Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 107 – คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (6)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 107 – คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (6)

บทที่ 107 – คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (6)

ในขณะที่พวกเราได้เดินผ่านพื้นที่พักอาศัยโรเล็ตต้าก็ได้รับสายตาจ้องมองจากคนอื่นๆ แน่นอนวฉันรู้ว่าทำไม ในการมองครั้งแรกพวกเขาก็จะต้องตกใจในรูปลักษณ์ของโรเล็ตต้า ในการมองครั้งที่สองพวกเขาก็จะตื่นตระหนกกัลความงานที่เหนือธรรมดา และในการมองครั้งที่สามพวกเขาก็จะมองเธอดูน่ารักกว่าที่เมื่อตอนที่เขามองในครั้งแรก นั่นก็คือตราบใดที่เธอไม่ได้เปิดปากออกมา โรเล็ตต้าก็จะมีรูปลักษ์ณ์ที่เหมือนกับเทพธิดา แต่เมื่อเธอเปิดปากออกมามันก็จะทำลายภาพลักษ์ณ์นี้ด้วยคำพูดงี่เง่า แม้ว่านั่นจะเป็นอีกเสน่ห์ของเธอก็ตาม

“มีเอลฟ์แบบนี้อยู่ในดันเจี้ยนที่หนึ่งด้วยหรอ?”

“ฉันคิดว่านักสำรวจที่สวยที่สุดก็คือเจ้าหญิงรัชทายาทของทวีปลูก้า”

“ไม่ บนชั้นที่สูงขึ้นไป มีผู้มีชื่อเสียงที่สวยงามอยู่อีก พวกที่มาจาก…ทวีปที่ล่มสลาย”

“แต่ว่ามันเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วนะตั้งแต่ที่เธอปรากฏตัว”

“เฮ้ เอลฟ์นั่นไม่ใช่นักสำรวจ”

“ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอเป็นหนึ่งในหัวหน้าของกิลด์ผู้บริหาร เธอสวยมากจนฉันจำได้ขึ้นใจ”

“ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเดทกับมือใหม่…”

“ฉันอิจฉาจัง เวรเอ้ย”

มีบางคนได้รู้ถึงตัวตนของโรเล็ตต้าจากรูปลักษณ์ของเธอ พวกเขาส่วนใหญ่จะแข็งแกร่ง โรเล็ตต้าได้อธิบายกับฉันด้วยรอยยิ้มขม

“มีบางครั้งที่ฉันต้องทำภาพลักษณ์ของฉันให้เหมือนกับกิลด์มาสเตอร์”

“ถ้างั้นแล้วเธอก็ควรทำงานให้ฐานะกิลด์มาสเตอร์อย่างจริงจัง โอ้ย!”

โรเล็ตต้าได้โกรธและหยิกแขนฉัน

“ฉันเป็นกิลด์มาสเตอร์ที่เหมาะสม! ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นงานของหลิน”

“หลินได้บอกว่าเขาเป็นผู้แทนสิ”

“ไม่ว่ายังไงทุกๆคนก็จะต้องเป็นมาสเตอร์ ฮุฮุ หลินเหมาะสมแล้วที่จะมาเป็นผู้นำ ความสามารถพิเศษของหลินคือเหตุผลเดียวที่ทำไมมนุษย์ถึง ได้เข้ามาในสวนแฟรี่ได้”

“หลินก็ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเผ่ามังกรนิ… อ่า ชั่งเถอะ แล้วอย่างนี้โรเล็ตต้าเธอจะไปทำอะไรล่ะถ้าหากหยุดเป็นกิลมาสเตอร์?”

“นายรู้มั๊ย ความฝันของฉันเสมอมาก็คือการกลายเป็นแม่บ้าน! ดังนั้นฉันจะกลายเป็นลูกจ้างของฉัน”

“….”

“ฉะ ฉันควรจะ….เป็นกิลด์มาสเตอร์ต่อไปไหม…?”

“โรเล็ตต้าเธอควรจะทำในสิ่งที่เธอต้องการนะ แต่ว่าฉันต้องการจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นอย่างแข็งขัน”

“งะ งะ งาน… ฉันจะทำงาน… อึก แต่ว่าฉันอยากจะเล่น…!”

หูนอโรเล็ตต้าได้สั่นเหมือนกับเธออยู่ในความทรมานลึกๆซึ่งมันดูน่ารักมาก ยังไงก็ตามในขณะที่ฉันยุ่งกับการแกล้งโรเล็ตต้า ฉันก็บังเอิญเดินไปชนไหล่ของใครบางคน แม้ว่าไหล่ของฉันจะเจ็บ แต่ฉันก็ขอโทษออกไปเพราะฉันเป็นคนผิดเองที่ไม่มองทาง

“ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรไหม?”

“แน่นอนส ฉันตกใจมากที่นายไม่เป็นไรหลังจากที่ชนฉัน ฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อนเลยแสดงว่านายคงจะเป็นพวกเด็กใหม่สินะ”

นั่นเป็นเสียงต่ำของผู้หญิง ฉันได้เงยหน้าขึ้นเบื้องหน้าของฉันคือวัยรุ่นสาวสวยโดยที่ส่วนใหญ่ของร่างกายเธอได้ปกคลุมไปด้วยเกราะสีดำ เธอมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาที่สนใจ

ภายในดวงตาสีเหลืองอำพันที่สวยงมคู่นั้นมีความคมและยาวผิดปกติซึ่งทำให้ฉันรู้สึกประทับใจ สายตานั่นไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นมนุษย์สัตว์ ราวกับว่าจะลบในข้อสงสัยของฉันเธอมีหูสามเหลี่อมสองข้างอยู่บนหัว

“มนุษย์สัตว์….”

“โอ้นายรู้ด้วย ใช่แล้วฉันเป็นมนุษย์สัตว์”

“เล็ฟไปกันเถอะ! ซัวได้สั่งเครื่องดื่มไว้แล้ว”

“ชิน นายกำลังเดินอยู่กับฉัน แต่ดันไปมองหาผู้หญิงคนอื่น?”

ใครบางคนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนของเธอได้เรียกเธอในขณะเดียวกันโรเล็ตต้าก็ดึงแขนของฉัน ผู้หญิงคนนั้นได้ตอบเพื่อนของเธอไปว่าขอเวลาเดี๋ยว

“นายมีแม้แต่เอลฟ์เป็นแฟน? นายนี่ทำได้ดีจริงๆ เจ้าเด็กใหม่ลองบอกชื่อนายมาสิ ฉันจะจดจำมันเอาไว้”

“ฉันคังชินนักสำรวจจากโลก”

“ฉันเลอบิคจากสมากคน ‘Demonic Girls’ ขอให้โชคดีปีนขึ้นไปในชั้นสูงๆนะ ฉันจะพานายไปดื่มในครั้งหน้าที่พบกัน”

ด้วยแบบนี้เธอก็โบกมือให้ฉันและหันไป ชุดเกราะสีดำแฟนซีของเธอมันเป็นตัวพิสูจน์อย่างดีว่าเธอเป็นนักสำรวจที่อยู่ในชั้นที่สูงกว่าฉัน นอกจากนี้บนหลังของเธอยังมีดาบเครมอร์สีดำที่หนาอยู่ ซึ่งนั่นจะทำให้ฉันเป็นปัญหาแน่นอน

เมื่อมองไปที่มัน ฉันแน่ใจมากขึ้น แต่ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะตกใจในสิ่งนี้ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ

“ถ้างั้นเธอก็ยังไม่ตาย”

“….ใครบอกว่าฉันตาย? พาฉันไปหาคนที่บอกแบบนั้นสิ”

“ชิน….?”

ใช่ แล้วอาจจะรู้สึกถึงความเป็นไปได้ในใจเมื่อฉันถามเขา มันอาจจะแม้แต่จะได้ผ่านไปมากกว่าความเป็นไปได้ และเธอก็อาจจะแน่ใจ จากทั้งหมดนี้เธอไม่ใช่คนที่โง่แน่นอน ถ้าฉันบอกเขา เขาจะทำอะไร…

ฉัยได้พูดออกไป

“เป็นนักสำรวจที่มีชื่อเสียงคนนึงบนชั้นที่ 35 พวกเราเรียกเขาว่าสิงโตทองคำ”

“สิงโตทองคำ? อะไรล่ะนั่น? ชิ ทุกวันนี้ใครๆก็ถูกเรียกว่าสิงโตทองคำได้งั้นหรอ? มันมีเพียงที่ทวีปพาแนนเท่านั้นที่มีสิงโตทองคำที่แท้จริง…ฟู่ฉันไม่เคยคิดเลยนะ เจ้าเด็กใหม่นายกำลังต้องการจะพูดอะไร?”

“สิงโตทองคำที่นายพูดถึงกำลังวิ่งพล่านในดันเจี้ยนที่หนึ่งด้วยพลังของตนเอง

“…ท่านเร็นหรอ?”

ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เธอเรียกเขาว่าท่านเร็น ในขณะที่ฉันจินตนาการถึงสถานะที่เร็นมี ผู้หญิงคนนั้นก็โดดเข้ามาหาฉัน ไม่สิ เธอโดดมาหาฉันแต่ก็ถูกผลักออกไปในทันที ฉันเห็นโรเล็ตต้าก้าวเท้ามาข้างอย่างด้วยความโกรธเคือง

“คุณต้องการจะถูกเตะสินะค่ะคุณลูกค้า? คุณล่ะ? คุณไม่สามารถจะแตะต้องลูกค้ารายอื่นที่ไม่ได้เป็นของเธอได้นะ เข้าใจไหม? คุณทราบไหมว่ากระสุนสุดท้ายมันมีรสชาติยังไง? อยากจะลองดูไหมคะ?”

“อึก…เอลฟ์อะไรกันเนี้ย…!”

เลอบิคได้ลุกขึ้นพร้อมกับจับท้องอย่างเจ็บปวด ได้มีรอยร้าวปรากฏขึ้นมาบนเกราะของเธอ และเมื่อเห็ยหูที่พับลงของเธอทำให้เธอดูน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

“เธอเป็นใคร?”

“ฉันเป็นเจ้าของร้านขายของโรเล็ตต้า ไม่ว่าถ้าคุณจะต้องการถามคำถามอะไรกับชิน ช่วยถามโดยที่ไม่ต้องสัมผัสเขาได้หรือไม่?”

“ร้านขายของ? กิลด์ผู้ดูแลระบบ…! อึก เจ็บๆ”

การได้เห็นนักสำรวจที่แข็งแกร่งเจ็บปวดมันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นปัญหาของคนอื่นเลย ดังนั้นฉันจึงถามเธอด้วยสายตาเป็นกังวล

“เธอโอเคนะ?”

“อ่า ใช่ฉันสบายดี ยังไงก็เถอะถ้านายรู้เกี่ยวกับท่านเร็นช่วยบอกเกี่ยวกับเขาสักหน่อยได้ไหม? ฉันคิดว่าท่านยังคงมีเกียรติและสง่างาม”

ฉันเพิ่งจะได้ยินคำสองคำที่ไม่เหมาะกับเร็นเลย

ในที่สุด ฉันได้หยุดคุยกับเลอบิคที่กำลังจะมุ่งบาร์ไปบาอีกพักหนึ่ง เลอบิคมีเพื่อนอยู่สองคนหนึ่งคือผู้หญิงที่เรียกเธอซึ่งชื่อว่า เซวีน่า (นักรบโล่) อีกคนหนึ่งเป็นคนแคระผู้หญิงที่ไปสั่งเครื่องดื่ในนบาร์ชัว (นักรบขวาน) ฉันยังสงสัยว่าสมาชิกกิลด์ของเธออาจจะเป็นนักรบทั้งหมดก็ได้ แต่ฉันก็ได้ถูกบอกว่าหนึ่งในห้าของพวกเธอมีนักบวช สมาชิกกิลที่เหลือก็เป็นนักรบ ด้วยความที่พวกเธอมีแต่คลาสที่ดูซาดิสทำให้ฉันตกใจมากที่ทุกๆคนเป็นผู้หญิง

“แล้ว อะ อะไรที่เกี่ยวกับเร็น…?”

ในขณะที่ฉันรับแก้วมาเลอบิคก็ถามฉันด้วยความมุทะลุ แก้มของเธอเป็นสีแดงอ่อนแต่เธอยังไม่ได้ดื่มอะไรเลยนะ มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอกำลังเขิน ความรู้สึกต้องการจัดการเร็นได้เดือดขึ้นภายในใจฉัน ฉันได้ตอบกลับไป

“ฉันได้พบกับเขาครั้งแรกในชั้นที่ 20 เขาไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้และเกือบจะต้องตายไปแล้ว”

“หุหุ เขาก็มีด้านที่น่ารักของเขา”

“…หลังจากนั้นเขาก็อยู่กับฉันพักหนึ่งและแก้ไขนิสัยเสียนั่น ในท้ายที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการเอาชนะอัศวินลิซาร์ดแมนด้วยตัวคนเดียว”

“ตะ ตัวคนเดียว? อัศวินลิซาร์ดแมนหรอ? อึก ฉันน่าจะได้เห็นมันนะ…. อ่าเขาจะต้องดูเท่มากแน่ๆ”

“หลังจากนั้นเขาก็ได้ปีนดันเจี้ยนด้วยตัวคนเดียวต่อมาและประสบความสำเร็จในการเอาชนะบอสประจำชั้นทั้งหมดเพียงลำพัง ในระหว่างนั้นเขาก็ได้รับชื่อเสียงมาจากการช่วยนักสำรวจคนอื่นๆให้เอาชนะบอสประจำชั้น เขาควรจะยังอยู่ในชั้นที่ 35 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยอิลิกเซอร์จากบอสประจำชั้น”

“อิลิเซอร์เสริมความแข็งแกร่ง? สิ่งที่มันจะดรอปมาในบางครั้งหรอ? ว้าวฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเติบโตขึ้นมาก… เขาจะต้องดูหล่ออย่างมากแน่ๆในตอนนี้…เหมือนกับลูกผู้ชายที่แท้จริง…”

หูของเลอบิคได้บิดไปมาและเปิดเผยความรู้สึกสับสนของเธอ ในขณะเดียวโรเล็ตต้าก็กำลังยืนยันข้อมูลของเร็นผ่านการกระซิบของฉัน

“ชิน เร็นที่กำลังพูดถึงคือลูกค้าคนที่ผมยุ่งๆที่ทำให้ทุกคนนรู้สึกร้อนเมื่อมองไปที่เขาใช่ไหม? ชินแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้กำลังพูดถึงคนอื่นนะ?”

“โรเล็ตต้าด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันก็สับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน”

“ฉันก็ประหลาดใจ ฉันไม่คิดว่าชายที่ชื่อเร็นนั้นมีจริง เล็ฟพูดเกี่ยวกับเขาเสมอเมื่อดื่มเหล้า”

“แน่นอน เมื่อเธอเริ่มพูดถึงเร็นเธอก็จะไม่พูดถึงคนอื่นในวันนั้นอีกเลยจนหมดวัน”

ด้านหน้าของฉันเป็นสาวคนแคระน่ารักชัว ไม่ว่าฉันจะมองเธอยังไงเธอก็ดูคล้ายกับเด็กประถม เธอกำลังถือแก้วและชนกับแก้มของเซวีนา แต่ว่าฉันก็สามารถทำตัวชินกับมันไปได้เพราะว่าฉันเคยเห็นคนแคระจากสวนแฟรี่แล้วเหมือนกัน แต่ว่าความบ้าของเลอบิคก็ยังดำเนินต่อไป

“เขาน่ารักตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็กอยู่… ตอนที่ฉันต่อสู้กับเขาด้วยดาบไม้เขาได้ล้มลงและเข่าถลอกจากนั้นเขาก็วิ่งมาหาฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา…ฮึก ฮึก”

ฉัยรู้สึกเบื่อหน่าย ทั้งใบหน้าที่ร้องไห้ของเร็นจากจินตนาการของฉันและจากผู้หญิงคนนี้ที่ส่งเสียงแปลกๆออกมาในขณะที่ฉันนึกถึงใบหน้าที่ร้องไห้ของเธอเช่นกัน

“เมื่อตอนที่ฉันเลียแผลของเขา เขาพยายามที่จะยิ้มอย่างกล้าหาญด้วยน้ำตาลที่คลอเบ้า พร้อมพูดว่า ‘ผมสบายดีครัวเซอร์เลอบิค’ …ฮ่าห์ ฮ่าห์”

“เล็ฟเลือดกำเดาเธอไหลแล้ว”

หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับจินตนาการในอดีตวัยเยาว์ของเร็น หูและหางของเลอบิคก็ห้อยลงอย่างเศร้าใจ

“แต่แล้วฉัน…ก็ทิ้งเร็นด้วยตัวเองในทวีปพาแนน…อึก ฮึก…”

“เธอดื่มไปกี่แก้วแล้ว?”

“หนึ่งแก้ว เพียงแค่เบียร์แก้วเดียว”

“ฉัน ฉัน…ควรจะอยู่กับเขา ฉัน ฉันไม่ควรจะโยนมันออกไป….แต่ว่าฉันก็ยังอยากมีชีวิตอยู่…”

“เร็นคิดว่าเธอตายไปแล้ว”

“นั่นมันเป็นเรื่องโกหก อัศวินที่อยู่กับฉันในสนามรบจะต้องโกหก….เรื่องทั้งหมดฉันได้หนีออกไปต่อหน้าพวกเขา เบื้องหน้าสายตาของทุกๆคน ฉันได้เปิดประตูดันเจี้ยนเพื้อที่จะให้ตัวเองมีชีวิตอยู่….ทิ้งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเหล่ามนุษย์สัตว์ไป….”

“…..”

บรรยากาศที่สดใสจู่ๆก็กลายเป็นมืดมน ชัวและเซวีน่าที่ชนแก้วกันอย่างอารมณ์ดีสายตาก็ได้เปลื่ยนเป็นน่ากลัวในทันที ฉันสงสัยว่าพวกเขาก็คงจะมีประสบการณ์ที่คล้ายๆกัน ในฐานะนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนุ่งพวกเขาต้องทิ้งประเทศและโลกที่พวกเขาอยู่แล้วเข้ามาในดันเจี้ยน

ฉันได้เปิดปากเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดอะไรได้ฉันเลยเงียบไว้ เพราะนั่นมันจะเป็นเพียงแค่เสียงบ่นของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งไม่เคยประสบกับความไม่ยุติธรรมของโลกที่โหดร้าย ในพื้นที่ๆหลอกภัยนี้ พวกเขาจะเสี่ยงต่อคำพูดที่ไม่รู้ในตนเองของฉัน

เช่นนั้นฉันก็เลยได้แต่พูดในสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถจะพูดได้ในสถานการณ์นี้

“เร็นอยากจะเจอเธอ เขากำลังหาเธออยู่….ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะมีความสุขกับสิ่งนี้”

“ตะ แต่…ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะไปพบเขา ไม่มีความหวังในทวีปพาแนนเขาเป็นเพียงนักสำรวจคนเดียวที่รอดอยู่ เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยงอย่างแท้จริงและมีจิตวิญญาณที่สูงส่ง เพียงแค่พบกับเขามันก็จะทำให้วิญญาณของเขาเจ็บปวด ฉันกลัว ความจริงฉันยังมีผลต่อเขา…. ไม่ ฉันไม่สามารถไปพบเขาได้… ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะยืนเคียงข้างเขาได้ ฉันจะคิดถึงเขาแบบนี้เพียงอย่างเดียว…ฮิค”

“เธอเริ่มร้องแล้ว”

“ในตอนนี้ไม่มีทางเลือกแล้ว ตอนนี้หยุดรบก่อนเล็ฟ พวก….จะต้องหยุดเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะแม้ว่าเขาจะเป็นคนชวนคุณมาก็ตาม”

เซวีน่าและชัวได้รู้สึกอึดอัดกับพวกเราเช่นกัน ฉันได้ยิ้มขมออกไปและลุกขึ้น ฉันไม่คิดว่าบทสนาจะจบแล้วแบบนี้ ถ้าเร็นมาถึงพื้นที่พักอาศัยและได้ยินเรื่องเลอบิคหรือแม้แต่พบเธอ…

“เซอร์เลอบิค”

“…อย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้เป็นอัศวินอีกต่อไปแล้ว”

“ถ้าเร็นจะเปลื่ยนไปเพียงแค่พบกับเธอ เขาก็จะไม่มีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลและลองไปพบเขา….แผลของเธอจะเปิดออกอีกในวันหนึ่ง”

เมื่อเธอได้ยินหูของเธอก็กระพือเล็กน้อย จากนั้นเธอก็บ่นด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน

“….ฉันจะเพิ่มนายในรายชื่อเพื่อนได้ไหม?”

“แน่นอน”

เพราะแบบนั้นฉันก็ได้พบกับอาจารย์ของเร็น เลอบิคและปาตี้ของเธอ แม้ว่าเลอบิคจะได้ทิ้งโลกของเธอ แต่เธอยังปีนดันเจี้นต่อไปในฐานะนักสำรวจ เพียงแต่ว่าอะไรที่เธอหวังในท้ายที่สุด? บางที…ตราบเท่าที่เธอยังท้าทายต่อไป โลกของเธอก็จะไม่ล้มไปอย่างสมบูรณ์ เธอยังคงมีโอกาสที่จะกลับไปหรอ?

แม้ว่าเลอบิคจะกังวัลว่าเธอจะเปลื่ยนเร็น ฉันก็มีความคิดที่ต่างออกไป

เร็นเป็นนักรบคนหนึ่งที่เดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่มองกลับหลัง ถ้าเป็นเขาเขาอาจจะจุดไฟของอัศวินที่หลบหนีได้อีกครั้ง ถ้าเป็นเขา เขาอาจจะเปลื่ยนเธอได้

ความหวังและความกังวลว่าจะเป็นเช่นนั้น ฉันรู้สึกประหลาดใจเมื่อตระหนักได้ว่าฉันได้คิดเกี่ยวกับเร็นมากมาย

สำหรับครั้งนี้ฉันก็ไม่สามารถจะซื้อทักษะประเภทพุ่งได้จากการประมูลได้เลย เวรเอ้ย มันไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ง่ายเลย!

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset