Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 133 – ทีมรีไวเวิร์ล (7)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 133 – ทีมรีไวเวิร์ล (7)

บทที่ 133 – ทีมรีไวเวิร์ล (7)

[ฮีโร่]

“งั้นแกก็พูดได้เหมือนกันสินะ”

แม้ฉันจะประหลาดใจแต่ฉันก็ยังคงจับหอกแน่นและเล็งไปทางนั้น พูดตามตกในสภาพพายุฝนนั้นฉันคิดว่าแม้แต่บอสของรังไวเวิร์นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน

“เยี่ยม ขอบใจนะที่มาแต่ว่าก็ต้องขอโทษด้วยที่มันจะจบลงอย่างรวดเร็ว”

ยังไงก็ตามสิ่งที่มันได้พูดต่อมาทำให้ฉันตกใจมาก

[ข้ารู้ว่าเจ้ามีพลังในการฝึกมอนสเตอร์ ฮีโร่ ข้าต้องการที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฮีโร่]

“นาย อะไรนะ?”

ฉันสงสัยในสิ่งที่พึ่งจะได้ยินไปในทันที ไวเวิร์นมันเพิ่งจะพูดอะไรไปนะ?

[หลังจากที่เดรกปรากฏตัว ข้าคิดว่ามันมีเพียงแต่ความตายเท่านั้นที่รอข้าอยู่]

“พวกแกทั้งคู่ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกันหรอกหรอ?”

[เจ้าโง่หรือป่าวฮีโร่? ความสัมพันธ์ระหว่างมอนสเตอร์มีเพียงแค่กิน แบ่งปัน หรือถูกกิน]

นั่นเป็นสิ่งที่ฉันรู้ดีการแบ่งปันนั้นน่าจะหมายถึงมอนสเตอร์ครอบครัวเดียวกันหรือมาจากชนิดเดียวกัน แม้ว่าไวเวิร์นและเฟรมเดรกจะดูเหมือนเป็นสายพันธ์มังกรทั้งคู่ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่พวกเดียวกัน

[ข้าได้มาเพื่อที่จะชื่นชมเจ้าหลังจากที่เห็นเจ้าได้ทำลายไวเวิร์นไปมากมายด้วยการโ๗มตีเพียงครั้งเดียว เจ้าได้บังคับให้ข้าราชินีไวเวิร์นดาร์ก วิงค์ เซอร์เต้ ยอมจำนวนด้วยความยินดี]

ฉันได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์มาอีกสองอย่าง อย่างแรกเลยคือไวเวิร์นตัวนี้รู้สึกยินดีที่ฉันได้ค่าไวเวิร์นแบบเธอไปหลายตัว และอย่างที่สองไวเวิร์นตัวนี้เป็นเพศเมีย ฉันสงสัยอยู่แล้วว่าทำไมเสียงของเธอถึงสูง! จากนั้นดาร์ก วิงค์ เซอร์เต้ก็ได้พูดต่อไป

[แน่นอนว่าสิ่งที่ข้าต้องการมาที่สุดก็คือการฆ่าฮีโร่และรับแสงสว่างแห่งฮีโร่มา แต่ว่าข้ารู้ว่านั่นมันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นข้าเลยได้เลือกตัวเลือกอื่นที่ดีที่สุด]

“เพราะว่าเธอไม่สามารถจะฆ่าฉันได้ เธอเลยมาเป็นพวกฉัน?”

[และฉันจะฆ่าเดรก]

สำหรับมอนสเตอร์เธอนั้นทำตัวเหมือนกับพวกคนพาล…ยังไงก็ตามมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับฉัน

ไวเวิร์นได้มองเข้ามาในดวงตาของฉัน ในขณะเดียวกันนั้นฮวาหยาก็ตะโกนขึ้น

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่ารีบหน่อยเจ้านั่นมันกำลังพุ่งเข้ามาแล้ว!”

“โอเค! เอาล่ะเยี่ยม เธอน่าจะเร็วมากกว่าธาเลเรีย”

[ต่อจากนี้ไปข้าเป็นของฮีโร่ ในตอนนี้มอบชื่อใหม่ให้กับข้า]

“ฉันเรียกเธอว่าเซอร์เต้ไม่ได้หรอก?”

[ข้าต้องการชื่อใหม่เพื่อผูกตัวเองกับฮีโร่]

“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะล็อทเต้”

[เยี่ยม ต่อจากนี้ไปข้าชื่อล็อทเต้!]

ในทันทีหลังจากนั้นเสียงข้อความหลายอย่างก็ได้ดังขึ้นในหูของฉันราวกับว่ามันได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าไว้นานแล้ว

[คุณได้ประสบความสำเร็จในการฝึกมอนสเตอร์บอสระดับ S+ ‘ดาร์ก วิงค์ ไวเวิร์น’ คุณได้รับแต้มทักษะ 1 แต้ม แต้มทักษะปัจจุบัน: 4]

[ทักษะฝึกมอนสเตอร์ได้กลายเป็นเลเวล 3 คุณสามารถจะฝึกให้เป้าหมายได้ง่ายขึ้นและแม้แต่ปลอบโยนเป้าหมายเป็นการชั่วคราวให้อยู่เป็นเวลานาน]

[จิตวิญญาณนักฝึกมอนสเตอร์ได้กลายเป็นเลเวล 3 คุณประทับการพบกันในครั้งแรกได้เป็นอยางดีและความเป็นปรปักษ์และความระมัดระวังของศัตรูของคุณก็จะลดลง มอนสเตอร์เป้าหมายที่ถูกฝึกในปัจจุบัน: 2/2]

แม้ว่ารังไวเวิร์นจะเป็นดันเจี้ยนระดับ S แตว่าล็อทเต้มีระดับ S+ ฉันอยากจะรู้ว่าทำไมและคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะว่าเธอมีชื่ออยู่

ตัวอย่างเช่นพลีนที่ไม่มีชื่อจนกว่าฉันจะมอบให้กับเธอ ในทางกลับกันล็อทเต้มีชื่อว่าเซอร์เต้ เพียงแค่เห็นปีกและผิวสีดำของเธอฉันก็สามารถจะบอกได้เลยว่าเธอนั้นแตกต่างไปจากไวเวิร์นตัวอื่นๆ เธอถูกเรียกว่าราชินีไวเวิร์นและปีกทมิฬ ทั้งสองอย่างนั้นเป็นสิ่งเน้นย้ำว่าเธอเป็นตัวตนที่พิเศษ

อย่างที่พูดมานั้นเป้าหมายของพวกเขาก็ควรจะฆ่าฉันและใช้พลังของโลก มันรู้สึกแปลกๆที่เธอได้ยอมแพ้และเข้ามาอยู่ฝั่งเดียวกับฉัน เพราะว่าเธอแข็งแกร่งไปเพียงพอ ฉันคิดว่าคำสั่งที่พวกเธอได้รับมาจะเด็ดขาด แต่ว่าด้วยบางอย่างพวกเธอต้องจัดลำดับความสำคัญของชีวิตตนเอง มันดูเหมือนจะเป็นแบบนี้ ทั้งหมดนี้พลีนได้เข้ามาอยู่ในฝั่งฉันค่อนข้างง่ายดายและมันก็เป็นเหมือนกับกรณีของล็อทเต้ หรือว่ามันเป็นเพราะว่าฉันเป็นผู้ฝึกสัตว์ หรือว่ามันเป็นเพราะว่าฉันแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าแบบที่ล็อทเต้พูด ชีวิตของตัวเองมีความสำคัญมากกว่าคำสั่งงั้นหรอ? หรือว่ามันมีอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับพลีนและล็อทเต้ ในตอนนี้ฉันไม่มีทางจะรู้ได้เลย

[ขึ้นมาฮีโร่]

“ใช่สิ รบกวนด้วยนะ”

[อืมมม]

“ฉันสามารถให้เพื่อนของฉันขึ้นมาด้วยได้ไหม”

[นั่นมันไม่น่าพอใจนัก คนเพียงคนเดียวที่ข้ายอมรับเป็นนายท่านก็คือฮีโร่]

เธอได้เรียกตัวเองว่าคู่หูของฉันซึ่งแสดงว่าทักษะฝึกทำงานอย่างแน่นอน แต่มันดูเหมือนว่าจะไม่ได้หมายความว่าเธอจะเชื่อฟังฉันอย่างสมบูรณ์ ฉันได้หยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มขม

“เอาเถอะมันก็คงช่วยไม่ได้ ไปกันเลย”

[อย่าตกซะละ ก๊าซซซซซซ]

ล็อทเต้ได้เปิดปากและคำรามออกมา จากนั้นเธอก็ได้พุ่งเข้าไปหาเดรก ฉันได้ยกหอกของฉันขึ้นและสายฟ้าก็ยังคงฟาดลงมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับสปิริตออร่า

[แกไปได้รับเจ้านั่นมาจากไหน!?]

[ถ้าพ่อต้องการพ่อก็ลองเข้าไปหาไวเวิร์นใกล้ๆสิ]

หลังจากตอบข้อความพ่อกลับไป ฉันก็ได้มองไปข้างหน้า แม้ว่าการเชื่อมโยงกันระหว่างล็อทเต้กับฉันจะไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนกับฉันและริยู แต่ก็ตามที่คาดหวังไว้จากราชินีไวเวิร์น ล็อทเต้ได้หลบเพลิงของเดรกและบินผ่านเล็บเท้าหน้าไป

ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ใช้ใบมีดธาตุและตัดเข้าไปที่เท้าหน้าของมันทำให้เกิดการระเบิดของฟ้าผ่าอย่างรุนแรงและเผาเนื้อหนังลองมัน

[ก๊าซซซซ! เจ้าสารเลว เจ้ากล้าที่จะทรยศเรา!]

[นั่นมันก็ดีกว่าการเป็นอาหารมื้อเย็นของแก!]

เดรกได้โกรธขึ้นและกระทืบพื้นทำให้หุบเขาทั้งหมดเกิดรอยแยก เพราะก้อนหินที่ตกลงไปทำให้คนที่อยู่ด้านล่างของหุบเขาวิ่งหนีกันวุ่นวาย ฉันได้เล็งหอกไปอีกครั้ง

[ข้าจะฆ่าเจ้า]

ดวงตาของเดรกได้ส่องประกาบและจ้องมามาที่ฉัน ยังไงก็ตามในขณะนั้นได้มีกระสุนเจาะผ่านเข้ามาที่ขากรรไกรบนของมัน ฉันรู้สึกประหลาดใจมากกับความแม่นยำในการยิงนี้ จากเฮลิคอปเตอร์เป็ปเปอรืได้โจมตีเข้าที่จุดที่ฉันได้เล็งโจมตีไปด้วยหอกในก่อนหน้านี้อย่างแม่นยำ มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับทักษะของเขา

[T.K นายนี่มีสัตว์ขี่ที่เจ๋งจริงๆ! หอกนั่นก็ด้วยโครตเจ๋งอะ!]

เป็ปเปอร์ได้บินมาข้างๆล็อทเต้และตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังที่ไม่แพ้เสียงคำรามของมอนสเตอร์เลย ฉันได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

“ยิงได้สวยเป็ปเปอร์”

“มันไม่เท่าไหร่น่า”

พวกเราแต่ละคนต่างก็หวังให้มีโชคดีและแยกกันในทันที เพลิงเลเซอร์ของเดรกได้ถูกยิงออกมาผ่านอากาศระหว่างพวกเรา ในขณะเดียวกันพวกระดับสูงๆทุกคนที่พักอยู่ในห้องพักและพวกระดับสูงที่กระจายกันอยู่ทั่วพื้นที่ดันเจี้ยนก็ได้มารวมตัวกันซึ่งมีประมาณ 70 คนได้ ยังไงก็ตามแม้ว่าหนึ่งในสามของระดับ S ของโลกจะอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่สามารถจะพูดได้ว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะเฟรมเดรกได้อย่างมั่นใจ

[ลงมา ฉันจะให้พรกับนาย!]

รูเดียได้ส่งข้อความมาหาฉัน ดูเหมือนว่าเธอจะย้อนกลับมาหลังจากที่ฮอลิคอปเตอร์ได้ลงจอด ฉันลังเลอยู่แต้ว่าเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์ของเป็ปเปอร์ที่เคลื่อนไหวเหมือนกับสิ่งมีชีวิตและดึงความสนใจของเดรก ฉันก็ได้หยักหน้า การให้พรของรูเดียไม่สามารถจะละเลยไปได้ มันจะดีที่สุดที่จะไปรับมันอย่างรวดเร็วในขณะที่เป็ปเปอร์ยังล่อเดรกเอาไว้ได้

ล็อทเต้ได้ร่อนลงมาในบึงที่เกิดขึ้นจากฝนตกหนัก เมื่อมองเห็นร่างกายที่ใหญ่โตของล็อทเต้ทั้งรูเดียและเยอึนก็ตกใจ

“มะ มันใหญ่เป็นสองเท่าของไวเวิร์น”

“ฉันไม่เคยเห็นไวเวิร์นที่ใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย…ชินได้มายังไง”

“ฉันจะอธิบายทีหลังนะ! รูเดียให้พรฉันเลย!”

“อือ โอ พลังที่สถิตในแผ่นดิ โอ พร! เราจะต้องสู้เพื่อปกป้อง ได้โปรดให้เราได้ยืมพลัง! โอ มิทารัส ได้โปรดอวยพรและมอบพลังให้กับเรา!”

[คุณได้รับพรแห่งนักรบมิทารัสซึ่งได้รับการเสริมด้วยพลังจากผืนดิน ภายในระยะเวลาแสดงผลพลังชีวิตและมาาของคุณจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและพลังโจมตีและป้องกันของคุณจะเพิ่มขึ้น 20% ในการป้องกันคุณจะมีโอกาสที่จะ ‘ป้องกันสมบูรณ์แบบ’ จากการโจมตีของศัตรู]

ฉันรู้ว่าการลงมามันเป็นความคิดที่ดี! หลังจากยืนยันว่าได้รับพรของรูเดียแล้ว ฉันก็ได้บอกให้ล็อทเต้บินขึ้นไปอีกครั้ง ยังไงก็ตามก่อนที่ล็อทเต้จะยกปีกขึ้น รูเดียก็ดได้ถอดฮูดออกทำให้เปียกฝน แม้ว่าเธอจะใส่หน้ากากอยู่แต่ก็ไมสามารถจะป้องกันฝนได้

“ชิน อย่าตายนะ โอเคไหม!?”

“แน่นอน เธอก็ระวังด้วยนะ”

ฉันได้ยิ้มออกไปบางๆ ฉันไม่แน่ใจว่าเธอเห็นใบหน้าชัดเจนไหมในสายฝน แต่เธอก็ได้ยิ้มออกมาเช่นกัน เยี่ยม เธอเริ่มดีขึ้นแล้ว

เยอึนกำลังพุ่งเข้าไปหาเดรกด้วยมีดสั้นในมือแต่ละข้างและฉันก็ได้ให้ล็อทเต้บินเข้าไปหาเดรก ในตอนนั้นเองเดรกก็ได้กระทืบพื้นทำให้เกิดรอยแยกใหญ่ขึ้น มันเป็นการโจมตีด้วยการทำให้แผ่นดินไหว

[เจ้าลูกชาย ให้พ่อขึ้นไปบนนั้นด้วยคนสิ]

[เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการให้คนอื่นขี่เธอ]

ฉันได้พุ่งลงมาที่พื้นเหมือนกับลูกศรในขณะที่ตอบกลับพ่อ ไม่ว่าหุบเขาจะกว้างยังไงมันก็ยังคงเป็นหุบเขา ถ้าหากว่าพื้นดินเริ่มทรุดตัวลงไปมันก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนที่จะหลบหนี ด้วยกรงเล็บของล็อทเต้ ฉันจึงได้คว้าคนอื่นๆที่จะตกลงไปในรอยแยกได้

“ว๊ากกกก”

“ใจเย็นลงก่อน ฉันจะปล่อยนายลงไปในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว”

ฉันได้ปล่อยเขาเอาไว้บนหุบเขา มันอาจจะปลอดภัยกว่าและมันง่ายสำหรับฉันที่จะไปจัดการเดรกต่อ ฉันได้ให้ล็อทเต้ออกไปต่อโดยที่ไม่ฟังคำขอบคุณของพวกเขา ยังไงก็ตามหลังจากที่ฉันได้ช่วยคนอื่นๆ ไวเวิร์นปกติก็ทำให้ฉันไม่สามารถจะโฟกัสที่การต่อสู้กับเดรกได้ พวกมันได้โจมตีเหล่าผู้ใช้พลังอย่างรุนแรงราวกับว่านี่จะเป็นการกินอาหารมื้อสุดท้ายของพวกมันก่อนที่จะถูกเดรกฆ่า

“เธอไม่สามารถจะสั่งไวเวิร์นตัวอื่นๆได้หรอ?”

[ระหว่างมอนสเตอร์ เจ้า…]

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว”

ล็อทเต้ได้กระพือปีกของเธอและยกระดับความสูงขึ้นไป สภาพอากาศได้ย่ำแย่ลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากท้องฟ้าได้มีสายฝนและสายฟ้าโหมกระหน่ำลงมา ฉันได้ยกหอกกลืนกินขึ้นไปและได้ยินเสียงตะโกนที่ตื่นเต้นของไพก้า มันทำให้ฉันอดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้

“ล็อทเต้พวกเราจะใช้ทักษะที่ใช้กวาดไวเวิร์นในก่อนหน้านี้ เป้าหมายสุดท้ายของพวกเราก็คือเดรก”

[เข้าใจแล้ว]

“เอาล่ะนะ ถ้างั้น….ว๊ากกก พวกแกทุกตัวเข้ามาสู้กับฉันนี่”

[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ ศัตรูทั้งหมดในพื้นที่นี้จะเป็นปรปักษ์ต่อคุณ!]

[ก๊าาาาาาา]
[ก๊าซซซซซซซซ]

ไวเวิร์นได้เปลื่ยนเป้าหมายจากผู้ใช้พลังและเข้ามาหาฉัน พวกมันได้กระพือปีกอย่างรุนแรงในขณะที่พวกมันร้องออกมา เดรกก็ยังหันหน้ามาหาฉันและยิงเลเซอร์ตรงมาหาฉัน ไวเวิร์นที่อยู่ในเส้นทางนั้นได้ถูกเผาจนตายไป ส่วนล็อทเต้ได้หลบการโจมตีนี้ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเธอ

“เยี่ยม ทำได้ดีมากล็อทเต้”

[ฮึ่ม นั่นมันก็แค่นิดหน่อยเอง]

“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะเส้นทางวายุ!”

เพราะว่าเลเซอร์ของเดรกมันจึงทำให้เป็นการยากที่จะตั้งไวเวิร์นยี่สิบตัวไว้ในเส้นทางของเส้นทางวายุ ยังไงก็ตามด้วยความคิดในตอนที่เพรูต้าได้ใช้เว้นทางวายุ ฉันก็ได้หมุนวนวงจรเพรูต้าอย่างรุนแรงและนำล็อทเต้

“ฮ่าาาาาห์!”

หนึ่ง สอง สาม… ด้วยการเปลื่ยนเส้นทางการพุ่งอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันได้ฆ่าตัวที่สี่ จากนั้นก็ตัวที่ห้า…! ดวงตาของเดรกได้ส่องประกายและตะโกนออกมา

[โวลคาโน่]

‘อะไรนะโวลคาโน่? มันไม่มีภูเขาไฟอยู่ที่นี่นิ… เดี๋ยวก่อนะสิ!’

เพลิงสีแดงชานได้ลุกขึ้นมาจากรอยแตกที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวครั้งโกน การเฝ้ามองดูผู้ใช้พลังระดับ S พยายามอย่างดีที่สุดที่จะป้องกันหรือหลบพวกมันเหล่านั้น ฉันได้เรียกริยูออกมา

“เธอสามารถจะหยุดมันได้ไหม?”

[ไม่มีปัญหา]

เมื่อลาวาได้ถูกยิงมาทางล็อทเต้และฉัน ริยูก็ได้แช่แข็งมันไปในทันที เธอสามารถจะแช่แข็งได้แม้แต่ลาวา! พวกเราได้รีบไปต่อในทันที ตัวที่สิบเอ็ด สิบสอง…! ชิ ลาวาได้ฆ่าไวเวิร์นไปจำนวนมาก

[ฉันจะต้องบินพุ่งตรงเข้าไปหาเจ้าเวรนั่นในตอนนี้!]

“ไป! ริยูหยุดการโจมตีของเจ้านั่น”

[เข้าใจแล้ว]

ทันทีหลังจากนั้นริยูก็ได้หยักหน้ารับ กลุ่มสายฝนที่ตกหนักได้เปลื่ยนเป็นคริสตัลน้ำแข็งและเริ่มหมุนรอบๆตัวของล็อทเต้ คริสตัลน้ำแข็งได้รวมตัวอยู่รอบๆล็อทเต้มากขึ้นเรื่อยๆและในที่สุดเราก็เหมือนกับพายุคริสตัลน้ำแข็ง

[ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะสะกิดข้าได้!]

เมื่อเดรกได้ตะโกนออกมาแผ่นดินก็ได้สั่นสะเทือนและน้ำค้างทั้งหมดก็ได้ตกออกมาจากและระเบิดออกไปทุกทิศทาง เฟรมเดรกสามารถจะใช้น้ำได้ยังไงกัน!? ฉันรู้เพียงแค่ว่ามันเพิ่งจะใช้มานาที่ไร้ซึ่งขอบเจตเพื่อส่งให้น้ำลอยออกไป แต่ว่ามันก็ยังพอท่จะสร้างความเสียหายกับผู้ใช้พลังระดับ S นอกจากนี้การโจมตีนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนเหมือนกับปืนกลของเป็ปเปอร์ แม้ว่าฉันะไม่เป็นอะไรเพราะพายุคริสตัลเยือกแข็งของรูเดีย แต่ฉันก็ขอร้องให้ล็อทเต้เกี่ยวกับผู้ใช้พลังระดับ S

จากนั้นทันใดนั้นเดรกก็ได้หยุดการเคลื่อนไหว ได้มีเลือดสีดำไหลออกมาจากลำคอของมัน ในเวลาเดียวกันเสียงที่เต็มไปด้วยพลังมานาที่ทำให้รู้สึกไม่ดีก็ได้ดังขึ้นไปทั่วทั้งหุบเขา

“อ่าฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆ! นี้มันสนุกมาก สนุกจริงๆเลย! อ๊าาาาา โลกนี้แหละยอดเยี่ยมที่สุด!”

…ไม่ใช่ว่านั่นเป็นเสียงของเยอึนหรอกหรอ!?

 

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset