บทที่ 156 – หอกโกลาหลสีชาด (6)
“ฮวาหยาจัดการพวกมัน”
“ผะ ผึ้ง แตน….หว่าาาา”
ฉันได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่ล้มลง วอร์คเกอร์ก็ได้บอกกับฉันอย่างรวดเร็ว
“โอ้… มัสติฟอร์ดหยุดเคลื่อนไหวไปแล้ว”
“นั่นมันไม่ดีเลยนะ”
ฉันต้องการที่จะทำให้ฮวาหยาฟื้นขึ้นมา แต่ว่าแตนยักษ์นั้นเร็วเกินกว่าที่ฉันจะเมินมันได้ ฉันจะต้องป้องกันแตนในขณะที่ฮวาหยากำลังฟื้นตัว
“ริยู ช่วยที”
[อือ เมฆคริสตัล]
เวทมนตร์ธาตุของริยูได้สร้างคริสตัลน้ำแข็งขึ้นมาจำนวนนับไม่ถ้วน อนุภาคที่มองไม่เห็นก็ได้กลายเป็นหมอกเมฆและขยายตัวต่อไป
“TK นี่เป็นความสามารถของนายหรอ น่าทึ่งจริงๆ”
“มันเป็นพลังของหมาป่าที่ฉันขี่อยู่ เธอมีชื่อว่าริยู ดูไว้ให้ดีนะมันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น”
ฝูงแตนได้บินเข้ามาในเมฆนี้ พวกมันได้ช้าลงไปในทันทีที่เข้ามา คริสตัลน้ำแข็งได้ติดอยู่กับร่างกายและปักทำให้พวกมันช้าลงอย่างมาก ซึ่งนี่ก็เพียงแค่เป็นจุดเริ่มต้น
“ไพก้าแสดงรูปธรรม!”
[กำลังรออยู่เลย]
สปิริตออร่าได้ถูกยกเลิกไป และไพก้าที่สวมใส่ชุดเดรสสีดำสวยงามได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เธอรู้ดีว่าจะต้องทำอะไร ด้วยรอยยิ้มเธอได้ถือแส้สายฟ้าเอาไว้ ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นลงไปและตะโกนออกมา
“เผาพวกมันเลย”
[โซ่สายฟ้า!]
เมฆคริสตัลที่คลุมร่างแตนอยู่ได้กลายเป็นพายุเมฆในทันที คลื่นสายฟ้าได้แลบโผล่ขึ้นมาในท้องฟ้าและเผาเหล่าแตนไป ยังไงก็ตามพวกแตนมันยังมีอยู่จำนวนมากและยังมีแมลงที่คลานออกมาจากรูที่ตะขาบสร้างขึ้น แม้ว่าพวกมันจะเป็นมอนสเตอร์ที่ถูกจัดอยู่ในระดับ SS ทั้งหมด แต่ว่าพวกมันไร้ซึ่งมารยาทจริงๆ พวกมันปรากฏตัวกันออกมาเป็นกลุ่มแทนที่จะมาทีละตัว
ฉันได้ได้เหวี่ยงหอกไปรอคอยระยะเวลามานาโพชั่นหมดลง พ่อ วอร์คเกอร์และเยอึนก็ยังลดจำนวนพวกมันลง ฉันรู้สึกดีใจมากที่พาเป็ปเปอร์มาด้วย เขามีปืนพกอยูู่ในมือแต่ละข้าง นอกเหนือจากในตอนเติมกระสุนแล้วเขาได้ยิงกระสุนออกไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา การโตมตีของเขาได้ช่วยหยุดพวกแมลงที่จะเข้ามาร จากนั้นเองฮวาหยาก็ได้ฟื้นมา
“ฮวาหยาช่วยที”
“อ๊า ฉันเกลียดที่แบบนี้มาก….”
มันดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้นแล้วหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาหลังจากเป็นลม แม้ว่าเธอจะร้องไห้ไปในขณะที่กอดฉันไป เธอก็ได้ถือคทาเอาไว้ซึ่งคทาของเธอได้กลายเป็นร้อนสีแดงและมานาของเธอก็ได้เพิ่มขึ้นในทันที จากนั้นมานาก็กลับเข้าไปในร่างกายของเธอและไหลลงไปในลูกแก้ว ตาสีทองได้กระพริบอยู่ตลอดเวลาและเปล่งแสง จากนั้นฉันก็รู้สึกว่ากองทัพแมลงได้หันมาสนใจฮวาหยา
“ทุกคนเตรียมตัวโจมตี”
ฮวาหยาได้ตะโกนออกมาและโยนลูกแก้วขึ้นไป ฉันได้รู้ในทันทีว่าไม่ใช่ฮวาหยาที่ดึงความสนใจของพวกมันแต่กลับเป็นลูกแก้ว ลูกแก้วได้เปล่งแสงวูบวาบสีทองออกมารัวๆก่อนจะกระจายมันไปทุกทิศทาง
[ก๊าซซซซซซ]
[กี้ๆๆๆๆ]
ทั้งแมลงที่บินหรืออยู่บนพื้นต่างก็หยุดนิ่ง ฉันคิดว่ามันเป็นเวทย์ข่มขูอะไรบางอย่าง แต่แล้วจากนั้นฮวาหยาก็พูดอะไรบางอย่างออกมา
“ฉันได้ผูกพวกมันทั้งหมดด้วยกัน ตัวที่มีแสงนี้ทั้งหมดจะได้รับความเสียหาย 10% ภายใน 10 วินาทีต่อมา”
“นั่นมันเป็นทักษะที่โกงมากเลยนะ”
“มันเป็นพลังของลูกแก้ว”
“นั่นมันไอเทมโกง”
แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ยอมที่จะเสียเวลา 10 วินาทีไป ฉันได้ปล่อยออร่าลงไปในหอก ซึ่งเพลิงสีดำได้เริ่มเผาอยู่บนหอก ฉันได้ให้มานาส่วนที่เหลือกับไพก้าและตะโกนออกไป
“ไพก้าโจมตีมันเพียงตัวเดียวแบบเต็มกำลัง”
[ศรสายฟ้า]
สายฟ้าของไพก้าได้ถูกยิงออกไปเผาผึ้งใกล้ๆโดยไม่เหลือแม้แต่ขึ้เท้า แมลงที่อาบด้วยแสงของลูกแก้วได้เริ่มร้องและถูกเผา สมาชิกปาตี้คนอื่นๆก็ได้ใช้โอกาสนี้ในการโจมตีเป้าหมายหนึ่งด้วยพลังเต็มที่
[ก๊าซซซซซซซซ]
[ก๊าาาาาาาาา]
ผลมันเป็นที่น่าตกใจมาก พวกมันไม่ได้เพียงแค่หยุดเคลื่อนไหวเท่านั้น พวกมันกำลังจะตายไป จากนั้นฉันก็ได้โฟกัสไปที่พลังในหอกของฉัน ก่อนที่เวลา 10 วินาทีจะผ่านไปนั้นเอง…
“นี่จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย….”
ข้างหน้าของฉันเป็นเต่าทองที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะว่าพลังสายฟ้าของไพก้าทำให้มันไม่สามารถจะขยับได้ ฉันได้เล็งหอกของฉันที่ท้วมไปด้วยเพลิงสีดำไปที่มันและแทงไปที่หลังของมันทันที
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของฉันฮีโรอิค สไตรค์! ด้วยพลังทั้งหมดของฉันที่ใส่ลงไปในหอกทำให้หอกแทงทะลุเต่าทองและเผามันไปโดยสมบูรณ์ เพราะแบบนี้เองมานาของฉันจึงว่างเปล่า ยังไงก็ตามฉันสามารถที่จะจัดการการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดภายใน 10 วินาทีได้ พวกแมลงตัวอื่นๆก็ควรจะได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน
ฉันไม่เคยสนใจเดียวกับเพลิงโกลาหลมาก่อนเลย ซึ่งฉันคิดกับมันว่าเป็นเพียงแค่ลักษณะเท่านั้น แต่ว่ามันเป็นเพลิงสีดำที่รุนแรงเมื่อฉันใส่ออร่าบริสุทธิเข้าไป ฉันเพิ่งจะสังเกตุเห็นเพราะแต่ก่อนฉันมักจะใช้สปิริตออร่า อย่างที่คิดเอาไว้เลยอาวุธระดับตำนานไม่ใช่สิ่งที่ธรรมดา มันได้เผาเต่าทองไปในทันทีซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่ามันทรงประสิทธิภาพมาก
“วูวว เหนื่อยจัง”
หลังจากที่ดึงหอกกลับมา ฉันก็นั่งลงไปในพื้นทันทีและรอมานาโพชั่นคูลดาวน์เสร็จ ยังไงก็ตามก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรฉันก็รู้สึกได้ถึงพลัง รูเดียได้รักษาให้กับฉัน ฉันได้เงยหน้าข้นเพื่อขอบคุณเธอ
และฉันก็นิ่งไป
“พระเจ้า…”
“ชินนายทำอะไร?”
“นั่นอะไรนะลูกชาย”
“…TK นายน่าทึ่งมาก!”
ทุกๆคนดูตกตะลึงมาในขณะที่พวกเขาพูดออกมา ในขณะเดียวกันฉันก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน ฉันไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้เลยจริงๆ มันเพียงเพราะฉันเพิ่งตระหนักได้ว่า…ผลของเพลิงโกลาหลเมื่อถูกใช้โดยไม่มีสปิริตออร่า ด้วยออร่าที่บริสุทธิ
[ก๊าซซซซซซซซ]
[กี้ๆๆๆ]
[กั๊กกกก]
เหล่าแมลงทั้งหมดที่อาบแสงของลูกแก้วกำลังถูกเผาด้วยเพลิงสีดำ ไม่ว่าพวกมันจะกรีดร้องหรือดิ้นรนยังไงไฟก็ไม่มีท่าทีจะดับลงไป
พวกมันได้ร้องออกมาอย่างไม่สิ้นสุดและพยายามจะต่อต้านกับเพลิง แต่ว่าด้วยดาเมจที่มันได้รับจากสมาชิกคนอื่นๆอีกมันก็อยู่ได้ไม่นานนัก กองทัพแมลงจำนวนนับไม่ท้วนได้ตายลงไปทั้งหมด
เพลิงได้ลุกขึ้นและก็หายไป
ฮวาหยาได้ตะโกนออกมา
“นั่นมันเป็นทักษะโกง”
“มะ ไม่มันเป็นพลังของหอกโกลาหล”
“นั่นมันไอเทมโกง”
เวรเอ้ย เธอได้ย้อนคำพูดของฉันมา…! ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้เพลิงโกลาหลที่ถูกเพิ่มเข้ามาในหอกของฉัน ฉันเพียงแต่คิดว่ามันเป็นเพลิงปกติที่ธรรมดา ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าสปิริออร่าของไพก้า ฉันเพิ่งจะตระหนักได้ถึงพลังของมัน
เพลิงที่ไม่มีวันดับลงจนกว่าเป้าหมายจะตาย ไม่ว่านั่นมัน….คือสิ่งที่โกงหรอกหรอ?
“กรี๊ด”
“เวร”
ทันใดนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นและแตกออกมา ซากศพมอนสเตอร์ระดับ SS ได้ตกลงไปในรอยแยกนั้น แม้ว่าสิ่งที่มีค่าเหล่านี้จะตกไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลย พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ พื้นดินใต้เท้าของเราก็แตกออกเช่นกัน
“อึก โอ ผืนดิน”
คทาของรูเดียได้ส่องแสงออกมา พื้นดินที่แยกออกได้ลดลงและดินก็โผล่กลับขึ้นมาช่วยพวกเราไว้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับรูเดียที่จะควบคุมแผ่นดินได้ รูเดียได้เม้มปากและตะโกนออกมาในขณะที่ชี้คทาลงพื้น
“มีบางอย่างอยู่ข้างล่าง….!”
“ตั้งแต่ที่แมลงทั้งหมดได้ตายไปแล้วมันน่าจะเป็นบอส”
“ขอร้องล่ะอย่าได้เป็นแมงมุม ได้โปรดเถอะอย่าเป็นแมงมุมเลยนะ…!”
ด้วยคำของรูเดีบ ฮวาหยาก็ยังเริ่มเหงื่อตกและพึมพัมออกมา ดูเหมือนว่าคำอธิฐานจะได้ผล เขาขนาดใหญ่ได้โผล่ออกมากจากนั้นก็มีเขาอันที่สอง
หัวที่น่าประทับใจก็โผล่ออกมามันได้ถูกปกคลุมไปด้วยหมวดและก็ยังมีเพราะอยู่บนร่างกายขนาดหลายสิบเมตรของมัน มันเกือบจะเหมือนกับเทพแห่งความตายจากนรก เปลวเพลิงสีดำได้ปกคลุมร่างกายของมันทำให้มันดูน่ากลัวยิ่งขึ้น
[อูววววววววววววววว…]
มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยการประกาศศักดินาและปลูกฝังความกลัวให้กับผู้ฟัง แม้ว่าฉันจะไม่ได้รับผลกระทบก็ตามที ฉันได้ส่ายหัวและตะโกนออกไป
“ด้วงกว่าง….”
มะ มันเป็นสิ่งที่่น่าแปลกใจมากไหม?”
ฉันได้เมินรูเดียที่อยู่ด้านหลังและจับหอกของฉันแน่นพร้อมกลืนน้ำลายลงไป มันดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันไม่เพียงแต่จะมีขนาดที่มหีมาเท่านั้น แต่เพลิงสีดำที่เผาอยู่รอบๆตัวมันได้เพิ่มแรงกดดันยิ่งขึ้น มันสามารถจะเป็นไปได้ไหมว่า…ไม่สิมันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ?
เนื่องจากขนาดตัวของมันทำให้ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่ามันจะออกมาจากดินได้หมด ยังไงก็ตามเราได้ยืนอยู่รอบๆอย่างงงๆรอให้มันปากฏตัว ไม่มีใครคิดที่จะเข้าไปโจมตีมัน พวกเราต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ดูจะเหนือกว่ามาก เรา… เรา….
และแล้วในที่สุดมันก็ได้ออกมาจากพื้นดินโดยสมบูรณณ์ มันดูเหมือนกับว่าพื้นดินจะร้อนขึ้นทันที มันได้เงยหน้าขึ้นและสังเกตพวกเรา มันเกือบจะเหมือนกับจักพรรดิแห่งท้องฟ้าได้มองลงมาบนพื้นดิน เพลิงสีดำที่ปกคลุมร่างกายของมันได้โหมกระหน่ำราวกับว่ามันจะเผาเราเพียงแค่มองไป เพราะเพลิงนี้ทำให้มันดูมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นจนทำให้เราต้องถอยหลังไปหน่อยหนึ่ง มันได้คำรามออกมาทันที
[อูวววววววววววววววว….]
จากนั้นได้ล้มลงไป
[คุณได้เอาชนะบอสมอนสเตอร์ของดันเจี้ยนลอร์ดปีศาจด้วงกว่าง]
[ทอง 4,000,000 ทองจะถูกแบ่งออกไปอย่างเท่าเทียม คุณได้รับทอง 500,000]
[คังชินได้มีผลงานมากที่สุด เลือกรางวัลของคุณ]
ด้วยแบบนี้พวกเราได้เคลียร์ดันเจี้ยนระดับ SS ในอเมริกา ดวงตาของลอร์ดไซครอปนี้มันน่าทึ่งจริงๆ!