บทที่ 190 – วิญญาณสัมบูรณ์ (2)
การปรากฏตัวของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังนี้มันมากพอที่จะทำให้ขนทุกเส้นบนร่างกายของฉันตั้งชั้น บางทีมันอาจจะมีขนาดที่สูงถึง 20 เมตร ถ้าเป็นสำหรับบอสการจู่โจมแล้วมันก็ไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่อะไรมากนักแต่ว่าเกราะมานาและดวงตาขนาดใหญ่ที่ส่องแสงที่น่ากลวออกมาเหมือนกับจะทำให้คนต้องยอมจำนน มันราวกับว่ามันจะมีแขนและขาที่ไร้รูปแบบ มีบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับหนวดยาโปร่งแสงอยู่รอบๆตัวของมัน
[มานาของเจ้า…ดูจะอร่อยมาก…!]
“เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้มันมาจากไหนกัน!? เร็นนายจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ?”
“อึก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน… ยิ่งกว่านั้นนายปรับตัวกับมันได้ยังไงกัน…!”
“เลอบิค! เธอก็ด้วยหรอ!?”
“อย่างที่ฉันบอกไปฉันกลัว”
ให้ตายสิ ฉันจะต้องใช้มันตอนนี้หรอ? เมื่อเห็นหนวดกำลังจะเข้ามาใกล้พวกเราและดวงตาโตสองดวงของผู้กลืนมานากำลังส่องแสงให้ลางไม่ดีออกมา ฉันได้กัดฟันแน่นและตะโกนออกไป
“ย๊ากกกกกกกกกกกกก!”
[คุณได้ใช้เสียงคำรามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบจะถูกแช่แข็งอยู่กับที่ พรรคพวกทั้งหมดจะได้รับสถานนะสุดยอดเกราะและได้รับพลังเพิ่มขึ้น 50% โอกาสโจมตีติดคริติคอลจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อคุณโจมตีศัตรูที่ได้รับผลกระทบจากเสียงคำรามเยือกแข็ง]
ทันใดนั้นผู้กินมานาได้หยุดนิ่งลงไป เสียงคำรามเยือกแข็งนั้นส่งผลทั้งร่างกายและหนวดของมัน ยังไงก็ตามผู้กินมานาก็ยังคงเป็นบอสระดับ SSS ในอตนนี้มันกำลังพยายามยับยั้งผลของเสียงคำรามเยือกแข็ง ในตอนนี้ฉันจะต้องเคลื่อนไหวแล้ว
“เร็นป้องกันเด็กๆ”
“เข้าใจแล้ว”
“ล็อทเต้”
“ขึ้นมาเลยฮีโร่”
ฉันได้กระโดดขึ้นไปบนหลังล็อทเต้ที่ได้เปลื่ยนไปในร่างไวเวิร์นอย่างรวดเร็น ป่าที่นี่หนามากทำให้ล็อทเต้บินได้ลำบากดังนั้นฉันจึงใช้เท็มเพรสเพื่อเคลียร์ต้นไม้รอบๆ
[ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้มารบกวนมื้ออาหารของข้า]
“น่ารำคาญ”
หนวดได้พุ่งเข้ามาหาฉันจากทุกทิศทาง หนวดที่หนาและยาวของมันเต็มไปด้วยมานาสีดำน่ารังเกียจ
ฉันได้ห่อหุ้มหอกด้วยเพลิงโกลาหลและสั่งให้ล็อทเต้พุ่งเข้าไปหาหนวดเส้นหนึ่ง ฉันได้ยกหอกขึ้นและฟาดลงอย่างเต็มแรง จากนั้นก็รู้สึกได้ถึงแรงต้านที่มหาศาลและมานาที่ถูกดูดออกไป
[คุฮ่าๆ อร่อยจริงๆ… อึก]
ในเวลาเดียวกันกับที่มันกำลังมีความสุขกับรสชาติมานาของฉันมันก็ได้กรีดร้องออกมา อย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้เพลิงโกลาหลนั้นใช้ได้กับบอสระดับ SSS เช่นกัน! ฉันได้ยิ้มออกมาอย่างโล่งอกและแทงหอกออกไปที่หนวดเส้นอื่นๆอีก ฉันได้ต้องการตัดมันให้หมด
“เจ้าชายระวังตัวด้วย มันไม่ได้มีหนวดแค่หนึ่งหรือสองเส้น!”
“อย่างห่วงฉันเลย! สนใจที่การปกป้องเด็กๆก่อน”
เด็กๆจะต้องใช้มานาเพื่อที่จะอยู่ในที่แห่งนี้ ฉันไม่แน่ใจว่าเลยว่าฉันจะสามารถเอาชนะมันได้ด้วยการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งหรือไม่ แถมนอกจากนี้มันยังมีเงื่อนไขอีกข้อหนึ่งที่ว่าฉันจะต้องเอาชนะมันก่อนที่มานาของเด็กๆจะหมดลงอีกด้วย
ฉันได้ยิงเพลิงโกลาหลออกไปทางหนวดสองเส้นที่พุ่งเข้ามาหาฉันจากด้านหลัง หนวดสองเส้นนั้นได้ถอยหลังกลับไปในทันทีด้วยความหวาดกลัวเพลิงโกลาหล และฉันก็ได้โอกาสที่จะหลบหนวดอื่นพร้อมกับล็อทเต้
[พะ เพลิงนั่น…มานานั่น ฉันดูดซับไม่ได้โดยสมบูรณ์ เจ้าเป็นใคร!?]
“ฉันก็เป็นฮีโร่ที่จะมาจบชีวิตนายไง ไอปลาหมึกเวร”
[มาลองดูสิ]
หนวดหลายสิบเส้นได้พุ่งตรงเข้ามาหาฉันในทันทีที่มันพูดจบ ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะหลุดออกมาจากน้ำแข็งที่ปกคลุมไปแล้ว นอกจากนี้มันยังดูดซับมานามาใช้โจมตีอีก สัญชาตญาณของฉันมันได้บอกเลยว่าวิธีที่ดีที่สุดในการทำลายมันคือการใช้เพลิงโกลาหล
“ล็อทเต้เธอจัดการได้ไหม”
[แน่นอน]
ล็อทเต้ได้ตอบกลับมาอย่างเชื่อมั่น เธอได้กระพือปีกออกมาอย่างรุนแรงและยิงคลื่นออร่าออกไปจากปลายปีกของเธอ จากนั้นคลื่นออร่าได้ไปตกอยู่ที่ต้นไม้ใกล้ๆล้มลงไปและทำให้พื้นที่นี้เป็นสถานที่สำหรับเธอ
จากนั้นหนวดหลายเส้นก็คว้าต้นไม้บางส่วนที่ล้มลงและโยนมันมาใส่พวกเรา ฉันได้จัดการพวกมันด้วยเพลิงโกลาหลและตะโกนออกไป
“ล็อทเต้ ฉันจะใช้ไกอา บัสเตอร์”
[เข้าใจแล้ว]
พร้อมกันกับเสียงขานกลับฉันมา ล็อทเต้ไปกระพือปีกของอย่างทรงพลัง การสะบัดปีกแต่ละครั้งของเธอทำให้เธอบินสูงขึ้นไปอย่างไม่น่าเชื่อ
[เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!]
ตามด้วยเสียงตะโกนของผู้กินมานาหนวดของมันก็ถูกปล่อยพุ่งเข้ามาใส่ล็อทเต้ มันดูเหมือนว่ามันจะต้องการสู้โดยกรใช้เพียงแค่หนวดของมัน
ด้วยความสูงของต้นไม้แม้ว่าฉันจะคิดว่าพวกเราได้บินมาสูงแล้ว ฉันก็ยังเห็นต้นไม้ที่รายล้อมพวกเรา เพราะว่าที่พวกเราได้โค่นต้นไม้รอบๆทำให้ไม่มีปัญหาอะไรในการขยับตัวของล็อทเต้ แต่ว่าต้นไม้พวกนี้ก็ยังแปลกเกินไป ฉันไม่รู้สึกสบายใจกับพวกมัน ฉันได้เลียริมฝีปากเล็กน้อย
“มันเหมือนอยู่บนปลายลิ้น…”
[ลิ้น?]
“ตอนนี้แหละลดระดับลงเลย!”
เมื่อได้ยินคำสั่งฉันล็อทเต้ได้พุ่งลงไปกับลูกศร มีหนวดสองสามเส้นได้เข้ามาโจมตีเราซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบพวกมัน
ฉันได้ขยายระยะพลังของไต้ฝุ่นคลั่งใหเมากที่สุดเท่าทีจะทำได้และสร้างวังวนพายุขึ้นรอบๆล็อทเต้กับฉัน จากนั้นฉันก็หุ้มมันด้วยเพลิงโกลาหล หนวดที่เข้ามาตีเขาดูเหมือนจะไม่มีความคิดและมันได้หล่นลงไปหลังจากโจมตีเราไปครั้งหนึ่ง แม้อย่างนั้นการโจมตีมันก็ยังมีพลังที่มหาศาล ที่ยิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือพวกมันได้ขโทยมานาไปจากเราในทุกๆครั้งที่โจมตีเรา
“ล็อทเต้ไหวนะ?”
[ไม่เป็นอะไรหรอก! ยิ่งไปกว่านั้นเราใกล้จะถึงพื้นแล้ว]
“โอเค”
ฉันได้ยกหอกขึ้น หนวกหนึ่งอันได้ทิ้งบาดแผลหนักเอาไว้ที่ข้างแก้มของฉัน จากนั้นมันก็ร่วงลงไปจากผลของเพลิงโกลาหล นอกจากนี้ก็ยังมีหนวดอีกหลายสิบอันที่พุ่งเข้ามาพร้อมๆกันเหมือนกับจะมีรูปร่างไปค้อน ราวกับว่ามันกำลังป้องกันไม่ให้เราทำในสิ่งที่ต้องการ
[ข้าจะดูดมานาของเจ้าจนแห้งเลย]
“ล็อทเต้หลบ”
[ไม่มีปัญหา]
ค้อนหนวดได้ฟาดลงมาใส่พวกเราโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ด้วยขนาดของมันก็ยังใหญ่กว่าล็อทเต้หลายเท่า
“พี่ชิน”
“เจ้าชายระวังด้วย!”
[ก๊าซซซซซซซ]
ล็อทเต้ได้คำรามออกมาและกระพือปีกของเธอเบาๆ มานาที่อยู่ในปีกของเธอนั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก แต่แล้วฉันก็ตระหนักได้ว่าพวกเราในตอนนี้อยู่ห่างจากพื้นเพียงไม่มีเมตรเท่านั้น พระเจ้า ล็อทเต้พึ่งจะใช้การบิ้ง
[ฮีโร่]
“ไกอา บัสเตอร์”
หลังจากล็อทเต้หลบค้อนหนวดได้พ้นด้วยการบิ้งออกมา เธอก็ตะโกนออกมาทำให้ฉันตกใจ ฉันแทบจะแทงหอกที่หุ้มด้วยสายฟ้าสีดำลงไปบนพื้นในทันที ในเวลาเดียวกันหนวดซึ่งแยกออกมาจากรูปร่างค้อนก็กำลังพุ่งเข้ามาหาเราอีกครั้ง พื้นดินได้ระเบิดออกและก้อนหินขนาดใหญ่ได้พุ่งออกไป นอกจากนี้รากของต้นไม้ที่ฝังอยู่ก็ยังถูกดึกออกมาตามก้อนหินอีกด้วย
“ป้องกันเด็กๆ”
“รู้แล้ว”
ก้อนหินที่ปกคลุมด้วยสายฟ้าสีดำได้ปะทะเข้ากับหนวด ผู้กินมานาได้ร้องออกมาและส่ายหนวดของมัน แต่แม้ว่ามอนสเตอร์ระดับ SS ก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับการเป็นอัมพาตได้หลังจากถูกก้อนหินโจมตีซ้ำๆ ยังไงก็ตามแม้ว่าจะโจมตีสำเร็จฉันก็ยังคงไม่คลายใจ ฉันยังสามารถจะบอกได้เลยว่ามานาจำนวนมหาศาลของผู้กินมานายังไม่ได้ลงลดสักนิด
[คุฮ่าาาาาาห์….!]
มันเกิดการเปลื่ยนแปลงขึ้นในตอนที่ไกอาบัสเตอร์ได้สิ้นสุดลง มานาเหนียวข้นสีดำได้เริ่มกระจายออกไปทั่วทิศทางสร้างเป็นหมอกหนาที่ทำให้ยากจะมองเห็นอะไร แม้ว่าดวงตาของฉันที่เกิดขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้วก็ยังไม่สามารถแม้แต่จะมองผ่านหมอกไปได้
[เจ้าเป็นคนแรกที่ทำร้ายข้า… เจ้าจะต้องชดใช้ให้กับความอัปยศนี้]
ฉันสามารถรู้สึกได้เลยว่าหนวดของมันกำลังขยับไกลออกไป ในอีกด้านหนึ่งเจตนาฆ่าของมันก็ได้พุ่งไปถึงขีดสุด นี่มีเพียงความหมายเดียวเท่านั้น
[ข้าจะกินคนอื่นๆก่อน และเจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับข้าเพียงลำพัง]
“ไอชั่ว”
[ฮีโร่ การคงอยู่ของมันมีการเปลื่ยนแปลงตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง! ถ้าเราถล่มการโจมตี….!]
“ฉันรู้แล้ว… เร็น เลอบิค!”
“ฉันตายไม่ได้ในเมื่อฉันมาไกลแล้ว”
“ก่อนที่แกจะเอาชีวิตของท่านเร็นไป ฉันจะ….ฉันจะฆ่าแกก่อน”
หนวดเหล่านั้นได้เริ่มโจมตีคนอื่นๆ ฉันไม่คิดว่าเร็นและเลอบิคจะแพ้มัน แต่ว่าถ้าหากมีแม้แต่หนวดเดียวไปถึงเด็กๆล่ะก็… ฉันได้รีบให้ชาราน่าแสดงรูปธรรมทันที
“จัดการหมอกนี่ที”
[อึก เป็นหมอกที่น่าขยะแขยงอะไรแบบนี้ นายท่านฉันจะจัดการมันเอง]
เมื่อเธอได้แสดงรูปธรรมชาราน่าก็ทรงพลังอย่างแท้จริง ในฐานะที่เป็นภูติธาตุลมเธอได้ใช้พลังลงผลักดันหมอกของผู้กินมานาของออกไป ฉันได้หยิบมานาโพชั่นมาและดื่มลงไป มานาที่ฉันได้ใช้ไปในตอนนี้และถูกดูดไปจากผู้กินมานาไม่ใช่เรื่องตลกเลย
[คุฮ่าฮ่าฮ่า! มนุษย์สัตว์อวดดีอะไรแบบนี้]
“เลอบิคระวั่ง”
“ฉันจะไม่ยอมให้แกทำร้ายท่านเร็น!”
หมอกได้หายไปแล้วและฉันก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง ฉันกับล็อทเต้ได้รีบพุ่งไปหาเร็น เลอบิค ริยูและเด็กๆอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันฉันก็เรียกให้ไพก้าเข้ามาในหอกฉันทันที
“ตายซะ! พายุหอกสายฟ้า!”
วังวนพาายุที่ทรงพลังได้ปกคลุมหอกของฉันและดึงดูดหนวดที่กำลังเล็งไปที่เด็กๆ นอกจากนี้ร่างกายของผู้กินมานาเองก็กำลังถูกดึงเข้ามาหาฉัน มันดูเหมือนว่าจะตระหนักได้ถึงพลังของฉันมันจึงได้รวมหนวดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างค้อนอีกครั้ง
[มาดูกันว่าเจ้าจะรับสิ่งนี้ได้ไหม!]
“ก็ลองดูสิ”
หอกของฉันได้แทงใส่หนวดของมันอย่างต่อเนื่องและปล่อยพลังสายฟ้าออกไป แม้อย่างนั้นค้อนหนวดของมันก็ไม่ได้สะท้านเลยสักนิดและมันก็ได้ฟาดลงมาที่ฉันจากด้านบน ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็เอาหนวดออกมาจากเด็กได้สำเร็จ
“ริยูพาเด็กๆหนีไป! เร็น เลอบิคไปข้างหน้า ฉันจะตามไปหลังจากจัดการเจ้านี่!”
“ฉันทำไม่ได้”
[ไม่]
“ปกป้องเด็กๆ ริยูฟังฉัน ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะมีแต่จะขัดแข้งขัดขาฉัน!”
“เจ้าเด็กใหม่นายจะจัดการเจ้านี่ด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง?”
“อย่างที่ฉันพูดไปทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นเพียงแค่ภาระ”
ในขณะที่ค้อนหนวดกำลังจะกระแทกหัวของฉัน ล็อทเต้ก็ได้ใช้บิ้งและหลบมันไป เพราะสิ่งนี้ทำให้พายุหอกสายฟ้าถูกขัดลงและหนวดก็ได้ถูกปลดให้เป็นอิสระจากการถูกดูด เมื่อเห็นว่าหนวดเหล่านั้นได้เล็งไปที่เด็กอีกครั้งฉันก็ได้กัดฟันแน่น พวกเขานี่ไม่รู้เลยจริงๆเลยว่าเมื่อไหร่ควรจะทำอะไร
“ไพก้า ชาราน่า! ฉันต้องการให้มันใหญ่กว่านี้”
[ทำไมต้องกับผู้หญิงลมคนนี้… แต่ว่าเพราะนายท่านขอมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ]
[คุณน้อยรีบๆโจมตีเร็วเข้า! ฉันจะเสริมพลังให้]
ไพก้าได้ออกมาจากหอกครู่หนึ่งและยกมือของเธอขึ้น ทั้งป่าได้สว่างขึ้นในทันทีและต้นไม้ทุกต้นก็ถูกเผาไหม้ ชาราน่าก็ยังยกมือขึ้้นมาและเสริมพลังให้กับการโจมตีของไพก้า หลังจากนั้นหนวดนับสิบที่ได้พุ่งเข้าไปหาเด็กๆก็ได้หายไป
[ก๊าซซซซ]
“เยี่ยมมาก! ริยูวิ่งไปซะ! ล็อทเต้พวกเราก็จะหนีเหมือนกัน”
[เข้าใจแล้ว]
เด็กๆกำลังตกอยู่ในความลำบาก! เร็นและเลอบิคได้กัดฟันแน่นและปัดหน่วยใกล้ๆออกไป จากนั้นพวกเขาก็ได้เริ่มวิ่งไปพร้อมๆกับริยู
[คุฮ่าฮ่า เจ้าพวกโง่ เจ้าไม่มีทางหนีไปจากที่นี่ได้]
เพียงเมื่อฉันได้คิดว่าริยูได้หนีออกไปจากระยะของหนวด หนวดหนาสองเส้นก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นขึ้นข้างหน้าของเธอ! ฉันได้ให้ล็อทเต้ได้รีบใช้บิ้งทันที ในเวลานั้นเอง
[ข้ากำลังรออยู่เลย]
“อึก!?”
ด้วยเสียงปึกหน้าอกของฉันก็ได้ถูกกระแทก ฉันรู้สึกว่าภาพได้สั่นไปครู่หนึ่ง ฉันจึงปิดตาและเปิดขึ้นอีกครั้ง
หนวดห้าเส้นได้เสียบหน้าอกของฉัน
“ดะ ได้ยังไง….!”
[เจ้ายังไม่เข้าใจอีกรึ!?]
ผู้กินมานาได้ตะโกนออกมาอย่างมีชัย ฉันสามารถจะได้ยินเสียงนี้ได้จากทุกๆทาง ฉันได้ยกหัวขึ้นและตกใจเมื่อเห็นหนวดที่แทงผ่านฉันได้ผุดขึ้นมาจากต้นไม้ ใช่แล้ว อย่างที่ฉันคิดในก่อนหน้ามันคือ….
[ป่าทั้งป่านี้ก็คือข้า! เจ้ามนุษย์โง่เขลา]
มันเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้าย