Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 48 แก่นกล่งนาคารุ่งอัคคี

ตอนที่ 48 แก่นกลางนาคารุ่งอัคคี

ณ ศาลาหลินหลางภายในห้องพิเศษที่ชั้นสี่ของโถงประมูล

เซียวเฉินยืนอยู่ติดหน้าต่างกำลังมองลงไปข้างล่าง ทุกที่นั่งถูกผู้คนจับจองไว้หมดแล้ว มีเสียงคนคุยกันจอแจดังไปทั่วโถงประมูล ผู้จัดประมูลได้เดินขึ้นไปบนเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้วและรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะเริ่มงานประมูล

เซียวเฉินแอบคุยกันแหวนห้วงจักรวาล “พี่สาวอ๋าวเจียว ท่านบอกให้ข้าตอบตกลงกับผู้เฒ่านั้นทำไมตอนนี้ท่านถึงได้เงียบไป?”

ก่อนหน้านี่ที่เซียวเฉินกำลังพลิกหน้าดูในรายการประมูลเสียงของอ๋าวเจียวก็ดังขึ้นในหัวของเขาบอกว่าให้ตอบตกลงข้อเสนอของหนานกงหยาน

“แค่ทำตามที่ข้าบอกซะ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าขาดทุนน้ำตานองหรอก” อ๋าวเจียวพูดอย่างขัดใจพร้อมกับลอยออกมาจากแหวน

เมื่อเซียวเฉินเห็นว่านางกระโดดออกมาจากแหวนอย่างไม่คิดจะแอบ เขาก็ตกใจ “นี่! พี่สาวออกมาทำไม? มีอะไร? หากมีคนดูพวกเราอยู่ล่ะ?”

อ๋าวเจียวกล่าว “ไม่มีใครสามารถมองเห็นข้าหากข้าไม่อยากจะให้เห็น แล้วก็ไม่มีใครดูอยู่สักหน่อยเจ้าจะวายโวยทำไม ตาแก่นั้นพอมือได้แตะยาก็หายหัวไปไหนต่อไหนแล้ว”

เซียวเฉินผ่อนคลายลง “การประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว พี่สาวจะบอกข้าได้รึยังว่าสามอย่างที่ท่านต้องการคืออะไร”

“จะรีบไปทำไม? ตอนมันออกมาเดียวข้าจะบอกเจ้าเอง ข้าขอออกไปเดินดูก่อนนะ” เมื่ออ๋าวเจียวพูดจบก็กระโดดออกหน้าต่างไป

มองเห็นอ๋าวเจียวกระโดดออกไปเช่นนั้นหัวใจของเซียวเฉินแทบจะตกลงพื้น เขาอยากจะโดดตามไปลากคอนางกลับมาเหลือเกิน

ช่างน่าเสียดายด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้แถมเขาก็ไม่กล้ากระโดดลงไป ข้างนอกนั้นมีคนอยู่นับพัน หากเขาโดดลงไปเขาจะเป็นเป้าสายตาทุกคู่ข้างล่างนั้น

ทำได้เพียงร้องด่าในใจเงียบๆการประมูลก็ยังคงดำเนินต่อไป ของชิ้นแรกที่ถูกหยิบขึ้นมาประมูลนั้นคือแก่นกลางของสัตว์อสูนวิญญาณธาตุไฟระดับ 4

การประมูลส่วนใหญ่ของประมูลชิ้นแรกนั้นมักจะไม่ดีไม่แย่จนเกินไป หากมันดีเกินไปเหล่าผู้เข้าร่วมการประมูลก็จะคาดหวังของประมูลชิ้นต่อไปมากขึ้นไปอีก หากของชิ้นต่อไปไม่ได้ตามที่คาดหวังงานประมูลก็จะกลายเป็นจืดชืดไป

กลับกันหากมันแย่เกินไปมันก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงของห้องประมูล ผู้คนก็อาจจะคิดว่าชิ้นต่อไปก็ไม่ได้มีอะไรดี พวกลูกค้าใจร้อนก็จะจากไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับชิ้นแรกในการประมูลนั้นคือแก่นกลางของสัตว์อสูรวิญญาณธาตุไฟระดับ 4 แม้ว่ามันจะไม่ใช้ของดีเลิศอะไรแต่ก็หาดูไม่ใช่ง่ายในเมืองม่อเหอ

แก่นกลางของสัตว์อสูรวิญญาณส่วนใหญ่นั้นจะใช้ประกอบการปรุงยา ซึ่งแนวทางการสกัดยาของเซียวเฉินนั้นแตกต่างจากของโลกนี้ทำให้เขาไม่ได้สนใจอะไรแก่นกลางชิ้นนี้มากนัก

ขณะที่เซียวเฉินกำลังจะเริ่มเบื่อ ผู้จัดประมูลก็พูดขึ้นมา “ช้าก่อน ช้าก่อน! แก่นกลางอสูรวิญญาณชิ้นนีมันไม่ใช่เพียงแก่นกลางของสัตว์อสูรทั่วไป แต่มันคือแก่นกลางของนาคารุ่งอัคคี”

“สำหรับผู้ที่บ่มเพาะพลังธาตุไฟมันสามารถยกระดับพลังธาตุไฟได้เป็นขั้น สิ่งนี้มันไม่อาจเอาไปเทียบได้กับแก่นกลางสัตว์อสูรวิญญาณทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่ห้าแสนเหรียญเงิน การสามารเริ่มเคาะประมูลได้ เคาะแต่ละครั้งขั้นต่ำคือห้าหมื่น”

หลังจากที่ผู้จัดประมูลบรรยายเสร็จ บรรยากาศทั่วทั้งห้องโถงก็ตึกคักขึ้นมาทันที ไม่มีใครคาดคิดว่าของล้ำค่าเช่นนี้จะมาเป็นชิ้นแรกในการประมูลครั้งนี้

“หกแสน!”

“เจ็ดแสน!”

“เก้าแสน!!”

…..

ภายในเวลาไม่นานผู้คนต่างตะโกนราคาแข่งกัน ราคาของแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีก็พุ่งไปแตะหนึ่งล้านอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินสังเกตเห็นว่าห้องพิเศษตรงข้ามกับเขาตะโกนราคาออกมาอย่างดุเดือด ทุกครั้งที่มีคนเพิ่มราคาเขาก็จะตะโกนเกทัพตามติดไปในทันที

จากมุมของเซียวเฉินนั้น เขามองไม่เห็นภายในห้องพิเศษตรงข้ามเขา อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเซียวเฉิน เขาส่งสัมผัสวิญยาณออกไปสภาพภายในห้องก็ปรากฎในสายตาของเขาทันที

มีนักบ่มเพาะพลังห้าคนอยู่ภายในห้องนั้น มีเพียงคนหนุ่มที่สวมชุดคลุมยาวปักลายเท่านั้นที่นั่งอยู่ ส่วนที่เหลือยืนอยู่ด้านข้างของเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ หนุ่มคนนี้จะต้องเป็นนายน้อยมาจากตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พวกที่เหลือก็เป็นผู้ติดตามของเขา

สามในสี่คนนั้นอยู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูง ส่วนอีกคนอยู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นต่ำ เซียวเฉินคิดในใจ คนหนุ่มผู้นี้เป็นใครถึงได้มีผู้ติดตามแข็งแกร่งเช่นนี้แต่เซียวเฉินกลับไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

“นายน้อยสอง ข้าได้ยินมาว่านาคารุ่งอัคคีนั้นเป็นสัตว์อสูรวิญญาณที่มีธาตุไฟบริสุทธิ์ที่สุด แก่นกลางของมันเป็นที่รวบรวมพลังภายในร่างของมัน มันจะต้องช่วยเสริมพลังการบ่มเพาะพลังของท่านได้เป็นแน่”

ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มปรากฎเป็นรอยยิ้มไม่แยแส เขามีความสงบใจเย็นแบบที่คนหนุ่มทั่วไปไม่มี “เจ้าพูดราวกับว่าข้าได้มันมาอยู่ในมือแล้วงั้นแหละ”

หนึ่งในผู้ติดตามยิ้มขึ้น “ในเมืองม่อเหอนี้ตระกูลเซียวอาจจะแกร่งที่สุดแต่เมื่อพูดถึงกำลังทรัพย์แล้วละก็ไม่มีใครเทียบตระกูลถังของพวกเราได้ นอกจากนี้สัญญาสิบปีที่กำลังใกล้เข้ามาหากตระกูลเซียวพลาดท่า ตระกูลถังของพวกเรานี่แหละจะกลายเป็นที่หนึ่งในเมืองม่อเหอ”

นายน้อยสองของตระกูลถังไม่ได้โต้เถียง ปรากฎเป็นความภูมิใจในดวงตาของเขาพร้อมกับกำหมัดและพูดขึ้น “ข้าต้องการแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีชิ้นนี้ เพิ่มเงินประมูลเป็นสองล้าน”

เป็นคนจากตระกูลถังนั้นเอง ไม่น่าแปลกใจพวกมันทั้งรวยและหยิ่งผยอง เซียวเฉินคิดในใจ หลายปีมานี้ตระกูลถังได้ประโยชน์ไปมากจากการต่อสู้กันระหว่างตระกูลเซียวและตระกูลจาง

นายน้อยสองแห่งตระกูลถังผู้นี้มีนามว่าถังเฟิง หลายปีที่แล้วตระกูลถังนั้นตกต่ำ ไม่น่าแปลกใจที่เซียวเฉินนั้นจะจำเขาไม่ได้

สิ้นสุดคำของถังเฟิง ไม้ประมูลก็ยื่นออกไปนอกหน้าต่าง ตัวอักษรสีแดงบนไม้สีขาวมันช่างดูสะดุดตา

เมื่อผู้จัดประมูลด้านล่างเห็นมันก็ร้องตะโกนออกมาทันที “ห้องพิเศษที่ 13 เพิ่มราคาเป็นสองล้านตอนนี้ราคาเป็นสองล้านแล้ว! มีใครจะให้มากกว่านี้ไหม?”

“นี้คือแก่นกลางของนาคารุ่งอัคคี มีใครยังสนใจมันอีกไหม? โปรดทราบว่าภายในอาณาจักรต้าฉินนั้นไม่ใช่ของที่จะหามาได้ง่าย”

ผู้จัดประมูลร้องตะโกนออกมาสองสามครั้ง เมื่อไม่เห็นมีใครจะเพิ่มราคาอีกเขาก็เริ่มโฆษณาสินค้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใคนเสนอราคาเพิ่ม

แม้ว่าแก่นกลางชิ้นนี้จะล้ำค่าแต่มันก็เป็นประโยชน์สำหรับทักษะบ่มเพาะธาตุไฟเท่านั้น สำหรับผู้บ่มเพาะพลังอื่นๆมันไม่มีประโยชน์ใดๆ

หากเขาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะพลังธาตุไฟได้ไปก็ไม่คุ้มค่า นั้นจึงไม่มีใครสนใจจะเพิ่มราคาสูงไปมากกว่านี้

“สองล้านครั้งที่หนึ่ง!”

“สองล้านครั้งที่สอง!”

เมื่อไม่เห็นทีท่าว่าจะมีใครประมูลต่อผู้จัดประมูลก็จำใจเริ่มนับถอยหลัง

นายน้อยสองของตระกูลถังเผยรอยยิ้มออกมา ใช้เงินสองล้านเพื่อแก่นกลางระดับ 4 … เขาจะต้องเป็นคนเดียวที่สามารถจ่ายได้ในราคานี้

“สองล้านครั้งที่สะ…” ขณะที่ผู้จัดประมูลกำลังจะปิดราคาหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเบิกบานพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง “ห้อง 11 เสนอราคาสองล้านห้าแสน!”

“สองล้านห้า… จะมีใครให้มากกว่าสองล้านห้าอีกหรือไม่?” ผู้จัดประมูลของศาลาหลินหลานผู้นี้ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี น้ำเสียงของเขาช่างน่าดึงดูด

ได้ยินคนเสนอราคาสองล้านห้าถังเฟิงกลายเป็นตัวแข็งนิ่งเงียบก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา “เพิ่มเป็นสามล้าน หากยังมีคนเสนอราคามาอีกก็เพิ่มไปอีกห้าแสน ดูสิ่ว่ามันจะแน่แค่ไหน”

หนึ่งในผู้ติดตามรายงาน “นายน้อยสองดูเหมือนห้องนั้นจะเป็นของตระกูลเซียว ข้าเห็นเซียวเจี้ยนออกมาก่อนหน้านี้”

คิ้วของถังเฟิงกระตุกขณะที่เขากำลังหมุนแก้วไวน์ในมือของเขาเล่น เผยรอยยิ้มชั่วร้ายพร้อมกับพูดขึ้น “น่าสนใจ ดูเหมือนเซียวเจี้ยนจะฝึกฝนทักษะบ่มเพาะพลังธาตุไฟเช่นกัน ดูเหมือนจะยกให้มันไม่ได้แล้ว”

เซียวเฉินไม่ได้สนใจในแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีนี้มากมายอะไร ทักษะบ่มเพาะพลังอัสนีม่วงศักดิ์ของเขานั้นเป็นธาตุสายฟ้าได้แก่นกลางนี้ไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรมากนัก

สำหรับเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงของเขาก็เป็นเปลวสายฟ้า มันต่างจากเปลวเพลิงทั่วไป หากเขาต้องการจะยกระดับพลังของเปลวเพลิงสีท่วงที่แท้จริงเขาต้องใช้พลังงานธาตุสายฟ้า ไม่ใช่แก่นกลางธาตุไฟก้อนนี้

บรรยากาศของการประมูลเริ่มน่าสนใจขึ้น เมื่อทั้งสองห้องเริ่มแข่งกันปั่นราคาขึ้นไปแตะถึงสี่ล้าน

ใครมันช่างกล้า? ทุ่มเงินไปมากมายเพื่อแก่นกลางก้อนเดียว เซียวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณไปที่ห้อง 11

ในไม่ช้าสภาพภายในห้อง 11 ก็ปรากฎขึ้นในหัวของเขา หลังจากได้เห็น มุมปากของเซียวเฉินก็ยกขึ้นพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแส “ไม่แน่แปลกใจทำไมถึงตะบี้ตะบันแข่งกันถึงเพียงนี้ เป็นพี่ชายข้านั้นเองที่ต้องการแก่นกลางก้อนนี้”

ในห้อง 11 หน้าผากของเซียวเจี้ยนเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่เดิมขึ้นตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีมาให้ได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้มันเลยความคาดหมายของเขาไปไกล

ก่อนการประมูลจะเริ่มต้นเขาได้เห็นแก่นกลางนี้ในรายการประมูล แก่นกลางนี้จะช่วยยกระดับคาถาเมฆาเพลิงที่เขากำลังฝึกฝนอยู่

เมื่อเขาไปถามผู้อาวุโสหนึ่งเกี่ยวกับมันเห็นว่าสัญญาสิบปีกำลังใกล้เข้ามาและเซียวเจี้ยนก็ต้องการมันมากผู้อาวุโสหนึ่งจึงไม่ได้ว่าอะไรและให้เขามาสี่ล้านเหรียญเงิน

ด้วยสี่ล้านเหรียญเงินกองนี้เขาคิดว่าคงจะได้แก่นกลางระดับ 4 นี้มาโดยง่าย เขาไม่ได้คาดคิดว่าเหตุกาณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น

เขาเสนอราคาสองล้านห้าจากนั้นถังเฟิงก็เกทัพมาสามล้าน เมื่อเขาสู้ด้วยสามล้านสองแสนห้าจากนั้นถังเฟิงก็เพิ่มมาอีกห้าแสนโดยไม่ลังเล

เซียวเจี้ยนที่เพิ่งเกทัพไปอีกเป็นสี่ล้านรู้สึกราวกับว่าหัวใจจะกระโดดออกจากร่าง นี้ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว หากฝ่ายตรงข้ามยังเพิ่มราคาขึ้นมาอีกเขาก็หมดโอกาสแล้ว

“อย่าได้เพิ่มราคาขึ้นมาอีกเลย หากแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีนี้หลุดมือข้าไปข้าจะต้องแพ้เจ้าขยะนั้นเป็นแน่” เซียวเจี้ยนปาดเหงื่อบนหน้าผาก “ยิ่งกว่านั้นข้ายังได้ยินมาว่าเจ้าขยะนั้นขึ้นสู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางแล้ว ข้าจะต้องเอาแก่นกลางนาคารุ่งอัคคีมาให้ได้”

เซียวเฉินได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาไม่เข้าใจเลย เซียวเฉินกลายเป็นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธเรียบร้อยแล้ว ทำไมเขายังมาเป็นกังวลกับระดับขอบเขตจอทยุทธฝึกหัดขั้นกลาง

เป็นไปได้ว่าจากการแพ้การประลองครั้งก่อนจะสร้างแผลในใจเขาลึกเกินไปหน่อย?

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset