Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 85 ลูกศรปราณแสง

ตอนที่ 85 ลูกศรปราณแสง

“ปัง!”

ลูกศรอีกดอกพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง เซียวเฉินก็ทุบมันแหลกสลายไปเช่นเดียวกับลูกศรก่อนหน้า แต่ในครั้งนี้เมื่อกระบี่สัมผัสกับลูกศรเซียวเฉินรู้สึกถึงบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช้ลูกศรน้ำแข็งแต่เป็นลูกศรเพลิง

“บูม!”

เมื่อถึงตอนที่เซียวเฉินรู้ตัวมันก็สายไปแล้ว ลูกศรเพลิงระเบิดออกพร้อมกับเสียง “บูม!” เปลวไฟกระจายไปทั่วทุกทิศ

เซียวเฉินใช้พลังปราณเพื่อคลุมร่างของเขาไว้เปลี่ยนเป็นเกราะพลังปราณ เซียวเฉินรีบถอยหนีแต่เขาก็อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางมากเกินไป คลื่นกระแทกที่ถูกส่งออกมากระแทกเขาลอยไปอย่างไร้ความปราณี

แรงระเบิดทำให้เซียวเฉินกระเด็นถอยหลัง เซียวเฉินประหลาดใจหากเขาไม่ใช้พลังต้านมันเอาไว้เปลวเพลิงนี้รุนแรงพอที่จะผลักเขาออกจากเวทีไปได้เลย ทันทีที่ตัวเขาแตะพื้นนอกสนามเขาจะแพ้โดยทันที

“ชิ!”

เซียวเฉินปักกระบี่เงาจันทร์ลงไปในหินผาสวรรค์สร้างรอยแตกขนาดใหญ่บนพื้น ลดความเร็วที่ถูกผลักถอยหลังลง

หลังจากนั้นเขาตีลังกากลับหลังและยืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เซียวเฉินจะได้ตั้งตัวลูกศรเพลิงอีกสองดอกตรงเข้ามาตรงหน้าเขาแล้ว

ถังเฟิงที่อยู่ไกลออกไปดึงสายธนูออกมาเบาๆ ก่อนที่เซียวเฉินจะได้ทำอะไรลูกศรที่สร้างขึ้นจากเปลวเพลิงก็ระเบิดขึ้น

“บูม!บูม!”

ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเซียวเฉินไม่มีเวลาสร้างปราณเกราะออกมา เขาถูกกระแทกลอยไปอย่างน่ากลัวพร้อมกับคลื่นความร้อนขยายตัวขึ้น

เสื้อคลุมของเขาขาดเป็นชิ้นๆและหยดเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา ร่างของเซียวเฉินลอยออกไปจากเวที ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างรีบแยกตัวออกอย่างรวดเร็ว

“เจ้าหมอนี้ปกปิดพลังของเขาไว้ เขามีสองจิตวิญญาณยุทธ นอกจากนั้นเขายังสามารถสลับจากน้ำแข็งเป็นไฟได้อย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งของเขายังไม่อาจยั้งถึง”

“แน่นอนไม่น่าแปลกใจที่เซียวเฉินจะพลาดท่าถูกซัดกระเด็น ความหายากของสองจิตวิญญาณยุทธนั้นไม่สามารถเอาเทียบได้กับจิตวิญญาณยุทธทั่วไป”

“หากเซียวเฉินตกลงไปการประลองคงจบลงเพียงเท่านี้”

ฝูงชนที่อยู่ไกลออกไปถกเถียงกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าถังเฟิงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทำให้ผู้ชมต่างคาดไม่ถึง

ก่อนที่ตัวเขาจะสัมผัสพื้นเซียวเฉินใช้กระบี่เงาจันทร์แทงลงเด้งตัวจากพื้นบินกลับขึ้นมาบนเวทีประลอง อย่างไรก็ตามลูกศรเปลวเพลิงอีกสามลูกก็ตรงหามาเขาแล้ว

เซียวเฉินรีบขยายสัมผัสวิญญาณออกและส่งมันเข้าไปในใจกลางของลูกศรเพลิง เขาพบแสงสว่างที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายในลูกศรมันประทับเข้าไปในใจสมองของเซียวเฉิน

เป็นเช่นนี้นี่เองเซียวเฉินคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าอะไรทำให้ลูกศรเพลิงระเบิดออก ตราบใดที่เขาทำลายแก่นแสงภายในลูกศรเพลิงได้มันก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป

“ฉัวะ!”

เซียวเฉินกวัดแกว่งกระบี่เงาจันทร์ในมือและกระบี่แสงก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วไปในอากาศ ทันใดนั้นแก่นแสงที่กำลังลุกไหม้ก็แตกสลายไปทันที ลูกศรเพลิงแตกออกเป็นเสี่ยงด้วยเสียงระเบิดดังกลายเป็นประกายไฟก่อนที่จะเหลือเพียงเถ้าถ่าน

แน่นอน! มันต้องแบบนี้เซียวเฉินยิ้มกับตัวเอง ถึงเวลาลงมือแล้ว

อัสนีหลบเลี่ยง!

มีประกายสายฟ้าออกมาและทันใดนั้นเซียวเฉินก็ไปปรากฎตัวที่ด้านหลังของถังเฟิง กระบี่เงาจันทร์ตรงไปที่หลังของเขาพร้อมกับฟันลงไปอย่างไร้ความปราณี ประกายแสงสายฟ้าอันไร้ขอบเขตที่ห่อหุ้มกระบี่ส่งเสียงฟ้าร้องคำรามออกมา

ถังเฟิงไม่ได้แปลกใจที่จู่ๆเซียวเฉินก็ปรากฎตัวขึ้นมาเขารู้อยู่แล้วว่าเซียวเฉินมี ‘ทักษะต่อสู้’ ประหลาดลึกลับ เขาหันหลังกลับบิดตัวเบาๆหลบการโจมตีของเซียวเฉิน ก่อนที่เซียวเฉินจะได้ตั้งตัวเขาจู่โจมไปที่หน้าอกของเซียวเฉินด้วยท่าโค้ง

“โจมตีวิถีโค้ง!”

นี่เป็นทักษะต่อสู้ที่ใช้ร่างกายให้เหมือนใบมีด มุ่งเน้นไปที่ลมปราณบริเวณไหลและจู่โจมใส่ศัตรูราวกับทวน หากโดนมันเข้าผู้นั้นสามารถบาดเจ็บสาหัสได้ทันที นี่เป็นทักษะต่อสู้ที่แข็งแกร่งมีพลังทำลายสูง

เซียวเฉินไม่คาดคิดว่าถังเฟิงจะมีความสามารถในการต่อสู้ประชิดที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขาพลาดท่าอีกครั้งและถูกซัดเข้ามาอย่างโหดเหี้ยม พลังมหาศาลเจาะทะลุเกราะศึกและพุ่งเข้าร่างของเขา อวัยวะภายในของเขาถูกกระแทก

ใช้แรงดีดกลับของการโจมตีร่างของถังเฟิงลอยกลับหลังอย่างรวดเร็ว เขาลงจอดบนพื้นเบาๆดึงตัวเองให้ออกห่างจากเซียวเฉิน ในขณะที่เขาลอยอยู่ในอากาศเขาก็ดึงธนูขึ้นมาประทับแล้ว

“ฉัวะ!”

หลังจากที่เขาถึงพื้นลูกศรน้ำแข็งก็ถูกยิงออกมา เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลเป็นไปตามธรรมชาติ

แสงเย็นยะเยือกและลูกศรปรากฎขึ้นต่อหน้าเซียวเฉิน โลหิตและพลังปราณในร่างของเซียวเฉินยังปั่นป่วน เขาไม่อาจใช้พลังปราณได้ชั่วคราวและทำได้เพียงหมุนตัวหลบ

ลูกศรปาดผ่านหน้าของเซียวเฉินและลอยผ่านไป ลมจากลูกศรเฉือนแก้มของเขาเกิดเป็นแผลเลือดไหล

เซียวเฉินมองดูลูกศรน้ำแข็งที่กำลังตามมาอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกท้อแท้ในใจ สถานการณ์ในตอนนี้เขาทำได้เพียงป้องกันอย่างอดทน หลังจากหลบลูกศรที่ตามมาเซียวเฉินก็ประทับมือซ้าย

มีเส้นสายฟ้าตกลงมาจากท้องฟ้าลงใกล้กับถังเฟิง ถังเฟิงรีบหยุดมือและหลบไปทางด้านหลัง อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ตั้งตัวสายฟ้าอีกห้าเส้นก็ตามลงมาแล้ว

ด้วยระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดของเซียวเฉินเขาเรียกสายฟ้าออกมาได้เพียงสามสาย ในตอนนี้เขาอยู่ระดับขอบเขตเซียวชาญยุทธเขาสามารถส่งสายฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่องได้ถึงหกสาย

สายฟ้าทั้งหกเส้นซื้อเวลาให้เซียวเฉินได้บ้าง เขาใช้เวลานี้ไตร่ตรองเพื่อรับมือสถานการณ์ในตอนนี้ เซียวเฉินรู้สึกว่าเขาทำได้เพียงเข้าไปต่อสู้ระยะประชิด

เขาคิดวิธีที่จะเข้าไปใกล้ รูปสลักไม้ในมือก็ปรากฎขึ้นในมือซ้ายของเซียวเฉิน เขาถอนหายใจ,ข้าทำได้เพียงต้องเสียสละเจ้าเท่านั้น

“ซูว!”

เซียวเฉินโยนรูปสลักไม้ไปทางถังเฟิง เรืองแสงระเบิดออกมาจากรูปสลักไม้ พลังอำนาจมังกรที่ไร้ขอบเขตกระจายไปทั่วสนามประลอง

ถังเฟิงคุมสติลูกศรที่มีประกายพลังวิญญาณทันใดนั้นก็ปรากฎขึ้นในมือของเขา เขาประทับมันขึ้นธนูอย่างรวดเร็วและยิงมันออกไปที่รูปสลักไม้

ลูกศรนั้นราวกับพยัคฆ์ร้ายที่ถูกปล่อยออกมามันส่งเสียงคำรามไปในอากาศ พลังปราณในอากาศถูกแทรกเข้าไปในลูกศรทำให้มันส่องแสงโชติช่วง

“บูม!”

ก่อนที่รูปสลักไม้จะได้เริ่มทำงานลูกศรก็พุ่งเข้าใส่อย่างแม่นยำทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เศษขี้เลื่อยลอยไปทุกที่และไพ่ตายของเซียวเฉินก็จบลงเช่นนี้

“นั้นเป็นลูกศรปราณแสงจากหมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์ มันมีราคานับหมื่นทอง พวกเขาทำออกมาเพียงหนึ่งร้อยลูกในแต่ละปี ไม่คิดว่าตระกูลถังจะหามันมาได้”

“ช่างโชคไม่ดีที่สมบัติลับของเซียวเฉินแตกสลายไปเช่นนั้น สมบัติลับที่ทำลายปรากฎการณ์ลึกลับของจางเหอได้ก่อนหน้านี้… มันจะต้องเป็นของระดับสูงมาก”

“นี้มันน่าตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว ข้าสงสัยว่าเซียวเฉินยังมีไพ่ตายให้งัดออกมาอีกหรือไม่? ถ้าไม่เขาคงถูกยิงจบชีวิตลงอย่างน่าสังเวช”

“แน่นอน ผู้โจมตีระยะไกลที่มีทักษะเคลื่อนไหวเป็นเลิศและทักษะต่อสู้ประชิดก็ยอดเยี่ยม ในระดับขอบเขตพลังเดียวกัน…เขาไม่มีใครเทียบได้”

สถานการณ์บนสนามประลองเปลี่ยนไปอีกครั้งฝูงชนด้านล่างจึงถกเถียงกันขึ้นมาอีก ในศาลาของตระกูลถังและตระกูลจางผู้นำตระกูลจางถามออกมาอย่างประหลาดใจ “พี่น้องถังเจ้าไปได้ลูกศรปราณแสงมาจากไหน? ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ราชสงศ์ยังยากที่จะหามาครอบครอง”

ถังเที่ยนยิ้มเบาๆ “ข้าจะไปหามาได้ยังไร? ถังเฟิงได้รับมาจากเหลิงหยุ่นเจิ่งเมื่อคืนก่อน เขามอบลูกศรปราณแสงมาให้มั้งหมดสามลูกศร”

ผู้นำตระกูลจางเผยสีหน้าปิติ “มาดูว่าเซียวเฉินจะกล้าทำตัวหาญเหี้ยมอีกไหม ปราศจากสมบัติลับมาดูว่ามันจะรับมือกับอีกสองลูกศรปราณแสงเยี่ยงไร”

ในศาลาที่ตระกูลเซียวพักอยู่หลังจากที่เซียวเฉียงได้เห็นลูกศรปราณแสงสีหน้าเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ท่านผู้นำตระกูล ข้าเกรงว่าเราจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เราให้เซียวเฉินยอมแพ้เป็นเช่นไร?”

เซียวฉงมองออกไปไกล เขาไม่ได้ตอบคำถามของเซียวเฉียงและพูดขึ้น “เจ้าได้สังเกตเห็นทักษะเคลื่อนไหวที่เซียวเฉินใช้ในการประลองรอบก่อนหรือไม่?”

เซียวเฉียงมีอาการงุนงงครู่หนึ่งก่อนที่จะร้องด้วยความประหลาดใจ “ที่ท่านพูดหมายความว่า…”

“ใช่แล้วมันคือทักษะพุ่งทะยานของมังกรฟ้า” ใบหน้าของเซียวฉงแสดงออกมาซับซ้อน “น่าเสียดายทักษะเคลื่อนไหวนี้หายสาบสูญไปเป็นเวลานานมิเช่นนั้นเขาคงไม่ได้อยู่ในสภาพเช่นนี้”

เซียวฉงมองไปที่เซียวเฉินผู้ที่อยู่บนสนามประลอง ความอบอุ่นปรากฎขึ้นในดวงตาของเขาและภาพของสาวงามนางหนึ่งก็ปรากฎขึ้นในใจของเขา เขาพึมพำกับตัวเอง “หากไม่ใช่เพราะคำมั่นสัญญานั้นเจ้าคงไม่เต็มในที่จะเข้าตระกูลเซียว ในใจของเจ้านั้นข้าเป็นใครกัน?”

ผู้อาวุโสหนึ่งเซียวเฉียงคิดอย่างละเอียดเกี่ยวกับคำของเซียวฉงและทำความเข้าใจอย่างช้าๆ “ผู้นำตระกูลมันก็เป็นเช่นนี้มานับพันปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บไปคิดมาก เอาเป็นว่ามาวางเดิมพันและปล่อยให้มันเป็นไป?”

เซียวเฉงสีหน้าอ้างว้าง เขายิ้มขมๆเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เดิมพัน? ข้าจะไปพนันกับอะไร? หลายร้อยชีวิตในตระกูลเซียว? ข้าไม่อาจจ่ายด้วยราคานั้นได้และข้าก็ไม่กล้า”

เซียวเฉียงรู้สึกไม่พอใจและเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ “ผู้นำตระกูลมันก็ผ่านมากว่าพันทีแล้ว นี่อาจจะเป็นโอกาส…”

เซียวฉงโบกมือขึ้นขัด เขาพูดอย่าเฉยเมย “ข้าจะปลีกตัวไปสักพัก หากชีวิตเซียวเฉินอยู่ในอันตรายให้หยุดการประลองโดยทันที”

หลังจากพูดจบเขาก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและบินตรงไปทางบ้านตระกูลเซียว ความเร็วของเขารวดเร็วมากและเกิดเสียงระเบิดออกมาจากรอบข้างเขาในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นจุดดำเล็กๆก่อนที่จะหายไป

“พระเจ้า! นั้นผู้นำตระกูลเซียว เขาสามารถบินได้จริงๆ”

“เป็นไปได้ว่าเขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ? พระเจ้า! ด้วยระดับพลังขั้นนี้ไม่มีใครเทียบได้แล้วภายในมณฑลฉี่จื๊อ”

ผู้นำตระกูลจางและตระกูลถังมองดูเซียวฉงที่จากไปใบหน้าของพวกเขาเห็นได้ชัดว่างุนงง ถังเที่ยนถามขึ้นอย่างสงสัย “การประลองยังไม่จบทำไมเขาถึงรีบจากไป? เป็นไปได้ว่าเขารู้สึกถึงข้อตกลงกับเหลิงหยุ่นเจิ่ง?”

ผู้นำตระกูลจางยิ้มอย่างไม่แยแส “ก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะคาดเดาได้แล้วว่าเซียวเฉินต้องภายแพ้ ดังนั้นเขาจึงออกไปเตรียมการล่วงหน้า”

ถังเที่ยนยังคงงุนงงในใจ “ขอหวังให้เป็นเช่นนั้น หากพวกเราชนะการประลองมันจะเป็นทางดีที่สุด ข้าไม่อยากที่จะใช้แผนสุดท้าย”

“ท่านพ่อเกิดอะไรขึ้นกับผู้นำตระกูล? ท่านได้พูดคุยอะไรเกี่ยวกับน้องเฉินก่อนหน้านี้?” มองดูเซียวฉงที่ไกลออกไปเซียวอวี่หลันรู้สึกได้ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น นางไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรนั้นทำให้นางงุนงง

เซียวเฉียงโบกมือและไม่ตอบคำถามนาง “สนใจการประลอง เซียวเฉินยังมีโอกาส เจ้าไม่ต้องไปคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้”

ในโถงบรรพบุรุษตระกูลเซียว เซียวฉงคุกเข่าอยู่ตรงกลางแผ่นจาลึกนับร้อยภายในห้องพูดด้วยเสียงมืดมน “บรรพบุรุษตระกูลเซียวที่น่านับถือ ข้าเซียวฉงข้ามันไร้ความสามารถ ข้าไม่อาจนำความรุ่งโรจน์กลับมาสู่ตระกูลเซียว หากจะมีการลงโทษเกิดขึ้นโปรดให้ทั้งหมดมันอยู่ที่ข้า อย่าได้เกี่ยวข้องกับลูกหลานของพวกเรา”

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset