บทที่ 107 – คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (6)
ในขณะที่พวกเราได้เดินผ่านพื้นที่พักอาศัยโรเล็ตต้าก็ได้รับสายตาจ้องมองจากคนอื่นๆ แน่นอนวฉันรู้ว่าทำไม ในการมองครั้งแรกพวกเขาก็จะต้องตกใจในรูปลักษณ์ของโรเล็ตต้า ในการมองครั้งที่สองพวกเขาก็จะตื่นตระหนกกัลความงานที่เหนือธรรมดา และในการมองครั้งที่สามพวกเขาก็จะมองเธอดูน่ารักกว่าที่เมื่อตอนที่เขามองในครั้งแรก นั่นก็คือตราบใดที่เธอไม่ได้เปิดปากออกมา โรเล็ตต้าก็จะมีรูปลักษ์ณ์ที่เหมือนกับเทพธิดา แต่เมื่อเธอเปิดปากออกมามันก็จะทำลายภาพลักษ์ณ์นี้ด้วยคำพูดงี่เง่า แม้ว่านั่นจะเป็นอีกเสน่ห์ของเธอก็ตาม
“มีเอลฟ์แบบนี้อยู่ในดันเจี้ยนที่หนึ่งด้วยหรอ?”
“ฉันคิดว่านักสำรวจที่สวยที่สุดก็คือเจ้าหญิงรัชทายาทของทวีปลูก้า”
“ไม่ บนชั้นที่สูงขึ้นไป มีผู้มีชื่อเสียงที่สวยงามอยู่อีก พวกที่มาจาก…ทวีปที่ล่มสลาย”
“แต่ว่ามันเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วนะตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัว”
“เฮ้ เอลฟ์นั่นไม่ใช่นักสำรวจ”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอเป็นหนึ่งในหัวหน้าของกิลด์ผู้บริหาร เธอสวยมากจนฉันจำได้ขึ้นใจ”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเดทกับมือใหม่…”
“ฉันอิจฉาจัง เวรเอ้ย”
มีบางคนได้รู้ถึงตัวตนของโรเล็ตต้าจากรูปลักษณ์ของเธอ พวกเขาส่วนใหญ่จะแข็งแกร่ง โรเล็ตต้าได้อธิบายกับฉันด้วยรอยยิ้มขม
“มีบางครั้งที่ฉันต้องทำภาพลักษณ์ของฉันให้เหมือนกับกิลด์มาสเตอร์”
“ถ้างั้นแล้วเธอก็ควรทำงานให้ฐานะกิลด์มาสเตอร์อย่างจริงจัง โอ้ย!”
โรเล็ตต้าได้โกรธและหยิกแขนฉัน
“ฉันเป็นกิลด์มาสเตอร์ที่เหมาะสม! ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นงานของหลิน”
“หลินได้บอกว่าเขาเป็นผู้แทนสิ”
“ไม่ว่ายังไงทุกๆคนก็จะต้องเป็นมาสเตอร์ ฮุฮุ หลินเหมาะสมแล้วที่จะมาเป็นผู้นำ ความสามารถพิเศษของหลินคือเหตุผลเดียวที่ทำไมมนุษย์ถึง ได้เข้ามาในสวนแฟรี่ได้”
“หลินก็ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเผ่ามังกรนิ… อ่า ชั่งเถอะ แล้วอย่างนี้โรเล็ตต้าเธอจะไปทำอะไรล่ะถ้าหากหยุดเป็นกิลมาสเตอร์?”
“นายรู้มั๊ย ความฝันของฉันเสมอมาก็คือการกลายเป็นแม่บ้าน! ดังนั้นฉันจะกลายเป็นลูกจ้างของฉัน”
“….”
“ฉะ ฉันควรจะ….เป็นกิลด์มาสเตอร์ต่อไปไหม…?”
“โรเล็ตต้าเธอควรจะทำในสิ่งที่เธอต้องการนะ แต่ว่าฉันต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นอย่างแข็งขัน”
“งะ งะ งาน… ฉันจะทำงาน… อึก แต่ว่าฉันอยากจะเล่น…!”
หูนอโรเล็ตต้าได้สั่นเหมือนกับเธออยู่ในความทรมานลึกๆซึ่งมันดูน่ารักมาก ยังไงก็ตามในขณะที่ฉันยุ่งกับการแกล้งโรเล็ตต้า ฉันก็บังเอิญเดินไปชนไหล่ของใครบางคน แม้ว่าไหล่ของฉันจะเจ็บ แต่ฉันก็ขอโทษออกไปเพราะฉันเป็นคนผิดเองที่ไม่มองทาง
“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรไหม?”
“แน่นอนส ฉันตกใจมากที่นายไม่เป็นไรหลังจากที่ชนฉัน ฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลยแสดงว่านายคงจะเป็นพวกเด็กใหม่สินะ”
นั่นเป็นเสียงต่ำของผู้หญิง ฉันได้เงยหน้าขึ้นเบื้องหน้าของฉันคือวัยรุ่นสาวสวยโดยที่ส่วนใหญ่ของร่างกายเธอได้ปกคลุมไปด้วยเกราะสีดำ เธอมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาที่สนใจ
ภายในดวงตาสีเหลืองอำพันที่สวยงมคู่นั้นมีความคมและยาวผิดปกติซึ่งทำให้ฉันรู้สึกประทับใจ สายตานั่นไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นมนุษย์สัตว์ ราวกับว่าจะลบในข้อสงสัยของฉันเธอมีหูสามเหลี่อมสองข้างอยู่บนหัว
“มนุษย์สัตว์….”
“โอ้นายรู้ด้วย ใช่แล้วฉันเป็นมนุษย์สัตว์”
“เล็ฟไปกันเถอะ! ซัวได้สั่งเครื่องดื่มไว้แล้ว”
“ชิน นายกำลังเดินอยู่กับฉัน แต่ดันไปมองหาผู้หญิงคนอื่น?”
ใครบางคนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของเธอได้เรียกเธอในขณะเดียวกันโรเล็ตต้าก็ดึงแขนของฉัน ผู้หญิงคนนั้นได้ตอบเพื่อนของเธอไปว่าขอเวลาเดี๋ยว
“นายมีแม้แต่เอลฟ์เป็นแฟน? นายนี่ทำได้ดีจริงๆ เจ้าเด็กใหม่ลองบอกชื่อนายมาสิ ฉันจะจดจำมันเอาไว้”
“ฉันคังชินนักสำรวจจากโลก”
“ฉันเลอบิคจากสมากคน ‘Demonic Girls’ ขอให้โชคดีปีนขึ้นไปในชั้นสูงๆนะ ฉันจะพานายไปดื่มในครั้งหน้าที่พบกัน”
ด้วยแบบนี้เธอก็โบกมือให้ฉันและหันไป ชุดเกราะสีดำแฟนซีของเธอมันเป็นตัวพิสูจน์อย่างดีว่าเธอเป็นนักสำรวจที่อยู่ในชั้นที่สูงกว่าฉัน นอกจากนี้บนหลังของเธอยังมีดาบเครมอร์สีดำที่หนาอยู่ ซึ่งนั่นจะทำให้ฉันเป็นปัญหาแน่นอน
เมื่อมองไปที่มัน ฉันแน่ใจมากขึ้น แต่ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะตกใจในสิ่งนี้ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ
“ถ้างั้นเธอก็ยังไม่ตาย”
“….ใครบอกว่าฉันตาย? พาฉันไปหาคนที่บอกแบบนั้นสิ”
“ชิน….?”
ใช่ แล้วอาจจะรู้สึกถึงความเป็นไปได้ในใจเมื่อฉันถามเขา มันอาจจะแม้แต่จะได้ผ่านไปมากกว่าความเป็นไปได้ และเธอก็อาจจะแน่ใจ จากทั้งหมดนี้เธอไม่ใช่คนที่โง่แน่นอน ถ้าฉันบอกเขา เขาจะทำอะไร…
ฉัยได้พูดออกไป
“เป็นนักสำรวจที่มีชื่อเสียงคนนึงบนชั้นที่ 35 พวกเราเรียกเขาว่าสิงโตทองคำ”
“สิงโตทองคำ? อะไรล่ะนั่น? ชิ ทุกวันนี้ใครๆก็ถูกเรียกว่าสิงโตทองคำได้งั้นหรอ? มันมีเพียงที่ทวีปพาแนนเท่านั้นที่มีสิงโตทองคำที่แท้จริง…ฟู่ฉันไม่เคยคิดเลยนะ เจ้าเด็กใหม่นายกำลังต้องการจะพูดอะไร?”
“สิงโตทองคำที่นายพูดถึงกำลังวิ่งพล่านในดันเจี้ยนที่หนึ่งด้วยพลังของตนเอง
“…ท่านเร็นหรอ?”
ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เธอเรียกเขาว่าท่านเร็น ในขณะที่ฉันจินตนาการถึงสถานะที่เร็นมี ผู้หญิงคนนั้นก็โดดเข้ามาหาฉัน ไม่สิ เธอโดดมาหาฉันแต่ก็ถูกผลักออกไปในทันที ฉันเห็นโรเล็ตต้าก้าวเท้ามาข้างอย่างด้วยความโกรธเคือง
“คุณต้องการจะถูกเตะสินะค่ะคุณลูกค้า? คุณล่ะ? คุณไม่สามารถจะแตะต้องลูกค้ารายอื่นที่ไม่ได้เป็นของเธอได้นะ เข้าใจไหม? คุณทราบไหมว่ากระสุนสุดท้ายมันมีรสชาติยังไง? อยากจะลองดูไหมคะ?”
“อึก…เอลฟ์อะไรกันเนี้ย…!”
เลอบิคได้ลุกขึ้นพร้อมกับจับท้องอย่างเจ็บปวด ได้มีรอยร้าวปรากฏขึ้นมาบนเกราะของเธอ และเมื่อเห็ยหูที่พับลงของเธอทำให้เธอดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
“เธอเป็นใคร?”
“ฉันเป็นเจ้าของร้านขายของโรเล็ตต้า ไม่ว่าถ้าคุณจะต้องการถามคำถามอะไรกับชิน ช่วยถามโดยที่ไม่ต้องสัมผัสเขาได้หรือไม่?”
“ร้านขายของ? กิลด์ผู้ดูแลระบบ…! อึก เจ็บๆ”
การได้เห็นนักสำรวจที่แข็งแกร่งเจ็บปวดมันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นปัญหาของคนอื่นเลย ดังนั้นฉันจึงถามเธอด้วยสายตาเป็นกังวล
“เธอโอเคนะ?”
“อ่า ใช่ฉันสบายดี ยังไงก็เถอะถ้านายรู้เกี่ยวกับท่านเร็นช่วยบอกเกี่ยวกับเขาสักหน่อยได้ไหม? ฉันคิดว่าท่านยังคงมีเกียรติและสง่างาม”
ฉันเพิ่งจะได้ยินคำสองคำที่ไม่เหมาะกับเร็นเลย
ในที่สุด ฉันได้หยุดคุยกับเลอบิคที่กำลังจะมุ่งบาร์ไปบาอีกพักหนึ่ง เลอบิคมีเพื่อนอยู่สองคนหนึ่งคือผู้หญิงที่เรียกเธอซึ่งชื่อว่า เซวีน่า (นักรบโล่) อีกคนหนึ่งเป็นคนแคระผู้หญิงที่ไปสั่งเครื่องดื่ในนบาร์ชัว (นักรบขวาน) ฉันยังสงสัยว่าสมาชิกกิลด์ของเธออาจจะเป็นนักรบทั้งหมดก็ได้ แต่ฉันก็ได้ถูกบอกว่าหนึ่งในห้าของพวกเธอมีนักบวช สมาชิกกิลที่เหลือก็เป็นนักรบ ด้วยความที่พวกเธอมีแต่คลาสที่ดูซาดิสทำให้ฉันตกใจมากที่ทุกๆคนเป็นผู้หญิง
“แล้ว อะ อะไรที่เกี่ยวกับเร็น…?”
ในขณะที่ฉันรับแก้วมาเลอบิคก็ถามฉันด้วยความมุทะลุ แก้มของเธอเป็นสีแดงอ่อนแต่เธอยังไม่ได้ดื่มอะไรเลยนะ มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังเขิน ความรู้สึกต้องการจัดการเร็นได้เดือดขึ้นภายในใจฉัน ฉันได้ตอบกลับไป
“ฉันได้พบกับเขาครั้งแรกในชั้นที่ 20 เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้และเกือบจะต้องตายไปแล้ว”
“หุหุ เขาก็มีด้านที่น่ารักของเขา”
“…หลังจากนั้นเขาก็อยู่กับฉันพักหนึ่งและแก้ไขนิสัยเสียนั่น ในท้ายที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการเอาชนะอัศวินลิซาร์ดแมนด้วยตัวคนเดียว”
“ตะ ตัวคนเดียว? อัศวินลิซาร์ดแมนหรอ? อึก ฉันน่าจะได้เห็นมันนะ…. อ่าเขาจะต้องดูเท่มากแน่ๆ”
“หลังจากนั้นเขาก็ได้ปีนดันเจี้ยนด้วยตัวคนเดียวต่อมาและประสบความสำเร็จในการเอาชนะบอสประจำชั้นทั้งหมดเพียงลำพัง ในระหว่างนั้นเขาก็ได้รับชื่อเสียงมาจากการช่วยนักสำรวจคนอื่นๆให้เอาชนะบอสประจำชั้น เขาควรจะยังอยู่ในชั้นที่ 35 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยอิลิกเซอร์จากบอสประจำชั้น”
“อิลิเซอร์เสริมความแข็งแกร่ง? สิ่งที่มันจะดรอปมาในบางครั้งหรอ? ว้าวฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเติบโตขึ้นมาก… เขาจะต้องดูหล่ออย่างมากแน่ๆในตอนนี้…เหมือนกับลูกผู้ชายที่แท้จริง…”
หูของเลอบิคได้บิดไปมาและเปิดเผยความรู้สึกสับสนของเธอ ในขณะเดียวโรเล็ตต้าก็กำลังยืนยันข้อมูลของเร็นผ่านการกระซิบของฉัน
“ชิน เร็นที่กำลังพูดถึงคือลูกค้าคนที่ผมยุ่งๆที่ทำให้ทุกคนนรู้สึกร้อนเมื่อมองไปที่เขาใช่ไหม? ชินแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้กำลังพูดถึงคนอื่นนะ?”
“โรเล็ตต้าด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันก็สับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน”
“ฉันก็ประหลาดใจ ฉันไม่คิดว่าชายที่ชื่อเร็นนั้นมีจริง เล็ฟพูดเกี่ยวกับเขาเสมอเมื่อดื่มเหล้า”
“แน่นอน เมื่อเธอเริ่มพูดถึงเร็นเธอก็จะไม่พูดถึงคนอื่นในวันนั้นอีกเลยจนหมดวัน”
ด้านหน้าของฉันเป็นสาวคนแคระน่ารักชัว ไม่ว่าฉันจะมองเธอยังไงเธอก็ดูคล้ายกับเด็กประถม เธอกำลังถือแก้วและชนกับแก้มของเซวีนา แต่ว่าฉันก็สามารถทำตัวชินกับมันไปได้เพราะว่าฉันเคยเห็นคนแคระจากสวนแฟรี่แล้วเหมือนกัน แต่ว่าความบ้าของเลอบิคก็ยังดำเนินต่อไป
“เขาน่ารักตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็กอยู่… ตอนที่ฉันต่อสู้กับเขาด้วยดาบไม้เขาได้ล้มลงและเข่าถลอกจากนั้นเขาก็วิ่งมาหาฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา…ฮึก ฮึก”
ฉัยรู้สึกเบื่อหน่าย ทั้งใบหน้าที่ร้องไห้ของเร็นจากจินตนาการของฉันและจากผู้หญิงคนนี้ที่ส่งเสียงแปลกๆออกมาในขณะที่ฉันนึกถึงใบหน้าที่ร้องไห้ของเธอเช่นกัน
“เมื่อตอนที่ฉันเลียแผลของเขา เขาพยายามที่จะยิ้มอย่างกล้าหาญด้วยน้ำตาลที่คลอเบ้า พร้อมพูดว่า ‘ผมสบายดีครัวเซอร์เลอบิค’ …ฮ่าห์ ฮ่าห์”
“เล็ฟเลือดกำเดาเธอไหลแล้ว”
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับจินตนาการในอดีตวัยเยาว์ของเร็น หูและหางของเลอบิคก็ห้อยลงอย่างเศร้าใจ
“แต่แล้วฉัน…ก็ทิ้งเร็นด้วยตัวเองในทวีปพาแนน…อึก ฮึก…”
“เธอดื่มไปกี่แก้วแล้ว?”
“หนึ่งแก้ว เพียงแค่เบียร์แก้วเดียว”
“ฉัน ฉัน…ควรจะอยู่กับเขา ฉัน ฉันไม่ควรจะโยนมันออกไป….แต่ว่าฉันก็ยังอยากมีชีวิตอยู่…”
“เร็นคิดว่าเธอตายไปแล้ว”
“นั่นมันเป็นเรื่องโกหก อัศวินที่อยู่กับฉันในสนามรบจะต้องโกหก….เรื่องทั้งหมดฉันได้หนีออกไปต่อหน้าพวกเขา เบื้องหน้าสายตาของทุกๆคน ฉันได้เปิดประตูดันเจี้ยนเพื้อที่จะให้ตัวเองมีชีวิตอยู่….ทิ้งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเหล่ามนุษย์สัตว์ไป….”
“…..”
บรรยากาศที่สดใสจู่ๆก็กลายเป็นมืดมน ชัวและเซวีน่าที่ชนแก้วกันอย่างอารมณ์ดีสายตาก็ได้เปลื่ยนเป็นน่ากลัวในทันที ฉันสงสัยว่าพวกเขาก็คงจะมีประสบการณ์ที่คล้ายๆกัน ในฐานะนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนุ่งพวกเขาต้องทิ้งประเทศและโลกที่พวกเขาอยู่แล้วเข้ามาในดันเจี้ยน
ฉันได้เปิดปากเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดอะไรได้ฉันเลยเงียบไว้ เพราะนั่นมันจะเป็นเพียงแค่เสียงบ่นของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งไม่เคยประสบกับความไม่ยุติธรรมของโลกที่โหดร้าย ในพื้นที่ๆหลอกภัยนี้ พวกเขาจะเสี่ยงต่อคำพูดที่ไม่รู้ในตนเองของฉัน
เช่นนั้นฉันก็เลยได้แต่พูดในสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถจะพูดได้ในสถานการณ์นี้
“เร็นอยากจะเจอเธอ เขากำลังหาเธออยู่….ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะมีความสุขกับสิ่งนี้”
“ตะ แต่…ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะไปพบเขา ไม่มีความหวังในทวีปพาแนนเขาเป็นเพียงนักสำรวจคนเดียวที่รอดอยู่ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยงอย่างแท้จริงและมีจิตวิญญาณที่สูงส่ง เพียงแค่พบกับเขามันก็จะทำให้วิญญาณของเขาเจ็บปวด ฉันกลัว ความจริงฉันยังมีผลต่อเขา…. ไม่ ฉันไม่สามารถไปพบเขาได้… ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะยืนเคียงข้างเขาได้ ฉันจะคิดถึงเขาแบบนี้เพียงอย่างเดียว…ฮิค”
“เธอเริ่มร้องแล้ว”
“ในตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว ตอนนี้หยุดรบก่อนเล็ฟ พวก….จะต้องหยุดเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะแม้ว่าเขาจะเป็นคนชวนคุณมาก็ตาม”
เซวีน่าและชัวได้รู้สึกอึดอัดกับพวกเราเช่นกัน ฉันได้ยิ้มขมออกไปและลุกขึ้น ฉันไม่คิดว่าบทสนาจะจบแล้วแบบนี้ ถ้าเร็นมาถึงพื้นที่พักอาศัยและได้ยินเรื่องเลอบิคหรือแม้แต่พบเธอ…
“เซอร์เลอบิค”
“…อย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้เป็นอัศวินอีกต่อไปแล้ว”
“ถ้าเร็นจะเปลื่ยนไปเพียงแค่พบกับเธอ เขาก็จะไม่มีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลและลองไปพบเขา….แผลของเธอจะเปิดออกอีกในวันหนึ่ง”
เมื่อเธอได้ยินหูของเธอก็กระพือเล็กน้อย จากนั้นเธอก็บ่นด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน
“….ฉันจะเพิ่มนายในรายชื่อเพื่อนได้ไหม?”
“แน่นอน”
เพราะแบบนั้นฉันก็ได้พบกับอาจารย์ของเร็น เลอบิคและปาตี้ของเธอ แม้ว่าเลอบิคจะได้ทิ้งโลกของเธอ แต่เธอยังปีนดันเจี้นต่อไปในฐานะนักสำรวจ เพียงแต่ว่าอะไรที่เธอหวังในท้ายที่สุด? บางที…ตราบเท่าที่เธอยังท้าทายต่อไป โลกของเธอก็จะไม่ล้มไปอย่างสมบูรณ์ เธอยังคงมีโอกาสที่จะกลับไปหรอ?
แม้ว่าเลอบิคจะกังวัลว่าเธอจะเปลื่ยนเร็น ฉันก็มีความคิดที่ต่างออกไป
เร็นเป็นนักรบคนหนึ่งที่เดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่มองกลับหลัง ถ้าเป็นเขาเขาอาจจะจุดไฟของอัศวินที่หลบหนีได้อีกครั้ง ถ้าเป็นเขา เขาอาจจะเปลื่ยนเธอได้
ความหวังและความกังวลว่าจะเป็นเช่นนั้น ฉันรู้สึกประหลาดใจเมื่อตระหนักได้ว่าฉันได้คิดเกี่ยวกับเร็นมากมาย
สำหรับครั้งนี้ฉันก็ไม่สามารถจะซื้อทักษะประเภทพุ่งได้จากการประมูลได้เลย เวรเอ้ย มันไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ง่ายเลย!