Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 257 ศึกสุดท้าย

นิยาย Immortal and Martial Dual Cultivation

 

ตอนที่ 257 ศึกสุดท้าย

 

ภายใต้ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธลงมา,หกาไม่ได้ฝึกฝนทักษะเคลื่อที่แบบพิเศษและไม่ได้คาดคิดมาก่อน,ไม่มีทางที่จะหลบมันได้ สิ่งที่หลิวหรูเยว่ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

 

“อืม! หลังจากที่กลายเป็นระดับขอบเขตนักบุญ.สภาวะสายฟ้าของข้าก็ก้าวหน้ามากขึ้น หลังจากนั้น,ข้าก็ได้บรรลุถึงก ระบวณท่านี้ อย่างไรก็ตาม,มันสิ้นเปลืองพลังปราณมากเกินไปหากข้าไม่สนถึงผลที่จะตามมา,ข้าสามารถใช้มันออกมาได้สามครั้งอย่างมากที่สุด” เซียวเฉินบอกหลิวหรูเยวตรงไปตรงมา

 

มู่หลงชงคิดคํานวณในใจถึงโอกาสที่เขาจะสามารถหลบพ้น หากว่าเขาอยู่ในระยะหนึ่งร้อยเมตร

 

คําตอบที่เขาได้รับช่างน่าตกใจเขามีโอาสเพียงครึ่งเท่านั้นที่จะหลบพ้น กระบวณท่านี้สามารถสังหารแม่ทัพปีศาจโลหิตลงได้ในทันที ด้วยพลังอํานาจของกะบวณท่านี้ หากมันโดนตัวเขาเข้า,เขาต้องตกตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย

 

กล่าวได้ว่า เซียวเฉินมีโอกาสครึ่งครึ่งในการสังหารมู่หลงชงจากระยะหนึ่งร้อยเมตร

 

มู่หลงชงครุ่นคิดกับตัวเอง “ข้าต้องยกระดับสภาวะแห่งสายลมของข้า มิฉะนั้น,ข้าจะมีโอกาสไม่มากที่จะหลบกระบวณท่านี้พ้น”

 

ในครั้งนี้ แม่ทัพปีศาจโลหิตใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อคืนชีพขึ้นมา อย่างไรก็ตาม,ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งก่อน

 

ก่อนที่แสงสีแดงจะฉายลงมา,เพลิงแท้อัสนีม่วงของเซียวเฉินเป่ามันกระเด็นแตกตายเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนอีกครั้ง

 

ฉากเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ําอีกสองครั้ง ระยะเวลาในการคืนชีพของ แม่ทัพปีศาจโลหิตเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตามมันก็ถูก สังหารโดยเซี่ยวเฉินในพริบตาก่อนที่แสงสีแดงจะได้ฉายลงบนตัวของเขา

 

เซี่ยวเฉิน,ผู้ที่ใช้เพลิงแท้อัสนีม่วงออกมาซ้ําๆ,สีหน้าไร้ซึ่งสีโดยสมบูรณ์:ตัวเขาซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ หลิวหรูเยว่ส่งหินวิญญาณระดับต่ําให้กับเขา

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินได้ใช้หินวิญญาณไปมากมายแล้วในตอนที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นตอนที่ต่อสู้ในปาหรือตอนที่ประมือบนเรือสงครามสีเงิน,เขาได้ใช้หินวิญญาณไปมากมายพลังปราณของเซี่ยวเฉินฟื้นคืนกลับมาได้ไม่รวดเร็วเห มือนก่อนหน้านี้

 

ร่างกายของเขาเริ่มที่จะต่อต้านหินวิญญาณระดับต่ําหินวิญญาณระดับต่ําที่เคยฟื้นคืนพลังปราณกลับมาเต็มเปี่ยม ตอนนี้ มันฟื้นฟูช้าอย่างไม่น่าเชื่อ,แมบจะไม่เกิดผลใดๆ

 

หลิวหรูเยวถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “เจ้าเป็นเช่นไร? หากเจ้ายันเอาไว้ไม่อยู่เจ้าสามารถใช้เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์กลับออกไปก่อน”

 

เซี่ยวเฉินสายหัวและโยนหินวิญญาณในมือของเขาทิ้งไปจากนั้นเขากลืนเม็ดยาหวนคืนพลังฉีลงคอ เขากล่าว “ไม่เป็นปัญหา ทักษะต่อสู้ที่อยู่ในกระบี่มันไม่ต้องใช้พลังปราณในการร่ายออกมา ข้าต้องรอจนกว่ามันจะแสดงร่างที่แท้จริงออกมาก่อนที่ข้าจะลงมือ”

 

เจ้ามีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น….คําของหลิวเทีวนยู่สะท้อนอยู่ในใจของเซี่ยวเฉินดังนั้นเขาไม่กล้าที่จะลงมือรวดเร็วเกินไป

 

ในครั้งนี้ แม่ทัพปีศาจโลหิตใช้เวลายาวนานในการคืนชีพหลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมงก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นบนซากปรักหักพังของราชวัง

 

อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่กล้าที่จะลดการป้องกันลงทุกคนล้วนรู้ดีว่าแม่ทัพปีศาจโลหิตยังไม่ตาย นอกจากนั้นเซี่ยวเฉินไม่สามารถใช้เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้อีกครั้งดังนั้น, พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาท

 

แขึ้ม!”

 

ทันใดนั้นทั่วทั้งมิติย่อยเริ่มสั่นสะเทือน ทุกคนตกตะลึงจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น,มันกําลังเริ่มเข้ามา

 

“ดวงจันทร์กําลังร่วงหล่น!” ทั้งสี่คนอุทานขึ้น

 

ไร้ซึ่งความลังเล,เซี่ยวเฉินสงเรือสงครามสีเงินในดวงตาขวาของเขาออกมาและกระโดดขึ้นไปข้างบนคนอื่นๆก็ตามหลังเขามาอย่างติดๆ

 

“ปัง!”

 

เซี่ยวเฉินบินออกไปได้ไม่ไกลก่อนที่รบินกระแทกจะซัดใส่พวกเขา เรือสงครามสีเงินราวกับเรือลําน้อยที่เผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์,กระเพื่อมขึ้นลงไปมา

 

เพียงเซี่ยวเฉินนึกคิด เรือสงครามสีเงินเริ่มขยายใหญ่ขึ้นในที่สุด,มันก็กลายเป็นเรือขนาดใหญ่ยาวกว่าสองร้อยเมตรและกว้างกว่ายี่สิบเมตรก่อนที่จะทรงตัวได้มั่นคง

 

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนมองเห็นฉากเบื้องล่างอย่างชัดเจนในทันทีที่ดวงจันทร์ตกลงไป, หน้าผาที่ยื่นยาวออกมาแตกเป็นเสียง,ตกลงไปในหุบเหว

 

อย่างไรก็ตาม,ดวงจันทร์นั้นแท้จริงไม่ได้เป็นดวงจันทร์มันเป็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่มีเลือดกําลังไหลไปโดยรอบ

 

นอกจากชั้นโลหิตโดยรอบก้อนเนื้อสีแดงเลือด,มันมีสายระยางค์มากมายบนพื้นผิวของมัน พวกเขาโบกสะ บัดไปรอบๆทําให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกขนลุก

 

“ปุ! !!”

 

แผ่นเนื้อขนาดใหญ่เต้นตุบๆอย่างต่อเนื่องผ่านไปครู่หนึ่ง,มันกลายไปเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์สีแดงที่ตัวสูงกว่าสองร้อยเมตร

 

กระแสพลังอะนน่าหวาดกลัวขยายออกมาจากสัตว์ประหลาดตัวนั้น ทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายโลหิตพวกเขาทั้งหมดถูกแรงกดดันมหาศาล

 

หยุ่นเข่อซินกล่าวด้วยน้ําเสียงสั่นเทา, “หรือนั้นจะเป็นร่างที่แท้จริงของแม่ทัพปีศาจโลหิตในมิติย่อยแห่งนี้? กระแสพลังที่เขาปล่อยออกมาราวกับเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ”

 

“ติ่ง! ติ่ง!”

 

หยดเลือดหยดลงมาจากร่างของแม่ทัพปีศาจโลหิตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มันมองมาที่เรือสงครามสีเงิน,เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด พิธีกรรมที่ข้าได้ตระเตรียมมานานกว่ายี่สิบปีต้องพังทลายลงเพราะมดปลวกอย่างพวกเจ้า”

 

เมื่อเซี่ยวเฉินได้เห็นร่างที่แท้จริงของแม่ทัพปีศาจโลหิต,เขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว กลับกัน เขามีท่าที่นิ่งสงบ เขากดเท้าดีดตัวออกจากเรือสงครามและกระโดดขึ้นไปในอากาศ

 

“เย่เฉินเจ้าจะทําอะไร?!” หยุ่นเข่อซินและหลิวหรูเยว่อทานขึ้นมาพร้อมกัน

 

เมื่อแม่ทัพปีศาจโลหิตมองเห็นเซียวเฉินกําลังกระโดดตรงมาทางเขา ใบหน้ามีเลือดของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “ช่างกล้าหลังจากที่บังคับให้ข้าเผยร่างที่แท้จริงไม่มีใครในมิติแห่งนี้จะสังหารข้าลงได้!”

 

หลังจากที่แม่ทัพปีศาจโลหิตกล่าวจบ,เขายกมือขวาของเขาขึ้น,กางนิ้วอันใหญ่โตของเขาออกมา มันเสมือนกับภูเขาลูกโตกําลังฟาดไปที่เซี่ยวเฉิน

 

ทันใดนั้นมีแสงสว่างจุดขึ้นในดวงตาอันนิ่งสงบของเซี่ยวเฉินขณะที่เลือดกําลังเข้ามาใกล้,กระบี่เงาจันทร์ถูกโยนไปในอากาศพร้อมกับเขากล่าวอย่างเย็นชา “ตาย!”

 

กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะออกจากมือของเซี่ยวเฉินในทันทีมันก่อให้เกิดแสงหลากสีพร้อมกับวูบไหวไปในอากาศ มันรวดเร็วมากจนทําให้ผู้คนสงสัยว่ามันอาจจะเป็นเพียงภาพหลอน

 

“ฟู ฟิว!”

 

ร่างมหึมาของแม่ทัพปีศาจโลหิตถูกผ่ากลางจากบนลงล่างฝ่ามือที่ราวกับขุนเขาหยุดลงและเฉียวผ่านหัวของเซี่ยวเฉินไป

 

ไม่เกิดเสียงสะเทือนสวรรค์หรือแสงวิจิตรร่างอันมหึมาของแม่ทัพปีศาจโลหิตเพียงถูกฟันขาดครึ่งอย่างเงียบเชียบจากนั้นมันก็แตกสลายกลายเป็นแสงสีแดงเลือด,และจางหายไปไม่เหลือร่องรอย

 

ท้องฟ้ามืดมิดที่ด้านหลังของแม่ทัพปีศาจโลหิตเกิดรอยบากยาว มันเผยออกมาให้เห็นถึงความว่างเปล่าที่ดํามืดเสียยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ําคืน

 

“ฟู ฟิว!”

 

แสงสว่างเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาจากความว่างเปล่าอันไร้ ขอบเขตมันคือกระบี่เงาจันทร์ลอยกลับมาที่มือของเซี่ยวเฉิน

 

ในจังหวะต่อมา,รอยแตกกราวปรากฏขึ้นบนมิติสีแดงนี่เป็นสัญญาณว่ามิติแห่งนี้กําลังจะพังทลายลง แม่ทัพปีศาจโลหิตตกตายไปได้เสียทีในครั้งนี้ และเขาจะไม่ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง

 

แน่นอน,ร่างจริงของแม่ทัพปีศาจโลหิตไม่ได้ตกตายแต่อย่างใด และเขาจะเสียความแข็งแกร่งไปเพียงบางส่วนเท่านั้น

 

เซี่ยวเฉินหันกลับมากลับไปที่เรือสงครามสีเงิน เมื่อเขาลงจอดที่หัวเรือ,เขาอดไม่ได้ที่จะล้มตัวเซ หลิวหรูเยว่เร่งเข้ามาและช่วยพยุงตัวเขาเอาไว้

 

ความแข็งแกร่งทางจิตใจที่กระบี่จู่โจมเมื่อครู่เผาผลาญไปมันมากมายกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้เขาดูราวกับกําลังจะพังทลายลง

 

หลิวหรูเยวากล่าวขึ้น “ทําไมเจ้าถึงได้บ้าบินนัก? หลังจากที่ทําลายพิธีกรรมของแม่ทัพปีศาจโลหิตลงได้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้สังหารเขา,ภารกิจของพวกเขาก็สําเร็จเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

 

เซี่ยวเฉินพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะคุมสติ เขายอมและกล่าวขึ้น “ข้าไม่เป็นไร อย่าได้เป็นกังวล นี่มันไม่ใช่พลังของข้านี่เป็นตัวช่วยที่บิดาของเจ้ามอบให้ มันเพียงแค่ทําให้จิตใจของข้าเหนื่อยล้าเท่านั้น”

 

หลังมู่หลงชงได้ยินคําอธิบายของเซี่ยวเฉิน,เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากกระบี่จู่โจมนั้นแความแข็งแกร่งของเซี่ยวเฉินเอง,เช่นนั้นมันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว

 

มู่หลงชงคาดเดาว่าจะไม่มีผู้ใดภายในศาลากระบี่สวรรค์ที่จะสามารถปัดป้องกระบี่นั้นได้ พลังอันบริสุทธิ์ของกระบี่จู่โจมนั้นมันเกือบจะถึงขีดจํากัดที่มนุษย์สามารถบรรลุถึงมันสามารถทําลายได้แม้กระทั่งมิติ

 

“ฟูฟิว!”

 

รอยแตกในมิติแห่งนี้ขยายยาวออกไปเรื่อยๆราวกับกระจกแตกร้าว ก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกถึง,พวกเขาพบว่าร่างกายของพวกเขากลายเป็นเหมือนชิ้นส่วนกระจกเงา

 

ทั่วทั้งมิติแห่งนี้พังทลาย,จิตใต้สํานึกของทุกคนกลายเป็นว่างเปล่าไปชั่วขณะ เมื่อพวกเขาคืนสติกลับมาอีกครั้งเราของพวกเขาได้กลับมาที่บ่อน้ําแห่งการเกิดใหม่

เซี่ยวเฉินและสานุศิษย์แก่นกลางคนอื่นได้ออกมาจากมิติย่อยแห่งนั้นมาอยู่ที่บ่อน้ําแห่งการเกิดใหม่

 

เมื่อพวกเขาทุกคนมองไปโดยรอบ,สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี พวกเขาคิดว่ากําลังจะต้องตาย:พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะรอดกลับมาได้

 

ชายชราสี่คนที่เฝ้าบ่อน้ําเผยให้เห็นถึงความโล่งใจ มีเพียงผู้นําของพวกเขาที่สีหน้าไม่ได้เป็นสุข เขากล่าวขึ้น “ข้าสงสัยว่าพวกเราจะโชคดีเช่นนี้ในอีกยี่สิบปีต่อไปหรือไม่

 

ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขากลับออกมา ก็มีคนมานําทางพวกเขากลับ จากนั้น, อัญเชิญแร้งวายุสวรรค์ออกมาพาทุกคนกลับไปที่ฐานส่องสวรรค์

 

เซี่ยวเฉินนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานส่องสวรรค์และหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ประมือฝ่าสมรภูมิมาไม่มีหยุดพัก,จิตใจและร่างกายของเขาเหนื่อยล้า

 

ผ่านไปสองชั่วโมงเมื่อแร้งวายุสวรรค์กําลังบินมาที่ยอดเขานิ่งหยุนเซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและค่อยๆลุกขึ้น เขาฟื้นคืนจิตวิญญาณกลับมาได้บางส่วนแล้ว

 

เซี่ยวเฉินหยิบเอาแก่นกลางปีศาจยี่สิบก้อนออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและส่งให้กับหลิวหรูเยว่ เขากล่าว “รบกวนช่วยข้าสางภารกิจนี้ ข้ามีบางอย่างที่ต้องไปถามจากบิดาของเจ้า”

 

หลิวหรูเยวรับแก่นกลางปีศาจมาและพยักหน้าเบาๆ

 

มู่หลงชงมองดูขณะที่เซี่ยวเฉินกระโดดลงจากแร้งวายุสวรรค์ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอะนหล่อเหลาของเขาพร้อมกับถามหลิวหรูเยว่ “ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะรับศิษย์เช่นนี้เข้ามาอย่างไรก็ตาม, ข้าจะทําให้เขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่านอกจากข้า, ไม่มีใครที่จะสามารถฟื้นฟูยอดเขาฉิงหยุนกลับมาได้”

 

สายลมแรงพัดผ่าน,ทําให้ผมของหลิวหรูเยวร่ายรําไปตามสายลม ใบหน้าอันทรงเสน่ห์ของนางดูเจ็บปวดนางกล่าวขึ้น “ข้าไม่เคยตชคิดที่จะให้เขามาฟื้นฟูยอดเขาฉิงหยุน เขาไม่ได้ตรงต่อยอดเขาฉิงหยุน,หรือแม้แต่ศาลากระบี่สวรรค์เองก็ด้วยสักวันหนึ่งเขาจะต้องจากไป”

 

มู่หลงชงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “เมื่อเป็นเช่นนั้น ก่อนที่เขาจะจากไป, ข้าจะมอบประสบการณ์ที่ต้องจดจําให้แก่เขา”

 

ความโกรธวูบผ่านใบหน้าของหลิวหรูเยว่ นางกล่าวขึ้น “มู่หลงชง,อย่าให้มันมากนัก!”

 

มู่หลงซงยิ้มขึ้นเบาๆ “เป็นห่วงตัวเจ้าเองเถอะ ในวันที่สิบห้าของเดือนถัดไป,ข้าจะส่งคําร้องอย่างเป็นทางการให้กับสภาสูงเพื่อที่จะขึ้นเป็นท่านเจ้ายอดเขาฉิงหยุน หวังว่าเจ้าจะสามารถขึ้นเป็นระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้ก่อนหน้านั้น”

 

หลังจากที่มู่หลงชงกล่าวจบ,เขากระโดดลงจากแร้งวายุสวรรค์โดยไม่หันกลับมามอง ร่างของเขาส่งเสียงโซนิคบูมออกมาพร้อมกับบินจากไปไกล

 

ที่ยอดสุดของยอดเขาฉิงหยุน,เซี่ยวเฉินลงจอดอย่างมั่นคงต่อหย้าของหลิวเทียนยู่ เหมือนกับครั้งก่อน เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนก้อนหิน,ราวกับชายชราที่ผ่านยุคทองของเขา

 

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินไม่กล้าที่ประมาทบุคคลคนนี้เขามีความรู้สึกที่ว่าหากเขาสามารถลุกขึ้นจากก้อนหินก้อนนั้นได้,เขาจะสามารถบดขยี้ยอดเขาฉิงหยุนได้ด้วยมือเดียวไม่มีผู้ใดภายในศาลากระบี่สวรรค์ที่คู่ควรกับเขา

 

หลิวเทียนยู่มองไปที่เซียวเฉินและยิ้มขึ้นเบาๆ “เจ้ากําลังทําอะไร,เร่งรีบมาเพื่อขอรับรางวัล?”

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

IMDC, 仙武同修
Score 6.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2008 Native Language: Chinese
เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset