บทที่ 324 – ด้วยพลังของตัวนายเอง (4)
มิสไซต์นี่ได้ทำให้ฉันต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่พวกนายยิงมิสไซต์มาก็เพราะว่าปืนใช่ไม่ได้ผลงั้นหรอ!? นี่มันไม่มากไปหน่อยหรอ!?
มิสไซต์นี่ไม่ใช่แค่ใหญ่เท่านั้น แต่มันยังมีพลังและมานาจำนวนมหาศาลอยู่ภายในอีกด้วย มิสไซต์นี่ได้ร่วงลงมาที่หัวของเขาตรงๆโดยที่ไม่มีโอกาสได้หลบเลย
แต่พูดก็พูดเถอะนะฉันไม่ได้คิดจะหลบอยู่แล้ว
“ว้าว”
ตามปกติมิสไซต์จะถูกจุดชนวนระเบิดขึ้นเมื่อกระทบกับเป้าหมายแต่มิสไซต์นี่ได้ระเบิดออกมาเองแล้ว ซึ่งปัญหาก็คือแรงระเบิดนั้นจะปะทุขึ้นมาจากบนหัวของเขา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ได้คิดว่าฉันได้เห็นแรงระเบิดนี่หายไปราวกับถูกดูดหายไป
ในตอนนี้เองได้มีประกายสายฟ้าเข้ามาในหัวของฉัน ไม่เพียงแค่กระสุนเท่านั้น แต่กระทั่งแรงระเบิดพลังงานจากมิสไซต์ก็ยังหายไปเช่นกัน
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงระเบิดเหมือนฟ้าฝ่าดังออกมาจากอีกฝากหนึ่ง เสียงนี่ดังยิ่งกว่าครั้งไหนๆในตอนที่ฉันสะท้อนกระสุนกลับไป
[…คุณได้ทำลายร่างหลักของเครื่องจักรสังกร 19%]
“ต่อไปมันจะยิงอะไรมากันนะ…”
เพราะแบบนี้ฉันก็เลยยืนนิ่งรออยูพักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรมาระเบิดอยู่บนหัวฉันอีกแล้ว นี่มันดูเหมือนกับว่ามันได้ใช้พลังงานทั้งหมดของมันไปกับการโจมตีก่อนหน้านี้แล้ว ร่างหลักของเครื่องจักรสังหารได้ปล่อยให้ฉันที่ 88 นี่อยู่เงียบสงบไป
ยังไงก็ตามในชั้นที่ 89 มันต่างออกไป หุ่นยนต์จำนวนมากจนไม่น่าเชื่อได้มาต้อนรับเขาตั้งแต่เริ่ม พวกมันมีจำนวนมากยิ่งกว่าปีศาจที่ฉันได้ฆ่าไปในกรีนแลนด์ซะอีก! จำนวนของหุ่นยนต์มากยิ่งกว่าในชั้น 88 ถึง 10 เท่า และมากยิ่งกว่าชั้นที่87 ถึง 30 เท่า
นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว! ไม่มีดันเจี้ยนชั้นไหนเลยที่จะมีจำนวนมอนสเตอร์มากขนาดนี้! ต่อให้เจ้าพวกนี้จะเป็นหุ่นยนต์ก็ตาม!
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี้ย!?”
ฉันได้ตะโกนออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่พวกมัน หุ่นยนต์จำนวนนับแสนได้ระดมยิงกระสุนเข้าใส่ฉันทันที ต่อให้การสะท้อนกระสุนกลับไปหนึ่งนัดจะใช้มานาแค่เพียง 1 แต่ว่าการจะป้องกันกระสุนเป็นแสนๆนัดนั้นก็ทำให้ฉันต้องพูดไม่ออก
[ข้าดอร์ตู กำลังทำงาน…]
“อย่าพูดแบบนี้สิ!”
ดอร์ตูได้บินออกมาแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนแต่มันก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นในการต่อสู้
อย่างแรกฉันได้เรียกชาราน่าออกมา
“ชาราน่าเข้ามาช่วยเพิ่มพลังในตัวฉันที”
[ค่ะนายท่าน!]
ในทันทีที่ชาราน่าเข้ามาในร่างของฉัน ฉันก็รู้สึกตัวเบาขึ้นยิ่งขึ้นและเหล็กกล้าก็ได้เปล่งประกาศแสงออกมาสว่างมากยิ่งขึ้นอีก นี่แหละคือสิ่งที่ฉันคิดไว้ เหล็กกล้าคือส่วนหนึ่งของตัวฉัน หากฉันแกร่งขึ้นเหล็กกล้าก็จะแกร่งขึ้นด้วย มานาจำนวนมหาศาลที่ฉันจะต้องใช้ขโมยการโจมตีจากศัตรูก็ยังลดลงไป
แม้ว่าการให้ชาราน่ามาอยู่ในตัวก็จะใช้มานาเช่นกัน แต่ว่านี่ก็ดีกว่าการที่ต้องเสียมานาไปกับการสะท้อนที่มากกว่ากันมาก
“ทะเลเรีย! เพตตะซัส! โลกมายา!”
ฉันได้ถือหอกพุ่งตรงออกไปด้านหน้าพร้อมกับสะท้อนกระสุนทั้งหมดที่พุ่งเข้าใส่ฉันกลับไป! หุ่นยนต์จากหลายๆจุดได้ระเบิดขึ้นมา กระสุนที่สะท้อนกลับไปได้ถูกเสริมพลังของฉันเข้าไปอีกด้วยทำให้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมเป็นผลให้แค่การสะท้อนกลับเพียงครั้งเดียวก็มากพอที่จะฆ่าเจ้าของการโจมตีแล้ว
“ย๊ากกกกกกก!”
ฉันได้พุ่งออกไปพร้อมๆกับการตะโกนขึ้น ชั้นที่ 89 มีหุ่นยนต์จำนวนมากราวกับเครื่องจักรสังหารได้เอามันมาจากชั้นอื่นๆด้วย แต่ว่านั่นมันเป็นไปได้งั้นหรอ? เอาล่ะพอมาลองคิดดูแล้วนี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันสามารถจะโจมตีบอสประจำชั้นได้จากชั้นปกติ พอมาลองคิดๆดูมันก็น่าจะเป็นไปได้ที่บอสประจำชั้นจะสามารถควบคุมการปรากฏตัวของลูกน้องในชั้นได้ด้วย
แต่หากว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้างั้นสิ่งที่ฉันคิดในระหว่างเฝ้าดูการโจมตีของเครื่องจักรสังหารที่แสนเย็นชาก็น่าจะเป็นจริง มันก็น่าจะหมายความว่าเครื่องจักรสังหารไม่น่าจะมีแค่ความสามารถในการควบคุมอาวุธทั้งหมดเท่านั้น มันยังน่าจะมีความสามารถอื่นอีกด้วย เมื่อเอาความสามารถนั่นมารวมกับความสามารถในการควบคุมอาวุธก็ได้ทำให้มันพิชิตโลกได้
“อ๊าา มานาฉันกำลังลดลงต่ำแล้ว”
ฉันได้กัดฟันบ่นออกมา ถึงแม้ว่าตัวฉันจะใช้ประโยชน์จากวิญญาณสัมบูรณ์กับวงจรเพรูต้าอย่างเต็มที่ แต่ว่ามันก็ยังยากอยู่ดีที่จะฟื้นฟูมานาที่กำลังลดลงจากการระดมยิ่งของหุ่นยนต์ นี่เจ้าเครื่องจักรสังหารนั้นมันเจอวิธีจัดการกับการสะท้อนของฉันแล้วสินะ?
[ข้าดอร์ตู ได้หุ่นยนต์มาตัวหนึ่งแล้ว]
“การที่นายจะจัดการกับพวกทั้งหมดมันนี่ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกัน”
[ข้าดอร์ตู ข้าต้องการเวลาประมาณ 20 ชั่วโมง]
“เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก”
ฉันคงต้องยอมแพ้กับการช่วยจากดอร์ตูแลวสินะ ในระหว่างที่มานาของฉันกำลังลดลงไปเรื่อยๆฉันก็ยังพุ่งตะบันไปข้างหน้าต่อไป หุ่นยนต์ต่อสู้ระยะประชิดได้สิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับดาบแสง แต่ว่าฉันได้ใช้หอกตัดหัวพวกมันออกไปได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกันกระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มาปะทะร่างของฉันก็ถูกสะท้อนกลับไปหาคนที่ยิงมาด้วย แต่ถึงแบบนั้นมานาของฉันก็ยังคงลดลงไปอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าในเวลาเดียวกันหุ่นยนต์ก็กำลังตายไปเช่นกัน
[ข้าดอร์ตู ได้หุ่นยนต์มาร้อยตัวแล้ว!]
“เยี่ยมมาก”
ฉันได้กวัดแกว่งหอกต่อไป หลังจากได้ทำลายแขนของหุ่นยนต์ไปสามตัว ฉันก็ได้แทงออร่าหอกพุ่งไปด้านหน้าเพื่อตัดหุ่นยนต์นับสิบไปในครั้งเดียว แรงระเบิดของพวกมันก็ถูกสะท้อนกลับไปเผาหุ่นยนต์ตัวอื่นๆจนระเบิดไปตามๆกันอีกด้วย
“ฉันเหลือมานาไม่มากแล้ว”
ต่อให้ฉัจะมีมานาโพชั่น แต่ว่ามันก็ไม่ได้ฟื้นฟูมานาฉันกลับมามากขนาดนี้ โพชั่นมานาตามปกไม่มีส่วนช่วยมากขนาดนั้นอีกต่อไปแล้ว
ฉันได้กัดฟันแน่นออกมา ต่อให้ฉันจะฆ่าหุ่นยนต์ไปเป็นแสนๆตัวแล้ว แต่ว่ามันก็ยังไม่ถึงครึ่งของพวกมันที่โผล่ออกมาเลย
“ฟู่… เข้ามา!”
ฉันได้กลืนมานาโพชั่นลงไปและตะโกนออกมาเต็มเสียง ในเวลาเดียวกันฉันก็ได้เปิดใช้งานไพ่ตายรอยสักราชินีซัคคิวบัสขึ้นมาทำให้มานาของฉันได้ถูกฟื้นฟูกลับมาเต็มในทันที
ฉันเพิ่งจะได้เหล็กลก้ามา แต่ต่อให้ไม่มีมันฉันก็จะไม่มีวันแพ้เครื่องจักรสังหารแน่!
หุ่นยนต์ที่ถูกเปิดสวิตได้ระดมยิงกระสุน ลูกปืนใหญ่ จรวดเข้ามาใส่ฉัน พูดตรงๆแล้วพวกมันมาจากทุกๆทางเลยทำให้ไม่มีวันที่ฉันจะหลบพวกมันได้ หากว่าเจ้าพวกนี้ไปอยู่โลกฉันมันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ? แน่นอนแน่ว่าโลกของฉันคงได้เจอกับหายนะในวันเดีวแน่
ฉันมีตัวเลือกอยู่น้อยมากๆ ฉันจะทนต่อการระดมยิงนี้ด้วยการใช้ความสามารถของเหล็กกล้า การโจมตีส่วนหนึ่งได้จุดชนวนระเบิดออกมาก่อนที่จะโดนตัวฉัน แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะพุ่งมาทางฉันโดยไร้ข้อผิดพลาด
โลกเบื้องหน้าฉันได้กลายมาเป็นสีขาว ยังไงก็ตามฉันไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ การโจมตีทั้งหมดได้ย้อนกลับไปหาเจ้าของแล้วและหุ่นยนต์ที่เหลืออยู่ก็ระเบิดขึ้นมาพร้อมๆกัน จากเหล็กกล้าที่ได้สะท้อนการโจมตีกลับไปทำให้เกิดเป็นการระเบิดครั้งใหญ่พร้อมกับมานาของฉันที่ลดลงไปเร็วกว่าที่เคย
หากว่าไม่มีรอยสักราชินีซัคคิวบัสฉันก็คงจะมานาหดลงไปแล้ว ฉันได้แต่หวังว่าจะไม่เจอศัตรูพวกอื่นอีกที่โจมตีกันมามากขนาดนี้อีกนะ
[ข้าดอร์ตู หุ่นยนต์ที่ดอร์ตูควบคุมระเบิดไปแล้ว…]
นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดแบบนี้นะ! จากการที่หุ่นยนต์ได้หายไปจากการปะทะครั้งนี้ทำให้จำนวนของพวกมันไม่ได้ดูไร้สิ้นสุดอีกต่อไป
“แต่ว่าฉันก็แทบจะไม่มีมานาเหลือแล้วเหมือนกัน อย่างแรกฉันต้องใช้วงจรเพรูต้าเพื่อ… อึก!?”
ระหว่างกำลังพูดอยู่ฉันก็ต้องหยุดพูดลง มีศัตรูที่ฉันต้องจัดการก่อนอยู่ ในตอนนี้ได้มีจิตสังหารและคลื่นมานาพวบพุ่งออกมาจากรอบๆด้านราวกับกำลังคอยเวลานี้มาตลอด
เครื่องจักรสังหารกำลังเล็กฉันอยู่จากทุกๆมุมทุกๆองศา
[โอกาสหลบลีก 1.7%]
เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเสียงของมัน แน่นอนว่านี่ก็เป็นเสียงที่เหมือนกับหุ่นยนต์ไร้อารมณ์
[คุณคือศัตรูที่ยอดเยี่ยม แต่ในตอนนี้อาวุูธของคุณจะมาเป็นของผม]
“อย่างที่คิดเลย นายมันไม่ได้ควบคุมอาวุธได้ไปหมด นายจะต้องเอาชนะฉันให้ได้ก่อน นี่มันก็เหมือนกับของต่างๆส่วนใหญ่ด้วย นายจะต้องพิสูจน์คุณสมบัติของตัวเองก่อน”
[ยิง]
ดูเหมือนว่าคือจักรสังหารจะไม่ได้คิดจะคุยกับเขาเลย ด้วยคำสั่งเดียวของมันทำให้มีมิสไซต์นับร้อยยิงเข้ามาใส่ฉัน กองทัพมิสไซต์นี่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศและพุ่งตรงมาหาฉัน! หากว่าฉันใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์เต็มกำลังฉันก็คงจะหลบมันได้ไหมนะ? นั่นเป็นไปไม่ได้เลย?
เพราะงั้นฉันก็เลยยกเลิกการใช้งานโลกมานา มานาจำนวนมหาศาลที่ถูกซ่อนเอาไว้ได้กลับคืนมาเติมเต็มพลังของฉันในทันที แรงระเบิดของพลังที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวฉันได้ถูกดูดเข้าไปในช่องว่างอากาศในทันที
[…]
ฉันได้ถอนหายใจออกมาและกลับมาโคจรวงจรเพรูต้า ในตอนนี้ฉันแทบจะไม่มีมานาเหลือจริงๆแล้ว
[มานานั่น… ได้ยังไงกัน…!?]
“ก่อนหน้านี้ที่ฉันจะดื่มมานาโพชั่น ฉันได้สับเปลื่ยนปริมาณมานาที่จะใช้เล็กน้อยเพราะงั้นก็เลยเป็นแบบที่เห็น ง่ายๆเลยใช่ไหมล่ะ?”
[คุณมันไม่ใช่ฮีโร่… แต่เป็นนักต้มตุ๋น!]
ถ้าฉันไม่ใช้รอยสักราชินีซัคคิวบัสฉันก็คงจะตายไปแล้วจริงๆ แต่ว่ารอยสักราชินีซัคคิวบัสก็อยู่ในการคำนวนของฉันอยู่แล้วทำให้ฉันได้ใช้โลกมายาเพื่อเพิ่มปริมาณมานาที่จะต้องใช้สะท้อนการโจมตี บางทีด้วยเพตตะซัสทำให้เพิ่มความสามารถในการคำนวนของฉันขึ้นไปอีก ไม่งั้นการจะหลอกเครื่องจักรสังหารคงเป็นไปไม่ได้แน่
“ฟู่”
ฉันได้กลืนมานาโพชั่นลงไปอีกและยิ้มขึ้นมา
“ทีนี้เข้าใจแล้วนะ?”
[แต่ผมได้เตรียมไว้แล้ว]
“อะไรนะ!?”
นี่เจ้านี่รู้กระทั่งว่าฉันจะหลอกมันเนี้ยนะ? หลังจากนั้นได้มีมิสไซต์ขนาดมหึมาที่มีขนาดใหญ่กว่าอันที่เขาได้เจอในชั้นที่ 88 ถึง 10 เท่าตกลงมาหาฉัน มิสไซต์บ้านี่ไม่ต้องยิงกันเลยงั้นหรอ!? จากนั้นมิสไซต์ก็ได้ระเบิดขึ้นบนหัวของฉัน
เสียงสนั่นดังลั่นได้ดังขึ้นมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ทรงพลังมากเท่านั้น แต่ว่ามันก็มากพอจะฆ่าฉันที่ยืนอยู่เบื้องล่างมันอยู่ดี หากว่าพลังชีวิตฉันหมดลงแบบนี้เชอร์ราฟิน่าจะช่วยฉันก่อนที่จะสายไปไหมนะ? ฉันคิดไม่ออกเลย
เพราะภาพที่เบลอๆจนมองไม่เห็นอะไรนี้ทำให้ฉันหลับตาลงพึมพัมออกมา
“มันจบแล้ว”
ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา
[คุณได้ทำลายร่างหลักเครื่องจักรสังหาร 99%]
ฉันได้โยนมานาโพชั่นเปล่าทิ้งไป และหยิบเอาอิลิกเซอร์ขึ้นมาดื่มทันที ฉันก็แค่ซ่อนพลังของมันเอาไว้ด้วยโลกมายา แต่ว่าเครื่องจักรสังหารก็ถูกหลอกเอาง่ายๆ
นอกจากนี้ในตอนฉันเปิดใช้งานรอยสักราชินีซัคคิวบัสก่อนหน้านี้ ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นปกติไปในขณะที่ทำเหมือนกับมันเป็นโพชั่นที่น่าทึ่ง การดื่มอิลิกเซอร์ลงไปติดต่อกันจะทำให้ร่างกายคนถูกทำลายไปแน่ แต่สำหรับมานาโพชั่นธรรมดาการดื่มติดต่อกันก็ทำไม่ได้เช่นกัน แต่ยังไงก็ตามการดื่มอิลิกเซอร์หลังจากมานาโพชั่นไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้
ฉันได้ซ่อนการมีอยู่ของรอยสักราชินีซัคคิวบัสเอาไว้ด้วยการทำเป็นเหมือนกับได้ดื่มอิลิกเซอร์ลงไปแทน
นี่แหละคือทริคที่ฉันใช้ เป้าหมายของฉันคือทำให้เป็นเหมือนฉันได้ใช้อิลิกเซอร์ไปแล้วและไม่อาจจะฟื้นฟูมานาได้อีก ซึ่งมันได้ผลอย่างดีเยี่ยม
การระเบิดก่อนหน้านี้ได้ทำให้หุ่นยนต์ทั้งหมดบนชั้นที่ 89 กลายเป็นฝุ่นไป ฉันได้เดินไปที่จุดสิ้นสุดของฉันโดยไม่มีอะไรขวางอีก
[ข้าดอร์ตู นายท่านต้องอธิบาย]
“ขอโทษนะ แต่ว่าก็อย่างที่เคยได้ยินกัน การจะหลอกศัตรูก็ต้องหลอกพวกเดียวกันก่อนน่ะ”
ดอร์ตูที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยได้บ่นออกมาและฉันก็ได้แต่ปลอบเขาด้วยรอยยิ้ม เพื่อที่จะทำให้การหลอกนี้ดูน่าเชื่อถือฉันไม่ได้บอกแม้กระทั่งดอร์ตู
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อว่าเครื่องจักรสังหารจะไม่ถูกหลอก แต่ฉันคิดว่าหมอนี่อาจจะเตรียมการรับมือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ มานาโพชั่นที่ฉันได้ใช้โลกมายาปลอมเป็นอิลิกเซอร์ก็เป็นหนึ่งในการเตรียมการของฉัน หากว่ามันไม่ได้ผลฉันก็คงจะต้องใช้โอเวอร์ลอร์ด แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงการต่อสู้นี้ฉันก็จะไม่มีทางแพ้
พูดง่ายๆเลยก็คือผู้ชนะก็คือผู้ที่อ่านศัตรูออกมากกว่า แต่ยังมีจุดสำคัญที่ต้องคิดอีกนั่นก็คือทุกๆการเคลื่อนไหวที่ทั้งสองฝั่งเตรียมการเอาไว้มีก็ได้จะทำให้เครื่องจักรสังหารได้รับความเสียหาย
ฉันได้ใช้มานาที่ฟื้นคืนกลับมาได้ส่วนทางเครื่องจักรสังหารได้ใช้ร่างหลักของมันที่ไม่อาจจะฟื้นูได้ นี่คือข้อได้เปรียบในคราวนี้
เครื่องจักรสังหารแข็งแกร่ง มันอาจจะเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเหล็กกล้าได้เลย ยังไงก็ตามเครื่องจักรสังหารก็ยังขาดพลังเวทย์และระดับพลังในตัวอยู่อีก นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้มันแพ้
“ถ้านายอยากจะชนะ นายก็น่าจะต้องมีพลังในการระดมยิงมากยิ่งกว่านี้อีกสามเท่าเป็นอย่างต่อ รอฉันอยู่ที่ชั้น 90 นั่นแหละ ฉันจะไปทำลายที่เหลืออีก 1% เอง เพราะงั้นพยายามเข้านะหากอยากจะชนะฉัน”
ฉันได้เยาะเย้ยออกมาและเร่งฝีเท้าขึ้น การใช้มานาตรวจจับทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงจุดสิ้นสุดของชั้นดันเจี้ยนนั่นก็คือร้านขายของของชั้นที่ 89 และโรเล็ตต้าได้ยิ้มโบกมือให้ฉันอยู่