Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 256 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (7)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 256 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (7)

บทที่ 256 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (7)

ในตอนที่ฉันได้แทงหอกโกลาหาลงไปสายฟ้าสีดำได้พวยพุ่งขึ้นมาจากกึ่งกลางแผ่นดินน้ำแข็งทันที มันใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่แผ่นน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิจะเปลื่ยนเป็นดำ

[ว้าว]

[เป็นทักษะที่น่าทึ่งมา]

“อีกไม่นานมันก็พังแล้ว”

ฉันได้ดันหอกโกลาหลลงไปขึ้นขึ้นและดินแดนน้ำแข็งนี้ก็ได้เริ่มมีรอยแตกกระจายออกไปจากตรงกลาง เริ่มต้นจากการร้าวด้วยสายฟ้าที่รุนแรง แม้ว่าพลังแต่เดิมของฉันมันจะไม่พอที่จะทำให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ได้ แต่ว่าด้วยแหวนแห่งการพังทลายที่ฉันได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้มันได้ผลักดันให้ฉันสามารถจะสร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ได้ แม้แต้ปีศาจที่สงสัยมาตั้งแต่ต้นก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าฉันกำลังจะทำอะไร

[หยุดมัน นั่นมันเป็นทักษะ]

[ทักษะที่ทรงพลังอย่างนี้เนี้ยนะ ถ้าหากท่านเรสพิน่าอยู่ที่นี่]

แต่ว่าท่านเรสพิน่าไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหมล่ะ

ฉันได้ตะโกนออกไปและแทงหอกลงไปลึกยิ่งขึ้น สกิลของฉันได้ถูกใช้งานอย่างสมบูรณ์ในทันที แผ่นน้ำแข็งขนาดใหย่ได้แยกออกนับร้อยนับพันชิ้นลงไปกระแทกเข้ากับพื้น ชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ต่างก็ได้รับการเสริมพลังจนถึงขีดสุดด้วยมานาของฉันและใส่สายฟ้าสีดำเสริมลงไปด้วยผลจากไกอา บัสเตอร์ มันเป็นภาพที่งดงามมากๆจนใครๆก็อยากจะจับภาพนี้เอาไว้

[สายฟ้านี้มันเป็นไปด้วยคำสาป หลบ]

[มันเยอะเกินไปแล้ว ให้ตายสิ]

ให้ตายสิ!? นั่นแหละที่ฉันอยากจะได้ยิน ฉันได้ลอยขึ้นไปด้วยพลังของธาเลเรียและมองลงไปยังฉากที่งดงามที่ฉันสร้างขึ้นมา ก่อนน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนที่เต็มไปด้วยสายฟ้าสีดำไปพุ่งเข้าไปปะทะใส่ปีศาจ

ปีศาจได้ป้องกันด้วยเวทย์และอาวุธของพวกมัน แต่ว่าเศษก้อนน้ำแข็งมันมากเกินไปที่จะรับมือไหว นอกจากนี้นมานาของฉันก็ยังถูกอัดเข้าไปในเศษก้อนน้ำแข็งแต่ละก้อนทำให้ทำลายการป้องกันของพวกปีศาจไปได้อย่างง่าย เมื่อปีกศาจไม่สามารถป้องกันได้ซักก้อนหนึ่ง ก้องน้ำแข็งอื่นๆก็จะตามมานับสิบเพื่อจัดการเก็บชีวิตของปีศาจตนนั้นไป แน่นอนว่าไกอา บัสเตอร์ไม่ได้เจ็บลงเพียงแค่ทำให้เป้าหมายตจายเท่านั้น พลังสายฟ้าสีดำก็ยังระเบิดออกมาขนาดใหญ่ในครั้งสุดท้าย

[อ๊ากกกกกก]

[นี่มันหายนะ]

[มีมนุษย์ที่มีทักษะที่น่ากลัวแบบนี้ด้วย]

[เป็น เป็นไปไม่ได้…นี้มันต้องเป็นความพิโรธของท่านเทพปีศาจ ความพิโรธของท่านเทพปีศาจ]

“ฉันไม่ใช่เทพปีศาจ ฉันคือคังชิน อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

ก้อนน้ำแข็งสีดำไดตกลงสู่พื้นชายฝั่งของนิวซีแลนด์อย่างไม่หยุดหย่อนจนกระทั่งเสียงกรีดร้องของปีศาจไม่มีอีกต่อไป เมื่อใดก็ตามที่ปีศาจปรากฏตัวออกมาดูเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ก้อนน้ำแข็งทีเหลืออยู่ก็จะระเบิดมานาของมาเพื่อทำให้มันเงียบลงไป

ด้วยมานาจำนวนมากที่ระเบิดไปในทีเดียวทำให้วังวนมานาเกิดขึ้นในหลายๆพื้นที่ ฉันได้รีบบินลงไปดูดพลังมานาเหล่านั้นด้วยวงจรเพรูต้า

“ฟู่ ที่ฉันได้มานาคืนมามากขนาดนี้บางทีมันอาจจะเป็นเพราะมันทำมานาจากมานาของฉันสินะ ชาราน่า ริยู ไปฆ่าพวกที่เหลือกันเถอะ”

[ไว้ใจได้เลย]

[ฉันด้วย ฉันด้วย]

ภูติธาตุทั้งสองที่แสดงรูปธรรมอยู่ได้รับมานากลับมาจากวงจรเพรูต้าและพุ่งออกไปในทิศที่ต่างกัน ฉันได้เร่งความเร็วขึ้นในทันทีเพื่อไปสำรวจหาปีศาจที่รอดอยู่จากนิวซีแลนด์ที่ถูกทำลายไปกว่าครึ่ง

[ไอเจ้าสารเลว เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่เจ้าทำมันฆ่าพี่น้องของเราไปมากแค่ไหน]

ปีศาจก็ดูเหมือนจะมีพลังในการซ่อนตัวอยู่ด้วย ในตอนที่ฉันบินลงไปใกล้ๆพื้นจู่ๆปีศาจก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นพยายามที่จะแทงฉันด้วยมีดสั้นในมือของมัน ปีศาจได้ขยับตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่ฉันจะได้ตรวจจับมันด้วยมานา แต่ว่ามันก็โชคร้ายที่ประเมินการตอบสนองของฉันช้าไปเสียหน่อย

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันฆ่าไปเท่าไหร่แล้ว แต่ว่า….”

ฉันได้แทงคอของปีศาจไปในทันทีด้วยหอกอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตามกรีดร้องมันก็ยังไม่ได้ลดความเร็วลงแม้แต่นิด แม้ว่ามันจะไอเลือดออกมาจากปากมันก็ยังฝืนเปิดตาเอาไว้และตะโกนเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา

[นายเหนือหัวท่านเดม่อนลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่จะเอาเลือดเจ้ามาเป็นเครื่องสังเวย]

ในทวีปลูก้าฉันได้มีประสบการณ์การต่อสู้กับปีศาจมามากแล้ว สิ่งหนึ่งที่ปีศาจมีเหมือนๆกันเลยก็คือพลังชีวิตที่มหาศาลของมัน ก่อนที่มีดสั้นจะมาถึงคอของงฉันฉันได้จุดเพลิงโกลาหลและเผาร่างของมันไปในทันที จากนั้นฉันก็ได้เติมประโยคที่ขาดไปก่อนหน้านี้

“ฉันรู้ว่าฉันจะฆ่ามากยิ่งไปกว่านี้”

[อ่า….]

เพลิงโกลาหลได้อย่างรุนแรงราวกับว่าจะลบทุกๆอย่างออกไป ฉันได้บ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

“แกฆ่ามนุษย์นับร้านและนี่อะไรกันแกมากังขากับจำนวนปีศาจที่ฉันฆ่างั้นหรอ แกพยายามทำให้ฉันสำนึกงั้นหรอ”

มันไม่มีอะไรที่ยุติธรรมอยู่แล้ว ทุกๆคนต่างก็สู้เพื่อเอาตัวรอด สิ่งที่สำคัญก็คือรู้ถึงสิ่งที่ตนเองกระทำไปและก้าวหน้าเดินต่อ ฉันรู้ในเรื่องนี้มานานแล้ว

การปูพรมระเบิดน้ำแข็งสีดำนี้ได้เผาและทำลายพื้นดินไปจำนวนมาก แผ่นดินนิวซีแลนด์ในตอนนี้ดูเหมือนกับได้เผชิญภัยพิบัติครั้งใหญ่ ซากศพของชาวนิวซีแลนด์ในตอนที่ถูกปีศาจบุกต่างก็ถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็ง ในตอนนี้พวกเขาได้ถูกเผยให้เห็นผ่านน้ำแข็งที่ร้าวออกมา…. ไม่สิ ส่วนใหญ่ได้ถูกทำลาย เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ทำให้ฉันออดที่จะคิดไม่ได้ว่าการโจมตีของฉันได้ทำลายศพของพวกเขา

“ไอ้พวกปีศาจสารเลว พวกแกกล้าที่จะทำให้ฉันรู้สึกผิดด้วยการเอาศพของมนุษย์มาทิ้งไว้ทุกที่งั้นหรอ”

แต่ไม่ว่าฉันจะรู้สึกผิดบาปยังไงฉันก็ไม่มีทางหยุดลงเพราะเรื่องนี้แน่ แม้กระทั่งในตอนนี้ผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรียังเข้ามาใกล้ๆกับบริเวณโอเชียเนียยังไม่ได้เลย แต่ยังไงก็ตามถ้าเราป่วนที่นี่และบังคับให้ปีศาจเข้ามาหาเรา ผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีก็จะได้มีโอกาสในการเข้ามาเอง นั่นหมายความว่าการเรียกคืนแผ่นดินก็จะเร็วมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าฉันจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ฉันได้ทำ แต่ว่าฉันมาที่นี่เพื่อปป้องกันโอเชียเนีย ฉันมาป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก แทนที่จะมากังวลเรื่องคนที่ตายไปแล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่มีความสำคัญกว่ามาก

“ฟู่ เอาล่ะไปกันเถอะ”

ฉันได้ดูดมานาที่ปล่อยออกมาจากร่างของปีศาจและสร้างวังวนสีดำหุ้มหอกของเอาไว้ ในเวลาเดียวกันฉันก็เสริมพลังมานาขึ้นไปในปอดเพื่อตะโกนออกไป

“ถึงผู้รอดชีวิตทุกตัว ฮีโร่ที่พวกแกอยากจะฆ่านักหนาอยู่ที่นี่แล้ว”

[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในที่แห่งนี้จะเข้ามาโจมตีคุณอย่างเกลียดชัง]

จากนั้นจากสถานที่ๆแผ่นกันที่รกร้างได้เริ่มพุ่งพล่อนขึ้นจากปีศาจที่รุกหือออกมา แม้ว่าจะมีปีศาจบางตัวที่ต้านทานทักษะยั่วยุของฉันได้ แต่ว่าอย่างน้อยพวกมันส่วนมากก็ต้านไม่ได้นี้คือจุดประสงค์ของฉัน

[มันคือฮีโร่]

[ถ้าเราฆ่ามัน เดม่อนลอร์ดก็ไม่จำเป็นจะต้องมา]

[มันคือคนที่ฆ่าพี่น้องของเรา]

[เกียรติยศแด่เดม่อนลอร์ด ขอให้พรแห่งเทพปีศาจสถิตอยู่กับท่านเรสพิน่า]

ปีศาจได้เริ่มมารวมตัวกันเข้ามาหาฉัน ริยูและชาราน่าได้รีบบินไปรอบๆอย่างวุ่นวายเพื่อสร้างเสาน้ำแข็งและเคียวแห่งสายลมเพื่อสังหารเหล่าปีศาจ ยังไงก็ตามพวกมันก็ยังคงจ้องมาที่ตัวฉัน เมื่อเห็นความเกลียดชังที่เต็มอยู่ในสายตาของพวกมันทำให้ฉันต้องยิ้มออกมา ในเวลาเดียวกันฉันก็เร่งพลังของดวงตามารจนถึงขีดสุด

[อั๊ก]

[ระ ร่างกายข้า…]

[ฮีโร่มีแม้แต่ดวงตามาร]

น่าทึ่งมากฉันคิดเอาไว้อยู่ว่าปีศาจที่อยู่ในนิวซีแลนด์นี้จะอ่อนแอกว่าออสเตรเลียอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่าก็มีพวกมันแค่ประมาณ 30% เท่านั้นที่กลายเป็นหินในทันที พวกตัวอื่นๆส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบกับการเคลื่อนไหวเท่านั้น แม้ว่าฉันจะสามารถเปลื่ยนมันเป็นหินได้ถ้าหากฉันใส่มานาจำนวนมากลงไปอีก มันจะเป็นการเร็วกว่าสำหรับฉันที่จะฆ่าพวกมันตรงๆ ยังไงก็ตามแม้ว่าฉันจะไม่ใส่มานาเพิ่มลงไปในดวงตามาร พวกมันก็ถูกยับยั้งการเคลื่อนไหวอยู่แล้ว

“มาสู้กัน”

[เจ้าขี้ขลาด]

ปีศาจเพศหญิงที่ดูจะมีความแข็งแกร่งประมาณระดับ SSS ได้พุ่งเข้ามาหาฉัน ฉันได้เพิ่มเสน่ห์ขึ้นในทันทีและปล่อยใส่ตัวเธอ เธอได้หยุบการเคลื่อนไหวจากนั้นใบหน้าก็แดงขึ้นขณะเดียวกันเธอก็ยังเร่งพลังเวทย์ออกมาเพื่อต้านเสน่าห์ของฉัน แต่ว่าในระหว่างนี้เธอก็เปิดช่องโหว่จำนวนมากออกมาแล้ว

[เจ้า….]

มันไม่จำเป็นต้องลังเลใดๆ วังวนเพลิงสีขาวที่สร้างขึ้นมาจากเพลิงโกลาหลและออร่าของฮีโร่ได้ถูกยิงใส่หัวของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่มีหัวแล้วเธอก็ยังยืนหยัดอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานนักก็กระจายเป็นเศษมานาไปตามท้องฟ้า พลังหมุนวนที่ทรงพลังของวงจรเพรูต้าได้ดึงมานานั้นเข้ามาหาหอกของฉันและเสริมพลังของวังวนขึ้นในทันที

แม้ว่าปีศาจะมีพละกำลังที่มาก แต่พลังป้องกันของมันแย่ยิ่งกว่ามอนเตอร์ธรรมดาซะอีก การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้พวกมันเจียนตายได้ ฉันเพียงแค่จะต้องฆ่าพวกมันก่อนที่มันจะฆ่าฉันเท่านั้นเอง

[เจ้านั่น…]

[แข็งแกร่ง…]

ไม่นานนักความเงียบก็กลับมา มันดูเหมือนว่าปีศาจผู้หญิงนั้นจะเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้ ในตอนที่ปีศาจมองมาที่ฉันอย่างไม่ยอมรับกับความจริงที่ว่าเธอได้ตายอย่างง่ายดายฉันก็ยิ้มขึ้นและยั่วยุพวกนั้น

“อะไร จะไม่เข้ามาแล้วหรอ”

[….ฆ่ามัน]

ยังไงก็ตามปีศาจแต่ละตัวก็มีเวทย์พิเศษของตัวเองและเวทย์มืดของพวกมันก็น่ารำคาญเป็นพิเศษ ถ้าหากพวกมันโจมตีพร้อมๆกันก็จะยิ่งน่ารำคาญมากขึ้น

[เผา]

[เจ้าจะต้องถูกเผาจนเป็นเถ้า]

ปีศาจที่อยู่รอบๆได้ทุ่มการโจมตีมาที่ฉันทั้งหมด ปีกของธาเลเรียได้สะบัดอย่างไม่ล่าช้าเพื่อส่งชั้นขึ้นไปบนท้องฟ้าและหลบการโจมตีเหล่านี้ จากนั้นฉันก็ได้เหวี่ยงหอกครั้งหนึ่ง

“อ่า ภูติธาตุช่วยฉันทีสิ”

แสงสว่างที่เหมือนกับดาวจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งตามรอยหอกของฉัน จำนวนของภูติธาตุที่ไม่อาจจะนับได้มารวมกันอยู่ที่หอกของฉัน

[ตอบรับความโกรธของเจ้าชาย]

[กลายเป็นส่วนหนึ่งของแสงที่จะขับไล่ความชั่วร้าย]

[ทำตามประสงค์ของดวงดาว ทำตามประสงค์ของเจ้าชาย]

เอ๊ะ ความคิดของภูติธาตุต่างไปจากปกติ พวกเขากำลังศึกษาปรัชญางั้นหรอ แม้ว่าฉันจะสงสัยนิดหน่อย แต่ว่าเวทย์จำนวนมากก็ลอยมาหาฉันแล้ว

ริยูกับชาราน่าได้บินเข้ามาและป้องกันเวทย์พวกนี้ทีละอย่าง แต่ว่าฉันได้ให้พวกเธอถอยกลับไป จากนั้นก็ปล่อยพลังมานาและภูติธาตุที่รายล้อมหอกออกมา

“พายุธาตุ”

[ติดคริติคอล]

[อ๊าากกกกก]

[องค์เหนือหัวเดม่อนลอร์ด]

[เวรเอ้ยยย]

ความโกรธของภูติธาตุได้ปกคลุมไปทั่วแผ่นดินและในเวลาเดียวกันเคียวจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าและตัดปีศาจออก เสียงแห่งความตายของปีศาจได้ดังออกมาและไม่นานนักลมหนาวก็พัดขึ้น มันราวกับว่าพลังของเทพแห่งความตายกำลังเข้าข้างฉัน

“ฟู่….”

หลังจากคลื่นพายุธาตุเงียบลงไป ฉันก็ได้เร่งวงจรเพรูต้าขึ้นอีกครั้งเพื่อเติมเต็มมานาครึ่งหนึ่งและเรียกหอกกลับมา ในตอนนั้นเองได้มีคนบินเข้ามากอดฉัน

“พ่อ”

“โอ้ ไอน่า ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ”

“อื้อ หนูกลับมาหลังจากเก็บพวกแมลงวันบนท้องฟ้าค่ะ”

ขอโทษนะไอน่า ให้อภัยพ่อที่สอนเรื่องแบบนี้กับหนูด้วยนะ….

“นี้มันเยี่ยมไปเลย มาตั้งใจทำงานกันอีกนิดนะ ในตอนที่เราหมดธุระแล้ว พ่อจะได้ไปเล่นกับไอน่าทั้งวันเลย”

“จริงหรอ โอเคค่ะ หนูจะพยายามให้ดีที่สุดเลย”

ไอน่าได้กำหมัดอย่างร่าเริง ไม่นานนักสมาชิกรีไวเวิร์ลคนอื่นๆก็มาถึง พวกเราได้เข้ามาสู่นิวซีแลนด์อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก้คือการจัดการเหล่าปีศาจที่ไร้ผู้นำแล้ว ฉันได้ตะโกนออกไป

“ไปกันเถอะทุกๆคน พวกเราจะต้องจัดการนิวซีแลนด์ให้จบในวันนี้”

[อ๊ากกกกกก… ฉันหมุนต่อไปไม่ไหวแล้ว….]

เยี่ยม โชคดีที่ยังคงมีภูติธาตุที่ยังเหมือนเดิมอยู่….

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset