Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 155 – หอกโกลาหลสีชาด(5)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 155 – หอกโกลาหลสีชาด(5)

บทที่ 155 – หอกโกลาหลสีชาด (5)

[คุณได้เข้าสู่ดันเจี้ยน ‘โลกแมลง’]

“ฮี้”

ในขณะที่ข้อความดังขึ้น ฮวาหยาก็ได้กรีดร้องและกระโดดมาหาฉัน ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงสัมผัสที่อบอุ่นและกลิ่นหอมหวาน ฉันได้มองลงไปที่ฮวาหยาอย่างงุนงง ในเวลาเดียวกันคนอื่นๆก็ได้มองมาที่ฉันที่งุนงงอยู่ และพูดออกมาด้วยเสียงที่ร่าเริง

“พวกเราคงจะไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือจากฮวาหยาได้ แต่ว่าพวกเราต้องทำให้ดีที่สุด”

“ลูกสาวแมงมุมมันไม่ใช่แมลง ลูกไม่ต้องกังกลว่าจะเห็นพวกมันที่นี่หรอกนะ”

“คุณลุง หนูรู้สึกไม่ดีกับทั้งแมงมุมและแมลง….”

ใช่แล้วฉันรู้ว่าเธอเคยบอกแบบนั้น… ฉันไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจออกมา

“ฮวาหยาฉันเข้าใจว่าเธอรู้สึกยังไง แต่ว่านี้มันคือดันเจี้ยนระดับ SS หากไม่มีเธอพวกเราจะอยู่ในอันตราย”

“ใช่ ขอโทษนะ… ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”

“พวกเรายังไม่ได้แม้แต่เข้าไปหามอนสเตอร์ใดๆเลย”

“อีกนานไหมกว่าเธอจะไปพร้อมกับพวกเรา”

เมื่อเห็นฮวาหยาไม่ได้ขยับเลยหลังจากบอกว่าจะพยายามอย่างดีที่สุด รูเดียก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น ฉันได้แยกตัวจากฮวาหยาอย่างช้าๆด้วยรอยยิ้มขมและมองไปรอบๆ

“ถ้างั้นฉันจะไปสำรวจพื้นที่รอบๆบนล็อทเต้…ล็อทเต้?”

[เหตุการดันเจี้ยนนี้ป้องกันมอนสเตอร์ที่มีมานาที่แข็งแกร่งจากการเข้ามา มอนสเตอร์ที่ถูกฝึก ‘ล็อทเต้’ ไม่สามารถเข้าดันเจี้ยนได้]

ตั้งแต่ที่พลีนไม่แข็งแกร่งพอที่จะเข้าดันเจี้ยนระดับ SS ฉันจึงส่งเธอกลับไป ล็อทเเต้นั้นตรงกันข้ามเธอมีพลังที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถหนุนเสริมฉันได้ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถจะเข้าดันเจี้ยนได้ เธออาจจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆด้านนอก แต่ว่าหากไม่มีเธอพวกเราอาจจะตกอยู่ในอันตราย

ไม่สิ ฉันก็ไม่ได้เหมือนในอดีตแล้ว แต้มสเตตัสของฉันได้เพิ่มขึ้นทุกวัน และฉันก็ยังได้เรียนรู้ไต้ฝุ่นคลั่ง แม้แต่ก่อนหน้านี้ฉันก็ยังมีเพื่อนของฉันและฉันได้ล้มเฟรมเดรกระดับ SS มันไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเราจะไม่สามารถเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้ด้วยกำลังของพวกเรา มันเป็นการดีที่จะไม่ดูถูกตัวของพวกเราเอง

“TK เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? สิ่งที่ทำให้เธอเกิดกลัวขึ้นมาคือ…แมลงหรอ?”

“อ่า เดี๋ยวนายก็จะเข้าใจ”

ในตอนที่ฉันได้ตอบกลับเป็ปเปอร์ พื้นดินก็ถูกสั่นราวกับว่ามีฐานลับอยู่ใต้ดินกำลังโผล่ออกมา จากนั้นหัวสีดำก็ได้โผล่ออกมา มันดูเหมือนกับหัวของมดแต่ว่ามีขยายที่ใหญ่กว่าหลายพันเท่า

จากนั้นฮวาหยาก็กระโดดเข้ามาหาฉันอีกครั้ง

“ฉะ ฉันอาจจะไม่สามารถทำมันได้ ฉันขออยู่แบบนี้ได้ไหม?”

“ไม่!”

ในขณะที่ฉันตะโกนใส่ฮวาหยา พ่อก็ได้พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับหอก หอกของพ่อได้สั่นอย่างรุนแรงด้วยคลื่นกระแทกที่รวมกันอยู่ มดนั้นได้เจอกับพ่อและหันหัวยักษ์ที่น่าขนลุกและเสาหนวดที่น่ารำคาญมาทางพวกเรา จากนั้นเอง

“หัว”

“ผมรู้นะว่าพ่อรู้สึกยังไง แค่นั้นเป็นหอกไม่ใช่เคนโด้นะพ่อ”

พ่อได้ฟาดหอกลงไปที่หัวของมด น่าประหลาดใจมากที่มดได้รับหอกของพ่อได้อย่างงายดายด้วยกระดองที่แข็งของมัน แม้ว่าหัวของมันจะถูกแรงสั่นสะเทือนของหอกปปะทะอยู่ แต่ว่ามันก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนออกมา

“ฮ่าาาห์”

ยังไงก็ตามพ่อก็ไม่ได้ถอยกลับและยิงคลื่นกระแทกที่ทรงพลังกว่าเดิมออกไป พ่ออาจจะทำได้ดีที่สุดในโลกแล้วในการผ่านการป้องกันด้านนอกและโจมตีจากภายใน มดได้กระตุกอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หัวจะหลุดกระเด็นระเบิดออกมา

“ก๊าซซซซซซ”

เพราะความกลัวของฮวาหยาทำให้เธอใช้ไฟของเธอทำลายเมือกของมด ในอีกด้านหนึ่งพ่อก็ดูเหมือนจะไปอาบน้ำมา แต่พ่อก็ไม่ค่อยจะสนใจมันในขณะยกนิ้วขึ้น

“แกเห็นไหมเจ้าลูกชาย?”

“จ้า พ่อ มันเป็นการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบ”

ฉันได้จ้องพ่อไปอย่างไม่เป็นสุข ทันใดนั้นเองเยอึนก็เอามือจุ๊ปากบอกให้พวกเราเงียบลง

“มีอะไรบางอย่างกำลังมาที่นี่จำนวนมากชิน”

“จำนวนมาก?”

ฉันได้รีบตั้งใจฟังการสั่นของพื้นดินและการปรากฏออกมาของมานา มีศัตรูกำลังรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก ปัญหาก็คือพวกมันไม่ใช่แค่มาจากผืนดิน

เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นไปมันก็เป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ ฉันได้เห็นกลุ่มเมฆสีดำกำลังพุ่งเข้ามาหาพวกเรา นั่นมันก็คือ…

“ฝูงตั๊กแตน”

“อึก….กรี๊ดดดดดดดดด”

ในท้ายที่สดแล้วฮวาหยาก็ไม่สามารถจะทนกับความกลัวในใจของเธอได้และระเบิดมันออกมา เพลิงสีแดงของเธอได้ถูกยิงออกไปเหมือนกับคลื่นและกวาดเหล่าฝูงตั๊กแตนที่กำลังเข้ามาทางเรา

“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาาาาาาาาาาาา”

“สาวน้อยผู้ที่กลัวแมลง….”

วอร์คเกอร์ได้พึมพัมออกมาเบาๆ เพลิงอันกว้างใหญ่ที่ฉันไม่เคยได้เห็นมาก่อนได้เริ่มเผาเหล่าตั๊กแตนที่เข้ามาเหมือนกับภัยพิบัติ ฝูงตั๊กแตนที่ตายไปทุกตัวได้ตกลงมาบนพื้นส่งเสียงดังกระหึ่ม ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมได้แพร่กระจาออกมาและฉันก็ต้องห้ามน้ำลายเอาไว้

“ตัวอื่นก็กำลังเข้ามาแล้ว”

เยอึนได้ตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ เวรเอ้ยฉันได้ลืมไปเพราะการโจมตีที่น่ากลัวของฮวาหยา ฉันรู้สึกได้ถึงการคงอยู่จำนวนนับไม่ถ้วนจากพื้นดินเช่นกัน ในขณะที่ฉันตระหนักได้ฉันก็ตั้งหอกกับพื้นและตะโกนออกมา

“คลื่นสายฟ้า”

[ก๊าซซซซซซ!]

เหล่าแมลงได้ร้องออกมาจากการโจมตีทางสายฟ้าของฉัน ไม่นะ ช่วยหยุดทีเถอะ…พวกแกกำลังทำให้ฉันขนลุก

เหมือนกับมดพวกเราได้ฆ่ามันในทันทีที่โผล่ออกมา ส่วนใหญ่พวกมันจะเป็นมด แต่ว่ามันก็ยังมีพวกฝึ้ง หนอนและตัวอ่อน ฉันไม่คิดว่าแมลงมันน่าขยะแขบงแต่ว่าการมาได้เห็นพวกมันขยายมาหลายพันเท่า มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่น่ากลัวและน่าขนลุกที่สุดที่ฉันได้พบ

หลังจากที่ฮวาหยาเห็นพวกมันเธอก็เริ่มสั่น

“ฉะ ฉันกลัวชิน ฉันกลัว”

“เธอทำได้ดีแล้วฮวาหยา เพียงแค่พยายามเผาตั๊กแตนฉันจะจัดการพวกที่เหลือเอง”

“อะ โอเค ขะ เข้าใจแล้ว”

ฮวาหยาได้ปิดตาของเธอแน่นในขณะเดียวกันคนอื่นๆก็ได้เริ่มฆ่าแมลงด้วยวิธีของตัวเอง

“ฮ่าๆ ฉันไม่คิดว่าจะมีมอนสเตอร์ที่สามารถจะรอดจากกระสุนดีเซิท อีเกิลของฉันได้! สนุกอะไรแบบนี้!”

“โอ ผืนดินโปรดลงโทษสิ่งมีชีวิตที่ขโมยพรของท่านและท้าทายอำนาจของท่าน”

“พวกมันหนังเหนียวมากเลย! แต่ว่าพวกมันก็ไม่ได้มองมาที่ฉันแม้ว่าฉันจะโจมตีพวกมัน”

ด้วยคำพูดของฮวาหยา ฉันได้หันไปรอบๆ ไม่ว่าพรรคพวกของฉันจะโจมตีพวกมันยังไง พวกแมลงก็ไม่ได้สนใจและวิ่งต่อไปที่ไหนสักแห่ง ดูเหมือนว่าเป้าหมายของพวกมันคือ…. พ่อของฉัน

“ฮฺ่าๆๆๆ เข้ามาเลย คังยงอูคนนี้จะจัดการพวกแกเอง”

พ่อของฉันได้ตะโกนเหมือนกับอยู่ในหนังและเข้าปะทะกับเหล่าแมลง คลื่นกระแทกของพ่อเป็นพลังที่ใช้ต่อสู้กับแมลงได้เป็นอย่างดี มันได้ทำลายเหล่าแมลงจากด้านใน

อะไรคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างพ่อและสมาชิกปาตี้คนอื่นๆ? มันเห็นได้ชัดเลยว่าร่างกายของพ่อได้ถูกปกคลุมไปด้วยของเหลวจากร่างกายมดที่เขาฆ่าไป นอกจากนี้พ่อก็ยังเพิ่มของเหลวจากแมลงอื่นๆเข้าไปอีกในตอนฆ่าพวกมัน

“พ่อ พ่อจะต้องล้างตัวก่อน! เมือกของมดนั้นดึงดูดพวกแมลง”

“ไม่ใช่ว่าพวกเราต้องฆ่าพวกมันทั้งหมดหรอ?! ทำไมพวกลูกไม่ถูกปกคลุมไปด้วยเมือกล่ะ?”

“ขอบคุณ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมคิดไว้แล้วว่าพ่อจะพูด”

ถ้าพ่ออาสาจะล่อพวกมัน มันก็เป็นหนาที่ของลูกชายที่ดีที่จะใช้ประโยชน์จากพ่อ

“พ่อได้บอกว่าเขาจะเป็นเหยื่อล่อให้ รูเดียและเป็ปเปอร์ลดจำนวนแมลงจากระยะไกล คนที่โจมตีระยะประชิดทุกคนมาอยู่ใกล้ๆพ่อและโจมตีแมลง อ่าชูนะเธอช่วยอยู่ใกล้ๆกับฮวาหยา รูเดีย และก็เป็ปเปอร์เพื่อป้องกันพวกเขา”

“เข้าใจแล้ว”

“เป็นความคิดที่ดี”

หลังจากอธิบายแผนไปแล้ว ฉันจึงแยกตัวจากฮวาหยาและส่งเธอไปให้กับชูนะ จากนั้นฉันก็พุ่งไปด้านหน้าด้วยหอกของฉัน ไพก้าได้เข้าไปในหอกของฉันและเปล่งประกายสายฟ้าออกมา ในขณะเดียวกันฉันก็หมุนโคจรวงจรเพรูต้าซึ่งได้เริ่มสร้างวังวนพายุขึ้น

“ริยู”

[เย้มันถึงเวลาที่ฉันจะสร้างรูปธรมมแล้วสินะ]

“ฉันจะใช้ทักษะแล้ว เธอจะต้องพาฉันวิ่งไปนะ?”

[แน่นอนจ้า]

ฉันได้รีบกระโดดขึ้นไปบนหลังของริยูในทันทีซึ่งริยูก็ได้วิ่งออกไปข้างหน้า เหล่าแมลงพวกนี้มันมีมากเกินไปแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยเปิดใช้งานเส้นทางวายุในทันที ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นฉันได้ส่งด้วงด้านหน้าลอยออกไแปทันที

“โอร๊าาาาาาาาาาาาาา!”

ทุกครั้งที่ฉันส่งแมลงกระเด็กไปริยูก็จะเร็วขึ้นและการพุ่งก็รุนแรงขึ้นด้วย ด้วยผลของเพราะและรอยสักการพุ่งจะถูกเพิ่มพลังไปถึง 110% ทุกๆครั้งที่เราส่งแมลงกระเด็กออกไปมันก็จะเพิ่มขึ้นอีก 7% หลังจากถึงแมลงตัวที่สิบร่างของแมลงก็เริ่มระเบิดออกมาเพิ่งแค่โดนหอกของฉัน ฉันได้เปลื่ยนทิศทางการพุ่งไปอย่างอิสระและฆ่าแมลง ถ้าพวกแกคิดที่จะเอาชนะรีไวเวิร์ล เอาชนะคังชินกับของแค่นั้นพวกแกก็คิดผิดมหันต์แล้ว

“ฮ่าาาาาาาาาาาาาห์!”

ฉันได้ตะโกนก้องออกไปอย่างกล้าหาญและตระหนักได้ว่าเส้นทางวายุกำลังจะไปถึงขีดสุดแล้ว หรือก็คือพวกเราได้ส่งแมลงกระเด็กไป 30 กว่าตัวแล้ว

ความแข็งแกร่งดั้งเดิมของฉันได้ถูกเสริมโดยเส้นทางวายุซึ่งจาก 110% แล้วขยายเพิ่มไปอีก 200% ถึงแม้ว่าฉันจะแข็งแกร่งขึ้นถ้าอยู่บนล็อทเต้ แต่ว่ามันก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะคิดในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ที่นี่ ฉันดีใจที่ริยูยังอยู่กับฉันตรงนี้

“นายเป็นแท้งงั้นหรอ!?”

“ว้าว เขาแข็งแกร่งมาก”

“โอ ผินดินปกป้องเขาจากอาการบาดเจ็บ”

ฉันฆ่าแมลงไปเท่าไหร่แล้วนะ? หลังจากวิ่งไปอยู่แนวหน้าอยู่ขณะหนึ่งทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงแผ่นดินที่สั่นสะเทือน ฉันนึกได้เพียงแค่ว่าคลื่นแมลงรอบที่สองกำลังมา

ฉันจะต้องจัดการแมลงใกล้ๆและเตรีมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งสุดท้ายของเส้นทางวายุ พลังงานลมได้ถูกรวบรวมและเสริมพลังให้กับไต้ฝุ่นคลั่ง

“เข้ามา ฉันจะส่งพวกมันบินไปเอง…”

ฉันได้จับหอกแน่นและปรับท่าทาง ฉันเตรียมที่จะฆ่ามอนสเตอร์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

จากนั้นก็มีอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากพื้นด้วยหัวที่มีเขาน่าสะพรึงกลัว ขาเหมือนกับหนามสีแดงเข้ม และขาหลายๆขา…มันทำให้ฉันอดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้

“ตะขาบ! เฮ้ แกไม่ใช่แมลงนะ”

ถ้าจะทำแบบนี้ทำให้ไม่ตั้งชื่อว่าโลกสัตว์น่าขยะแขยงเลยล่ะ ในตอนนี้ที่ฉันคิดเรื่องนี้ฉันก็รู้สึกว่าฉันได้ฆ่าเจ้าสิ่งที่ไม่ใช่แมลงนี้ไปแล้ว

“ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวนี้มันเป็นสิ่งที่ผิดหรอกหรอ?”

“จะ เจ้าตัวนั้นมันคืออะไร มาได้ยังไง”

“ฉันเข้าใจแล้ว แม่มดเพลิง แต่ว่านะเธอช่วยเปิดตาและพูดมันได้ไหม?”

“ตายซะ นายมันจะปีศาจน่าโง่”

ฉันได้ตั้งหอกของฉันเอาไว้และปล่อยพายุเข้าใส่ตะขาบ ตะขาบที่ได้ปรากฏออกมาได้ถูกทำลายจนเป็นชิ้นๆในทันที ส่วนที่โผลออกมาด้านนอกกว่า 20 เมตรได้ถูกทำลายทิ้งจนหมด

“ดูเหมือนมันจะเป็นมอนสเตอร์กึ่งบอส”

ฉันได้วางมือลงไปบนของตะขาบที่ถูกตัดออกและใส่มันลงไปในช่องเก็บของ ตรวจสอบรอบๆด้วยทิศทางของมานารอบๆนั้นฉันก็สังเกตุเห็นบางอย่าง…มันคือมานาสโตน เยี่ยม มานาสโตนจากมอนสเตอร์กึ่งบอสระดับSS นี้มันคือสิ่งที่ทำให้ดันเจี้ยนนี้น่าตื่นเต้น

“พวก มันมีอะไรบางอย่างนอกจากไปจากตั๊กแตนที่บินอยู่”

ในขณะที่ฉันกำลังเพลินกับความสุขของชัยชนะ เสียงของเป็ปเปอร์ก็ดังออกมา สิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตั๊กแตน? ฉันได้เงยหน้าของฉันขึ้นไปและมองตามไปยังที่ๆเป็ปเปอร์ชี้ไป ฉันได้เห็นฝูงแมลงตัวอื่นๆที่ไม่ใช่ตั๊กแตน ฉันได้สบถออกมาโดยไม่ตั้งใจ

“เวรเอ้ย แตนยักษ์ของเอเชีย”

มันดูเหมือนว่าการต่อสู้จะแย่ลงไปกว่านี้ ฉันเคยได้้ยินมาว่าแตนมันสามารถที่จะฆ่ามนุษย์ แต่ว่าเจ้าพวกนี้มันขยายขนาดขึ้นอีกหลายพันเท่า นั่นมันคือสิ่งที่…โกง มันโกงที่สุด

“เจ้าพวกเวรนี้มันไม่แม้แต่จะมีอยู่ในอเมริกา”

เหล่าแตนยักษ์ได้เมินเสียงตะโกนของฉันและบินเข้ามาหาพวกเราเหมือนลูกธนู มันได้เริ่มต้นรอบที่สองแล้ว

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset