Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 209 – คุณสมบัติของนักสำรวจ (6)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 209 – คุณสมบัติของนักสำรวจ (6)

เพียงแค่ในตอนที่ฉันถอดเสื้อจะไปอาบน้ำ ฮวาหยาก็ได้เข้ามาในสภาพที่น่าอึดอัดใจ

“อะไรนะ ทำไมพวกเขาถึงตายทันทีเลยล่ะ”

“พวกเขาทำสัญญากับฉัน”

“สัญญาหรอ เธอหมายถึง….”

ฉันได้ถามเธอออกมาอย่างตกตะลึง

“เธอหมายความว่าพวกเขาตายเพราะพวกเขาทำสิ่งที่ผิดสัญญาหรอ”

“ใช่แล้ว ฉันได้ใช้การติดตามกับผู้ใช้พลังที่เรารับเข้ามา แล้วก็เป็นอย่างนี้….”

“เธอติดตามพวกเขาโดยที่ไม่รู้ตัวได้ยังไงนะ”

“ฉันใช้ไอเทมจากดันเจี้ยนช่วยเอานะ มันไม่ใช่ว่าดันเจี้ยนมีแต่ไอเทมประเภทต่อสู้นะ”

‘ขอโทษที แต่ว่าฉันใช้แต่ไอเทมต่อสู้…’ ในขณะที่บ่นในใจ ฮวาหยาก็หมุนนิ้วบนอากาศและเอาลูกบอลเล็กๆออกมาจากช่องเก็บของ

“แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องของฉันล่ะ?”

“แม่ของนายให้ฉันเข้ามา แล้วนี่ไม่ใช่ว่านายหมั่นกับรูเดียจริงๆใช่ไหม เธอกำลังทำอาหารอยู่ที่ห้องครัวนะ”

“อย่าถามออกมาในขณะที่สร้างบอลเพลิงสิ คำตอบคือไม่อยู่แล้ว หยุดจ้องฉันแบบนี้ด้วย”

“อะไรล่ะ ไม่ใช่ว่านายสร้างร่างกายเพื่ออวดต่อหน้าหญิงสาวหรอ มันก็ไม่ได้จะสูญเสียอะไรนิถ้าฉันมองมัน”

“ฉันเป็นแบบนี้เพื่อการฝึก”

ฉันได้รีบเรียกริยูออกมาและทำความสะอาดเหงื่อและฝุ่นหลังจากนั้นก็ใส่เสื้อตัวใหม่ลงไป ถึงแม้อย่างนั้นฉันก็ไม่ชอบการล้างตัวแบบนี้ กรอาบน้ำมันให้ความรู้สึกที่สดชื่นมากกว่า แต่ในตอนนี้ฉันไม่สามารถทนกับการจ้องของฮวาหยาได้

ฮวาหยาได้เม้มริมฝีปากเมื่อเห็นฉันใส่เสื้อ จากนั้นเธอก็ทำให้ลูกบอลที่เธอเอาออกมาขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่าลูกบอล ในนั้นเราได้เห็นวิดีโออยู่ข้างใน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับลูกบอลคริสตัลเวทมนตร์

“มันเป็นไอเทมที่จะแสดงภาพที่เชื่อมต่อกับสายตาของคนที่เราใช้การติดตามเอาไว้ ฉันสามารถมองในตาเดียวกันกับพวกเขาได้ แต่ว่าฉันไม่ค่อยชอบใช้มันเพราะมันจะทำให้ฉันเวียนหัว”

“และฉันก็ไม่ค่อยอยากจะเห็นมันนัก”

ในลูกบอลคริสตัลหนึ่งในนักสำรวจคนใหม่ที่พวกเราได้เลือกได้โผล่ออกมา เขากำลังคุยกับคนๆหนึ่งอยู่

“นั่นเป็นผู้ใช้พลังอีกคนหนึ่งจากประเทศของเขา”

“ถ้างั้นสัญญาที่เขาละเมิดคือ…”

ทุกๆสิ่งได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วว เมื่อนักสำรวจได้เอื้อมมือออกไปหาผู้ใช้พลัง ความแข็งแกร่งทั้งหมดก็หายไปจากร่างกายและเขาก็ล้มลงไป ผู้ใช้พลังได้กรีดร้องออกมาอย่างตกใจในทันที จากนั้นภาพก็เปลื่ยนไปเป็นนักสำรวจอีกคนหนึ่ง มันก็เหมือนกับคนก่อนหน้านี้พวกเขาได้ตายเหมือนๆกัน

“เพราะพวกเขาทั้งคู่ ฉันเลยได้รับไอเทมที่เรยีกว่าคริสตัลวิญญาณ นี่มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายจริงๆเลย”

“ฉันก็คิดเหมือนกัน…”

ฉันตกใจมาก พวกเรายังคงไม่เชื่อเราเลยแม้ว่าจะแสดงให้ดูขนาดนั้นเลยหรอ พวกเขาคิดว่าพันธะสัญญาเป็นเพียงแค่กระดาษหรอ ฉันคิดว่าเราจำเป็นจะต้องจัดการหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเพื่อที่เขาจะได้เพิ่มจำนวนนักสำรวจได้อย่างมั่นคง… มันดูเหมือนว่าฉันไม่ได้คิดเผื่อความโง่ของคนเรา

“ฟู่…. ถ้ามันเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นหลายครั้ง กองกำลังของโลกก็จะ… บางทีพวกเราควรตะยอมแพ้เรื่องพันธะสัญญาวิญญาณ”

“ไม่ ชิน”

ฮวาหยาได้ส่ายหัว

“พวกเราเพียงแค่ขอพวกเขาเรื่องเดียว เพื่อที่จะไม่ให้มีนักสำรวจโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนายคิดยังไงกับสิ่งที่พวกเราทำเพื่อต่อต้านเราล่ะ มันง่ายมาก พวกเขาพยายามจะสร้างกลุ่มนักสำรวจดันเจี้ยนของตัวเองเพื่อลดพลังของเรา ถ้าพวกเรายอมแพ้เรื่องพันธะสัญญาวิญญาณในตอนนี้ มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงทันที ลองคิดถึงปัญหาที่จะมาในตอนที่มีนักสำรวจนับร้อยหรือแม้แต่นับพันคนมาพยายามที่จะต่อต้านพวกเรา จากนั้นปัญหามันจะไม่ใช่แค่ปกป้องโลกแน่ๆ มั่นใจเอาไว้ พวกเราต้องชดใช้”

ฮวาหยาพูดถูก ถ้าหากพวกเขาไม่าสามารถรักษาสัญญาง่ายๆได้ มันก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้สนใจในหน้าที่ในฐานะนักสำรวจดันเจี้ยนตั้งแต่แรกแล้ว แม้ว่าเราจะอธิบายอะไรออกไป แต่พวกเขาก็ยังมัวแต่คิดเรื่องเห็นแก่ตัว พูดตามตรงฉันเกลียดคนแบบนี้

ฉันได้กัดฟันแน่นและหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดตาขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ถามฮวาหยาที่มองมาที่ฉัน

“พวกเขามาจากไหน”

“เยอรมนีแล้วก็…อังกฤษ”

“นับจ้านี้ไปเราจะไม่… อังกฤษหรอ”

ฉันได้หยุดความคิดครู่หนึ่งและเงียบลงไป จากนั้นฮวาหยาก็พูดสิ่งที่ฉันพูดไม่จบ

“เราจะไม่เลือกนักสำรวจจากเยอรมนีหรืออังกฤษนับจากนี้ไป”

“เดี๋ยวก่อนสิฮวาหยา”

“ฉันตัดสินใจแล้วด้วยอำนาจของฉันในฐานะรองหัวหน้ากิลด์”

“เฮ้”

เมื่อฉันตะโกนออกมา ฮวาหยาก็ยื่นหน้าเข้ามาหาฉันและข่มขู่ออกมา

“ทุกอย่างมันไม่มีปัญหา ตราบเท่าที่เราจัดการศัตรูของโลกได้มันจะไม่มีปัญหาอะไร หรือว่าสิ่งที่ฉันพูดแค่นี้นายไม่พอใจหรอ นายกำลังจะไปโจมตีอังกฤษหรอ”

“ไม่ นั่นไม่เลย แต่ว่าอังกฤษก็ยังคงเป็นบ้านเกิดของเธอ ฉันรู้ว่าเธอต้องการจะปกป้อง…”

“ฉันได้เติมเต็มในหน้าที่ของฉันแล้ว มันเป็นพวกเขาเองที่ทรยศต่อฉัน ฉันก็แค่ทำตามที่ฉันเคยพูดไว้”

เธอได้ยิงเอาลูกบอลคริสตัลขึ้นมาอีกครั้งและยัดเก็บลงไปในช่องเก็บของ จากนั้นเธอก็บ่นออกมา

“ตอนนี้ไปกินข้าวกันเธอ ในตอนที่เราโกรธเราก็ต้องหาอะไรไปลงในท้อง”

“โอเคได้สิ”

ในวันนี้เราก็ได้ปล่อยวิดีโอออกไปทั่วทั้งโลกและประกาศว่าเราจะไม่รับนักสำรวจจากเยอรมนีและอังกฤษ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีทางที่คนจากเยอรมนีหรืออังกฤษที่จะกลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนได้อีกเลยนอกเหนือไปจากการถูกเลือกโดยตัวดันเจี้ยนเอง

แน่นอนว่าพวกเราก็ได้เผชิญหน้ากับการประท้วงอย่างมาก ในเวลาเดียวกันเสียงวิพากษ์วิจารย์จากสื่อก็ดังออกมาว่ารีไวเวิร์ล ‘ฆ่า’ คน แม้ว่าจะมีผู้ที่สนับสนุนเราอยู่บ้าง แต่ว่าจำนวนประเทศที่วิจารย์เราก็มากมายราวกับว่าได้เตรียมการกันเอาไว้ก่อนแล้ว ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าพวกนั้นได้ยอมสละนักสำรวจสองคนเพื่อผลักดันข้อกล่าวหาที่ว่าเราเป็นฆาตกรมาหรือป่าว

ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเรารูเตัวว่าเราถูก ฉันได้ประกาศออกไป เนื่องจากว่ามันเป็นเรื่องน่ารำคาญในทุกๆครั้งในการจัดงานแถลงข่าวฉันเลยส่งบันทึกวิดีโอไปออกอากาศแทน

“พวกได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าผู้ละเมิดสัญญาจะต้องตาย ในตอนนี้ที่พวกนายเห็นว่าพวกเขาตายจริงๆเลยคิดจะมาโทษว่าเราฆ่าเขาหรอ ถ้างั้นแสดงว่าต้องการจะละเมิดสัญญาแต่แรกแล้วงั้นหรอ จากจุดนี้ใครเป็นคนที่พูดไร้สาระและโทษว่าเราผิด ถ้าพวกนายพอใจก็มาคุยกันเลย ฉันจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีให้เห็นแม้แต่นักสำรวจคนเดียวในประเทศของนาย นอกจากนี้ก็หากพวกนายเจอเหตุการดันเจี้ยนหรือเหตุการการจู่โจมที่รับมือไม่ไหว นายคิดจะทำยังไงเมื่อมันเรียกมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฏออกมาล่ะ พวกเราไม่มีความต้องการจะไปช่วยประเทศที่ทำกับเราเหมือนฆาตกรแน่ๆล่ะ”

เมื่อฉันได้ประกาศออกไปในรอบนี้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายแหล่ได้หายไปจากสื่อทันที มันเป็นความสดชื่นที่สุดจริงๆ จริงๆฉันน่าจะข่มขู่พวกเขาตั้งแต่แรก

แต่สิ่งที่ฉันได้พูดออกไปฉันก็ไม่ได้ชอบมันเลย การข่มขู่พวกเราด้วยเหตุการดันเจี้ยนและเหตุการการจู่โจมมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ฉันได้พูดออกมาอย่างซึมๆ

“ฉันไม่ชอบเลย”

“แต่ว่าไม่ใช่ว่าพวกนั้นฟังดีดีหรอ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าฉันมั่นใจว่ามีคนที่คิดเหมือนกันเรา ในตอนนี้คนที่สนับสนุนเราและคนที่ไม่ชอบเราไม่ควรจะต้องมาสู้กัน”

“ในตอนที่เดม่อนลอร์ดมาอยู่ข้างหน้าเรา เธอคิดไหมว่าพวกนั้นจะรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์”

“นักสำรวจระดับ S+ อีกคนกำลังพยายามอย่างดี ไม่ต้องเสียใจนักหรอกน่า มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นหรอก”

“สู้ๆค่ะพ่อ”

ไอน่าได้เข้ามากอดและเอาหัวมาหนุนหน้าอกของฉัน เธอพยายามทำให้ฉันสบายใจงั้นหรอ มันได้ผลมากกกก ฉันได้กอดไอน่ากลับไป

“ขอบคุณนะไอน่า พ่อไม่เป็นไรแล้ว พ่อก็แค่รู้สึกรำคาญนิดหน่อยนะ”

“ตอนนี้นายรู้สึกดีขึ้นแล้วสินะ”

“ใช่ ต้องขอบคุณไอน่าละนะ”

“….นายอาจจะรู้สึกดีขึ้น แต่ว่าฉันรู้สึกแปลกๆแทนแล้วล่ะ”

ฮวาหยาได้มองมาที่ไอน่าและฉันอย่างน่าสงสัย ฉันได้มองไปที่ไอน่าอย่างงุนงง

“ไม่ ไม่มีอะไรหรอก… ฉันไม่ได้อิจฉา เธอเป็นแค่เด็ก…”

“แม่แปลกไปนะ”

“ใช่แม่รู้สึกแปลกๆนะ”

เมื่อเห็นฮวาหยาพึมพัมกับตัวเอง ไอน่ากับฉันก็หัวเราะออกมา

ต้องขอบคุณไอน่าที่ทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้นมา จากเหตุการณ์นี้ฉันได้รู้ว่าในโลกนี้้มันยังคงมีคนที่โง่เง่ากว่าฉันอยู่อีก ถ้าหากว่าฉันไม่สามารถจะแก้ปัญหาด้วยวิธีที่สงบได้ ฉันก็แค่จะต้องใช้กำลังเท่านั้น

เยอรมนีและอังกฤษได้เผยหางออกมาและประเทศอื่นๆก็ใช้โอกาสนี้ในการผลักดันผู้ฝช้พลังของตัวเองเพื่อกลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยน แม้ว่าฉันจะคิดว่ามันน่าขยะแขยง แต่ว่าถ้าพวกเขาจัดการมอนสเตอร์ได้ พวกเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พวกเขา

จากนั้นพวกเราก็ได้แต่งตั้งนักสำรวจเพิ่มอีก 5 คน มันไม่มีเหตุผลอื่นจริงๆนอกเหนือไปจากการที่พวกเขาต้องการจะพัฒนาและได้รับิทธิในการแต่งตั้งนักสำรวจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ฉันได้เน้นย้ำกับพวกถึงอันตรายที่โลกของเรากำลังเผ๙บและทำให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนักสำรวจสองคนก่อนหน้านี้อีก

“ฉันหวังว่านายจะไม่ทำอะไรโง่ๆนะ แล้วก็พยายามให้ดีที่สุดเพื่อโลกของเรา”

“ครับท่าน”

“ฉันจะไม่ลืมมัน”

“เพื่อโลกเรา”

“ฉันทำได้แต่เชื่อนายหัวหน้ากิลด์รีไวเวิร์ล”

หลังจากนั้นฉันก็กลับไปในดันเจี้ยน แม้ว่าซัคคิวบิในชั้นที่ 65 จะพยายามเกลี้ยกล่อมฉันไว้ แต่ฉันก็เปลื่ยนพวกเธอเป็นหินอย่างง่ายดายและทำลายพวกเธอให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีซัคคิวบิตัวใดที่สามารถจะหนีจากการจ้องมองของฉันได้และเมื่อใบมีดธาตุของฉันพุ่งไปถึงก็จะทะลวงทุกๆสิ่งที่ขวางทาง

[นายท่าน นายท่านไปเร็วเกินไปแล้ว]

[ชินกำลังโกรธ]

[พวกเธอนี่น่ารำคาญจัง แค่ตามนายท่านก็พอแล้ว]

ฉันได้ฉีกกระชากซัคคิวบิโดยที่ไม่ลังเล ในเวลาเพียงแค่ 30 นาที ฉันก็เริ่มที่จะเห็นประตูของห้องบอส ในขณะเดียวกันประตูก็มีคลื่นแปลกๆออกมาราวกับเป็นภาพลวงตาและเสียงแปลกๆดังขึ้นในหัวของฉัน

[น่าทึ่งมาก คุณได้พบกับเงื่อนไขในการเปิดบอสเหตุการดันเจี้ยนที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนนับตั้งแต่ดันเจี้ยนถูกสร้าง]

[ห้องบอสประจำชั้นได้ถูกเปลื่ยนเป็นเหตุการณ์ดันเจี้ยน]

[เหตุการดันเจี้ยนระดับ SSS สำหรับ 1 คน ‘ปราสาทซัคคิวบัส’ ได้ถูกเปิดขึ้น คุณไม่สามารถจะปฏิเสธที่จะเข้าไปได้ดังนั้นระวังให้ดี เหตุการณ์ดันเจี้ยนนี้เป็นมิติส่วนที่อยู่นอกขอบเขตอำนาจดันเจี้ยน การตายในมิตินั้นถือว่าเป็นการตายจริงๆ ถ้าคุณยังรู้สึกว่าขาดพลังเราขอแนะนำให้คุณใช้ทักษะย้อนกลับเพื่อหนีในทันที]

ข้อความจากพี่สาวใจดีมากก เดี๋ยวนะ ก่อนหน้านั้นพี่สาวพูดอะไรนะ

“แม้แต่ห้องบอสก็มีการยกระดับหรอ”

ฉันเพิ่งจะมารู้ตอนอยู่ชั้นที่ 65 เนี่ยนะ เสียเปล่าอะไรแบบนี้

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset