Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 27 ศาลาหลินหลาง

ตอนที่ 27 ศาลาหลินหลาง

สามตระกูลใหญ่แห่งเมืองม่อเหอ ตระกูลเซียว ตระกูลจางและตระกูลถังล้วนแต่มีที่ดินทรัพย์สินและร้านค้ามากมาย อย่างไรก็ตามสถานที่ที่ทำกำไรได้มากที่สุดก็คือห้องประมูลแต่ทั้งสามตระกูลใหญ่ไม่เคยเข้ามาในธุรกิจนี้

นั้นเป็นเพราะห้องประมูลที่มีอยู่เดิมนั้นคือ – ศาลาหลินหลาง (ศาลาประกายหยก)

ศาลาหลินหลางนั้นเป็นห้องประมูลที่ใหญ่ที่สุดภายในอาณาจักรต้าฉิน มีสาขาในทั้งหมด 36 มณฑล จาก 9 เขตการปกครอง และผู้หนุนหลังของพวกเขาไม่ใช่ใครนอกจากบุตรเขยของจักรพรรดิ หนานกงเลี่ย มีความสัมพันธ์เครือญาติกับจักรพรรดิ การมีผู้ทรงอิทธิพลอย่างหนานกงเลี่ยค่อยหนุนหลัง ไม่มีใครกล้าที่จะต่อกร

หรือบางทีในเมืองใหญ่หรือที่เมืองหลวงอาจจะมีอิทธิพลที่สามารถต่อกรกับตระกูลหนานกงและกล้าพอที่จะเปิดห้องประมูล อย่างไรก็ตามในเมืองเล็กๆอย่างม่อเหอไม่มีใครกล้าพอที่จะเปิดห้องประมูลเป็นแห่งที่สอง

ศาลาหลินหลางคือจุดหมายที่เซียวเฉินกำลังจะมุ่งไป หากเขาอยากจะทำเงินอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดเผยการเป็นนักปรุงยาต่อตระกูลเซียวหรือการขายศิลาแสงจันทร์ในห้องของเขา คงต้องพึงเม็ดยาอดอาหารที่เขาสกัดออกมาเมื่อคืน

หลังจากที่เขาจัดเสื้อคุลมบนร่างของเขาและเห็นป้ายหรูหราเตะตาของศาลาหลิงหลาง รอยยิ้มปรากฎที่ริมฝีปากภายใต้ผ้าคลุมของเขาจณะที่เขาเดินเข้าไปในศาลาหลิงหลางอย่างช้าๆ

เนื่องจากประชากรที่มีน้อยของที่นี้ ศาลาหลิงหลางสาขาเมืองม่อเหอจะจัดการประมูลขนาดเล็กเพียงเดือนละครั้ง การประมูลขนาดกลางทุก 3 เดือน และการประมูลขนาดใหญ่ปีละครั้ง เมื่อการประมูลครั้งใหญ่ใกล้เข้ามา เมืองม่อเหอจะเข้าสู่ช่วงคึกคักเป็นที่สุด

มันก็เกือบจะสิ้นเดือนเมื่อมองไปที่ปฏิทิน มีผู้คนมากมายมองดูสินค้าในโถงใหญ่ชั้นหนึ่ง คนพวกนี้ไม่ได้มีฐานะสูงอะไรในเมืองม่อเหอ ในนั้นก็มีคนที่มาจากสามตระกูลใหญ่ เซียวเฉินสังเกตเห็นหลายคนที่มาจากตระกูลเซียวแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนทนา

เซียวเฉินสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาจากด้านหลังของเขา และฝ่ามือกระแทกเข้ามาทางเขาอย่างรวดเร็ว ด้วยปฏิกิริยาอันรวดเร็วเซียวเฉินก้าวไปข้างหน้าพร้อมหมุนตัวกลับมาพร้อมจะลงมือ

“ฟุ่บ!”

ด้วยมือที่คล่องแคล่ว เขาจับข้อมือของคนแปลกหน้า เซียวเฉินออกแรงบิดไปที่ข้อมือทำให้คนคนนั้นบิดตัวด้วยความเจ็บปวด คนที่โดนจับร้องตะโกนออกมา “สารเลว! ปล่อยข้า!”

บุคลคลนี้แต่งตัวด้วยชุดต่อสู้สีแดงสลับขาวอายุราว 27 หรือ 28 และขอบเขตพลังของเขาดูเหมือนจะอยู่ที่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง มีรูปถักดอกเดซี่สีเหลือง(ดอกฉูจู๋)บนคอเสื้อของเขา เมื่อเซียวเฉินเห็นมันก็เข้าใจทันทีว่าเป็นยามของศาลาหลินหลาง ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีความคิดที่จะปล่อยเขา

เขาออกแรงที่แขนเพิ่มขึ้นอีกพร้อมถามขั้นอย่างเย็นชา “ทำไมย่องมาข้างหลังข้า?”

คนที่ถูกถามร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมด่าทอ “ไอ้สารเลว! รีบปล่อยข้าหรือเจ้าจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี้อีก”

เสียงของทั้งสองคนดึงดูดความสนใจของฝูงคนรอบข้าง หลายคนมองเซียวเฉินด้วยสายตาเยาะเย้ย พวกนั้นเห็นว่าขอบเขตพลังของเขาน่าจะอยู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดไม่ขั้นกลางก็ขั้นต่ำและเขายังกล้ามาสร้างปัญหาที่ศาลาหลินหลาง ช่างบ้าบอ

ในไม่ช้า กลุ่มคนที่สวมชุดคลุมฟ้าขาวก็วิ่งตรงเข้ามา พวกเขาเหล่านั้นมีตราดอกเดซี่อยู่บนปกเสื้อ ภายใต้คำสั่งของระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธยุทธพวกเขาล้อมตัวเซียวเฉินไว้

ระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธคนั้นคิ้วดกหนา ดวงตาโตและร่างกายกำยำ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขุม ไม่มีโทสะหรือความหงุดหงิดเจือปน หลังจากที่มองดูเซียวเฉิน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่ยังคนที่โดนเซียวเฉินจับไว้อยู่และถามขึ้นเสียงเย็น “เกาหลง เกิดอะไรขึ้น?”

เกาหลงผู้ถูกจับไว้โดยเซียวเฉินใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมาจากเซียวเฉินทำให้เขาไม่สามารถรวบรวมพลังปราณได้ เมื่อพลังปราณของเขาสัมผัสกับกระแสไฟ้านั้นมันก็สลายไปทันที ทำให้เขาไม่สามารถหลุดไปจากมือของเซียวเฉินได้

“หัวหน้า! เจ้านี้มันแต่งตัวน่าสงสัย หลังจากที่มันเข้ามาในโถงใหญ่มันก็มองไปรอบๆ ข้ากลัวว่ามันจะมีเจตนาร้าย เลยจะกักตัวไว้สอบปากคำ” เกาหลงพูดเสียงสั่น

เขาอยู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง แต่เขาถูกระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นต่ำจับตัวไว้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็ทำให้ศาลาหลินหลางเสียหน้า เขาคงต้องถูกหัวหน้าลงโทษเป็นแน่ เมื่อคิดถึงการลงโทษที่เขาต้องเจอ เกาหลงตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้

ระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธขั้นสูงที่ถูกเรียกว่าหัวหน้ามองไปที่ชุดของเซียวเฉินและเกิดความสงสัยในใจ ผู้คนที่มาที่ศาลาหลินหลางมักจะแต่งตัวสีสันสดใสด้วยผ้าชั้นดี… แต่จะมีใครจะแต่งตัวแปลกๆอย่างเซียวเฉินได้? ปิดบังตัวมิดชิดด้วยผ้าคลุมคือคนที่มีบางสิ่งที่เป็นความลับ

“เพื่อนยาก ข้าคือเจียงฉีหัวน้ากองอารักษ์ขาชั้นที่ 1 ของศาลาหลินหลาง ข้าสงสัยว่าเจ้ามีธุระอะไรที่นี้? หรือเจ้าจะมาซื้ออะไร?” ถึงแม้ว่าเขาจะมีคิดเกี่ยวกับเซียวเฉินแล้วก็ตาม เจียงฉียังคงถามออกไปด้วยความสุขุม

“ไม่” เสื้อคลุมปิดบังใบหน้าของเซียวเฉินทำให้เขาดูลึกลับ

เมื่อเกาหลวงที่ถูกจับอยู่ได้ยินดังนั้นก็ปรากฎสีหน้าสุข เจ้านี้ไม่ได้มาซื้ออะไรหมายความว่ามันมาเพื่อป่วน ถ้าเป็นอย่างนั้น เจ้าหมอนี่คงไม่ได้กลับออกไปเป็นๆแล้ว เขาหัวเราะอย่างชั่วร้ายในใจความรู้สึกนี้ลดทอนความเจ็บปวดที่มือของเขา

“เช่นนั้นมีจุดหมายอะไร? มาพบเพื่อน?” เจียงฉียังคงถามต่ออย่างอดทนแต่รังสีฆ่าฟันที่เคยปกปิดไว้ก็แผ่ออกอย่างอย่างไม่อาจยับยั้ง หากคำตอบของเซียวไม่เป็นที่น่าพอใจ เขาจะลงมือทันที ใครก็ตามที่กล้ามาสร้างปัญหาที่ศาลาหลินหลางมีทางเลือกเดียวเท่านั้นคือ – ตาย!

กระแสพลังขอบเขตปรมจารย์ยุทธของเจียงฉีถูกปลดปล่อยออกมาบริเวณโดยรอบ รังสีฆ่าฟันของเขามุ่งตรงไปที่เซียวเฉิน จิตสังหารที่ปล่อยออกมาทำให้คนรอบข้างสั่นกลัว พวกเขาจึงมองเซียวเฉินราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว

ทุกคนโดยรอบสัมผัสได้ถึงจิตสังหารแรงกล้า นี้เป็นผลมาจากการขาดการฝึกฝนที่เพียงพอ จิตสังหารจากผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงจะเป็นเส้นตรงมุ่งไปยังเป้าหมายเพียงคนเดียวเท่านั้นไม่ส่งผลต่อผู้คนที่อยู่โดยรอบ

เซียวเฉินผู้ถูกรอบล้อมไปด้วยรังสีฆ่าฟัน ไม่แม้แต่แสดงความกลัวออกมา เขาพูดขึ้นสบายๆ “ข้าไม่มีเพื่อนที่นี้”

เจียงฉีหัวเราะเย็นชา “งั้นถ้าข้าเสียมารยาทก็ยกโทษให้ด้วย”

“ฮ่ะ!”

บรรยากศโดยรอบหลายเป็นเย็นเฉียบและพลังฉีก่อตัวขึ้นรอบๆร่างของเขา น้ำแข็งห่อหุ้มกำปั้นของเขาพร้อมกับคำรามเสียงดังปล่อยหมัดตรงไปหาเซียวเฉิน

เซียวเฉินถอยกลับพร้อมหมุนตัวเกาหลงขึ้นไปบนอากาศอย่างไร้ความปราณีส่งตัวเขาลอยไปทางเจียงฉี ก่อนที่เขาจะหยิบขวดหยกที่บรรจุเม็ดยาอดอาหารขึ้นมาพร้อมกับเปิดฝาออก กลิ่นยาลอยตลบอบอวลไปทั่วในทันที ในไม่ช้าที่ชั้นหนึ่งก็เต็มไปด้วยกลิ่นยา

“นั้นมันเม็ดยาชนิดใด ทำไมกลิ่นถึงหอมหวนเช่นนี้”

“เจ้าหมอนี้อาจจะเป็นนักปรุงยา?”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น พวกนักปรุงยาชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่แล้ว ”

เสียงซุบซิบกระจายไปจนเต็มชั้น 1 ถกเถียงกันถึงเรื่องกลิ่นหอมนี้ พวกเขาเหล่านี้เคยพบเม็ดยามามากมาย แต่พวกเขาไม่เคยพบเม็ดยาที่มีกลิ่นหอมถึงเพียงนี้ ทันใดนั้นพวกเขาก็มองเซียวเฉินเป็นนักปรุงยาระดับสูง

มุมปากของเซียวเฉินยกขึ้นภายใต้ผ้าคลุม “ถ้าจะมาคุยธุรกิจก็ต้องมาที่ศาลาหลินหลางมิใช่รึ?”

เจียงฉีที่คว้าตัวของเกาหลวงไว้ ทิ้งตัวยามหนุ่มนั้นลงพื้นทันที เมื่อเขาได้ยินคำของเซียวเฉินกับเห็นขวดยาที่อยู่ในมือของเขา เขารู้ตัวว่าเขารนหาเรื่องแล้ว เขารีบคำนับมือ “ท่านผู้อาวุโส เป็นข้าที่เสียมารยาทเอง โปรดยกโทษให้ข้า”

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเซียวเฉินจะอยู่เพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นต่ำ ก็ไม่เป็นเรื่องแปลกที่เขาจะเรียกเซียวเฉินว่าผู้อาวุโสหากเซียวเฉินนั้นสามารถกลั่นเม็ดยาระดับสูงได้

เกาหลงนอนอยู่กับพื้นร้องอิดโอยด้วยความเจ็บปวด เซียวเฉียนใส่กำลังไปเต็มแรงโยนเขาใส่เจียงฉี รวมกับที่เจียงฉีโยนเขาทิ้งไป ทั้งร่างของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากได้ยินคำของเจียงฉี เกาหลงรู้สึกราวกับโดดลงไปในธารน้ำแข็ง วันนี้เขาช่างไร้โชคเสียจริง… เขาทำกับนักปรุงยาราวกับผู้ต้องสงสัยและยังไปยั่วยุเขาอีก

เซียวเฉินไม่ใส่ใจกับท่าทีของเจียงฉีที่เปลี่ยนไป มันอยู่ในความคาดหมายของเซียวเฉิงและไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ พาข้าไปหานักประมาณราคา ข้าจะประมูลยาขวดนี้ในการประมูลสิ้นเดือนนี้”

เจียงฉีคำนับมือทำความเคารพอีกครั้งและนำทางเซียวเฉินเข้าไปพื้นที่ข้างใน ตลอดทางที่พวกเขาเข้ามา เจียงฉีพยายามล้วงข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของเขา แน่นอนว่าเซียวเฉินไม่ได้โง่และบอกเขาไปแบบจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง

มองดูเซียวเฉินที่จากไป ผู้คนในห้องโถงก็เริ่มถกเถียงกันยกใหญ่ไปอีกครึ่งวัน เสียงถกเถียงกันเริ่มดังขึ้นต่อเนื่อง

“นักปรุงยาผู้นี้มาเพื่อประมูลเม็ดยา เจ้าจำได้ไหมว่านานเท่าไหรแล้วที่ศาลาหลินหลางแห่งนี้ประมูลเม็ดยาครั้งสุดท้าย”

“ระหว่างการประมูลใหญ่ของปีก่อนก็มีเม็ดยาระดับ 3 เข้ามาบ้าง”

“ข้าว่าการประมูลใหญ่ของปีนี้อาจจะมีการจัดล่วงหน้าได้นะ เม็ดยาที่คนลึกลับนั้นนำมาระดับสูงกว่าระดับสามเป็นแน่”

“ไร้สาระ เม็ดยาระดับ 3 จะส่งกลิ่นหอมเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าเคยเห็นเม็ดยาระดับ 4 มาก่อนยังไม่ส่งกลิ่นหอมได้เท่าเม็ดยานั้น” คนด้านข้างคนที่พูดขึ้นมาก่อนหน้าขัดเขาทันที

“จะเป็นไปได้อย่างไร? ในการสกัดเม็ดยาระดับ 4 อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักปรุงยาระดับ 4 ในเขตรัวเจ๋ยมีนักปรุงยาระดับ 4 เพีนงคนเดียวเท่านั้น ทำไมเขาถึงมายังเมืองเล็กๆอย่างม่อเหอ”

ในเวลาสั้นๆ ภายในโถงใหญ่ก็เกิดการโต้เถียงว่าเม็ดยาลึกลับนี้อยู่ระดับใดกันแน่

….

ในตอนนี้ภายในพื้นที่ด้านใน นักประเมินยาหูล่าวมีเม็ดเหงื่อปรากฎเต็มหน้าผากของเขาระหว่างที่เขาพยายามจะประเมินราคาเม็ดยาของเซียวเฉิน เม็ดยาอดอาหาร หลังจากที่กินเข้าไป 1 เม็ด คนๆนั้นไม่จำเป็นต้องกินดื่มไปเป็นเดือนๆ เม็ดยานี้มันคืออะไรกัน? มันไม่เคยปรากฎในอาณาจักรต้าฉินมาก่อน

นักประเมินราคาของศาลาหลินหลางนั้นไม่ใช่ธรรมดา พวกเขาได้รับการฝึกฝนโดยตรงจากศาลาหลินหลาง พวกเขาต้องผ่านการทดสอบหลายต่อหลายครั้งเพื่อที่จะได้ทำงานที่ศาลาหลินหลางในฐานะนักประเมินราคาอย่างเป็นทางการ และนักประเมินราคาของศาลาหลินหลางจะต้องเริ่มจากสาขาเล็กก่อนที่จะไต่เตาขึ้นไปช้าๆ

ดังนั้นแม้จะเป็นนักประเมินราคาของศาลาหลิงหลางของเมืองม่อเหอก็เทียบเท่ากับนักประเมินราคาของห้องประมูลใหญ่ๆในเมืองอื่น

หูล่าวมองไปที่เม็ดยาในมืออย่างถี่ถ้วน เขาแน่ใจว่านี้ไม่ใช่เม็ดยาที่คนธรรมดาจะสกัดได้ เมื่อมันส่งกลิ่นหอมเช่นนี้ ทั้งสีหรือความเรียบไม่ใช่สิ่งที่บุคคลทั่วไปจะทำได้ อย่างไรก็ตามเขาก็แน่ใจว่าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเม็ดยาอดอาหารมาก่อนในโลกนี้ นั้นเองที่ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะประเมินเม็ดยานี้อย่างไง เป็นที่มาของอาการปวดหัวตุบๆของเขาตอนนี้

เซียวเฉินคอยนั่งจิบช้าที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชามองดูหูล่าวกับกำลังพยายามส่องเม็ดยาซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาถามขึ้นอย่างกังวลใจ “หูล่าว หลังจากตรวจสอบมาเป็นเวลานานแล้ว ให้ราคาข้าได้หรือยัง?”

หูล่าวเช็ดเหงื่อบนหน้าผากและตัดสินใจในที่สุด เพื่อความปลอดภัยเขาพูดขึ้น “ได้โปรดรออีกสักครู่ ข้าไม่อาจประเมินราคามันได้ ดังนั้นขอให้ข้าเชิญเถ้าแก่ของศาลาหลินหลางมา”

เซียวเฉินวางถ้วยชาลงพร้อมทำท่าแบบจะทำอะไรก็ตามสบาย อย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่านักประเมินราคาของศาลาหลินหลางมีความสามารถพอที่จะประเมินเม็ดยาอดอาหาร

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset