Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 257 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (8)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 257 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (8)

บทที่ 257 – เหนือดินแดนน้ำแข็ง (8)

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่กว่าเกาหลี 2.5 เท่า แต่ว่าเมื่อเทียบกันกับออสเตรเลียแล้วออสเตรเลียสามารถจะนับได้เลยว่ามีขนาดใหญ่กว่านิวซีแลนด์ถึง 25 เท่า แม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าประเทศที่ใหญ่แบบนี้จะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อยู่ทั่วทุกมุม แต่ฉันก็เดาว่ามันจะต้องมีปีศาจมากกว่าในนิวซีแลนด์แน่นอน ในตอนที่ฉันกำลังจะไปเผชิญหน้ากับพวกนั้นมันทำให้ฉันอดที่จะระวังตัวไปได้

หลังจากที่ปล่อยรากิของเดซี่ไปจัดการบนท้องฟ้าทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้เริ่มฟื้นฟูนิวซีแลนด์นี้อย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของปีศาจนั้นแตกต่างไปจากมอนสเตอร์คือมันมีเป้าหมายและจุดประสงค์ชัดเจน มันทำเพื่อที่จะทำลายอารยธรรมของมนุษย์และสังหารมนุษย์ทิ้งทำให้ไม่ีใครรอดอยู่ในนิวซีแลนด์นี้เลยพร้อมทั้งสิ่งก่อสร้างแม้แต่อย่างเดียวก็ไม่มีให้เห็น

“โหดร้าย… นี้มันเพียงแค่สองวันนะ…”

“บางทีฉันก็ควรจะมาที่นี่ตั้งแต่ที่รู้เรื่องแล้ว”

ฉันได้เริ่มรู้สึกร้อนล้น ฉันสงสัยว่าสิ่งที่ฉันทำมันเป็นตัวเลือกที่ผิด ถ้าหากฉันรู้ว่านิวซีแลนด์จะถูกลบออกไปแล้ว ฉันก็ควรจะมุ่งหน้าไปออสเตรเลียในทันที อย่างน้อยที่สุดประชากรของออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ก็จะ… ไม่สิฉันไม่ควรจะคิดแบบนี้

ฉันได้เก็บความคิดที่ไร้ประโยชน์กลับไป สิ่งที่ฉันควรจะตั้งสมาธิเอาไว้ในตอนนี้ก็คือการเดินทางสู่ออสเตรเลียให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

“ออสเตรเลียจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยกันอยู่ตามพื้นที่ชายฝั่ง พวกเราไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปในทวีปลึกนัก”

“ฉันรู้ฉันได้ไปเคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนที่นั่นมาเหมือนกัน แต่ว่าการที่มีประชากรรวมกันอยู่ใกล้ๆนั้นนั้นยิ่งหมายความว่าพวกเขาเป็นเป้าหมายได้ง่าย ให้ตายสิฉันหวังว่าพวกผู้พิทักษ์กับปีกแห่งเสรีจะทำได้ดีนะ”

เมื่อคิดไปถึงทั้งสององค์กรที่ไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือทั้งสองนี้ทำให้ฉันต้องถอนหายใจออกมา มีกองทัพทหารชั้นนำอยู่ที่นิวซีแลนด์เหมือนกัน แต่ว่าเราก็ไม่สามารถจะมองเห็นพวกเข้าได้แม้แต่นิดเลยในขณะที่เราใกล้จะจัดการที่นี่เสร็จแล้ว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาได้ถูกกำจัดจนเกลี้ยง แต่… บ่งทีความเสียหายที่เขาได้รับในครั้งนี้ก็รุนแรงเกินไป

การจัดการเคลียร์นิวซีแลนด์นี้ของพวกเรากินเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น กองทัพปีศาจส่วนใหญ่ที่แข็งแกร่งนั้นประจำการอยู่ในนิวซีแลนด์ทำให้พวกเราสามารถกำจัดพวกปีศาจที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว พวกเราก็ยังได้พยายามจะละลายดินแดนน้ำแข็งด้วยพลังของรากิกับฮวาหยาเหมือนกัน แต่ว่าดูเหมือนมันจะไม่มีวันจบสิ้น ในท้ายที่สุดพวกเราก็เลยได้ตัดสินใจหาวิธีอื่นในการจัดการสถานการณ์แบบนี้

[เจ้าจะต้องศิโรราบต่อหน้าพลังของท่าเรสพิน่า]

“และแกก็ศิโรราบต่อหน้าพลังของฉัน”

[ความแตกต่างระหว่างข้ากับท่านเรสพิน่าต่างกันราวฟ้ากับเหว อย่าได้คิดว่าเจ้าจะเข้าถึงระดับของท่านได้เหมือนอย่างที่ปราบเรา]

[จ้า จ้า ลาล่ะ]

ฉันได้ถอนหายใจออกมาและตัดหัวของปีศาจไป เพราะแบบนี้เราจึงได้หมดธุระที่นิวซีแลนด์แล้ว ยังไงก็ตาม….

ไม่ว่าเราจะค้นหากันหนักแค่ไหนเราก็ไม่เจอร่องลอยอะไรที่พิเศษเกี่ยวกับตัวปีศาจที่ชื่อว่าเรสพิน่าเลย ทั้งหมดที่เรารู้ก็มีเพียงแค่ว่าเรสพิน่าเป็นเพศหญิง ในตอนที่ฮวาหยารู้เรื่องนี้เธอได้มองมาที่ฉันอย่างกังวล

“ชินเธอเป็นปีศาจนะ คนๆนั้นเป็นคนที่ทำการสังหารหมู่นี่ ถ้าหากมีคนรู้เข้าภาพลักษณ์ของรีไวเวิร์ลต่อสาธารณะชนแย่แน่ เข้าใจนะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่มีทางปล่อยให้ปีศาจมีชีวิตรอดไม่ว่ายังไงก็ตามอยู่แล้ว”

“อะ อ่า เยี่ยม”

“ฟู่…”

ฉันได้สะบัดหอกเอาเลือดของปีศาจออกไปก่อนที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า การต่อสู้บนท้องฟ้าก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดว่าใกล้จบลงแล้วจากการที่รากิได้กลืนปีศาจลงไป มันใกล้ที่จะจบลงแล้ว

แต่แล้วมันยังไงล่ะ ความเสียหายมันมากเกินไปกว่าที่จะย้อนกลับแล้ว ดินแดนแห่งนี้ก็ยังถูกแช่แข็ง สิ่งก็สร้างถูกถล่ม และคนก็ตายไปแล้ว ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็มีเพียงแค่คำว่าพังพินาศขึ้นมาในหัวของฉัน ฉันได้พึมพัมกับตัวเอง

“เหลือรอดอยู่อีกกี่ตัว”

“มีประมาณ 500,000 กว่าตัวที่รอดอยู่ นิวซีแลนด์ไม่ใช่เป้าหมายหลักของพวกมัน

“….รีบไปออสเตรเลีบกันเถอะ”

ต้องขอบคุณการที่เราดึงความสนใจให้มานที่นี่ในตอนที่ทำการกวาดล้างปีศาจชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ทำให้ผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีสามารถจะเข้ามาในนิวซีแลนด์ได้ พวกเราได้ทำการติดต่อกับพวกเขาและปล่อยให้พวกเราจัดการดูแลที่นี่ต่อก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ออสเตรเลียในทันที

แม้ว่าจะยังมีหมู่เกาะเหลืออยู่อีกหลายที่ แต่โอเชียเนียก็มีส่วนประกอบหลักของออสเตรเลีย นี้ก็ยังเป็นที่ๆเรสพิน่าจะไปอยู่ แผนการของเราคือการฆ่าเธอและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดในอนาคต ถ้าหากว่าปีศาจชี้ดาบของพวกมันไปที่อื่นก็คงจะไม่เกิดการสูญเสียที่มากขนาดนี้

[ก๊าซซซซซซซซ]

เสียงคำรามของรากิได้ดังออกไปอย่างกว้างไกล นี้มันเป็นเพราะว่าจำนวนของปีศาจนับไม่ถ้วนกำลังคอยเราอยู่เหลือชายฝั่งทะเลของออสเตรเลีย

[เจ้านั่นคือฮีโร่]

[คนที่ฆ่าพี่น้องเรา]

[จัดการมันก่อน อย่าต้องให้ท่านเรสพิน่ามาลงมือ]

“รากิ จัดการ”

[ก๊าซซซซซซซซ]

เดซี่ได้เหวี่ยงแส้ของเธอในขณะที่ออกคำสั่งไปอย่างวงบ เสียงคำรามของรากิได้ดังขึ้นอีกครั้งในทันทีทำให้เพลิงขนาดใหญ่จำนวนมากถูกยิงออกมาจากปากรากิเข้าใส่ปีศาจ พวกเราก็ยังจัดการโจมตีปีศาจที่หลบไฟของรากิได้เช่นกัน แม้อย่างนั้นจำนวนปีศาจก็ยังคงผุดขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ

[จบมันที่นี่]

[เรามาตัดสินชะตากรรมของโลกกันฮีโร่]

แม้ว่าไฟของรากิจะแพร่เข้าใส่ปีศาจอย่างไม่สิ้นสุด แต่ว่าด้วยจำนวนที่มากมายของมันพวกเราจึงไม่สามารถหยุดการร่ายเวทย์ของพวกมันได้ ในหมู่พวกมันก็ยังมีปีศาจที่เป็นพิเศษกำลังรวมตัวกันเพื่อสร้างเวทย์ขนาดยักษ์ขึ้นเพื่อคุกคามเขา ในท้ยที่สุดแล้วฉันก็ต้องกระโดดลงมาจากหลังของรากิไปบนหลังล็อทเต้

“พวกเราบุกไปข้างหน้า”

“พวกเราก็จัดช่วยจัดการครึ่งหนึ่ง นายไปจัดการด้านซ้ายเลย”

ฮวาหยากับไอน่าดูจะคิดแบบเดียวกันทำให้พวกเธอทั้งคู่พุ่งออกไปบนท้องฟ้า ฉันเชื่อใจพวกเธอทั้งคือทำให้ฉันแค่หยักหน้ารับและบุกออกไปต่อ

“โอ้ววววววว มาลองฆ่าฉันสิ”

[ฮีโร่ออกมานูนแล้ว]

[เล็งเวทย์ไปที่เจ้านั่น]

ฉันได้ปลุกพลังของวิญญาณสัมบูรณ์จนถึงขีดสุด การหมุนของวงจรเพรูต้าได้สร้างวังวนออร่าขึ้นล้อมร่างฉัน อาวุธของฉันและแม้กระทั่งล็อทเต้ ภูติธาตุจำนวนไม่สิ้นสุดและมานาจำนวนมหาศาลก็ได้มารวมกันเป็นวังวนอีกชั้นหนึ่งราวกับว่ามาปกป้องฉัน

“ราชันวายุพิโรธ”

ฉันได้เพิ่มพลังลมกับสายฟฟ้าขึ้นไปอีก ปีศาจก็ได้ส่งเวทย์นับไม่ถ้วนมาหาฉัน พวกมันบางตัวก็ยังมีพลังมาพอที่จะทำให้กระเด็กออกไปได้ แต่ฉันก็ยิ้มออกมาอย่างสบายๆและพุ่งเข้าไปในพายุเวทย์นั้น

“ฮ่าห์”

ฉันได้ปะทะกับเวทย์พวกนี้ ด้วยพลังทำลายล้างของมานาที่ระเบิดออกมาฉันก็ได้ดูดมานาเหล่านี้ด้วยวิญญาณสัมบูรณ์มาเพิ่มให้กับพลังชีวิตที่เสียไป

“ล็อทเต้เธอทนไหวใช่ไหม”

[ข้าไม่เป็นไร ไปฆ่าพวกนั้นกันฮีโร่]

ในตอนที่ปีศาจเห็นฉันพุ่งเข้าไปอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่หยุดลง พวกมันก็กลายเป็นสับสนและเสียตำแหน่งยืน แม้อย่างนั้นพวกปีศาจก็ยังคงยิงพลังเวทย์มาใส่ฉันอย่างต่อเนื่องแค่ว่าก็ไม่มีเวทย์ใดที่เจาะวังวนออร่าของฉันเข้ามาได้ จริงๆและในตอนที่ฉันสัมผัสกับเวทย์พวกนี้มานาของพวกมันที่ใช้ออกมาก็ถูกดูดไปเสริมพลังให้กับวังวนออร่าแทน

[เจ้านั่นดูพลังเวทย์ของพวกเรา]

[เจ้านั่นเร็วเกินไป…อั๊ก]

“ฉันจะทะลวงผ่านทางขวาทั้งหมดเอง”

ฉันได้ตะโกนปลุกพลังพร้อมพุ่งไปพร้อมๆกับล็อทเต้ พวกเราเหมือนกับหอกยักษ์ เมื่อมองดูจากด้านนอกแล้วจะมีวังวนออร่าล้อมพวกเราเอาไว้อยู่ทำให้เราดูคล้ายหอกแบบนั้นจริงๆ

ในทางกลับกันพลังเวทย์ของฮวาหยากับไอน่าได้ทำลายปีศาจจากระยะไกล นี้คือวิธีที่ดีและก็ยังดีมากๆกว่าการที่เอาร่างกายเข้าไปปะทะตรงๆแบบฉัน แต่ยังไงก็ตามฉันไม่ได้โง่….

“เข้ามาเจ้าพวกลิงฟ้า กำลังใจก่อนหน้านี้ของพวกแกไปไหนซะแล้วล่ะ”

[เจ้านั่นมันบ้าไปแล้ว]

[พลังเวทย์เผ่าปีศาจเราไม่ได้ผล]

มันได้ผล แต่มันก็แค่ฉันได้ใช้พลังเวทย์ของพวกปีศามาฟื้นฟูตัวเองเท่านั้น วงจรเพรูต้าจะฟื้นฟูส่วนต่างๆของร่างกายที่ถูกทำลายไปจากการต้านกับเวทย์และเสริมการทำงานของร่างกาย เพียงแค่นี้มันก็ไม่ใช่ว่าจะพอที่จะฟื้นฟูพลังชีวิตที่เสียไปได้หมด แต่แม้ว่าฉันจะไม่เคยเรียนรู้อะไรจากใครก็ตาม ฉันก็เข้าใจในสภาพร่างกายของตัวเองดีและในตอนที่ฉันได้เชี่ยวชาญทักษะวงจรเพรูต้ามากยิ่งขึ้น ฉันก็สามารถทำแบบนี้ได้ง่ายราวกับหายใจ

“โอ้วววววววว”

การบุกของฉันได้รุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ วังวนออร่าที่หมุนอยู่รอบๆตัวฉันได้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆจนยากที่จะควบคุมมัน พลังลมและสายฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นจากทักษะราชันวายุพิโรธก็ยังได้มาเสริมพลังให้กับวังวนนี้ ในตอนนี้เวทย์ได้ถูกทำลายไปในทันทีที่ได้สัมผัสกับวังวนออร่าและปีศาจก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

[หยุดการบุกของมัน]

[เจ้านั่นคือฮีโร่จริงๆ ติดต่อหาท่านเรสพิน่า]

“พวกแกจะตายก่อนหน้านั้นแน่”

การขยายพลังของราชันวายุพิโรธได้มาถึงขีดสุดแล้ว แต่ว่าฉันก็ยังไม่มีความตั้งใจจะหยุดมัน ฉันได้จับหอกที่ถูกเสริมพลังงานจำนวนมากเอาไว้อย่างแน่นหนาเพราะฉันก็อาจจะพลาดหากไม่ระวัง ฉันได้ผลิกเส้นทางที่พุ่งบุกอยู่กลางอากาศและเข้าไปหาเหล่าปีศาจพร้อมๆกับล็อทเต้กลุ่มอื่น ในตอนนั้นเอง

[หยุด]

ร่างกายของฉันได้ชะงัก ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกเหมือนกับพลังที่อยู่รอบๆตัวฉันกำลังสั่น ทำไมล่ะ ฉันรู้เหตุผลนี้แน่นอน นี้มันเป็นเพราะว่าฉันได้ใช้ความรู้สึกและการควบคุมมานาสินะ

มุมปากของฉันได้ยกยิ้มขึ้น ฉันได้เร่งรีบรวมกลังที่กระจายออกไปทั่วทิศรอบๆ เสียงร้องดังสนั่นได้ดังขึ้น

[อ๊ากกกกกกกกกกกก]

[ท่านเรสพิน่า]

[เวร… อ๊ากกกก]

จากนั้นสิ่งที่ฉันรู้ฉันก็คือพลังที่ฉันใช้ออกไปมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน ฉันรู้สึกเหมือนกับท้องฟ้ากำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ

ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนที่เต็มอยู่ทั้งท้องฟ้าได้หายไปโดยที่ไม่เหลือร่องรอยใดๆเอาไว้ และเพื่อนของฉันก็ยังร่วงลงมาตกตะลึง

มันใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่การระเบิดของมานาครั้งยิ่งใหญ่จะลดลง มันเป็นเพราะว่าวงจรเพรูต้าได้หมุนดึงมานากลับมาอย่างรุนแรงโดยที่ไม่ยอมปล่อยมานาทิ้งเอาไว้

พลังงานที่สร้างจากระเบิดก็ยังถูกดูดเข้ามารวมในปลายหอกของฉันเป็นจุดๆเดียว ด้วยแบบนี้ทำให้ฉันสามารถจะมองโดยรอบได้อย่างชัดเจน

ฉันกำลังเผชิญหน้ากับปีศาจ เธอสวยงามมากเหมือนกับพลังที่มีอยู่ในร่างกายของเธอ

“ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เจอกับเธอเร็วแบบนี้ ฉันคิดว่าเธอจะรอฉันอยู่ส่วนในสุดของออสเตรเลียซะอีก”

[ข้าปล่อยให้เจ้าจัดการกวาดล้างกองทัพขององค์เหนือหัวไม่ได้หรอก ข้าได้วางแผนตั้งมากมายที่จะจัดการเจ้าตั้งแต่ที่อยู่ในเกาะเล็กๆอีกด้วย แต่ว่า….]

“พวกเธอทั้งหมดอ่อนเกินไป ฉันเลยยังไม่ตายสินะ”

ฉันได้ยิ้มออกมาและบีบอัดมานาที่รวบกันอยู่ตรงปลายหอกให้เล็กยิ่งขึ้น ปีศาจสาวที่มีผมยาวได้ขบฟันแน่น เธอก็ยังสามารถจะใช้พลังที่มหาศาลเทียบเท่ากับฉัน ฉันสามารถจะบอกเรื่องนี้ได้เลยเพียงแค่มองไปที่ดาบยาวในมือของเธอ

นอกจากนี้ฉันยังบอกได้อีกว่าพลังที่เธอใช้ก่อนหน้านี้มันก็ยังร้ายแรงมากๆสำหรับฉันที่ใช้พลังจากดันเจี้ยน นับตั้งแต่ที่ฉันถูกโจมตีครั้งหนึ่ง ฉันสามารถจะบอกได้ถึงผลกระทบอะไรที่มันมีอยู่ แต่ฉันก็ยังไม่ได้เข้าใจในกลไกเบื้องหลังมากมากพอ เธอสามารถจะใช้พลังของเธอได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องรู้หลักการของมันเหมือนๆกันกับทักษะที่ฉันมี

[มนุษย์ผู้ยโส…. ผู้ที่ได้รับพลังจากคนอื่นไม่ได้มีแต่ฝั่งเจ้าเท่านั้น]

“เข้ามาสิเรสพิน่า ฉันจะได้ทำให้เธอรู้ว่าพลังนี้มันอยู่ข้างฉันหรือป่าว”

นี้เป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้กับบอส

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset