บทที่ 242 – สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ… (2)
“สวัสดีค่ะพี่”
ในเช้าวันต่อมาหลังจากที่ตื่นขึ้นสิ่งแรกที่ฉันเจอก็คือยุยนางฟ้าของฉันอย่างเช่นเคย แต่ว่ามันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง…
“ยุยกำลังถืออะไรอยู่นะ”
“ไข่ไงค่ะพี่”
ไข่สีทับทิมที่มีขนาดใหญ่ได้ที่ยุยกอดเอาไว้อยู่ได้ส่องแสงสีแดงสว่างไสวออกมา ฉันถามไปเพื่อให้แน่ใจทำนั่น แต่ว่ามันคือไข่จริงๆ ยุยได้ลูบไข่เบาๆในขณะพูดออกมา
“ถ้าหนูถือเอาไว้แบบนี้ ทารกจะออกจากไข่ง่ายขึ้น ฮิฮิ”
“อ่า อืมม โชคดี…?”
“ใช่แล้ว”
ฉันไม่รู้ว่าการทำรังของยุยแบบนี้จะได้ผลไหม แต่ว่ามันก็ไม่สำคัญอะไรเพราะยุยในตอนนี้น่ารักมากๆ ยังไงก็ตามเมื่อมองไปที่ไปที่ไข่ใบนี้ที่ยุยถือเอาไว้มันทำให้ฉันนึกไปถึงไข่โลหะที่ริยูกำลังดูแลอยู่ในสวนแฟรี่ ในตอนนั้นที่ฉันได้มุ่งหน้าไปที่ดันเจี้ยนฉันได้เรียกริยูออกมาถาม
“ไข่ฟักหรือยัง”
[ไม่เลย มันยังนอนหลับอยู่ ฉันคิดว่ามันกำลังรอให้ชินแข็งแกร่งกว่านี้]
“มันค่อนข้างจะหน้าด้านเลยนะสำหรับไข่….”
ความแข็งแกร่งที่เธอพูดอาจจะหมายถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ธาตุของฉัน มันเป็นการเชื่อมต่อกันระหว่างฉันกับไข่ และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็ยังรู้ว่าฉันยังไม่สามารถจะทำพันธะสัญญากับธาตุตนที่สี่ได้ มันเป็นเรื่องจริงมากๆ ฉันยังสงสัยเลยว่ามันรู้ได้ยังไงกัน
“ฉันจะรู้เองในตอนที่ทักษะของฉันเลเวลอัพ ริยูในวันนี้เราจะไปสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง”
[อื้อ]
พูดตามต้องฉันไม่ได้กลัวเลยจริงๆ มันไม่มีบอสประจำชั้นตัวไหนที่จะเอาชนะฉันในตอนที่ใช้โอเวอร์ลอร์ดได้ ในตอนนี้ฉันได้มีศักยภาพที่สูงไปไกลแล้ว เป้าหมายของฉันจะไม่ใช่เพียงแค่พิชิตดันเจี้ยนที่หนึ่งแต่ว่ามันรวมไปถึงพิชิตบียอนอีกด้วย ฉันจำเป็นต้องเอาทุกสิ่งที่ดันเจี้ยนจะสามารถช่วยให้ฉันพัฒนาต่อไปได้
[มันเป็นเวลานานแล้วนะที่ไม่ได้มีคนมาที่นี่ นายเป็นคนที่สามนับตั้งแต่ที่ฉันถูกขังอยู่ในคุกแห่งนี้]
“คนที่สาม นาย…”
ทั้งดูลาฮานและยมทูตต่างก็รู้จักเพียงแค่การพุ่งเข้ามาหาฉันเหมือนคนโง่ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าบอสในชั้นที่ 20 นี้ก็คงจะเหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามเสียงของเขาดูสงบและเคียวในมือของเขาก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนกับเคียวยมทูตตามปกติ มันดูเหมือนว่าเคียวของเขาจะมีลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษ และหัวของเขาก็อยู่บนตัวตามปกติไม่เหมือนดูลาฮาน
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เหมือนยมทูตตามปกติ เขาได้ใส่เกราะหนาและนั่งอยู่บนรถลากที่ผูกกับม้าที่ไม่มีหัวเอาไว้
[ฉันจะไม่เผยชื่อของผู้ที่แพ้ฉัน พวกนั้นเป็นแค่ตัวเลขสำหรับฉันเท่านั้น ฮีโร่ยกดาบหรือหอกของนายขึ้นมา ฉันจะเป็นคนที่ทดสอบ เป็นคนที่ตายไปชั่วนิรันด์ ผู้ที่รวบรวมความตายที่ผิดพลาก ทุกๆคนที่เผชิญหน้ากับฉันที่นี่ต่างก็ประสบกับความตายมากกว่าหนึ่งครั้ง นายจะสามารถเอาชนะฉันได้ไหมนะ]
เขาได้เงยหน้าขึ้นทำให้ผมยาวและหน้าซีดสวยๆของเธอปรากฏออกมา ฉันได้ส่ายหัวเล็กน้อยและถามออกไปอย่างสงบ
“เธอเป็นผู้หญิงหรอ”
[แน่นอน แม้ว่าฉันจะอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยที่ตายไม่ได้ แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงแน่นอน แต่ว่าถ้าสิ่งนี้มันทำให้คมหอกของฮีโร่ทื่อลงละก็ฉันคงจะผิดหวังเอามากๆเลยล่ะ]
“ฉันดูเหมือนคนเป็นแบบนั้นหรอ”
[ฉันดีใจที่นายไม่ได้เป็นแบบนั้น]
เธอได้ตั้งท้าอยู่บนรถลาก ม้าไม่มีหัวได้เตรียมตัวและเริ่มวิ่งออกมาด้านหน้า ฉันสามารถจะรู้ได้ทันทีถึงแรงที่พวกนั้นพุ่งออกมา ฉันได้ยิ้มขึ้นและตะโกนออกไปพร้อมๆกับปลดปล่อยเสน่ห์ออกมา
“การล่อลวงของลิลิธ”
มันเป็นทักษะที่ฉันเพิ่งจะประกาศจะไม่ใช่มันอีกเมื่อวานนี้ แต่ฉันรู้ว่าเมื่อใดที่มันจะมีประโยชน์
[คุณได้ใช้การล่อลวงของลิลิธ คุณได้ขโมยพลังชีวิตและพลังเวทย์จากเป้าหมาย 50%]
[เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ ‘ผู้ที่ถูกความโกรธครอบงำ’ เพื่อแรกกับพลังชีวิต 50% ในปัจจุบันของเธอ ค่าสเตตัสทั้งหมดของเธอจะเพิ่มสองเท่า]
[อ๊าาาา เจ้ากล้าที่จะดูถูกข้าด้วยทักษะที่น่าสมเพชแบบนี้]
[ความโกรธที่พุ่งสูงขึ้นของยมทูตโบราณทำให้ใช้งานทักษะ ‘คำสาปแห่งยมทูต’ โอกาสที่จะได้รับความเสียหายคริติคอลจากยมทูตโบราณถูกเพิ่มขึ้น 10 เท่าเป็นเวลา 5 นาที พลังโจมตีและความเร็วของยมทูตโบราณจะเพิ่มมากขึ้นในทุกๆครั้งที่เธอโจมตี]
ใครจะไปคิดล่ะว่าสถานะนี้มันจะออกมา ยมทูตโบราณได้รู้สึกตกใจครู่หนึ่งกับผลของการล่อลวงของลิลิธและไม่นานเธอก็คำรามออกมาอย่างโกรธแค้นในขณะที่ยกเคียวขึ้น เกราะของฉันมันทำให้ฉันได้รับความเสียหายคริติคอลง่ายอยู่แล้ว แต่ว่านี้มันยังคูณขึ้นมาสิบเท่าอีกหรอ มันไม่เท่ากับว่ามันจะติดคริติคอลทุกๆครั้งที่เธอโจมตีหรอกหรอ นี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
“เจ้าจะต้องชดใช้มัน ฉันจะเกี่ยวชีวิตเจ้ามา”
มานาจำนวนมหาศาลได้มารวมกันที่เคียวทำให้เกิดออร่าสีเท่าขนาดใหญ่อยู่เหนือเคียว อย่างที่หวังเอาไว้จากบอสชั้นที่ 20 เลย ร่างกายของฉันได้รู้สึกตื่นเต้นเป็นการตอบสนองกับออร่าที่ทรงพลังนี้
“ฉันก็แค่ใช้ทักษะของฉันเอง”
ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิและพุ่งไปบนท้องฟ้า ในเวลาเดียวกัน พลังของชาราน่าที่อยู่ในตัวของฉันได้เร่งขึ้นและเพิ่มความเร็วของฉัน ออร่าใบมีดจำนวนนับไม่ถ้วนที่เธอยิงออกมาไปผ่านฉันไปและส่งเสียงระเบิดดังออกมาเมื่อปะทะเข้ากับกำแพง
นี้มันเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น ม้าไม่มีหัวได้กำลังวิ่งไต่อากาศเข้ามาหาฉัน รถลากบินได้
[ถ้าเจ้าเป็นฮีโร่ก็มาสู้กับฉันด้วยกำลัง]
“กำลังหรอ แน่นอนสิ”
แน่นอนว่าทั้งความเร็วและพลังของยมทูตโบราณต่างก็น่ากลัวทั้งคู่ ด้วยพัลงที่เพิ่มขึ้นสองเท่าและทักษะพิเศษที่เธอใช้มันทำให้พลังของเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ยังไงก็ตามในตอนนี้เธอก็มีพลังชีวิตเพียงแค่หนึ่งในสี่และมานาแค่ครึ่งเดียว เธอเหมือนกับแก้วร้าว ในกรณีนี้มันก็ง่ายมากๆฉันก็แค่ต้องโจมตีเธอก่อนที่เธอจะโจมตีฉัน
“ย๊ากกกกก”
[คุณได้ใช้เสียงคำรามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดในสนามรบจะถูกแช่แข็งอยู่กับที่ พรรคพวกทั้งหมดจะได้รับสถานะสุดยอดเกราะและพลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50% ชั่วคราว คุณจะมีโอกาสโจมตีติดคริคอลเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีศัตรูที่ได้รับผลของเสียงคำรามเยือกแข็ง]
[อ๊าาาา]
ถึงแม้ว่าเสียงคำรามเยือกแข็งมันจะไม่ได้แสดงผลอย่างเต็มที่กับศัตรูที่ทรงพลังเมื่อไม่นานมานี้ แต่ว่าเดิมทีแล้วมันก็เป็นทักาะที่น่ากลัวที่จะแช่แข็งศัตรูไว้กับที่ เนื่องจากว่ามันยังไม่สามารถหยุดมังกรซอมบี้ในชั้นที่ 15 ได้ดังนั้นก็ไม่มีทางจะหยุดยมทูตโบราณได้
แต่ยังไงก็ตามมันก็ยังแช่แข็งรถลากและม้าได้
[ทั้งหมดที่เจ้าทำก็แค่ทริคเล็กๆน้อย]
“นี้คือพลังที่เธอกำลังหมายถึงไง”
รถลากได้พังลงอย่างง่ายได้ทำให้ยมทูตโบราณต้องกระโดดออกมาอย่างไม่ลังเล ในตอนนั้นเองฉันก็พุ่งเข้าไปหาเธอหลังจากใช้งานโอเวอร์ลอร์ดและหุ้มตัวเองด้วยอินิกม่าพร้อมใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเธอแล้วฉันอาจจะดูเหมือนเส้นแสงสีดำ
ยมทูตโบราณได้รู้ถึงตำแหน่งฉันจริงๆหลังจากฉันมาปรากฏตัวอยู่หน้าเธอแล้ว เธอได้เหวี่ยงเคียวอย่างเร่งรีบ แต่ว่าฉันก็แทงหอกเข้าใจเธอแล้ว
[อั๊ก ขี้ขลาด แล้วก็พลังนั่น]
“ถ้าหากจะถามว่าอะไรที่ฉันได้เรียนรู้จะการต่อสู้ทั้งหมดและประสบการณ์ที่ผ่านมามันก็คือชัยชนะคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
[อ๊ากกกก]
หอกโกลาหลได้เจาะเข้าไปในเกราะอกของเธอ ฮีโรอิค สไตรค์ที่ถูกเสริมพลังขึ้นด้วยอินิกม่าได้ทำลายการป้องกันของเกราะเธอได้อย่างง่ายดาย อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้พลังชีวิตของเธอเหลือเพียงแค่หนึ่งในสี่เท่านั้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้ตายในทันที แต่ว่าตอนนี้เธอก็คงอยู่ในขอบเหวของความตายแล้ว
[อั๊ก ง่ายเกินไป…. ถึงแม้ว่าข้าจะถูกขังไปตลอด ข้าก็จะไม่หลีกทางให้คนที่สร้างความอัปยศให้แน่]
“ฉันก็ไม่เคยบอกให้เธอทำนี่ ฉันจะหามันและเดินผ่านไปด้วยตัวเอง”
เธอเป็นคนบอกให้ฉันสู้โดยไม่สนเพศของเธอ แต่แล้วเธอกลับบอกว่าฉันทำให้เธออัปยศเพียงเพราะแค่ว่าฉันใช้ทักษะ ไร้สาระไปแล้วนะ ฉันเจ็บกับคำพูดแบบนี้ของเธอนะ
ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งและดึงหอกออกมาจากร่างของเธอ ในตอนที่โอเวอร์ลอร์ดใช้งานอยู่ฉันไม่จำเป็นจะต้องกังวลในมานา บางทีก็คงจะเพราะพลังของเธอเพิ่มขึ้นสองเท่าทำให้เธอฝืนตอบสนองการเคลื่อนไหวของฉันและยิงออร่าใบมีดสีเทาใส่ฉัน
[ฉันจะเอาเวลาหนึ่งเดือนมาจากเจ้าแล้วฉันจะได้เจอเจ้าอีกครั้ง]
“ขอโทษนะ แต่ว่าฉันคงต้องปฏิเสธข้อเสนอนั้น””
ออร่าที่ทรงพลังนี้สามารถจะสร้างความเสียหากได้แม้ว่าจะไม่โดนตัว แต่ว่าด้วยความเร็วศักดิ์สิทธิ์ฉันได้พุ่งถอยไปและขยายหอกโกลาหลให้ยาวและหนาขึ้นเพื่อเจาะไปในร่างเธออีกครั้ง
[อ๊ากกกกก ไอสารเลว]
“มาจบเรื่องนี้กัน”
[ฉันจะจบชีวิตเจ้าฮีโร่]
ออร่าของยมทูตโบราณได้ระเบิดออกมาทุกๆด้านในทันที ออร่าที่หุ้มอยู่ตรงหอกของเธอได้หดลงอย่างรวดเร็วเทเลพอตไปสุ่มๆเพื่อระเบิดออกมา
ฉันไม่คิดเลยว่าเทคนิคออร่ามันจะใช้แบบนี้ได้ด้วย แต่ไม่นานฉันก็นึกขึ้นได้ว่านี่มันไม่ใช่เเวลาที่จะมามัวชื่นชมกับพลังของเธอ พลังชีวิตของฉันได้ลดลงไปอย่างต่อเนืองแม้ว่าฉันจะป้องกันมันด้วยอินิกม่าแล้วก็ตามที
[อ๊ากกกก เจ้าคิดว่าฉันจะยอมหรอ]
“ใบมีดธาตุ”
ภูติธาตุได้เข้ามาเสริมภายในหอกของฉัน และทำให้รูบนร่างกายของยมทูตโบราณขยายใหญ่ขึ้นในทันที ในเวลาต่อมายมทูตโบราณก็ได้ลดหัวลงด้วยตาเบิกกว้าง
[ปะ เป็นไปไม่ได้….]
จากนั้นในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นแสงหายไป
[น่าทึ่งมากคุณเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์บียอนที่ประสบความสำเร็จในการเอาชนะยมทูตโบราณเพียงลำพังในการต่อสู้ครั้งแรก คุณได้รับแต้มทักษะ 3 แต้มเป็นรางวัล แต้มทักษะในปัจจุบัน 39]
[คุณได้รับฉายาผู้พิชิตยมทูตโบราณ สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 เป็นการถาวร]
[คุณได้เคลียร์บียอนชั้นที่ 20 คุณได้รับคุณสมบัติที่จะท้าทายดันเจี้ยนชั้นที่ 71]
[พลังชีวิตและมานาสูงสุดเพิ่มขึ้น 2% คุณได้รับแต้มสเตตัส 2 แต้ม]
[ทักษะที่ถูกใช้บ่อยในระหว่างบียอนชั้นที่ 20 จะได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มเติม]
[ยินดีด้วยคุณได้รับรางวัลที่ซ่อนเอาไว้สำหรับนักสำรวจคนแรกเท่านั้น โชคของคุณเพิ่มขึ้น 10]
[ไอเทมลับ ใบมีดเงาซ่อนเร้น (อีปิค)]
“นี้มันง่าย… ง่ายเกินไป”
แม้ว่าฉันจะเอาชนะมาได้ง่ายๆแต่ว่ายมทูตโบราณก็แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสสัย รถลากที่เธอนั่งก็เร็วอย่างมาก แม้ว่าฉันจะทำลายด้วยเสียงคำรามเยือกแข็ง คำสาปยมทูตของเธอก็ยังน่ากลัวมา แม้ว่าฉันจะไม่โดนโจมตีเลยก็ตาม และเธอความเร่งที่จู่ๆเร่งขึ้นและออร่าที่น่าสะพรึงก็ยังน่ากลัว ถ้าหากว่าไม่มีการล่อลวงของลิลิธแม้ว่าฉันจะใช้โอเวอร์ลอร์ดแล้วมันก็ยังยากที่จะเอาชนะ
ยังไงก็ตามในท้ายที่สุดเธอก็เป็นผู้หญิง และฉันก็เป็นผู้ชายที่แย่ ฉันได้ทำลายคำปฏิญาณที่ว่าจะไม่ใช้การล่อลวงของลิลิธอีกครั้งไปอย่างรวดเร็ว…
“บางคนอาจจะบอกว่าหากเป็นอย่างนี้มันจะมีครั้งที่สองครั้งที่สามเกิดขึ้น… ให้ตายสิ นับแต่นี้ไปฉันจะใช้มันกับแค่ศัตรูที่ฉันจะฆ่า”
ด้วยคำปฏิญาณที่ดูจะไร้ความหมายนี้ฉันก็ได้ยกเลิกทักษะโอเวอร์ลอร์ดไปในทันทีหลังจากนั้น
[ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้รับชื่อที่แท้จริงของเทพแห่งการทำลายพระศิวะ]
สิ่งที่เกิดขึ้นสองครั้งในอดีตได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม