Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 247 งูใหญ่

Immortal and Martial Dual Cultivation

ตอนที่ 247 งูใหญ่

ทุกคนเหงื่อตกอยู่ในใจ แก่นกลางพวกนี้มีมูลค่าหลายพันหินวิญญาณ แต่เหยุนเข่อซินไม่ได้สนใจพวกมันแม้แต่น้อยช่างน่าแปลก!

 

หลังจากจัดการเสร็จ เซี่ยวเฉินก็สํารวจเส้นทางต่อไป ตอนนี้,ทุกคนรู้แล้วว่าเซี่ยวเฉินมีทักษะประเภทตรวจจับ ดังนั้น พวกเขาจึงไว้ใจเซี่ยวเฉินให้สํารวจเส้นทาง

ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็หยุดเท้าลงใบหน้าที่แต่เดิมนอ่งสงบของเขากลายเป็นจริงจังในทันที

 

เมื่อหยุนเข่อซินเห็นสีหน้าผิดปกติของเซี่ยวเฉิน,นางถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?หรือจะมีสัตว์อสูรปีศาจขวางทางอยู่?”

 

เซี่ยวเฉินพยักหน้าเงียบๆ เขายิ้มขมๆและกล่าว “คําพูดลอยๆนั้นเหมือนจะเป็นจริงไปแล้ว สัตว์อสูรปีศาจนั้นดูจากระแสพลังของมัน, อย่างน้อยมันก็อยู่ระดับ 5 ขั้นสูง หรืออาจจะเป็นระดับ 6 ขั้นต้น”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น,สีหน้าของพวกเขาซีดเทา พวกเขาทั้งหมดมองไปทางเกาเชียงอย่างกินเลือดกินเนื้อ จางเลี้ยกล่าวอย่างเสียอารมณ์ “โอกาสแสดงฝีมือของเจ้ามาแล้ว ไปจัดการมันซะพวกเราจะรอฟังข่าวดีอยู่ตรงนี้”

 

เกาเชียงกล่าวอย่างละอาย “ข้าก็แค่พูดลอยๆเจ้าโทษข้าเรื่องนี้ไม่ได้”

 

สีหน้าของหยุนเข่อซินไม่เปลี่ยนแปลง,นางถามขึ้นอย่างเยือกเย็น “เจ้าบอกได้หรือไม่ว่ามันเป็นสัตว์อสูรปีศาจอะไร? พวกเราอ้อมมันไปได้หรือไม่?”

 

เซี่ยวเฉินส่ายหัว “ข้าไม่มีว่ามันคือสัตว์อสูรปีศาจอะไร,ข้าบอกได้แค่ว่ามันเป็นงูขนาดยักษ์ กระแสพลังของมันครอบคลุมพื้นที่กว้าง หากพวกเราอยากจะอ้อมหลบมันไป,มันอาจจะใช้เวลาเป็นวัน”

เป็นเพราะสัตว์อสูรปีศาจบางตัวมีกระแสพลังที่แข็งแกร่ง,มันสามารถทําให้ภาพจากสัมผัสวิญญาณเลือนลาง ดังนั้นเซี่ยวเฉินจึงไม่ อาจรู้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรปีศาจอะไร

 

หยุนเข่อซินครุ่นคิดอยู่สิบวินาทีก่อนที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ในเมื่อพวกเราไม่อาจอ้อมมันไปได้,พวกเราก็จะเข้าสู้กับมันมู่เหิง,จางเลี่ย,เกาเชียง,และเย่เฉินมากับข้า ที่เหลือรอรับคําสั่งอยู่ที่

 

จากคนที่เหลืออยู่แปดคน,มีห้าคนที่แข็งแกร่งที่สุด คนที่เหลือจะอ่อนกว่าหน่อย,พวกเขาไม่อาจรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดหรือระดับ 6 ได้ บางครั้ง,หากมีคนมากเกินไป,พวกเขาอาจจะไม่ได้เปรียบอะไรนัก พวกเขาอาจจะไปขัดแข้งขัดขากันเอง

 

อีกสามคนก็เข้าใจถึงเจตนาของหยุนเข่อซิน พวกเขาไม่ได้ขัดใจอะไรและตั้งมั่นอยู่ในตําแหน่งเดิม

 

ภายใต้การนําของหยุนเข่อซิน,ทั้งห้าคนเดินตรงไปหาสัตว์อสูรปีศาจตัวนั้นอย่างระมัดระวัง ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้,กระแสพลังและแรงกดดันของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

มันถึงกับยากเย็นที่จะสูดหายใจ เกาเชียงมีสีหน้าน่าเกลียดพร้อมกับกล่าวขึ้น “มันอาจจะไม่ใช่แค่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูงสุดบางที่พวกเรากําลังจะรับมือกับสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6”

 

“มันเป็นไปไม่ได้ที่กระแสพลังของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 จะ สูงถึงเพียงนี้มันถึงจุดที่พวกเราหายใจไม่สะดวกแล้ว”

ยางเลี้ยยิ้มบางเบา “หากเป็นเช่นนั้นเจ้ามีคําแนะนําเช่นไร? หากเจ้ากลัว,ก็ไม่ใครสนใจเจ้า”

 

เกาเชียงแย้ง “ข้ากล่าวตอนไหนว่าข้ากลัว? ข้าเพียงพูดตามความจริง”

 

ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น,พวกเขาก็เรอมกัดกันแล้ว หยุนเข่อซินคิ้วชนกันแน่นและกล่าวด้วยเสียงเย็น “พวกเจ้า,หุบปาก พวกเรายังไม่ทันเข้าสู้พวกเจ้าก็เริ่มกัดกันแล้ว เจ้ากําลังจะหาเรื่องตายเบื่อที่จะหายใจแล้วใช่ไหมพวกเจ้า?”

 

คําของหยุนเข่อซินส่งผล หลังจากสิ้นเสียงนาง,จางเลี่ยและเกาเชียงหุบปากในทันทีพวกเราเหล่มองกันและกัน

“เย่เฉิน,เจ้าคิดว่าพวกเรามีโอกาสชนะเป็นเช่นไร?” หยุนเข่อซินหะนไปถามเซี่ยวเฉิน ผู้ที่กําบังนําทาง

 

เซี่ยวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าว “หากมันเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูง, พวกเรามีโอกาสครึ่งต่อครึ่ง หากว่ามันเป็นสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6 ขั้นต้น, พวกเรามีโอกาสชนะสี่ในสิบส่วน”

ตามจริง ยังมีอีกเรื่องที่เซียวเฉินยังไม่ได้พูดออกมาหากว่าร่างสีดําที่กําลังซ่อนตัวอยู่ในความมืดออกมาลอบโจมตี,โอกาสชนะของพวกเขาจะลดต่ําลงไปอีก

ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าละเอียดอ่อนของหยุนเข่อซินนางพึมพํา“เช่นนั้นข้าก็หวังว่ามันจะเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรปีศาจระดับ 5 ขั้นสูง

 

“ยิ้ม..!”

 

จังหวะนั้นเอง,พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน พวกเขาทั้งหมดหมุนเวียนพลังงานเพื่อรักษาสมดุลร่างกายของพวกเขาพร้อมกับตื่นตัวยิ่ง

 

“ปะ ปะ!”

 

เสียงของต้นไม้แตกหักดังสะท้อนในหูของทุกคน พวกเขาสามารถได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์กําลังเข้ามาใกล้พวกเขาด้วยความเร็วสูง

 

หยุนเข่อซินกล่าวอย่างใจเย็น “อันตราย,ถอย!”

 

พวกเขาทุกคนใช้ออกทักษะเคลื่อนไหว,ถอยกลับดข้าไปในปา “ฟูฟิว!” เงาสีดํามุ่งหน้าเข้าใส่คนที่ข้าที่สุด,มู่เพิ่ง

 

ร่างของมู่เหิงเรืองขึ้นด้วยแสงสีม่วง “เจ็ดดาราโยกย้าย!” ร่างของเขาลบหายไปและปรากฏขึ้นบนยอดต้นไม้

 

“ปัง!” เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

หลุมใหญ่ลึกปรากฏขึ้บนพื้นราบเรียบในทันทีต่อมา มันกว้างประมาณสิบเมตรและทอดยาวไปหลายร้อยเมตร สําหรับความลึกของมันไม่อาจคาดคะเนได้ด้วยตาเปล่า

 

มู่เหิงสูดอากาศเข้าปอด หากเขาโดนมันซัดเข้า เขาคงจะบาดเจ็บภายในสาหัส เพียงแค่คิดก็ทําเขาขึ้นลุก

 

คว้าเอาโอกาสนี้เอาไว้,ทุกคนมองดูสัตว์อสูรปีศาจตัวนั้นอย่างชัดเจน มันเป็นงูสีดํายาวประมาณสองร้อยเมตร เกล็ดของมันวูบไหวเย็นประกายแสงสีดํา

 

ของครึ่งบนของเขาชูขึ้น,มันสูงกว่าหนึ่งร้อยเมตรสูงเสียยิ่งกว่าต้นไม้ในป่าทุกคนดูราวกับมดต่อหน้าของมัน

 

เซี่ยวเฉินตกตะลึง เขาพึมพํา “นี่คือพญางูแดง ไม่ยังไม่ใช่เมงกุฏของมันยังไม่งอกขึ้นมา มันยังไม่โตเต็มวัย ถึงกระนั้น หลังจากที่มันกลายมาเป็นสัตว์อสูรปีศาจ,มันมีความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรปีศาจระดับ 6

 

เมื่อปีศาจงูแดงเห็นว่าจู่ๆมู่เหิงก็หายตัวไป,มันดูเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก ดวงตาสีเบือดของมันมองกวาดไปตามพื้นตรงหน้าจากนั้นมันมองเห็นเกาเชียง,ผู้ที่กําลังแบกกระบี่ยักษ์เด่นสะดุดตา

 

“ให้ตาย,อย่าจ้องข้าแบบนั้น!” เขากล่าวออกมาเมื่อเกาเชียงรู้สึกว่าเขากําลังเป็นเป้าสายตาของปีศาจงูแดง เขาเร่งรีบถอยกลับ

 

ร่างอันใหญ่ยักษ์ของปีศาจงูแดงดีดตัวออกจากพื้น มันไม่ได้เชื่องช้าแม้แต่น้อย ปากอะนใหญ่โตของมันเปิดออก,มันหมายที่จะกลืนเกาเชียงลงท้อง

 

เกาเชียงตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าปีศาจงูแดงจะรวดเร็วถึงเพียงนี้เมื่อผากของมันเข้ามาใกล้เขาม้วนตัวออกข้าง,หลบเลี่ยงมัน

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้พักหายใจ,ลิเนสีแดงในปากของปีศาจงูแดงพุ่งออกมา,ตรงเข้าหาเกาเชียง

“ระเบิดยอดเขาเดียวดาย!”

 

ในจังหวะสําคัญ,จางเลี่ยใช้ออกกระบวณท่าที่สิบห้าของทักษะกระบี่หลิงหยุน กระบี่แสงเติมเต็มท้องฟ้าเปลี่ยนให้กลายเป็นยอดเขาขนาดมหึมากําลังร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าและทุบลงบนร่างของปีศาจแดง

 

“ชี ชี!”

 

ปีศาจงูแดงรู้สึกเจ็บปวดและถอนลิ้นของมันกลับมาจากนั้น,มันก็หันมาและพ่นลูกบอลเพลิงสีดําไปที่จางเลี่ย

ลูกบอลเพลิงสีดําทอดหางยาวไว้ข้างหลังพร้อมกับลอยไปในอากาศ ทุกที่ที่มันลอยผ่าน,แม้แต่อากาศกูถูกเผาสลาย ยอดเขาสูงจางหายไปในทันมี

 

ปรากฏการณ์ลึกลับของเขาถูกทําลายลง,จางเลี่ยกระอักเลือดออกมาคําใหญ่ ใบหน้าของเขาซีดขาวพร้อมกับร่วงลงมาจากท้องฟ้า

เกาเชียงหยุดวิ่ง เขาไม่ครดคิดว่าจางเลี่ย,ผู้ที่กําลังบาดหมางกับเขา,จะช่วยเขาเอาไว้ในจังหวะสําคัญเช่นนี้

 

เมื่อเกาเชียงเห็นว่าจางเลี่ยบากเจ็บ,เขาตะโกนขึ้น “ได้สัตว์เวร!ข้าจะทุ่มทุกอย่างเพื่อฆ่าเจ้า!”

 

หมู่เมฆเพลิงสามพันก้อน, บดบังท้องฟ้า,หลอมรวมเข้าไปใน กระบี่ เมฆาเพลิงสวรรค์!

 

เมฆเพลิงสามพันก้อนเริ่มเผาไหม้บนท้องฟ้าสีแดงมืด ทันใดนั้นมันดูไร้ขีดจํากัด,กําลังบดบังเชดวงอาทิตย์ เปลวเพลิงด้เดือดถูกจุดขึ้นทั่วทั้งผืนปา

สายเมฆเพลิงไร้ที่สิ้นสุดก่อตัวขึ้นไปเป็นเปลวเพลิงพายุหมุนจากนั้น,มันลอยเข้าไปในกระบี่ยักษ์ของเกาเชียง

 

“บูม!”

ทันใดนั้น,เกาเชียงเผาไหม้ด้วยเพลิงสีแดง เขาดูราวกับยักษ์เพลิงกระบี่เพลิงยักษ์กวาดไปข้างหน้าอย่างดุดัน

เพลิงสีแดงราวกับมังกรทะยาน อุณหภูมิระดับน่าหวาดกลัวทําให้ต้นไม้ภายในรัศมีร่อยเมตรหลอมละลาย มันพุ่งไปที่ปีศาจงูแดงด้วยความเร็วสูง

 

ดวงตาสีแดงของผีศาจงูแดงกระบพริบซ้ําๆ มันพ่นลูกบอลเพลิงสีดําออกมาจกาปากของมัน มันพุ่งตรงไปที่เปลวเพลงที่เกาเชียงปล่อยออกมา

 

“ปัง! ปัง! ปัง “

เปลวเพลิงสีแดงและลูกบอลเพลิงสีดําผะทะกันกลางอากาศพลังงานมหาศาลระเบิดขึ้นในอากาศลเกอดเป็นคลื่นกระแทกขยายไปทั่วบริเวณทุกที่ที่ทันกวาดผ่าน,ผืนดินถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

สองเปลวเพลิงเริ่มเผาไหม้กันในอากาศ อย่างไรก็ตาม,เปลวเพลิงสีระเบิดได้รุนแรง จากนั้น มันก็ล้มเปลวเพลิงสีแดงและพุ่งตรงไปที่เกาเชียง

 

เหาเชียงไม่กล้าที่จะประมาท,แต่เขาก็ไม่ถอยเช่นกัน เขาส่งเปลวเพลิงออกไปจากกระบี่ยักษ์ของเขาอีกที่ละลูกไม่หยุดหย่อนผ่านไปสองสามอึดใจ,ในที่สุดเขาก็สามารถป้องกันเปลวเพลิงจากปีศาจ งูแดงเอาไว้ได้

 

“กวาดกระบี่ฉับพลัน!”

ขณะที่ปีศาจงูแดงกําลังจะพ่นเปลวเพลิงสีดําออกมาอีก,มู่เพิ่ง,ผู้ที่อยู่บนยอดต้นไม้,ทันมดนั้นก็ลงมือ

 

แสงสีม่วงจุดขึ้นบนร่างของมู่เหิง, จากนั้นเขาก็เคบื่อนไหวผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว ร่างของเขากลายเป็นกระบี่ล้ําไร้เทียมทาน,เรื่องแสงเฉียบคมแวววาวออกมา,ช่างดูแพรวพราว

“ปัง!”

 

มู่เพิ่งใช้ฝ่ามือของเขาแทนกระบี่และฟันลงไปที่หัวของปีศาจงูแดงนี่เป็นกระบี่จู่โจมที่สามารถผ่าภูผา,ใช้ออกมาโดยไม่อ้อมพลัง

มีเสียงร้องออกมาและร่างท่อนบนของปีศาจงูแดงถูกฟันด้วยกระบี่จู่โจมและถูกกดลงไปกับพื้น

 

อย่างไรก็ตาม,กระบี่จู่โจมนี้ก็ไม่อาจเจาะทะลุหนังของปีศาจงูแดงในทันทีที่ปีศาจงูแดงลงไปอยู่กับพื้น,หางอะนมหึมาของมันส่งเสียงฟ้าคํารามพร้อมกับทะลวงผ่านอากาศ,ซัดเข้าใส่มู่เพิ่ง

 

มู่เหิง,ผู้ที่ลอยอยู่ในอากาศ, เมื่อเขาเห็นหางของปีศาจงูแดงกําลังฟาดมาทางเขา เขาหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดอีกครั้ง

ปีศาจงูแดงรีบมองหาตําแหน่งมู่เหิงและฟาดหางของมันในเขาอีกครั้งเกิดเป็นเสียงฟ้าคํารามขึ้นอีก

ความเร็วของปีศาจงูแดงในตอนนี้รวดเร็วยิ่งกว่าก่อน มู่เพิ่งมีสีหน้ามืดมัวเขาใช้ออกเจ็ดดาราโยกย้ายและวูบไหวไปในอากาศเจ็ดครั้ง

 

ทุกครั้บที่เขาปรากฏตัวขึ้น,มีหางของมันตามมาติดๆแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วและอันตรายยิ่งกว่าเดิม

 

“ภูผาเคลื่อนขับเมฆา!”

จางเลี้ยได้กินเม็ดยาหวนคืนโลหิตและเม็ดยาหวนคืนพลังฉีเข้าไปดวงตาของเขาเติมเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันพร้อมกับเขายืนขึ้นอีกค

 

เขาผสานเจตนารมณ์แห่งกระบี่ระดับสมบูรณ์ขั้นต้นของเขาเข้ากับทักษะกระบีหลิงหยุน จากนั้นเขากลายเป็นยอดเขาเดียวดาย,สร้างลมพายุแข็งแกร่งอันไร้ขอบเขตขึ้น เขาซัดลงไปที่ปีศาจงูแดงอย่างรุนแรง

มู่เพิ่งได้โอกาสพักหายใจ เขาหายตัวไปในอากาศอีกครั้งในที่สุดเขาก็สลัดหางของมันที่ไล่ตามเขาหลุด

 

เมื่อภูผาเคลื่อนขับเมฆาที่ผสานเข้ากับเจตนารมณ์แห่งกระบี่ระดับสมบูรณ์ขั้นต้นซัดเข้าใส่ปีศาจงูแดง,ผิวหนังที่แข็งแกร่งดุจโลหะ,ในที่สุดก็แตกออก

 

สายลมที่คมราวกับกระบี่,ทําให้เลือดสีดําสาดกระเซ็นไปในอากาศและโปรยลงไปทั่วผืนปา

“เมฆาเพลิงสวรรค์!” พายุเปลวเพลิงขนาดมหึมาเริ่มก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

IMDC, 仙武同修
Score 6.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2008 Native Language: Chinese
เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset