Infinite Competitive Dungeon Society – บทที่ 325 – ด้วยพลังของตัวนายเอง (5)

Infinite Competitive Dungeon Society - บทที่ 325 – ด้วยพลังของตัวนายเอง (5)

บทที่ 325 – ด้วยพลังของตัวนายเอง (5)

“ไว้เจอกันนะโรเล็ตต้า”
“ชิน นายไได้นอนมาสองสัปดาห์แล้วนะ”

เมื่อฉันได้เจอกับโรเล็ตต้า ฉันได้บอกลาเธอเหมือนอย่างเคยและมุ่งหน้าสู่ชั้นถัดไป ยังไงก็ตามโรเล็ตต้าได้หยุดฉันเอาไว้

“ชินมีพลังเหนือมนุษย์และฉันก็รู้ว่าชินกำลังพัฒนาขึ้นตลอดเวลา ในอีกไม่นานชินก็อาจจะมาอยู่ในระดับเดียวกันฉันก็ได้ แต่ว่านายก็ยังต้องพักนนะ”
“มันไม่มีทางที่ฉันจะเทียบได้กับ…”

เมื่อฉันหันหลับไป ฉันก็หัวเราะออกมากับสิ่งที่โรเล็ตต้าพูด จากนั้นก็หยุดลง

“…”
“ตอนนี้นายเห็นแล้วสินะ?”

โรเล็ตต้าได้พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบาง เป็นอย่างที่เธอพูด เมื่อมองไปที่เธอตรงๆฉันรู้สึกว่าฉันสามารถจะสู้กับเธอได้ นี่ไม่ใช่การวัดจากมานาของเธอ แต่มันมาจากสัญชาตญาณนักรบที่วัดระดับพลังของคู่ต่อสู้

“แต่ว่าก่อนหน้านี้โรเล็ตต้าอยู่ห่างไปไกล… เกิดอะไรขึ้นกัน?”
“นั่นมันก็เพราะชินพัฒนาขึ้นเร็วมากๆ สำหรับคนอื่นๆแล้วจะยากมากๆที่จะพัฒนาไปไกลยิ่งขึ้น แต่กับชินมันไม่ใช่ ในตอนแรกชินมีการพัฒนาที่เชื่องช้ามาก แต่ในตอนนี้มานาของชิน ระดับพลังของชิน และร่างกายก็พัฒนาขึ้นมาในทุกๆวัน ชินคิดว่านั่นมันเป็นเพราะดันเจี้ยนหรือป่าวล่ะ?”
“…ไม่”

ฉันได้ส่ายหัวออกมาช้าๆ วิญญาณสัมบูรณ์ วงจรเพรูต้า ราชาสัตว์ป่าและราชาอื่นๆที่ฉันได้ดูดมานามา ส่วนใหญ่ได้มาจากการยึดครอง หลังจากฉันได้รับพลังพวกนี้มาก็ยังไม่ได้หมดแค่นั้น ถึงแม้แต่ในตอนนี้พลังเหล่านั้นก็กำลังพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ

ร่างกายของฉันได้ทนทานมากขึ้นทุกๆวัน ในส่วนของกล้ามเนื้อได้ทรงพลังยิ่งขึ้น เสน่ห์บนเขาของฉันก็ทรงพลังขึ้นและมานาฉันก็มีมากขึ้นหลายต่อหลายเท่า หากว่าฉันได้เจอกับตัวฉันเมื่อก่อน ฉันก็มั่นใจว่าฉันสามารถจะบดขยี้ตัวฉันได้ในหมัดเดียว

“หากว่ามีพลังแม้แต่นิดเดียวจากภายนอกเข้าไปในร่างชิน ชินก็จะระเบิดแน่ ในตอนนี้ชินจะต้องทำให้พลังพวกนี้กลายเป็นของชิน”
“…”
“ชินต้องการเวลา เดิมทีฉันคิดว่าจะเฝ้ามองชินไปจนกระทั่งถึงชั้นที่ 90 แต่ว่าฉันไม่คิดเลยว่าชินจะแกร่งขึ้นมาในระหว่างที่กำลังข้ามชั้นที่ 89”
“อ่า…”

ฉันได้คิดว่าฉันแกร่งขึ้นเมื่อเมื่อฉันเกือบจะทำลายเครื่องจักรสังหารไปจนหมดสิ้น มันคงจะน่าเศร้าหากว่าฉันไม่ได้อะไรเลยจากการที่ได้เจอกับประสบการณ์พายุกระสุนและสะท้อนพวกมันกลับไป

โรเล็ตต้าได้ยื่นมือของเธอออกมา ประตูสวนแฟรี่ได้ปรากฏขึ้นมาในทันที ฉันคิดว่าทุกคนจะต้องใช้กุญแจที่โรเล็ตต้าให้กับฉันมาก่อนที่จะเข้าไปในสวนแฟรี่ แต่ว่าเมื่อได้เห็นโรเล็ตต้ากับสมาชิกสวนแฟรี่คนอื่นๆแล้วมันดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าออกสวนแฟรี่ได้อย่างอิสระ

เป็นไปได้ว่ากุญแจมีไว้ให้แค่สำหรับคนนอกอย่างฉันใช้เท่านั้น

โรเล็ตต้าได้หันมาเชิญฉัน

“มาสิ ไปเรียนกันเถอะ… ด้วยมานาในปัจจุบันของชิน เรื่อง ‘นั่น’ อาจจะเป็นไปได้”
“โอเค”

ฉันรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร ท่องมิติ! เนื่องจากว่าเธอพูดมาถึงขนาดนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องปฏิเสธ ฉันได้จับมือโรเล็ตต้าด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เธอได้ยิ้มออกมาอย่างพอใจและก้าวเข้าไปในประตูมิติ ในเวลาต่อมาฉันก็ได้มาอยู่ข้างหน้ากระท่อมไม้ของโรเล็ตต้า

ฉันได้ถอนหายใจออกมา ในเมื่อฉันเป็นคนต้องการแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลต้องถอย

“แต่ว่าโรเล็ตต้าฉันต้องไปพักไปนานแค่ไหน?”
“ไม่นานหรอก น่าจะเดือนสองเดือนก็พอแล้ว!”
“…หา?”

ฉันได้ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ แต่ว่าโรเล็ตต้าก็แค่หัวเราะออกมาทำให้ฉันต้องหัวเราะตามเธอ

“เธอแค่ล้อเล่นใช่ไหม?”
“เราควรจะเริ่มเลยไหม?”

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ล้อเล่น ฉันได้พยายามถอยไปแต่ว่าเลียร่าได้เข้ามาจับแขนฉันเอาไว้อย่างรวดเร็ว มันยังเร็วเกินไปที่ฉันจะแข่งในด้านพละกำลังกับเธอ

“เธอก็แค่กำลังจะสอนท่องมิติใช่ไหม?”
“แน่นอนสิชิน! แน่นอนเลย!”
“ทำไมเธอต้องพูดย้ำสองครั้งด้วยล่ะ!?”

เมื่อไม่มีการต่อต้านจากฉันแล้ว ประตูกระท่อมไม้ก็เปิดขึ้นและจากนั้นก็ปิดลง

หลังจากผ่านไปสองเดือนเต็มโรเล็ตต้าถึงยอมให้ฉันกลับไปปืนดันเจี้ยน

“ตอนนี้สมบูรณ์แล้ว เป็นไปยังบ้างล่ะชิน”
“ฉันคิดว่าฉันเข้าใจท่องมิติดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว”
“ชิ ไม่ใช่แบบนั้น! แต่ยังไงก็น่าทึ่งมากอยู่ดี!”

ฉันมีเพตตะซัส(หมวกปีกของเฮอร์มีส) ที่มีความสามารถในการช่วยเร่งความคิดให้ฉันสามเท่า หากไม่มีความสามารถนี้ฉันก็คงใช้เวลานในการสร้างรากฐานในการท่องมิตินานกว่านี้แน่ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่โรเล็ตต้ากำลังพูดถึง เธอกำลังพูดถึงพลังงานอันมหาศาลที่อยู่ในตัวฉัน

“ฉันนี้ฉันพูดได้แล้วว่าทุกๆอย่างเป็นของฉัน เว้นก็แต่เหล็กกล้า”

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าชินจะจัดการควบคุมพลังงานมหาศาลแบบนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาๆสั้นๆแค่นี้ หากเป็นคนอื่นๆก็คงจะใช้เวลากันอย่างน้อยก็ยี่สิบปี พรสวรรค์ของชินไม่ใช่แค่พิเศษอีกแล้ว แต่มันแปลกประหลาดไปแล้ว”

ฉันได้แต่ยิ้มกับคำพูดของโรเล็ตต้า เรื่องยากสำหรับคนอื่นๆจะเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับฉัน แต่ว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มีอยู่หลายอย่างที่ฉันทำไม่ได้ในขณะที่คนอื่นทำได้ง่ายๆเช่นกัน

ในอดีตฉันก็ไม่เข้าใจทำไมถึงได้เป็นแบบนั้น แต่ในเมื่อฉันเกิดมาแบบนี้แล้ว ฉันก็ไม่คิดที่จะทิ้งคุณค่าของตัวเองไป ฉันคิดก็แค่ว่าฉันโชคดีที่เกิดมามีศักยภาพในการเป็นผู้แข็งแกร่ง

“ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการแล้วก็ปืนดันเจี้ยนด้วย”
“โอเค เดินทางปลอดภัยนะ”

เพราะแบบนี้โรเล็ตต้าได้เข้ามาจูบริมฝีปากฉัน ฉันได้ฝึกฝนตัวเองมาในระหว่างสองเดือนก่อน แต่ว่าฉันก็ยังไม่อาจจะต่อต้านเสน่ห์โรเล็ตต้าได้เลย นี่มันทรงพลังเกินกว่าที่ฉันจะปฏิเสธได้

ในทันทีที่โรเล็ตต้าปล่อยฉันออกมา ฉันก็ได้กลับไปที่บ้านกิลด์และเจอกับพ่อที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียว

“ยากมาเลยนะที่จะได้เจอหน้าลูกคนนี้ นี่ลูกไปโลกอื่นมาอีกแล้วหรอ?”
“ผมบอกพ่อแล้วไง ผมได้ไปใช้เวลาในการจัดการกับพลังในร่าง ผมได้เรียนรู้พลังใหม่มาเหมือนกัน คิดดูสิผมก็มาที่นี่ไปพักๆอยู่นะ ไม่ใช่ว่าผมไม่มาเลยซักหน่อย”
“ในทุกๆครั้งที่เวลาเหมือนจะผ่านไปพักหนึ่ง ลูกก็จะเปลื่ยนไปอย่างมาก”

ฉันได้ยิ้มออกมาและมองไปรอบๆห้อง อย่างที่คิดเลยไม่มีใครอยู่ที่นี่อีก

“วอร์คเกอร์ไปไหนแล้วล่ะ? ไม่ใช่ปกติเขาชอบดื่มอยู่กับพ่อหรอ?”
“ตอนนี้เขาอยู่ในดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้ว เมื่อเร็วๆนี้เขาเพิ่งจะขยันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อที่จะปืนดันเจี้ยนขึ้นไป แน่นอนว่าไปกับโซฟี”
“อึก”

สิ่งที่พ่อพูดขึ้นมาได้ทำให้ฉันรู้ตัวว่าเวลาได้ผ่านไปมากแค่ไหนแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะมาที่นี่ในทุกๆสองสามวัน แต่ว่าฉันก็แทบจะไม่ได้เจอกับสมาชิกกิลด์คนอื่นๆเลย ตอนนี้วอร์คเกอร์ได้อยู่ในดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้ว สมาชิกของรีไววอร์ล(การฟื้นคืน)ในตอนนี้ทุกๆคนต่างก็อยู่ในดันเจี้ยนที่หนึ่ง

เดี๋ยวสิ แล้วทำไมพ่อถึงได้มานั่งดื่มคนเดียวที่นี่ล่ะ?

เมื่อฉันมองไปที่พ่อด้วยสีหน้าสงสัย พ่อก็ได้หัวเราะออกมาอย่างสุขใจและปิดปากลงไปทำให้ฉันต้องถามออกไปด้วยรอยยิ้ม

“พ่อตาย?”
“ลูกไม่ควรจะจี้จุดพ่อแบบนี้นะเจ้าลูกชาย”
“เมื่อไหร่ที่ทำได้ผมจะทำมันทันทีเลยล่ะ”

เมื่อตอบพ่อกลับไป ฉันก็ได้นั่งลงตรงข้ามกับพ่อและยื่นแก้วเปล่าไปหาพ่อ พ่อได้ยิ้มออกมาจากนั้นก็เทเครื่องดื่มลงในแก้ว

“ลูกก็ตายเหมือนกันงั้นหรอ?”
“พ่อก็รู้นี่ว่าตอนนี้ไม่ตายไมได้แล้ว”
“ถ้างั้นจู่ๆลูกพ่อคนนี้ก็รู้จักการทำอะไรช้าๆแล้วงั้นหรอ? ปกติลูกชอบรีบร้อนอยู่เสมอนี่”
“ก็ที่ผมต้องรีบนั่นก็เพราะ… ผมไปขอให้ใครมาทำหน้าที่แทนผมได้นี่”

พ่อไม่ได้พูดอะไรออกมาถึง ถึงแม้ว่าในสองเดือนมานี้พ่อก็จะแกร่งขึ้นมา แต่ว่าพลังของเราสองคนก็ยังอยู่ห่างเกินว่าที่จะเทียบกันได้ พ่อได้วางเครื่องดื่มลงด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

“พ่อเสียใจด้วยนะที่ต้องเป็นแบบนั้น พ่ออยากที่จะยืนเคียงข้างลูกในฐานะพ่อที่ไว้ใจได้อยู่เสมอ แต่พ่อจะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อพ่อดันมีลูกชายที่เก่งเกินไป”
“ไม่เป็นไรหรอกพ่อ ยังไงเราก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ผมรับมือได้”

จากนั้นฉันก็ดื่มลงไปจนหมดแก้ว ในตอนนี้เองพ่อได้จิบเครื่องดื่มลงไปด้วยสีหน้าขมขื่น

“…ลูกพ่อโตเร็วเกินไป เร็วไปมาก พ่ออยากที่จะเลี้ยงลูกให้แข็งแกร่ง แต่ว่าพ่อก็ไม่ได้อยากจะเลี้ยงให้ลูกเป็นตาแก่นะ”

ฉันได้ฉีกยิ้มออกมา ฉันไม่คิดเลยว่าพ่อจะมีปฏิกิริยาแบบนี้แค่เพราะฉันบอกว่าฉันจะรับผิดชอบในหน้าที่ของฉัน ฉันได้อยู่เงียบๆต่อไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไร พ่อก็ดูเหมือนจะรู้สึกอึดอัดเหมือนกันทำให้พ่อได้เกาหัวและเติมเครื่องดื่มลงไปในแก้วฉัน

“ทำไมหลังจากนี้เราไม่มาประลองกันหน่อยล่ะ เมื่อเร็วๆนี้พ่อแกร่งขึ้นมาเพราะงั้นนี่น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง”
“ได้เลยพ่อ อ่าแล้วนี่พอลไปไหนล่ะ?”
“เขาได้ใช้เวลาทั้งหมดของเขาไปกับการฝึกที่ลูกได้มอบหมายให้เขาไงล่ะ ลูกอยากไปเจอเขาไหมล่ะ?”
“อยากสิ ผมจำเป็นต้องส่งพลังที่เหลือให้เขาด้วย ฮีโร่ไม่ควรจะอยู่ห่างจากโลกเขานานเกินไป”

พอคิดไปถึงพอลฉันได้ดีดตัวขึ้นมาทันที

“พ่อตรงดื่มที่นี่คนเดียวอีกแล้วสินะ”
“โทรเรียกสุมิเระมาด้วยสิ”
“เข้าใจแล้ว”

ฉันได้ไปหาพอลในทันที อย่างที่พ่อบอล เขากำลังตั้งใจไปกับการฝึกของเขาโดยไม่ได้คิดเรืองการปืนดันเจี้ยนแม้แต่นิดเดียว

“ฉันคิดว่านายลืมฉันไปแล้วซะอีก!”
“จริงๆฉันก็ลืมไป สัปดาห์นึงได้ล่ะมั้ง?”
“นี่นาย…”

ฉันได้ป้องกันโล่พอลและทำให้เขาใจเย็นลง

“ขอโทษที่ฉันมาช้านะ ฉันจะต้องเวลาสักพักทำให้ทุกๆอย่างลงตัวน่ะ”
“อืมม… ไม่ การฝึกฝนตัวเองของนายมันสำคัญอยู่แล้ว ฉันบ่นไม่ได้จริงๆนั่นแหละ…”

พอลได้เข้าใจถึงจุดยืนของฉันได้รวดเร็วอย่างที่คิด ถ้าจะมีอะไรยอดเยี่ยมสำหรับเขาก็คงเป็นลักษณ์นิสัยนี้นี่แหละ

“ฉันไม่ได้แค่มาคุยเล่นกับนายนะ ในตอนนี้ฉันส่งพลังที่เหลือคืนให้นายได้แล้ว”
“พลังที่เหลือ? ไม่ใช่ว่าที่เหลือนั่นมันมากกว่าครึ่งหรอกหรอ?”
“ใช่แล้ว มานี่สิ”

พอลได้เดินข้ามาหาฉันด้วยความสงสัยและนั่งหันหลังให้ฉันอย่างช้าๆ ฉันได้วางมือบนหลังเขาและส่งพลังของทวีปอีเดียวที่เหลือไปให้เขา ตัวพอลได้กระตุกขึ้นมาและไม่นานก็ตกอยู่ในสภาวะรับพลัง เขาได้พยายามดิ้นรนรับพลังที่ฉันส่งให้เขาโดยไม่อาจจะพูดอะไรได้ ฉันได้ยืนขึ้นข้างๆเขาและป้องกันไม่ให้พลังของทวีปอีเดียสหลุดไปจากการควบคุมของพอล

หลังจากเวลาไปผ่านไปเรื่อยๆซักพักใหญ่ๆ พอลก็ได้ลืมตัวขึ้นมาอย่างตกตะลึง

“นี่คือความรู้สึกจากการเป็นฮีโร่งั้นหรอ? …ไม่เห็นรู้สึกว่ามีอะไรเปลื่ยนแปลงไปเลย”
“อีกไม่นานนายจะรู้สึกถึงมันเอง ไหล่ของนายจะเริ่มหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ”
“…แล้วนายล่ะ ไม่รู้สึกหนักหรอ?”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะโยนมันทิ้งไป นี่แหละคือฉัน”
“งั้นในตอนนี้นายกำลังจะบอกว่านายไม่ได้รู้สึกถึงภาระเลยหรอ?”
“ไม่หรอก สิ่งที่ฉันอยากจะทำก็คือการปกป้องโลกแต่แรกแล้ว เพราะงั้นความรับผิดชอบในฐานะฮีโร่มันไม่ใช่ภาระสำหรับฉันเลยสักนิด”

เพราะแบบนี้ฉันได้ยื่นเงียบๆไปสักพัก จากนั้นก็พูดกับพอล

“ตอนนี้กลับไปที่อีเดียสได้แล้ว ที่นั่นมีเรื่องที่นายต้องไปจัดการอยู่”
“…โอเค”

หลังจากเงียบไปซักพักพอลก็ได้ตอบกลับมา ในตอนนี้การเชื่อมต่อของพอลกับโลกของฉันได้หายไปแล้ว เขาไม่ใช่คนจากโลก และทวีปอีเดียสก็ยังคงมีสงครามกับผู้บุกรุกอยู่

นอกไปจากนี้ทวีปอีเดียสก็ยังมีเทือกเขาเพรูต้าด้วย

ทันใดนั้นเองพอลก็ได้หมุนเท้ากลับมา

“ฉันไปไม่ได้… ให้ฉันเข้าร่วมกับนายด้วย”
“อย่าบ้าน่า กลับไปที่อีเดียสซะ นายมีหน้าที่ที่นั่นอยู่”
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ว่าฉันกำลังจะสู้กับเดม่อนลอร์ดที่นี่ซะหน่อย ฉันไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายหรอก และด้วยพลังของฉัน ฉันสามารถช่วยปกป้องโลกนายจากมอนสเตอร์อื่นๆได้”
“อย่างที่บอกไง อย่ามาบ้า กลับไปซะ ถ้านายตายขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?”
“ฉันต้องปกป้องอีเดียสด้วยพลังของฉันเพียงลำพัง หากว่าฉันตายที่นี่ ฉันก็ไม่มีหวังในอีเดียสเช่นกัน!”

ฉันได้ยิ้มออกมา

“พอลกลับไปซะ”
“คังชิน! ฉันไม่ใช่คนที่จะไม่ชดใช้หนี้บุญคุณนะ!”
“ไม่ พอลกลับไปซะ”

ฉันได้หันหน้าไปและพูดต่อไป

“อย่างที่ฉันบอก ที่นั่นมีเรื่องที่นายต้องไปจัดการ”

พอลได้เบิกตากว้างออกไป ฉันได้หยักไหล่และยิ้มขึ้น

ใครก็ตามที่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรอยยิ้มของปีศาจร้ายที่น่าสะพรึงกลัว

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

ICDS, 무한경쟁던전사회
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2015 Native Language: Korean
อ่านนิยาย Infinite Competitive Dungeon Society เรื่องย่อ : เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset