cultivation
ตอนที่ 213 ติดในภาพลวงตา
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาหลบหลีก,ยิ่งมีกระบี่บินเข้ามาหาเขา ท้ายที่สุด,มีบาดแผลน้อยใหญ่ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา เลือดไหลหยดลงมาไม่หยุด
“ข้าจะป้องกันได้อย่างไร? พี่สาวหลิวเยว! ท่านได้ยินข้าหรือไม่?” เซี่ยวเฉินตะโกนออกมาอย่างกระวนกระวาย อย่างไรก็ตาม,นอกจากเสียงกระบี่ที่วูบผ่าน,ไม่มีเสียงอื่นในพื้นที่แห่งนี้
เร็วเข้า! เร็วเข้า! หากระบี่ของเจ้า! หากระบี่ของเจ้า! เสียงดังกังวาลดังขึ้นในจิตใจของเขาอีกครั้ง เดินหน้าเต็มกําลัง! ไป! ไป! ไป!
เซี่ยวเฉินกวาดมองไปรอบตัว มันเป็นกระบี่แสงที่ลอยตามกันมาติดๆ,กระบี่อีกเล่มหนึ่งอยู่ที่ไหน? เซี่ยวเฉินพยายามสองสามครั้งแต่ แหวนห้วงจักรวาลก็ไม่เปิดออก กระบี่ของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่
ให้ตาย! ที่นี่มันอะไรกัน! เซี่ยวเฉินร้องคํารามเสียงดัง ไม่มีการหลบซ่อนอีกแล้ว! เซี่ยวเฉินหมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกรและกระดูกในร่างของเขาก็ส่งเสียง เปรี้ยะ เปรี้ยะ” ออกมา หมัดพยัคฆ์มังกรถูกปล่อยออกไปอย่างต่อเนื่อง
กระบี่แสงที่บินเข้าหาเขาถูกซัดด้วยพลัง 6,000 กิโลกรัม พวกมันแตกสลายกลายเป็นเศษ,จางหายไปในตวามมืดมิด
อย่างไรก็ตาม,กระบี่แสงก็มาไม่จบสิ้น;พวกมันลอยมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะถูกบดขยี้ไปเท่าไหร่ ก็ยังมีกระบี่แสงอีกนับพันลอยเข้ามาหาเขา
กลับมาที่พื้นที่ประลองของยอดเขาฉิงหยุน,พื้นดินสั่นสะเทือน เซี่ยวเฉินนั่งอยู่กับพื้น,คิ้วขมวดแน่น,หน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ดวงตาของเขาปิดสนิท,และเขาเผยสีหน้าเจ็บปวด,ราวกับกําลังฝันร้าย
สีหน้าของหลิวหรูเยว่เปลี่ยนไป นางพึมพํา “ข้าเป็นกังวลเกินไปหรือเปล่า? เย่เฉิน,เจ้าทําได้หรือไม่? หากระบี่ของเจ้าและกลับออกมา เจ้าทําได้!”
นิ้วมือของนางประสานกันแน่น มือของนางเปลี่ยนเป็นสีม่วงแต่นางก็ไม่ได้รู้สึกตัว เห็นชัดว่านางเป็นกังวลอย่างมาก
“พี่สาว! เกิดอะไรขึ้น?” เรื่องที่เกิดบนพื้นที่ประลองใหญ่โตเกินไป เมื่อหลิวสุยเฟิง ผู้ที่ถูกเสี่ยวไปไล่กวด เห็นถึงสถานการณ์,เขารีบพุ่งกลับมา
เสียวไป.ผู้ที่ไล่กวดหลิวสุยเฟิง,เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเซี่ยวเฉิน ราวกับว่ามันสามารถสัมผัสได้ถึงความกังวลในจิตใจของเซี่ยวเฉิน สภาวะเมามายของมันจางหายไปในทันที
มันคํารามอย่างนุ่มนวลและกลายไปเป็นร่างเงาสีขาวพร้อมกับกระโดดตรงไปที่เซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม, ขณะที่มันกระโดดเข้าไป กระบี่สมบัติ 500 เล่มส่งคลื่นกระแทกน่ากลัวออกมา ทําให้เสี่ยวไปลอยกลับไป มันถูกโยนไปหล่นที่พื้นอย่างหนัก
“อ่าว!”
ทันใดนั้น,ความเดือดดาลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสี่ยวไป ดวงตาสีดําของมันเปลี่ยนเป็นสีแดง… มันคํารามเสียงดังและกระแสพลังพลุ่งพล่านถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของมัน
หลิวหรูเยว่กดเท้าของนางดีดตัวออกจากพื้นและลงมือในทันที นางปรากฏขึ้นด้านหลังของเสี่ยวไปและฟันไปที่หลังคอของมันด้วยมือของนาง,ทําให้มันสลบไปก่อนที่จะบ้าคลั่ง
“บั้ม…”
ลมพายุพัดผ่านบริเวณพื้นที่ประลอง พื้นที่สว่างกลายเป็นมีดสลัว แรงสั่นสะเทือนกลายเป็นหนักขึ้น พวกมันส่งเสียงดังไม่หยุด
หลิวสุยเฟิงไม่เข้าใจว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น เขากลายเป็นกังวลพร้อมกับพูดขึ้น “พี่สาว เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เกิดอะไรขึ้น?”
หลิวหรูเยว่อุ้มเสียวไปที่หมดสติไว้ในอ้อมอกของนางและกล่าวขึ้น “ข้าใช้กระบี่ทั้ง 500 เล่มรวมถึงผลึกหินปีศาจที่อยู่ใต้พื้นที่ประลองเพื่อเปลี่ยนเจตนารมณ์กระบี่โบราณให้เป็นค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณขนาดเล็ก”
หลิวสุยเฟิงตกตะลึงตัวซีด “ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณ! เย่เฉินอยู่ที่ใจกลางของค่ายกล! มันจะเป็นอะไรหรือไม่?”
ใบหน้าทรงเสน่ห์ของหลิวหรูเยว่เผยความสงบนิ่ง “มันอ่อนกว่ามากเมื่อเทียบกับค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณของจริง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝืนเข้าสู่สภาวะฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันโดยไม่มี ความเสี่ยงใดๆ”
“กระนั้นเจ้าควรจะบอกกล่าวกับเขาก่อน เขายังไม่ได้เตรียมใจ ข้าเกรงว่าเขาจะหลบหนีออกมาไม่ได้”
หลิวหรูเยวพูดขึ้นลอยๆ “มันยังมีบางสิ่งที่จะไร้ประโยชน์หากเจ้ารู้ล่วงหน้า ตราบใดที่เจ้าสามารถตามหากระบี่ของตัวเองเจอ,ค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์โบราณก็จะพังทลายไปเอง”
ฟัง
“ถึงเวลานั้น,บางทีเขาอาจจะสามารถเข้าใจถึงสภาวะแรก เสียงของดาบ!”
กระบี่แสงนับไม่ถ้วนยิงไปที่เซี่ยวเฉินในพื้นที่มืดมิด เซี่ยวเฉินผสานพยัคฆ์และมังกรเข้ากับร่างของเขา และเขาพึ่งพาพลังการที่แข็งแกร่งของเขาทุบกระบี่แสงที่บินเข้าใส่เขา
“บูม! บูม! บูม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง,ก้องกังวาลไปในพื้นที่มืดมิดไร้ขอบเขต แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะสบายดีในตอนนี้เขาเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด,จุดที่เขาหมดซึ่งพลังงานมันก็ต้องมาถึง
เมื่อถึงตอนนั้น เมื่อกระบี่แสงนับพันแทงทะลุหัวใจของเขา เขาคงไม่มีทางรอดไปได้
เร็วเข้า! เร็วเข้า! ชักกระบี่! ชักกระบี่
เสียงดังกังวาลดังขึ้นมาอีกครั้ง เอื้อยอยู่ในหูของเขา ไอ้เจ้าก็ได้แค่พูด มือข้าว่างเปล่า,ข้าจะชักกระบี่มาจากไหน?
“แหวนห้วงจักรวาลก็ไม่ตอบสนอง ต่อให้เจ้าพูดกรอกหูข้าอีกเป็นพันครั้ง,กระบี่ก็ไม่ออกมา” เซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะสาปด่าออกมา อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครตอบคําถามของเขา เสียงกังวาลยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
สงบใจ สงบใจ…เซี่ยวเฉินพยายามอย่างที่สุดเพื่อกดอารมณ์ลง ในสถานการณ์ความเป็นความตาย,จิตใจของเขาต้องชัดเจน
นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในโลกแห่งนี้ มันรู้สึกเหมือนกับเขาอยู่ในสภาวะกระวนกระวาย มันก่อกวนระบบความคิดของเขา เซี่ยวเฉินตามปกติจะไม่ฉุนเฉียว
เร็ว! เร็ว! ชักกระบี่ของเจ้า
เสียงกังวาลดังขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเสียงกระซิบปีศาจ เซี่ยวเฉินตั้งสติและคุมลมหายใจให้เป็นปกติ และทําทําอย่างที่สุดเพื่อรักษาจิตใจให้แจ่มชัดเพื่อที่เขาจะไม่ถูกรบกวนจากเสียงนั้น
อย่างนี้นี่เอง! หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินบรรลุแจ้ง เขาเผยรอยยิ้มเงียบสงบและเยือกเย็น เสียงมาจากกระบี่
เสียงมาจากกระบี่ หรืออีกนัยหนึ่ง,ตามเสียงเจอกระบี่
ความแน่วแน่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เสียงมาจากไหน? ไม่ใช่ว่ามาจากหัวใจของเขา?
“พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน!”
เซี่ยวเฮินตะโกนออกมาและตั้งท่าพยัคฆ์มังกร เมื่อเขาไขว้แขน,พยัคฆ์และมังกรผสานเข้ากับร่างของเขา ทันใดนั้น เขาสามารถป้องกันเผชิญหน้ากับพลังมหาศาล,ไม่เกรงกลัวภูผาหรือธารา
“แคร้ง! แคร้ง! แคร้ง! แคร้ง!”
กระบี่แสงที่บินเข้ามาถูกป้องกันด้วยม่านแสง,กระบี่แสงสั้นอย่างต่อเนื่อง เซี่ยวเฉินดันไปข้างหน้าด้วยแขนของเขาและผลักกระบี่แสงทั้งหมดกลับไป
“ฟู่ว ฟิ่ว!”
เซี่ยวเฉินคว้าโอกาสในตอนที่พวกมันไม่สามารถโจมตีเข้าได้ใช้นิ้วทั้งห้าจุ่มลงไปในหน้าอกของเขา,ราวกับว่ามันเป็นมีดคม เลือดไหลทะลักราวกับน้ําพ,ไหลออกอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเสียงกระวนกระวานกังวาลนั้นดังออกมาจากหัวใจของเขา,กระบี่เล่มนั้นก็ต้องอีกที่นี่เช่นกัน พื้นที่นี้ไม่น่าจะใช่พื้นที่ธรรมดา มันจะต้องเป็นภาพลวงตาจิต
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นจิตภาพลวงตา,หากตกตายลงที่นี่มันมีความเป็นไปได้ว่ากายเนื้อของเขาจะตกตายลงไปเช่นกัน ถึงกระนั้นเซี่ยวเฉินก็ไม่ได้มีตัวเลือกอื่นเขาต้องเสี่ยงทักอย่างไปกับความพยายามในครั้งนี้
ทันใดนั้นมีแสงรุ่งโรจน์สว่างขึ้นในในตําแหน่งหน้าอกของเซี่ยวเฉิน ความเจ็บปวดของเซี่ยวเฉินบรรเทาลงพร้อมกับดึงมือขวาของเขาออกมาอย่างช้าๆ
ร่างเด็กผู้หญิงเรืองแสงออกมาพร้อมกับมือขวาของเซี่ยวเฉินอย่างช้าๆ เมื่อเด็กสาวออกมาอย่างสมบูรณ์,บาดแผลบนหน้าอกของเซี่ยวเฉินก็ไยไปอย่างรวดเร็ว
“ หรือนี่คือกระบี่ที่ซ่อนอยู่ในใจของข้า?” เซี่ยวเฉินพึมพํา เขามองไปที่เด็กสาวด้วยสีหน้าตกตะลึง
ยอดเขาฉิงหยุน,พื้นที่ประลอง,ภายในค่ายกลกระบี่
กระบี่เงาจันทร์ที่วางอยู่ข้างตัวของเซี่ยวเฉินสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง มันชักตัวเองออกจากฝักพร้อมกับเสียง แว่ง” และร่ายรําไปในอากาศ
ทันทีที่กระบี่เงาจันทร์ออกมาจากฝัก,ทั่วทั้งค่ายกลกระบี่สัมบูรณ์ โบราณก็หยุดสั่นไหว
“ฉัวะ!”
ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ลืมตาขึ้นและกดเท้าลงดีดตัวออกจากพื้น เขากระโดดขึ้นไปในอากาศและคว้าจับกระบี่เงาจันทร์ที่กําลังร่าย
เซี่ยวเฉินมีท่าที่นิ่งสงบพร้อมกับขับไปที่ด้ามกระบี่ด้วยมือขวาของเขา นิ้วชี้และนิ้วกลางของมือซ้ายของเขาลูบคมกระบี่จากล่างไปสู่บน
ขณะที่นิ้วของเซี่ยวเฉินเลื่อนผ่านคมกระบี่, คมกระบี่เรืองประกายแสงรุ่งโรจน์ เมื่อนิ้วของเขาเลื่อนไปถึงปลายกระบี่ ทั่วทั้งคมกระบี่กระเปล่งประกายแสงแวววาว
หลังจากที่ประกายแสงจางหายไป คมกระบี่ของกระบี่เงาจันทร์เปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์ คมกระบี่เป็นประกายด้วยแสงเย็นมันคมยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
เมื่อเซี่ยวเฉินรู้สึกถึงพลังงานที่อยู่ในกระบี่เงาจันทร์,เขาเผยรอยยิ้มออกมา เขากล่าวขึ้น “ผนึกถูกปลดออกมาเล็กน้อย กระบี่เงาจันทร์เปลี่ยนจากอาวุธวิญญาณรระดับลึกล้ําขั้นสูงมาเป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพีขั้นต่ํา”
เมื่อหลิวหรูเยว่ ผู้ที่อยู่ด้านข้างเห็นการเปลี่ยนรูปของกระบี่เงาจันทร์เป็นไปได้สมบูรณ์ใบหน้าของนางก็ผ่อนคลายลง นางวางเสี่ยวไปลงบนพื้นเบาๆ
“เวง! เวง! เวง!”
ในที่สุดการสั่นสะเทือนบนพื้นที่ประลองก็หยุดลง กระบี่โบราณทั้ง 500 เล่มดึงตัวออกจากพื้นอย่างเป็นระเบียบและกลับเข้าฝักของพวกมัน
เซี่ยวเฉินลงมาถึงพื้นอย่างช้าๆ เขายึดแขนไปและฝักกระบี่ก็ลอยเข้ามา เขาเผยรอยยิ้มบางเบาพร้อมกับเก็บกระบี่เข้าใกและเดินตรงไปที่หลิวหรูเยว่
“เจ้าพบกระบี่ของเจ้าหรือไม่? เจ้าสัมผัสได้ถึงลมหายใจและชีพจรของกระบี่หรือไม่?” หลิวหรูเยาถามเซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวขึ้น “ข้าพบมันแต่ข้าไม่รู้สึกถึงอะไรเป็นพิเศษ กระบี่เงาจันทร์แตกต่างจากที่ข้าจินตนาการไว้”
เมื่อเซี่ยวเฉินตกการจะมองรูปร่างของเด็กสาวที่ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่มืดมิดให้ชัดเจน,เด็กสาวก็กลายเป็นประกายแสง นับไม่ถ้วนก่อนที่จะจางหายไป จากนั้นเขาก็กลับมาสู่ความเป็นจริง
หลิวหรูเยว่เผยสีหน้างุนงงอย่างชัดเจนนางคิดไม่ตก นางพูดขึ้น “เจ้าพบกระบี่ของเจ้าในพื้นที่แห่งนั้นแต่ทําไมเจ้าถึงไม่เข้าสู่สภาวะฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน?”
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้น “บางที่วิธีการอาจจะคลาดเคลื่อน พวกเราสามารถลองดูอีกทีในวันพรุ่งนี้”
“ก็คงทําได้เพียงแค่นั้น” หลิวหรูเยวพยักหน้าก่อนที่จะกล่าวต่อ “ใช่แล้ว การทดสอบศิษย์แก่นกลางกําลังจะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งเดือน เจ้าควรไปเตรียมตัวสักเล็กน้อย ใช้แต้มสะสมของเจ้าไปรับทักษะต่อสู้ที่ห้องสมุดยอดเขาฉิงหยุน”
“ข้าจะให้สุยเฟิงพาเจ้าไปที่ห้องสมุดในวันพรุ่งนี้ เจ้าควรกลับไปพักผ่อนก่อน ในขณะเดียวกันก็คิดไปด้วยว่าทักษะต่อสู้แบบใดที่เจ้าต้องการ