Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 77 คลื่นใต้น้ำที่ก่อตัว

ตอนที่ 77 คลื่นใต้น้ำที่ก่อตัว

 

เพียงนึกคิดเจ้ามังกรฟ้าภายในจุดตันเที่ยนของเซียวเฉินว่ายขึ้นมาที่ผิวน้ำพ่นพลังฉีมังกรสีทองออกมา พลังฉีมังกรเดินทางผ่านไปตามเส้นลมปราณและไหลออกมาที่มือขวาของเขา

 

พลังงานที่บรรจุอยู่ในพลังฉีนี่ช่างทรงพลัง นี่เป็นพลังฉีมังกรที่แท้จริงที่สืบทอดกันมานานนับพันปีในอาณาจักรต้าฉิน เซียวเฉินประหลาดใจที่เยว่หยิงนั้นยินดีที่จะมอบสายพลังนี้ให้กับเขา

 

หากพลังฉีมังกรนี้ถูกใช้ออกมาอย่างเต็มที่แม้แต่ระดับขอบเขตนักบุญก็ปางตาย มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่นางกล่าวว่ามันสามารถปกป้องชีวิตของเซียวเฉินในยามคับขันได้

 

“ฮุ่!”

 

เซียวเฉินแทรกพลังฉีมังกรลงไปในรูปสลักอย่างระมัดระวัง สายพลังสีทองปรากฎขึ้นที่เท้าของรูปสลักและเมื่อสายพลังฉีมังกรไหลเข้าไปในรูปสลักจนหมดรูปสลักก็ส่องแสงเรืองสีทองออกมา

 

เซียวเฉินสูดหายใจเข้าลึก เพียงเขานึกคิดน้ำใสในบ่อของจิตวิญญาณต่อสู้ของเขาก็เริ่มเดือดพล่าน เส้นสายพลังปราณไหลช้าๆไปยังมือขวาของเขา เขายกนิ้วขึ้นและแตะไปที่หน้าผากของรูปสลัก

 

“ฮุ่!”

 

พลังปราณอันไร้ขอบเขตไหลเข้าไปในรูปสลักไม้ผ่านนิ้วของเขาส่องแสงเรืองบางเบาออกมา พลังปราณของเซียวเฉินถูกเผาผลาญไปอย่างต่อเนื่องราวกับไม่มีวันเติมมันให้เต็มได้ หลังจาก 15 นาทีน้ำใสในจุดตันเที่ยนของเขาก็ลดลงไปกว่าครึ่ง

 

เซียวเฉินรู้สึกประหลาดใจพอคิดว่าการใช้คาถาสละชีวิตจะสิ้นเปลืองพลังปราณถึงเพียงนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ไม่อาจทำสำเร็จได้ก่อนที่จะข้ามมาสู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ

 

ด้วยปริมาณ,ความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่งของพลังปราณระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเพียงพอต่อความต้องการของคาถานี้ นอกจากนั้นรูปสลักที่เขาสร้างขึ้นไม่ใช่แค่ระดับทั่วไป นี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาล้มเหลว

 

“ซูว!”

 

เมื่อพลังปราณของเซียวเฉินลดเหลือเพียงหนึ่งในสี่รูปสลักไม้ก็ขยายใหญ่ขึ้นพร้อมกับเสียง ‘ซูว’ เยว่หยิงที่ทั้งเนื้อทั้งตัวสวมเพียงชุดชั้นในและกำลังถือหอกไว้ในมือกลายเป็นมีชีวิตขึ้นมาตรงหน้าของเซียวเฉิน

 

นางควงหอกในมือไปมาเบาๆและมังกรทองทั้งเก้าปรากฎขึ้นข้างหลังของนาง พร้อมกับเสียง ‘บูม!’ เงาของเหล่ามังกรบินวนไปอย่างวุ่นวายก่อนที่ในที่สุดจะเข้าไปที่หอกยาวของนาง

 

เซียวเฉินเต็มไปด้วยความสุข เพียงนึกคิดเยว่หยิงก็กลายเป็นลำแสงพุ่งมาที่มือของเขากลับกลายเป็นรูปสลักไม้อีกครั้ง

 

สำเร็จ!

 

“หลังจากพยายามมานานในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จ ในอนาคตข้างหน้าที่ข้าเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญข้าจะสามารถยืนหยัดต่อกรได้” เซียวเฉินพึมพำกับตัวเองอย่างเป็นสุขพร้อมกับจับรูปสลักในมือเล่นไปมา

 

…..

 

มันก็เหลือไม่ถึงเดือนที่จะถึงกำหนดการศึกสัญญาสิบปี มีคลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวขึ้นมาในเมืองม่อเหอ

 

เมืองม่อเหอในห้องลับของตระกูลถัง

 

ผู้นำตระกูลถัง,ผู้นำตระกูลจาง,ชายชุดน้ำเงินลึกลับและผู้อุทิศตนสองสามคนจากทั้งสองตระกูลอยู่ที่นั้น

 

ใบหน้าของผู้นำตระกูลจางเต็มไปด้วยความกังวล “ผู้อาวุโสเหลิงท่านจะส่งมอบเม็ดยาห้วนคืนพลังปราณให้กับข้าได้เมื่อใด? ด้วยความยิ่งใหญ่ของตระกูลเหลิงข้าได้เสี่ยงทุกอย่างไปแล้ว ตอนนี้ลูกชายคนโตของข้ากลายเป็นพิการท่านต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเขา”

 

ระดับขอบเขตนักบุญในชุดน้ำเงินยิ้มขึ้นมาบางเบา “ผู้อาวุโสจางไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล ข้าคงไม่ต้องบอกว่าเม็ดยาห้วนคืนพลังปราณนั้นล้ำค่าถึงเพียงใดเพราะมันสามารถช่วยในการหลอมรวมจิตวิญญาณต่อสู้ขึ้นมาใหม่ เมื่อวานข้าได้รับข่าวมาว่าผู้นำตระกูลของข้าติดต่อขอมาจากนิกายดาบเงาหมอก มันน่าจะมาถึงภายในคืนนี้”

 

ผู้นำตระกูลจางปรากฎสีหน้าเป็นสุขพร้อมกับพูดขึ้น “เป็นเช่นนั้นก็ขอขอบคุณผู้อาวุโสเหลิงมาก ข้าจะจดจำไปชั่วนิรันดร์”

 

ชายชุดน้ำเงินโบกมือ “มันไม่จำเป็นต้องมากพิธี พวกเรายังคงต้องพึ่งลูกชายของเจ้าลูกชายของผู้นำตระกูลถังก็ด้วยเช่นกัน ช่วยเหลือเจ้าก็ช่วยเหลือข้าไปด้วย”

 

เมื่อถังเทียนผู้ที่กำลังยืนอยู่ด้านข้างของเขาได้ยินว่าผู้นำตระกูลจางได้รับเม็ดยาห้วนคืนหลังปราณเขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและพูดขึ้น “ผู้อาวุโสเหลิง ลูกชายคนโตของข้าจบชีวิตลงตั้งแต่อายุยังน้อย ทำไมท่านไม่เห็นชดเชยอะไรกับเรื่องนั้น?”

 

สีหน้าของชายชุดน้ำเงินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผู้อาวุโสถังมันไม่ถูกต้องที่ท่านจะกล่าวเช่นนั้น สำหรับเรื่องจิ้งจอกวิญญาณหกหางข้าทำทุกอย่างที่ข้าต้องทำไปแล้ว คนที่ฆ่าลูกชายของท่านก็คือเซียวเฉิน”

 

“นอกจากนั้นจากที่ข้ารู้มาพรสวรรค์ของลูกชายคนโตของท่านก็แสนธรรมดา ท่านไม่เห็นจำเป็นต้องไปสนใจ”

 

ใบหน้าของถังเทียนกลายเป็นมืดมน คำพูดของชายชุดน้ำเงินนั้นเป็นจริง เขาไม่อาจหาถ้อยคำไปโต้แย้งได้และทำได้เพียงฟืดฟาดอย่างเย็นชาปราศจากคำพูดใดๆอีก

 

เมื่อชายชุดน้ำเงินเห็นดังนั้นใบหน้าเขากลายเป็นอบอุ่นยิ้มแย้ม “ผู้อาวุโสถังท่านไม่ต้องเป็นกังวลไป หลังจากศึกสัญญาสิบปีเมื่อพวกเราได้รับภูเขาชีเจี่ยวมาตระกูลเหลิงของพวกเราจะก่อตั้งนิกายใหม่ขึ้นมา ในเวลานั้นตำแหน่งผุ้อาวุโสใหญ่จะต้องเป็นของท่านอย่างแน่นอน”

 

เมื่อถังเทียนได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมา “อย่างไรก็ตามตัวแทนทั้งสามจากตระกูลเซียวก็แข็งแกร่งเช่นกัน ไม่ต้องพูดถึงความน่ากลัวของเซียวเฉิน ยังมีเซียวเจี้ยนและเซียวอวี่หลันอีก พวกเขาทั้งสองอยู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ ข้าเกรงว่าแม้จางเหอจะฟื้นพลังกลับมาเต็มที่พวกเราก็ไม่อาจจะล้มพวกมันลงได้”

 

ชายชุดน้ำเงินยิ้มอย่างเย็นชา “เซียวเฉินแข็งแกร่งจริง?ข้าเริ่มไม่แน่ใจ เขาเพียงแค่โชคดีที่ฆ่าระดับขอบเขตปรมจารย์คนหนึ่งลงได้ เขายังไม่ขึ้นสู่ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธด้วยซ้ำเช่นนั้นจะแข็งแกร่งเพียงใดเชียว?”

 

“นอกจากนั้นถึงเขาอาจจะแข็งแกร่งเขาก็ต้องเข้าร่วมการแข่งขันให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นแข็งแกร่งเพียงไหนก็ไร้ประโยชน์”

 

ถังเทียนและผู้นำตระกูลจางมองหน้ากันไปมา “เป็นไปได้ว่าผู้อาวุโสเหลิงจะลงมือเป็นการส่วนตัวและทุบเจ้าหมอนั้นให้พิการ? อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าตระกูลเซียวก็มีผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตนักบุญ?”

 

ชายชุดน้ำเงินกล่าวอย่างไม่แยแส “ในอีกสองวันผู้นำตระกูลเหลิงจะนำระดับขอบเขตนักบุญสามคนมาที่เมืองม่อเหอเป็นการส่วนตัว ศึกสัญญาสิบปีนี่ถูกจัดขึ้นโดยท่านเจ้าเมือง มันไม่สะดวกนักที่จะลงมือในที่โล่งแต่มันก็เป็นไปได้ที่จะลงมือเงียบๆลับหลังเขา”

 

“สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตนักบุญจากตระกูลเซียว…ฮ่าฮ่า.. เขาเป็นเพียงระดับขอบเขตนักบุญขั้นต่ำ ผู้นำตระกูลของข้าทำลายเขาได้เพียงแค่สะบัดมือ”

 

ผู้นำตระกูลถังและผู้นำตระกูลจางทั้งคู่ตกตะลึงในใจ นั้นหมายความว่าถ้ารวมชายชุดน้ำเงินเข้าไปด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตนักบุญทั้งหมดห้าคนจะเดินทางมาที่นี่ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาสามารถลบตระกูลเซียวให้หายออกไปได้ด้วยคนเพียงห้าคน

 

…..

 

ตอนนี้เซียวเฉินได้สำเร็จคาถาสละชีวิตเขาได้ใช้เวลาที่เหลือไปกับการฝึกฝนในญานะระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธระดับต่ำและวาดยันต์

 

ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธมีพลังปราณมหาศาลดังนั้นเซียวเฉินลองพยายามสร้างยันต์ระดับ 3 ออกมาสองสามครั้งและพบว่าอัตราความสำเร็จพุ่งสูงขึ้นมาก หากทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ของเขาก้าวขึ้นสู่ชั้นที่สามจากนั้นมันสามารถรับรองความสำเร็จได้ถึง 90 ส่วน

 

วันเวลาไหลผ่านไปและเพียงกระพริบตาก็ผ่านไปอีกสองสัปดาห์

 

“น้องเฉินเจ้าอยู่หรือไม่?”

 

เซียวเฉินกำลังอยู่ในห้องเขียนยันต์โจมตีคุณลักษณะคู่ เขาวางงานที่เขากำลังทำอยู่ทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเซียวอวี่หลัน

 

ในทันทีที่เซียวเฉินวางพู่กันลงพลังวิญญาณในแผ่นยันต์ก็จางหายไป จากนั้นก็ลอยขึ้นในอากาศและกลายเป็นเถ้าถ่าน นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับการเขียนยันต์หากไม่สามารถจบงานได้ภายในชั่วอึดใจทั้งหมดที่วาดมาก็จะกลายเป็นสูญเปล่า

 

เซียวเฉินรู้สึกเสียดายในใจ นี่เป็นแผ่นยันต์ระดับ 3 เปลวเพลิงน้ำแข็งและมันเหลืออีกเส้นเดียวก็จะเสร็จสมบูรณ์ หากเขาโชคดีมันอาจจะสำเร็จ

 

เซียวเฉินรู้สึกประหลาดใจเมื่อเปิดประตูออก นอกจากเซียวอวี่หลันแล้วยังมีเซียวเจี้ยน,เซียวหลิงเอ๋อ,เย่หมิงหลานและคนอื่นๆจากการทดสอบป่าทมิฬมากับนางด้วย

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแห่กันมาที่นี่กันหมด?” เซียวเฉินถามอย่างประหลาดใจ

 

ยิ้มกว้างปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเซียวหลิงเอ๋อพร้อมกับพูดขึ้น “พี่ใหญ่เฉินเจ้ายังไม่รู้? ผู้อาวุโสหนึ่งให้พวกเราหยุดพักหนึ่งวันพวกเราออกไปข้างนอกได้ พวกเราทุกคนว่าจะออกไปเดินเล่นในเมืองม่อเหอแต่พวกเราก็คิดถึงเจ้า”

 

ทันใดนั้นเซียวเฉินก็เข้าใจ การกระทำของผู้อาวุโสหนึ่งนั้นถูกต้อง ทุกคนล้วนเป็นคนหนุ่มสาว หากเอาแต่ขังพวกเขาไว้ในบ้านมันจะไม่เป็นเรื่องดี

 

อย่างไรก็ตามก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจของเขา เมื่อมีคนมากมายออกไปข้างนอกเช่นนี้ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาล่ะ?

 

เซียวหลิงเอ๋อสัมผัสได้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร นางยิ้มขึ้นมือขาวนวลยกขึ้นมาและชี้ไป “ดูตรงนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพวกเราอยู่ พวกเราไม่เป็นไร”

 

เซียวเฉินมองไปในทิศทางที่นางชี้และก็พบหลินเฟิงหยินกำลังยืนหลับตาอยู่ด้านนอกลานบ้าน ข้างหลังเขายังมีระดับขอบเขตปรมจารย์จากตระกูลเซียวอีกสองสามคนตามเขามาด้วย

 

เซียวเฉินหัวเราะในใจ ผู้อาวุโสหนึ่งส่งกำลังหลักของตระกูลเซียวมาเพียงเพื่อปกป้องพวกเขา

 

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” เซียวเฉินหยุดลังเลและตามพวกเขาไปที่เมืองม่อเหอ

 

ในเมืองม่เหอมีฝูงชนกำลังไปทุกที่ คึกคักอย่างที่เคยเป็นในอดีต

 

กลุ่มของพวกเขาเดินตามฝูงชนไปตามถนนแวะซื้อของในทุกร้านที่ผ่าน เซียวค้นพบว่าไม่ว่าในโลกไหนผู้หญิงก็กระหายในการช้อปปิ้ง

 

นอกจากเซียวเฉินและเซียวเจี้ยนในสิบคนจากกลุ่มพวกเขาผู้ชายคนอื่นล้วนกลายเป็นที่แขวนของมีถุงหลากหลายขนาดแขวนเต็มตัวพวกเขา เย่หมิงหลานอาการหนักสุดเพราะเขาต้องรับของที่เซียวหลิงเอ๋อซื้อ ในทุกส่วนของร่างกายที่พอจะแขวนของได้ก็มีของแขวนเต็มตัวเขาไปหมด

 

“ไปดูที่ลานบ่มเพาะพลังกันเถอะ!” เย่หมิงหลานไม่อาจทนรับได้อีกต่อไปและพยายามเบี่ยงความสนใจไม่ให้เซียวหลิงเอ๋อซื้อของมาเพิ่มไปมากกว่านี้

 

ลานนักบ่มเพาะพลัง… เซียวเฉินคิดในใจสัญญาสิบปีจะจัดขึ้นที่ลานนักบ่มเพาะพลังในอีกเจ็ดวันข้างหน้า หากพวกเขาไปตรวจสอบสถานที่ก่อนมันจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาเมื่อการประลองเริ่มขึ้น

 

“พี่อวี่หลันพวกเราเดินไปดูหน่อยเป็นไง? การประลองจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันและน่าจะเป็นเรื่องดีที่จะไปดูสถานที่ก่อนล่วงหน้า”

 

เซียวอวี่หลันยิ้มเบาๆ “ตามที่น้องเฉินพูด”

 

เย่หมิงหลานและผู้ชายคนอื่นๆต่างมองไปที่เซียวอวี่หลันอย่างทราบซึ้งและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดูเหมือนจะมีเพียงเซียวหลิงเอ๋อที่ดูไม่พอใจพร้อมกับบ่นพึมพำออกมาว่ายังซื้อไม่หน่ำใจเลย เมื่อเย่หมิงหลานได้ยินเช่นนั้นเขาก็รู้สึกย่ำแย่พยายามอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

 

ลานนักบ่มเพาะพลังตั้งอยู่ใจกลางของเมืองม่อเหอ ในใจกลางลานมีรูปปั้นสูงกว่าร้อยเมตร มันเป็นรูปปั้นของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เทียนวู่เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน

 

ทุกเมืองในทวีปนี้จะมีลานนักบ่มเพาะพลังและในทุกลานบ่มเพาะพลังจะมีรูปปั้นขนาดยักษ์เช่นนี้ตั้งอยู่ที่ใจกลาง รูปปั้นที่สร้างขึ้นในแต่ละที่นั้นล้วนเป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงในอดีต

 

โดยรอบรูปปั้นจะมีเวทีที่ทำมาจากศิลาผาสวรรค์ทั้งหมด 16 เวที หนึ่งในเวทีประลองนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษทั้งขนาดและความสูงของมันมีขนาดใหญ่กว่าเวทีอื่น

 

เวทีประลองพวกนี้ดำเนินการโดยท่านเจ้าเมืองนั้นเป็นบรรทัดฐานของทวีปนี้ และโดยปกติจะมีผู้คนมากมายที่นี้ อย่างไรก็ตามมันก็เป็นพื้นที่หวงห้ามไม่ให้ใครเข้าออก

 

ในทุกปีจะมีการแข่งขันขนาดใหญ่จัดขึ้นที่ลานนักบ่มเพาะพลังของเมืองม่อเหอ มันจัดขึ้นโดยท่านเจ้าเมืองเป็นการส่วนตัว นอกจากจะได้รับรางวัลแล้วก็ยังได้รับชื่อเสียงและอาจจะไปเข้าตาเหล่าตระกูลใหญ่หรือท่านเจ้าเมือง

 

นี่เป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดในเมืองม่อเหอ นอกจากนี้การประลองยังจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับศึกสัญญาสิบปีของเหล่าสามตระกูลใหญ่ ลองนึกภาพความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น…. มันจะต้องแออัดอย่างน่ากลัว

 

ดังนั้นท่านเจ้าเมืองได้สั่งปิดลานนักบ่มเพาะพลังตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนและเริ่มการซักซ้อมรวมถึงซ่อมบำรุงสนามประลองเพื่อรับรองว่าจะไม่มีเรื่องเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตามข้อห้ามนี้มีไว้เพื่อคนนอกเท่านั้น สำหรับกลุ่มตระกูลเซียวมันไม่มีปัญหา สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือรายงานตัวตนของพวกเขาแล้วคนของท่านเจ้าเมืองก้ไม่มีใครห้ามพวกเขาได้

 

ทั้งกลุ่มเดินไปที่รูปปั้นจักรพรรดิเทียนวู่ในใจกลางลาน ต่อหน้าจักรพรรดิเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนแม้แต่พวกคนอยู่ไม่สุขก็ยังสงบนิ่ง

 

ในจังหวะนั้นเองเซียวเฉินสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าส่งตรงมาที่เขา เขาหันไปมองและก็พบถังเฟิงและจางเหออยู่ที่สนามประลองไม่ไกลจากเขากำลังจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นชา เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังลองมือกันอยู่ก่อนหน้านี้

 

จางเหอยังสามารถใช้ทักษะต่อสู้ได้? เซียวเฉินแน่ใจว่าเขาไม่ได้มองผิด พวกเขาทั้งสองกำลังประมือกันอยู่ก่อนหน้านี้และจางเหอก็ยังใช้สามารถใช้ทักษะต่อสู้

 

เกิดอะไรขึ้น? หัวใจของเซียวเฉินเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถังเฟิงและจางเหอก็กระโดดลงมาจากสนามประลองและเดินตรงมาทางเขา

 

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset